บทที่ 156 ฝึกฝนเพลงกระบี่นับร้อย
หลังเสร็จสิ้นภาระกิจหลอมโอสถทั้งหมด หยางเสี่ยวเทียนถึงเพิ่งมีโอกาสเริ่มฝึกฝนเคล็ดวิชาจากศิลากระบี่
แม้เขาจะเข้าใจเคล็ดวิชาจากร้อยศิลากระบี่อย่างถ่องแท้แล้ว แต่ระดับการฝึกฝนของเขายังไม่ได้สูงมากนัก เพราะเพลงกระบี่ที่เขาเพิ่งหยั่งรู้มาในภายหลังล้วนบรรลุเพียงขั้นสำเร็จเล็กน้อยเท่านั้น
ดังนั้น สิ่งที่เขาต้องทำต่อไปคือฝึกฝนเพลงกระบี่นับร้อยเหล่านี้ให้บรรลุขั้นสมบูรณ์แบบ
ในเวลาเดียวกัน หากเขาเชี่ยวชาญเพลงกระบี่นับร้อยกระทั่งสามารถสร้างค่ายกลร้อยกระบี่ได้สำเร็จ ถึงเวลานั้น เมื่อเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งขั้นราชันยุทธ์ระดับหนึ่งหรือแม้แต่ระดับที่สอง เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัว
เพียงชั่วพริบตา ครึ่งเดือนก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา หยางเสี่ยวเทียนฝึกฝนเพลงกระบี่นับร้อยเกือบตลอดทั้งวัน กระทั่งเคล็ดวิชาจากกระบี่สามสิบเล่มแรกได้รับการฝึกฝนจนบรรลุขั้นสมบูรณ์แบบ
ส่วนเพลงกระบี่อีกเจ็ดสิบเล่มถัดมาเขาก็ได้ฝึกฝนจนบรรลุขั้นฉลาดล้ำเลิศทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม เพลงกระบี่เหล่านั้นยังห่างจากการบรรลุขั้นสมบูรณ์แบบอยู่พอสมควร
ในเวลาเดียวกัน หยางเสี่ยวเทียนได้ซื้อแร่เหล็กบริสุทธิ์นำกลับมาหลอม โดยใช้เปลวไฟเก้าหงส์สุวรรณ หลอมอาวุธวิญญาณระดับสุดยอดเป็นกระบี่ยาวหนึ่งร้อยเล่ม
ภายใต้การควบคุมของหยางเสี่ยวเทียน กระบี่วิญญาณหนึ่งร้อยเล่มผสานการเคลื่อนที่แหวกว่ายไปมาในลานฝึกกลายเป็นกระบี่มังกร
บางครั้งก็ผสานการเคลื่อนที่กลายเป็นเพลงกระบี่โลกธาตุ บางครั้งก็กลายเป็นเพลงกระบี่อัสนีคลั่ง บางครั้งก็กลายเป็นเพลงกระบี่ชาตชีวา
หรือในบางครั้ง มันเป็นเพลงกระบี่ระพีแผดเผา และเพลงกระบี่จันทราเยือกแข็ง
หยางเสี่ยวเทียนควบคุมกระบี่วิญญาณนับร้อย เพื่อฝึกฝนร้อยเพลงกระบี่
ในลานฝึกยุทธ์ ปรานกระบี่ส่องแสงสว่างไสว ออกจากกระบี่ที่เคลื่อนตัวไปมานับร้อยเล่ม
สุริยันที่แผดเผาสลับกับจันทราอันเหน็บหนาว
สายฟ้าที่มาพร้อมกับพายุอันบ้าคลั่ง
ในตอนแรก หยางเสี่ยวเทียนควบคุมกระบี่นับร้อย ให้ฝึกเพลงกระบี่หนึ่งชุด จากนั้นจึงฝึกฝนเพลงกระบี่อีกชุด แต่หนึ่งวันต่อมาเขาพยายามควบคุมกระบี่นับร้อย ให้ฝึกเพลงกระบี่สองชุดในเวลาเดียวกัน
โดยใช้กระบี่วิญญาณห้าสิบเล่มฝึกหนึ่งเพลงกระบี่ และกระบี่วิญญาณอีกห้าสิบเล่มฝึกอีกหนึ่งเพลงกระบี่
อย่างไรก็ตาม การฝึกสองเพลงกระบี่ในเวลาเดียวกันนั้น ต้องอาศัยการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งค่อนข้างเหน็ดเหนื่อยอยู่พอสมควร
แต่สองวันต่อมา หยางเสี่ยวเทียนก็เชี่ยวชาญขึ้น และเริ่มควบคุมกระบี่วิญญาณร้อยเล่ม ฝึกฝนสามเพลงกระบี่ในเวลาเดียวกัน
เขาฝึกฝนเช่นนี้ทุกวัน กระทั่งผ่านไปอีกครึ่งเดือน หยางเสี่ยวเทียนก็สามารถควบคุมกระบี่วิญญาณนับร้อยให้ฝึกฝนห้าเพลงกระบี่ในเวลาเดียวกัน
ด้วยเพลงกระบี่ทั้งห้า ทำให้การโจมตีแต่ละครั้งมีพลังแห่งองค์ประกอบห้าประการ อาจเรียกได้ว่าพลังของมันนั้นน่ากลัวเลยทีเดียว
ในระหว่างที่เขาฝึกฝนเพลงกระบี่นับร้อย หยางเสี่ยวเทียนก็ได้พยายามสอนให้อัตและอาลี่ฝึกฝนทักษะการหลอมโอสถด้วยเช่นกัน
สิ่งที่ทำให้ หยางเสี่ยวเทียนรู้สึกประหลาดใจเป็นที่สุด คือสัมผัสทางจิตวิญญาณของอัตและอาลี่ นั้นแข็งแกร่งมาก หลังได้รับการชี้แนะจากเขา ทั้งสองสามารถสัมผัสได้ถึงไฟแห่งสวรรค์และโลกที่อยู่ภายในระยะหกสิบฉื่อรอบตัวอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ อัตและอาลี่ยังมีพรสวรรค์ในการหลอมโอสถเป็นอย่างมาก ด้วยเวลาเพียงหนึ่งเดือน ทั้งสองก็สามารถหลอมโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับกลางได้สำเร็จ
แม้โอสถระดับกลาง จะยังห่างไกลจากความต้องการของหยางเสี่ยวเทียน แต่ก็นับว่าพวกเขาทั้งสองมีพรสวรรค์และคุ้มค่าสอนให้เป็นประโยชน์ในภายภาคหน้าอยู่ไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ เขาได้ซื้อทาส ขยายจวน แร่เหล็กสำหรับหลอมอาวุธ และสมุนไพรสำหรับหลอมโอสถ ทำให้หยางเสี่ยวเทียนใช้เงินเกือบหกแสนห้าหมื่นเหรียญทอง ที่ได้จากการขายโอสถจนแทบไม่เหลืออีกแล้ว
ดังนั้นตอนเย็น หยางเสี่ยวเทียนจึงต้องมุ่งหน้าไปยังสมาคมการค้าเฟิงยวิน เพื่อขายโอสถอีกครั้ง
เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่เขาไม่ได้มาเยือน นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่หยางเสี่ยวเทียนขายโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับสวรรค์ให้กับทางสมาคมการค้า
ตลอดช่วงเวลามากกว่าหนึ่งเดือนนี้ เหวินจิงอวี๋เอาแต่จ้องมองผืนน้ำในช่วงสารทฤดู และพบว่าการรอคอยหยางเสี่ยวเทียนกลับมานั้น ช่างยากลำบากแลทรมานหัวใจนางยิ่งนัก
ครั้นนางเห็นหยางเสี่ยวเทียนกลับมาปรากฏตัวอีกครา นางก็แทบกลั้นน้ำตาแห่งความสุขเอาไว้ไม่ไหว
“ใต้เท้าหลง ในที่สุดท่านก็กลับมา”
ครึ่งเดือนก่อน หยางเสี่ยวเทียนขอให้ทางสมาคมของนางเตรียมเงินล้านเหรียญทองไว้รอ แต่ตอนนี้มันก็ล่วงเลยมากว่าหนึ่งเดือนแล้ว จึงมิแปลกหากนางจะเป็นกังวลที่เขาไม่มาตามนัดหมาย
เมื่อเห็นหยาดน้ำตาที่อาบลงสองข้างแก้มของเหวินจิงอวี๋ พร้อมกับสีหน้าแสดงความดีอกดีใจ หยางเสี่ยวเทียนจึงพยักหน้าเร่งกล่าวหาเหตุผล “พอดีว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ข้าเอาแต่ฝึกฝนเพลงกระบี่จนลืมวลาไป และไม่ได้มาตามที่เคยกล่าวไว้ทำให้เจ้าต้องรอนาน ข้าต้องขออภัยจริงๆ”
หลังกล่าวจบ เขาก็หยิบโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์ที่ได้เตรียมไว้ออกมาสิบขวดหยก วางไว้เบื้องหน้าของเหวินจิงอวี๋
ครั้นดวงตาคู่งามที่ยังมีคราบน้ำตาเล็กน้อยของเหวินจิงอวี๋มองดูขวดหยกนับสิบเบื้องหน้า นางก็พลันเอื้อมมือขาวผ่องออกไปคว้า เปิดมันทีละขวดอย่างสั่นเทาและเริ่มกลับมามีอาการเช่นเดิม
ทุกครั้งที่นางเปิดมัน หัวใจของนางจะรู้สึกเหมือนแผ่นดินกระเทือนครั้งใหญ่
พอนางได้เปิดขวดหยกทั้งหมด หัวใจของนางไม่เพียงรู้สึกถึงแผ่นดินกระเทือนเท่านั้น แต่ยังมีการระเบิดครั้งใหญ่ ที่พานให้ใบหน้างามนั้นซีดเซียวราวกับกระดาษในยามนี้