ตอนที่ 7 คุณข่มขู่ฉันเหรอ?
ตอนที่ 7
คุณข่มขู่ฉันเหรอ?
เสี่ยวเป่ากำลังนั่งเท้าคางอยู่บนโซฟาด้านนอก
ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกว่าน้ำเสียงในสายโทรศัพท์ฟังดูคุ้นเคยเล็กน้อย
แต่เขาไปได้ยินมันมาจากที่ไหน?
เขามุ่ยหน้าอยู่สักพักหนึ่ง แต่กลับคิดไม่ออก
...
เช้าวันรุ่งขึ้น ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไปส่งเสี่ยวเป่าที่โรงเรียนอนุบาลและตรงไปที่บริษัท
จวบจนเวลาเก้าโมงครึ่ง ผู้ช่วยเดินเข้ามาเคาะประตูห้อง “คุณผู้จัดการ ประธานมู่จากมู่กรุ๊ปมาหาครับ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่ประหลาดใจและตอบรับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ให้เขาเข้ามา”
หลังจากนั้นไม่นาน เซ่าหมิงเวยพามู่อวี้เฉิงเข้ามาในห้องทำงาน “คุณถง คุณมู่มาแล้วครับ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเงยหน้าขึ้นมองและรู้สึกได้ว่ารังสีความกดขี่ที่แผ่ซ่านออกมา
เขาสวมชุดสูทไฮเอนด์สีดำที่ทำมือทั้งตัว เสื้อเชิ้ตขาวด้านในติดกระดุมจนถึงเม็ดบนอย่างพิถีพิถัน
ใบหน้าของเขาวิจิตรงดงาม สมบูรณ์แบบราวกับภาพแกะสลักที่เหล่าเทวดาช่วยกันสร้างสรรค์ออกมาอย่างประณีต
ออร่าเปล่งประกายดั่งผู้ที่อยู่เหนือกว่ามายาวนาน เปรียบเสมือนจักรพรรดิที่น่าหวั่นเกรง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวต้องใช้เวลากว่าสิบนาทีถึงจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง
“ประธานมู่”
เธอเก็บงำความตกตะลึงเอาไว้ในใจ และเดินหลังตรงออกมาจากโต๊ะทำงาน
มู่อวี้เฉิงมองดูหญิงสาวที่มีความมั่นใจและสดใสตรงหน้า รูม่านตาสีน้ำตาลเข้มดูมืดหม่นลงเล็กน้อย
ลู่หมิงที่ยืนอยู่ข้างหลังมองดูถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยความประหลาดใจ
นี่คือ... อดีตคู่หมั้นของท่านประธานที่หายตัวไปเมื่อห้าปีก่อนไม่ใช่เหรอ?
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเมินเฉยต่อดวงตาที่ประหลาดใจของ ลู่หมิง
เธอนั่งลงและรีบพูดเข้าเรื่องกับมู่อวี้เฉิง
“จะเรียกเพิ่มอีกห้าสิบล้านผมคงให้ไม่ได้หรอกครับ แต่...”
มู่อวี้เฉิงพูดตอบตรงประเด็นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผมจ่ายเพิ่มอีกสามสิบล้านได้”
ดวงตาของเซ่าหมิงเวยเป็นประกายทันทีเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว
เดิมทีเขารู้สึกสิ้นหวังกับการเรียกร้องราคาเพิ่มเติมของถงเหมี่ยวเหมี่ยว แต่ตอนนี้มู่อวี้เฉิงกลับเป็นฝ่ายเสนอราคาที่สูงขึ้นก่อน
ถึงแม้ว่าราคาดังกล่าวจะไม่ใช่ราคาที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเรียกร้อง แต่นั่นก็ไม่ใช่จำนวนเงินน้อย ๆ
จำนวนเงินสามสิบล้านที่บวกเพิ่มจากฐานราคาเดิมจะทำให้พวกเขาสร้างกำไรได้มหาศาล
“คุณถง ท่านประธานมู่...”
เขาพยายามระงับความตื่นเต้นและต้องการให้ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยอมรับมันแต่โดยดี
ทว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับไม่ปล่อยโอกาสให้เขาพูดจบ
เธอขมวดคิ้วและพูดขัดจังหวะ “สามสิบล้าน? ประธานมู่ทำแบบนี้มันไม่จริงใจเอาซะเลยนะคะ”
สีหน้าของมู่อวี้เฉิงดูเย็นชาขึ้นครู่หนึ่ง
จนลู่หมิงเองยังประหลาดใจ
เขานึกไม่ถึงว่าจะมีคนปฏิเสธข้อเสนอของท่านประธาน
ในขณะที่เซ่าหมิงเวยกำลังรู้สึกกังวล
เขากังวลว่าหากถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังทำแบบนี้ต่อไปจะกลายเป็นการทำลายธุรกิจแทน
เขาจึงรีบขยิบตาให้ถงเหมี่ยวเหมี่ยว
แต่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับไม่ได้สนใจและเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง “ท่านประธานมู่ควรชัดเจนให้มากกว่านี้นะคะ เพราะที่นี่ยังมีอีกหลายบริษัทที่กำลังแก่งแย่งชิงกันใบอนุญาตทางเทคโนโลยีจากทางบริษัทของเราอยู่”
มู่อวี้เฉิงดูเย็นชาขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำพูดของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยว
“สามสิบล้านคือข้อเสนอสุดท้ายที่ผมจะให้”
เขาพ่นน้ำเสียงเย็นชา “ถึงแม้ว่ามู่กรุ๊ปจะต้องการรีบใช้เทคโนโลยีจากบริษัทของคุณ แต่ทางบริษัทคุณไม่ได้ต้องการใช้มันนี่”
สีหน้าของถงเหมี่ยวเหมี่ยวมืดหม่นลงทันที
มู่อวี้เฉิงพูดต่อ “และ... ในประเทศนี้ไม่มีบริษัทไหนกล้าแข่งขันกับมู่กรุ๊ป ถ้าคุณยังจะยืนกรานแบบนี้ ผมก็เกรงว่าเทคโนโลยีจะล้าสมัยในมือคุณซะก่อน”
เขาหยุดพูด ยกยิ้มมุมปากและพูดว่า “ผู้จัดการถงจะยอมลดราคาให้ได้มั้ยล่ะครับ?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวสบตาเข้ากับดวงตาเย็นชาของเขาขณะที่หัวใจดำดิ่งลงสู่ก้นบึ้ง
ถึงตอนนี้เธอตระหนักได้แล้วว่าผู้ชายคนนี้เก่งกาจถึงเพียงไหน
เธอไม่เคยเผชิญหน้ากับมู่อวี้เฉินโดยตรงมาก่อน
และสิ่งที่เธอเคยได้ยินมาล้วนเป็นเรื่องราวจากข่าวลือ
ตามข่าวลือบอกว่าผู้ชายคนนี้เด็ดเดี่ยว มีวิธีการโหดเหี้ยม เย็นชาและค่อนข้างเลือดเย็น
คราวเมื่อได้ยินมาเธอไม่เคยรู้สึกอะไรเลย แต่ตอนนี้เธอกลับกำลังรู้สึกกดดัน
เธอจ้องมองผู้ชายเย็นชาตรงหน้า โดยคิดว่าไม่ต้องการพลาดท่าต่อหน้าผู้ชายคนนี้
“เพราะงั้นท่านประธานมู่ถึงได้มาข่มขู่ฉันเหรอคะ?”
เธอขมวดคิ้วขณะพูดถาม
มู่อวี้เฉิงเหลือบมองเธอ “คุณจะคิดแบบนั้นก็ได้”
จู่ ๆ สีหน้าของถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็ทะมึนมึนขึ้นมา
เธอจ้องมองมู่อวี้เฉิงด้วยสายตาเย็นชา
ขณะที่มู่อวี้เฉิงมองกลับด้วยท่าทีที่ไม่แยแส
จนดูเหมือนว่าสายตาของทั้งสองกำลังต่อสู้กันจนเกิดประกายไฟกลางอากาศ
หลังจากนั้นบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดจนรุนแรงขึ้น เรื่อย ๆ
ขณะที่บรรยากาศรอบตัวทั้งสองกำลังตึงเครียด แต่ ลู่หมิงกลับมองดูถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยสายตาชื่นชม ผู้หญิงคนนี้น่าทึ่งมาก เธอแตกต่างจากเมื่อหลายปีก่อนลี้ลับ
เซ่าหมิงเวยหวาดกลัวจนฉี่แทบราดเมื่อเห็นทั้งสองเผชิญหน้าเข้าหากัน
นี่คือท่านประธานแห่งมู่กรุ๊ป!
ผู้หญิงอย่างถงเหมี่ยวเหมี่ยวกล้าเผชิญหน้ากับมู่อวี้เฉิงได้อย่างไร!
เขาต้องการขัดจังหวะเพื่อทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย แต่รังสีดุร้ายที่ทั้งสองแผ่ออกมาจากทั้งสองคนทำให้เขาไม่กล้าพูดอะไรออกไป
ใบหน้าเศร้าหมองของเขาทำได้เพียงภาวนาเงียบ ๆ ว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะไม่ทำให้การเจรจาครั้งนี้ยุ่งเหยิง
ไม่เช่นนั้นเทคโนโลยีจะกลับคืนมาอยู่ในมือจริง ๆ และพวกเขาจะไม่สามารถอธิบายต่อสำนักงานใหญ่ได้
ไม่รู้ว่าคำอธิษฐานของเขาได้ผลหรือไม่ แต่หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองคนที่กำลังเผชิญหน้ากันอยู่ก็เริ่มขยับเขยื้อน
แม้ว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอต่อหน้ามู่อวี้เฉิง แต่ความเป็นจริงกลับทำให้เธอต้องยอมถอยออกมา
คงเป็นอย่างที่มู่อวี้เฉิงพูดว่าในประเทศนี้ไม่มีใครหน้าไหนกล้าแข่งขันกับมู่กรุ๊ปทั้งนั้น
หากเทคโนโลยีวนกลับมาอยู่ในมือของเธอ เธอก็ไม่สามารถชดใช้ค่าเสียหายของบริษัทได้
สุดท้ายเธอยอมพ่ายแพ้และพูดว่า “เซ่าหมิงเวย ส่งแขกออก พรุ่งนี้ให้คนเอาสัญญาไปให้มู่กรุ๊ปเซ็นด้วย”
เซ่าหมิงเวยตกตะลึง
เขารีบตอบตกลงทันทีเมื่อได้สติเพราะหวาดกลัวว่าอีกสองนาทีถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะเปลี่ยนใจอีก “ท่านประธานมู่ พรุ่งนี้สะดวกเวลาไหนครับ?”
มู่อวี้เฉิงเหลือบมองหญิงสาวที่เดินกลับไปยังโต๊ะทำงานและตอบรับด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “ได้ทุกเมื่อ”
จากนั้นจึงหันหลังกลับออกไปทันที
ลู่หมิงรีบตามออกไป
เซ่าหมิงเวยที่เห็นเช่นนั้นรีบตามลงไปส่งพวกเขาที่ชั้นล่าง
จู่ ๆ บรรยากาศในห้องทำงานก็เงียบลง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองตามทางที่มู่อวี้เฉิงเดินออกไป ทรุดตัวลงเอนกายพิงเก้าอี้ตำแหน่งผู้จัดการและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ขณะเดียวกันเธอรู้สึกถึงเหงื่อเย็นที่ไหลออกมากลางหลัง เหน็บหนาวจนสั่นสะท้าน
“มู่อวี้เฉิง”
เธอพึมพำชื่อของเขา ก่อนจะส่ายหัวและยิ้มเหยเก
ผู้ชายคนนี้... ยังคงน่ากลัวเหมือนกับในความทรงจำของเธอ
...
มู่อวี้เฉิงที่อยู่ชั้นล่างเดินออกมาจากสาขาย่อยของบริษัทสตีเฟนด้วยความรู้สึกกดดันที่ล้อมอยู่รอบตัว
ลู่หมิงสังเกตเห็นได้ว่าท่านประธานกำลังอารมณ์เสีย และดูโกรธจัด
ทว่าเขาไม่กล้าถามถึงเรื่องที่ทำให้อารมณ์เสีย เพียงทำหน้าที่เป็นคนขับรถเท่านั้น
บรรยากาศในรถยนต์ดูกดดันมาก
ลู่หมิงไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ และคอยสังเกตดูสีหน้าของท่านประธานเป็นครั้งคราว
มู่อวี้เฉิงรู้สึกได้ถึงสายตาของลู่หมิงที่จ้องมองมา
แต่กลับทำทีเป็นไม่สนใจ
เขาหันกลับไปมองวิวทางนอกหน้าต่าง ภายในหัวหวนนึกถึงเหตุการณ์ในห้องทำงาน
ผู้หญิงคนนั้นเปลี่ยนไปมากจริง ๆ
เมื่อก่อนเธอไม่กล้าจ้องเขาตรง ๆ แบบนี้ด้วยซ้ำ
และทุกคำพูดของเธอทำให้เขารู้สัมผัสได้ถึงความอ่อนแอ
ขณะที่กำลังเหม่อลอย รถยนต์ก็จอดลงอย่างกะทันหัน