ตอนที่ 43 เงื่อนไข
ตอนที่ 43
เงื่อนไข
“คุณถง ป้าว่าเราไปขอความช่วยเหลือจากคุณมู่เหมือนในวันนี้ได้มั้ยคะ?” แม่ซุนที่นั่งอยู่ในคอนโดของถงเหมี่ยวเหมี่ยวถามออกมาด้วยความลังเล
เธอจำได้ว่าวันนี้นายถงดูกลัวคุณมู่มาก
บางทีถ้าเขามาที่นี่ปัญหาอาจจะคลี่คลายลง
ต้องขอความช่วยเหลือจากมู่อวี้เฉิงหรือไม่?
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังคงลังเลเล็กน้อย
เดิมทีเธอไม่ต้องการติดต่อไปหามู่อวี้เฉิงอีกเพราะไม่ช้าหรือเร็วเขาจะรู้ถึงตัวตนของเสี่ยวเป่า
หากเขาพาตัวเสี่ยวเป่าไป เธอจะไปขอความช่วยเหลือจากใครได้บ้าง?
“คุณถง ป้ารู้ว่าคุณคิดยังไงกับคุณมู่นะคะ แต่ตอนนี้คุณมู่เป็นคนเดียวที่ช่วยเหลือเราได้”
แม่ซุนหวนถอนหายใจเมื่อนึกปฏิกิริยาของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยว จากนั้นจึงพูดเบา ๆ ว่า “เสี่ยวเป่ายังเด็กมาก เขาจะกลัวขนาดไหน...”
หัวใจของถงเหมี่ยวเหมี่ยวอ่อนยวบลงทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น
เธอไม่มีเวลามานั่งคิดมาก
ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหมายเลขโทรไปหามู่อวี้เฉิง
ณ มู่กรุ๊ป
ลู่หมิงที่ยืนอยู่หน้าห้องทำงานของท่านประธานเฝ้าดูโทรศัพท์มือถือสั่นอยู่นาน แต่มู่อวี้เฉิงกลับไม่มีทีท่าว่าจะรับสาย
“ท่านประธาน มีสายเข้าครับ” ลู่หมิงเหลือบมองรายชื่อผู้ติดต่อบนหน้าจอโทรศัพท์และอดไม่ได้ที่จะพูดทักท้วง
ขณะที่มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วและจ้องมองมาที่เขา
ลู่หมิงสงบปากสงบคำลงอย่างรู้ความ
อีกฝ่ายกดโทรเข้ามาต่อเนื่องอย่างไม่ลดละ
ลู่หมิงกลืนน้ำลายและพูดด้วยความลังเลอีกครั้ง “ท่านประธานจะไม่รับสายเหรอครับ? มืดมาแล้วด้วยอาจจะมีเรื่องด่วน...”
ทันทีที่ลู่หมิงพูดจบ ท่านประธานก็ตวัดสายตาเย็นชามามองเขาอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ก็หยุดไป
ลู่หมิงมองดูท่านประธานกดรับสายโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
ทั้งที่กดรับสายแล้วแท้ ๆ แต่กลับไม่ยอมพูดทักทายออกไป
“ขอโทษที่โทรมารบกวนคุณอีกนะคะ” น้ำเสียงแหบแห้งของถงเหมี่ยวเหมี่ยวดังขึ้นจากปลายสาย
มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่กลับไม่ได้พูดขานรับ
“พอจะมีเวลามั้ย ออกมาเจอฉันหน่อยสิ ฉัน... ฉันอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดด้วยความสิ้นหวัง
ปลายสายยังคงเงียบอยู่นาน
หัวใจของถงเหมี่ยวเหมี่ยวเต้นแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ครั้งเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากปลายสายอยู่นาน
“ผมยุ่งอยู่ ไม่ว่าง” ในที่สุดมู่อวี้เฉิงก็พูดตอบรับกลับมา
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ได้ยินเสียงตอบรับจากเขาไม่สามารถระงับความวิตกกังวลในใจได้อีกต่อไป และพูดคำขอร้องออกไปเบา ๆ
“เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้วเป็นความผิดของฉันเอง ฉันมันนิสัยไม่ดี แต่ตอนนี้เสี่ยวเป่าถูกลักพาตัวไป แต่มีแค่คุณเท่านั้นที่พอจะช่วยฉันได้ ช่วยฉันหาตำแหน่งที่อยู่ของเสี่ยวเป่าหน่อยนะ...”
ลูกเธอถูกลักพาตัวไป
มู่อวี้เฉิงรู้สึกแปลกในใจจนเผลอกำโทรศัพท์แน่น
คำพูดต่อไปไร้ความปรานีอย่างมาก
“ผมกับเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน เพราะงั้นผมไม่จำเป็นต้องสละเวลาทำอะไรเพื่อเขา”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตกตะลึงถึงกับเงียบไปพักหนึ่งเมื่อได้ประโยคที่ตอบกลับมา
มู่อวี้เฉิงกับเสี่ยวเป่าไม่ใช่ญาติพี่น้องกัน
หากก่อนหน้านี้เธอได้ยินมู่อวี้เฉิงพูดแบบนี้ เธอคงจะรู้สึกดีใจแทนที่จะรู้สึกเจ็บปวด
แต่ตอนนี้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวถึงกับหัวเราะไม่ออกเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้หลุดออกมาจากปากเขา
หากมู่อวี้เฉิงรู้ถึงสายสัมพันธ์ระหว่างเขากับเสี่ยวเป่า ตอนนี้เขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
ชั่ววูบหนึ่งถงเหมี่ยวเหมี่ยวอยากจะพูดสารภาพออกไป
“มู่อวี้เฉิง!” เธอตะโกนเรียกชื่อมู่อวี้เฉิงและเงียบไปอีกครั้ง
“ต้องทำยังไงคุณถึงจะช่วยฉัน?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดขึ้นอีกครั้งด้วยทัศนคติที่เปลี่ยนไป คำพูดของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงอธิษฐาน
ดวงตาของมู่อวี้เฉิงมืดมนลงเล็กน้อย แม้แต่น้ำเสียงยังฟังดูทุ้มขึ้น
“คุณถงเป็นคนเก่งมีความสามารถ ไม่ขาดตกบกพร่องอะไร เพราะงั้นผมขอเงื่อนไขแค่ข้อเดียว...”
มู่อวี้เฉิงเงยหน้าออกไปมองทิวทัศน์ยามค่ำคืนนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าเนือย ๆ
“ถ้าคุณถงยินดีเป็นคนรักของผม ผมก็จะช่วยคุณครับ” ทั้งคู่ตกใจมากหลังจากที่ประโยคนี้สิ้นสุดลง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ได้สติคืนมาระเบิดเสียงหัวเราะ
“มู่อวี้เฉิง ฝันไปซะ!” หลังจากสิ้นน้ำเสียงเย็นชา ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็ตัดสายโทรศัพท์ทิ้งทันที
มู่อวี้เฉิงเม้มปากแน่นขณะมองดูหน้าจอโทรศัพท์ที่ดำสนิท ดวงตาของเขามัวสลัวลงด้วยความสับสน
เกิดอะไรขึ้นกับเขา ทำไมเขาถึงพูดแบบนั้นออกไป...
นอกจากนี้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวปฏิเสธเขาโดยไม่ลังเลสักนิด
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเลือกที่จะละทิ้งความช่วยเหลือทั้งที่ตอนนี้ลูกชายเธอถูกลักพาตัวไป
มู่อวี้เฉิงนึกถึงเรื่องที่เสี่ยวเป่าหายตัวไปและอดไม่ได้ที่จะใจร้ายใส่เสี่ยวเป่าจึงเอื้อมมือออกไปกดต่อสายภายใน
“ให้คนไปตรวจสอบตำแหน่งที่อยู่เด็กคนหนึ่งให้ที่ เดี๋ยวฉันส่งข้อมูลไปให้”
“ครับ” ปลายสายตอบกลับอย่างรวดเร็ว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่อยู่อีกด้านหนึ่งไม่รู้ถึงการแทรกแซงของเขา เธอนั่งอยู่บนโซฟาด้วยความสับสน ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
ตอนนี้ความหวังเดียวของเธอหมดสิ้นลงแล้ว และทำได้เพียงช่วยเหลือตัวเองเท่านั้น
ถงกัวฮัวจะเอาเสี่ยวเป่าไปซ่อนไว้ที่ไหน...
พี่เลี้ยงในวัยเด็กของเธอยังคงอาศัยอยู่ในวิลล่าตระกูลถง หากเสี่ยวเป่าอยู่ที่นั่น พี่เลี้ยงคงจะบอกเธอแล้ว
นอกจากวิลล่าตระกูลถงแล้ว ถงกัวฮุยจะจับเสี่ยวเป่าไปซ่อนไว้ที่ไหนได้อีก?
เธอหวนนึกถึงสถานที่ต่าง ๆ และตัดออกทีละที่
จนในที่สุดสถานที่แห่งหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว
บ้านหลังเก่าของตระกูลถง
ผู้เฒ่าตระกูลถงทั้งสองคนเคยอาศัยอยู่ที่นั่นก่อนจะเสียชีวิตลง หลังจากทั้งคู่เสียชีวิตลง บ้านหลังเก่าก็ถูกปล่อยทิ้งร้างและไม่มีใครกลับไปอีก
ถงกัวฮุยให้ความสำคัญกับบ้านหลังเก่ามาก
คราวที่เธอกลับมาที่นี่เธอเคยไปเยี่ยมบ้านหลังเก่ามาก่อน มันยังเหมือนกับในความทรงจำทุกประการ
และตอนนี้ดูเหมือนว่าที่นั่นจะมีความเป็นไปได้สูง
เมื่อคิดได้เช่นนั้นถงเหมี่ยวเหมี่ยวคว้าเสื้อคลุมและเดินออกไปโดยไม่ลังเล
หากเป็นบ้านหลังเก่าจริง ๆ บรรยากาศรกร้างตอนกลางคืนคงจะทำให้เสี่ยวเป่าหวาดกลัวมาก
เธอไม่สามารถปล่อยให้เสี่ยวเป่าอยู่ที่นั่นเพียงลำพังได้
หลังจากขับรถไปถึงตีนเขาที่เป็นสถานที่ตั้งของบ้านหลังเก่าแล้ว ถงเหมี่ยวเหมี่ยวลงจากรถและเดินขึ้นไปบนภูเขา
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวชะลอฝีเท้าลงเมื่อเดินมาถึงหน้าประตูบ้านหลังเก่า
เธอพบว่ามีชายสองคนกำลังยืนเฝ้าอยู่หน้าบ้านหลังเก่าที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ และดูเหมือนว่าชายคนที่เดินเข้ามาจะสังเกตสิ่งแปลกประหลาดจากทางถงเหมี่ยวเหมี่ยว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอบสนองด้วยการรีบเข้าไปซ่อนตัว เธอรอจังหวะที่พวกเขาเผลอย้ายตำแหน่งไปทางด้านหลังบ้านอย่างระมัดระวัง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูสองคนนั้นและรับรู้ได้ทันทีว่า เสี่ยวเป่าอยู่ข้างในบ้าน
นอกจากเสี่ยวเป่าแล้ว เธอคิดว่าถงกัวฮุยไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องส่งคนมาเฝ้าบ้านหลังเก่าเป็นพิเศษ
แต่ตอนนี้เสี่ยวเป่าถูกขังเอาไว้ในห้องไหน?
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเงยหน้ามองบ้านหลังเก่า จากมุมมองของเธอนั้นไฟในบ้านหลังเก่าถูกเปิดเอาไว้สว่างจ้า และดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหวนนึกถึงแผนผังบ้านในความทรงจำ ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านหลังเก่าจากทางประตูด้านหลัง
ขณะเดียวกันเสี่ยวเป่าที่ถูกขังเอาไว้บนชั้นสองนั่งอยู่บนขอบเตียงห้อยขาลง
ประตูห้องถูกล็อคจากด้านนอก เขาพยายามเปิดมันอยู่หลายครั้งแต่กลับไม่สำเร็จ ดังนั้นเขาจึงนั่งรอให้แม่มารับ
เขายังจำไอ้พวกคนเลวที่จับเขามาขังไว้ในห้องนี้ได้ ก่อนจากไปคนพวกนั้นบอกกับเขาว่าเดี๋ยวหม่ามี้จะมารับเขา
ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นพูดโกหกหรือเปล่า
แต่เสี่ยวเป่าเชื่อว่าหม่ามี้จะไม่ทิ้งเขาไว้ที่นี่เพียงลำพัง
เขาจึงนั่งรออย่างเชื่อฟังและไม่สร้างปัญหาอะไรให้หม่ามี้