ตอนที่ 8 โปรดพิจารณาหม่ามี้ของผมด้วยนะครับ
ตอนที่ 8
โปรดพิจารณาหม่ามี้ของผมด้วยนะครับ
“เกิดอะไรขึ้น?” มู่อวี้เฉิงที่หันหน้าออกไปมองทางอื่น ขมวดคิ้วและพูดถาม
“ท่านประธาน เหมือนข้างรถจะติดนะครับ เดี๋ยวผมลงไปดูก่อน” ลู่หมิงพูดขณะเปิดประตูรถลงไปโดยที่ได้รับความยินยอมจากมู่อวี้เฉิงแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน เขากลับมาที่รถและพูดบอกด้วยท่าทางหวาดกลัว “ท่านประธาน ข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุครับ ดูแล้วค่อนข้างร้ายแรง ผมเกรงว่ารถคงจะติดไปอีกสักพักใหญ่เลยถึงจะขับไปต่อได้”
มู่อวี้เฉิงเลิกคิ้วขึ้นแต่กลับไม่ได้พูดอะไร เอนกายพิงเบาะหลังและหลับตาลง
เดือนกันยายนในเมืองเป่ยเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แต่อุณหภูมิยังคงร้อนอบอ้าวในช่วงเที่ยงวันอยู่ดี
และถึงแม้ว่าภายในรถยนต์จะติดแอร์ แต่คนที่อยู่ด้านในกลับรู้สึกเบื่อหน่ายอย่างไม่มีเหตุผล
“ฉันจะลงไปเดินเล่นสักหน่อย” มู่อวี้เฉิงลืมตาขึ้น พูดทิ้งทวนและเปิดประตูลงจากรถ
เขารู้สึกถึงอากาศร้อนที่อบอ้าวเมื่อเดินไปตามริมถนน ถึงอย่างนั้นความเบื่อหน่ายในใจกลับคลี่คลายลง
เสียงหัวเราะแบบเด็ก ๆ ดังลอดเข้ามาในหู
เขาหันไปมองด้านข้างและพบว่าเป็นโรงเรียนอนุบาล
ประตูสนามถูกแง้มเอาไว้เพียงเล็กน้อย ด้านในมีกลุ่มเด็ก ๆ กำลังเล่นฟุตบอลกันอยู่ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในเครื่องแบบคอยเฝ้าดูอยู่หนึ่งนาย
มู่อวี้เฉิงเหลือบมองเพียงแป๊บเดียว และละสายตากลับมา
ขณะที่เขากำลังเอื้อมมือออกไปหยิบบุหรี่ จู่ ๆ ลูกบอลก็กลิ้งมาทางเขา
เขาก้มลงหยิบลูกบอลขึ้นมาและเห็นร่างเล็ก ๆ วิ่งเข้ามาจากทางหางตา ทว่าไม่ได้วิ่งออกมาจากนอกประตูรั้ว
“คุณลุงครับ ช่วยส่งลูกบอลให้ผมหน่อยได้ไหมครับ?” น้ำเสียงแบบเด็ก ๆ ดังลอดออกมา
มู่อวี้เฉิงยืนถือลูกบอลอยู่
เขาหันหลังกลับไปขณะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย และคาดไม่ถึงว่าเด็กชายตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างประตูจะเป็นคนเดียวกันกับเด็กชายที่เขาเจอในโรงแรม
“โอ๊ะ คุณลุงสุดหล่อ” ดวงตาของเสี่ยวเป่าเบิกกว้างแสดงทีท่าว่าเขาจำมู่อวี้เฉิงได้
เขารีบโบกมือให้มู่อวี้เฉิงอย่างมีความสุข “คุณลุงสุดหล่อจำเสี่ยวเป่าได้มั้ย?”
มู่อวี้เฉิงมองดูรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของเสี่ยวเป่าขณะที่สีหน้าเย็นชาของเขาอ่อนยวบลงโดยที่ไม่ทันได้สังเกตเห็น
เขาเดินถือลูกบอลเข้าไปและตอบรับเบา ๆ “จำได้”
เสี่ยวเป่าตื่นเต้นสุด ๆ เมื่อเห็นว่าคุณลุงสุดหล่อจำเขาได้ ปากน้อย ๆ ค่อยยกยิ้มขึ้น
เขามองดูชุดทางการของมู่อวี้เฉิงและถามด้วยความสงสัย “ใช่แล้ว คุณลุงสุดหล่อมาที่นี่ทำไมเหรอฮะ?”
“แค่ผ่านมาน่ะ”
มู่อวี้เฉิงไม่พูดอะไรมาก เขามองดูโรงเรียนเบื้องหลัง เสี่ยวเป่าและพูดเปลี่ยนเรื่อง “หนูเรียนที่นี่เหรอ?”
“ใช่แล้ว ผมเพิ่งย้ายมาที่นี่ นึกว่าจะไม่ได้เจอคุณลุงสุดหล่อแล้วซะอีก” เสี่ยวเป่าส่งยิ้มน่ารัก พยักหน้าและแหงนหน้ามองมู่อวี้เฉิงด้วยความตื่นเต้น
ทุกครั้งที่มู่อวี้เฉินเห็นรอยยิ้มสดใสของเสี่ยวเป่า อารมณ์หดหู่ใจของเขาก็จางหายไปทุกที
เขาส่งลูกบอลคืนให้เสี่ยวเป่า เม้มปากและยิ้ม “เอาบอลคืนไป อย่าเตะออกมาอีกล่ะ”
“เข้าใจแล้วฮะ ขอบคุณคุณลุงสุดหล่อ” เสี่ยวเป่ากอดลูกบอลและพูดขอบคุณเขา
ท่าทางน่ารักทำให้มู่อวี้เฉิงอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือออกไปลูบหัว
ความนุ่มละมุนในมือเป็นความรู้สึกที่มู่อวี้เฉิงไม่เคยสัมผัสมาก่อน
เขาหรี่ตาลงและตระหนักถึงความรู้สึกแปลก ๆ ในใจ
“คุณลุงสุดหล่อฮะ?” เสี่ยวเป่าเอียงหน้ามองมู่อวี้เฉิงด้วยสายตาว่างเปล่า
แต่ร่างกายของมู่อวี้เฉิงกลับแข็งทื่อเมื่อสบตาเข้ากับดวงตาสีเข้ม
“ไม่มีอะไร”
เขาถอดมือกลับไปทำท่าทางกระแอมไอเบา ๆ ราวกับต้องการปกปิดพฤติกรรมแปลก ๆ ในตอนนี้
เสี่ยวเป่าไม่ทันได้สังเกตเห็นความไม่สบายใจของ มู่อวี้เฉิง และส่งยิ้มให้เขา
“คุณลุงสุดหล่อช่วยยื่นมือออกมาหน่อยสิครับ”
“ทำไม?”
ถึงแม้ว่ามู่อวี้เฉิงจะรู้สึกมึนงง แต่กลับยื่นมือออกไป
เสี่ยวเป่าไม่พูดอะไร มือข้างหนึ่งถือลูกบอล ขณะที่มืออีกข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและหยิบสิ่งของบางอย่างขึ้นมาวางไว้บนมือของมู่อวี้เฉิง
เขาปล่อยมือออก เผยลูกอมเคลือบน้ำตาลสีม่วงปรากฏต่อสายตาของมู่อวี้เฉิง
มู่อวี้เฉิงเลิกคิ้ว “อะไรน่ะ?”
เสี่ยวเป่าเอามือทั้งสองข้างโอบกอดลูกบอลและยิ้มหวาน “ของขวัญให้คุณลุงสุดหล่อฮะ หม่ามี้บอกว่าถ้ามีใครมาช่วยก็ควรจะตอบแทนน้ำใจเขา”
มู่อวี้เฉิงอมยิ้มขณะก้มหน้ามองลูกอมในมือ
เด็กคนนี้ได้รับการอบรมเลี้ยงดูจากแม่มาเป็นอย่างดี
“ขอบใจนะ แต่ลุงไม่กินลูกอมหรอก เสี่ยวเป่าเอามันกลับไปกินเถอะ”
เขายกมือส่งสัญญาณให้เสี่ยวเป่ามารับลูกอมกลับไป
เสี่ยวเป่าเบะปากขณะมองดูลูกอมที่ส่งคืนมา “ทำไมคุณลุงสุดหล่อไม่เอาล่ะ? ไม่ชอบเสี่ยวเป่าเหรอ เพราะงั้นถึงไม่ชอบของที่เสี่ยวเป่ามอบให้ใช่มั้ย?”
มู่อวี้เฉิงรู้สึกลำบากใจเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของเขา
“ไม่ใช่อย่างนั้น” เขายืนกรานปฏิเสธ
“งั้นคุณลุงสุดหล่อก็ชอบเสี่ยวเป่าสินะ” เสี่ยวเป่ามองดูมู่อวี้เฉิงด้วยแววตาสดใส
มู่อวี้เฉิงมองดูสายตาที่จ้องมองมาและรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถพูดขัดเจตจำนงของอีกฝ่ายได้
เขาจึงพยักหน้า
น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของเสี่ยวเป่ายังคงดังอยู่ข้างหู “ผมก็ชอบคุณลุงสุดหล่อเหมือนกัน”
เสี่ยวเป่ากะพริบดวงตากลมโตราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นจึงถามว่า “คุณลุงสุดหล่อยังไม่มีแฟนจริง ๆ เหรอ? อยากพิจารณามาเป็นพ่อผมมั้ย? หม่ามี้ผมสวยเพียบพร้อมมากเลยนะ ถ้ามาเป็นพ่อผมจะได้แถมฟรีลูกชายน่ารัก ๆ ฉลาดแบบผมไปด้วย”
มู่อวี้เฉิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเมื่อได้ยินคำพูดโปรโมตของเสี่ยวเป่า
“ลืมไปมันซะเถอะ”
ลำแสงในดวงตาของเสี่ยวเป่าหรี่ลงเล็กน้อยราวกับดูผิดหวังมากเมื่อได้ยินคำตอบ
ถึงอย่างนั้นเขาก็อยากจะลองอีกสักตั้ง “คุณลุงสุดหล่อ ไม่คิดพิจารณาดูหน่อยเหรอ? หม่ามี้ผมสวยมากจริง ๆ”
เขาเงยหน้ามองมู่อวี้เฉิงด้วยความคาดหวัง
มู่อวี้เฉิงส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
หลายปีที่ผ่านมาเขาพบเจอผู้หญิงหลายประเภท แต่ไม่มีคนไหนเลยที่จะทำให้เขาหวั่นไหวได้
“ก็ได้ งั้นผมจะไม่บังคับคุณลุงสุดหล่อ”เสี่ยวเป่าเม้มปากแสดงอารมณ์ออกมาอย่างเห็นได้ชัด
มู่อวี้เฉิงทนไม่ไหวจึงพยายามพูดปลอบใจ
ขณะเดียวกันลู่หมิงเดินเข้ามา
เขาจำเสี่ยวเป่าได้และรู้สึกประหลาดใจ
ทว่าเขาไม่ลืมว่าตัวเองมาที่นี่เพราะเรื่องงานและพูดด้วยความเคารพว่า “ท่านประธาน ถนนโล่งแล้ว พวกเราออกเดินทางสะดวกแล้วครับ”
มู่อวี้เฉิงตอบรับและหันไปบอกลาเสี่ยวเป่า “ลุงไปก่อนนะ หนูก็กลับไปได้แล้ว”
“คุณลุงสุดหล่อ เดี๋ยวก่อนครับ” เสี่ยวเป่ารีบตะโกนเรียกมู่อวี้เฉิงที่กำลังจะเดินจากไป
“อะไรอีก?” มู่อวี้เฉิงหันกลับมา
เสี่ยวเป่ายกมือทั้งสองข้างจับประตูรั้วและพูดว่า “คุณลุงสุดหล่อเอาข้อมูลติดต่อให้ผมหน่อยได้มั้ยฮะ?”
“ทำไม?”
เสี่ยวเป่าประสานนิ้วมือเข้าหากันและตอบว่า “คุณลุงสุดหล่อก็เห็นแล้วนี่ว่าเราเจอกันมาสองครั้งแล้ว จะต้องเป็นโชคชะตาแน่ ๆ จริงมั้ย? ในเมื่อเราถูกลิขิตให้รู้จักกันแล้วก็มาเป็นเพื่อนกันเถอะฮะ”
เขากะพริบดวงตากลมโต รูม่านตาสีดำเผยให้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์
ยากนักที่มู่อวี้เฉิงจะหัวเราะออกมาเช่นนี้
เขารู้ดีว่าเจ้าเด็กแสบมีความคิดแอบแฝง ทว่าเขากลับไม่ได้ปฏิเสธ
เขาชอบเด็กคนนี้มาก
จึงเอื้อมมือออกไปหยิบนามบัตรและพูดอย่างใจเย็น “หลังจากนี้ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาหาลุงนะ”
“ขอบคุณครับคุณลุงสุดหล่อ” เสี่ยวเป่ารับนามบัตรมาอย่างมีความสุข
ขณะที่ลู่หมิงยืนแข็งข้างอยู่ด้านข้าง!
เพราะว่าข้อมูลที่ท่านประธานให้ไปล้วนเป็นข้อมูลส่วนตัว!