ตอนที่ 42 พวกเราโทรแจ้งตำรวจเถอะ
ตอนที่ 42
พวกเราโทรแจ้งตำรวจเถอะ
ทั้งสองคนนึกไม่ถึงว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะลงมือกะทันหันจนพวกเธอตอบสนองไม่ทัน
โจวเพ่ยฮวาเอามือปิดหน้าและยืนจ้องเขม็งอยู่นานขณะที่หางตาชำเลืองเห็นตำรวจสองนายยืนมองอยู่จึงรู้สึกกล้าหาญขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณตำรวจ! เห็นหรือยังคะ! ฉันเป็นผู้หลักผู้ใหญ่แค่พูดกับเธอสองสามคำ เธอก็ตบฉันแล้ว!”
เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดทำเป็นหูทวนลม
“รีบเข้ามาจับมันสิคะ! มันทุบตีคนอื่นโจ่งแจ้งหน้าโรงพักแบบนี้แต่พวกคุณกลับไม่ทำอะไรเลย!” โจวเพ่ยฮวาตะโกนเรียกหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“อย่ามาแตะต้อง!”
เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายก้าวถอยหลังและพูดเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง “มาตะโกนโหวกเหวกโวยวายอะไรหน้าโรงพัก? หรือว่ายังอยากอยู่ต่ออีกสักสองวัน?”
คำขู่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้โจวเพ่ยฮวาที่โกรธเคืองอยู่สงบปากสงบคำ
“ยังไม่ไปอีก?” เจ้าหน้าที่ตำรวจตะโกนไล่พวกเธอออกไป พวกเขาไม่อยากเห็นหน้าหญิงสาวจองบงการทั้งสองคนอีก
พวกเธอทั้งสองไม่กล้าโต้เถียง จ้องเขม็งไปที่ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยความโกรธเคือง หันหลังกลับโดยไม่หันมามองอีก
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรีบติดตามไป
มองดูพวกเธอโบกรถริมถนนและขับตามพวกเธอไปตลอดทาง
จนกระทั่งทั้งสามคนมาถึงบ้านตระกูลถง
“เสี่ยวเป่าล่ะ?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูคนทั้งสามคนที่กำลังมีความสุขอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาที่ร้อนรน
เธอพาคนทั้งสองกลับมาตามสัญญาแล้ว และถึงเวลาที่ถงกัวฮุยจะต้องส่งตัวเสี่ยวเป่าคือให้เธอสักที
ทว่าถงกัวฮุยกลับทำเป็นมองไม่เห็นเธอและพูดคุยกับ ถงอวิ๋นเหยียนด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกัดฟันก้าวขึ้นไปข้างหน้าและขึ้นเสียงตวาด “ถงกัวฮุย เสี่ยวเป่าอยู่ไหน!”
ถงกัวฮุยค่อย ๆ หันหน้ากลับมามอง สีหน้าที่สงบสุข ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความอดกลั้น
“ตะโกนหาพระแสงอะไร? ที่นี่ตระกูลถง อย่าหยิ่งผยองให้มันมากนัก”
“ฉันทำตามที่แกขอแล้ว ตอนนี้ถึงตาแกทำตามสัญญาส่งเสี่ยวเป่าคืนมาให้ฉัน!”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่สนใจท่าทางวางตัวที่สูงส่งของเขา
ดวงตาของถงกัวฮุยเปล่งประกายวิบวับเมื่อเห็นสีหน้าวิตกกังวลของเธอ
หากเขาจำไม่ผิดตอนนี้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกำลังทำงานอยู่ในบริษัทสตีเฟน หากตระกูลถงได้โครงการมาครอบครอง ตระกูลถงก็คงจะไม่ต้องเศร้าโศกอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
ถงกัวฮัวคิดและยกยิ้ม
“ฉันว่าคำขอของฉันมันง่ายเกินไป”
ดวงตาของถงเหมี่ยวเหมี่ยวสั่นระริกขณะมองดูเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
“ถ้าจำไม่ผิดตอนนี้แกทำงานให้สตีเฟนอยู่ใช่มั้ย แกทำร้ายตระกูลถงมามากพอแล้ว และแกควรจะชดใช้”
น้ำเสียงของถงกัวฮุยที่อยู่อีกด้านหนึ่งฟังดูผ่อนคลายลงกว่าเดิม
ชดเชยให้ตระกูลถงอย่างนั้นหรือ?
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขมวดคิ้ว “แกต้องการอะไร?”
“ส่งโครงการมาให้ตระกูลถงทำต่อสิ” ถงกัวฮุยพูดออกมาราวกับว่าเธอเป็นเจ้าของบริษัทสตีเฟน
ทั้งสองคนที่อยู่ด้านข้างพากันสนับสนุน
“ใช่ ถ้าแกไม่ทรยศหักหลังตระกูลมู่ ตระกูลถงจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้เหรอ! ทั้งหมดเป็นความผิดของแก! แกต้องชดใช้ตระกูลถง!”
ดวงตาของถงเหมี่ยวเหมี่ยวมืดมนลงเมื่อเห็นสีหน้าที่ น่าเกลียดของพวกเขา
“เราตกลงกันแล้วว่าให้ฉันไปพาพวกเธอกลับมา ส่วนแกจะคืนเสี่ยวเป่าให้ฉัน”
“แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” ถงกัวฮุยยิ้มเยาะ
เจ้าเด็กเหลือข้อตกมาอยู่ในเงื้อมมือเขาแล้ว ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะเจรจาต่อรองอะไรได้?
เขาคิดว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวคงจะไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้
แต่...
“ฉันตัดสินใจแทนสตีเฟนกรุ๊ปไม่ได้หรอก” น้ำเสียงของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเต็มไปด้วยความโกรธเคือง
เธอน่าจะรู้ตั้งแต่แรกว่าถงกัวฮุยเป็นจอมวายร้าย เธอจะเจรจาต่อรองกับเขาได้อย่างไร
เธอไม่ควรหลงกลเขาปล่อยแม่ลูกคู่นี้ออกมาเลย
“นั่นมันเรื่องของแก” ถงกัวฮุยเริ่มหมดความอดทนกับเธอ จากนั้นจึงหันกลับไปคุยกับโจวเพ่ยฮวาและลูกสาว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยืนอยู่ที่หน้าประตูมองดูสมาชิกครอบครัวสามคนหัวเราะคิกคักด้วยความรู้สึกที่สั่นสะท้านไปทั่วร่างกาย
บ้านหลังนี้ไม่ใช่ที่ที่เธอรู้จักอีกต่อไป...
“มัวยืนรออะไรอยู่? ป่านนี้ไอ้เด็กป่าเถื่อนนั่นมันร้องไห้รอให้แกมารับแล้วมั้ง” ถงกัวฮุยเหลือบเห็นว่าเธอยังยืนอยู่ที่เดินจึงร้องตะโกนด่า
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ได้สติคืนมาจ้องมองสามคนในบ้านด้วยสายตาเย็นชาและหันหลังกลับออกไป
ถงกัวฮุยหวังสูงอยากจะได้โครงการสตีเฟนจากเธอ!
แต่เสี่ยวเป่ายังรอเธออยู่ เธอจะต้องไปรับเสี่ยวเป่ากลับมาให้เร็วที่สุด
กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็ดึกมาแล้ว
แม่ซุนรีบเข้ามาถามไถ่ทันทีเมื่อถงเหมี่ยวเหมี่ยวเดินเข้าประตูมา
“คุณถง เสี่ยวเป่าล่ะคะ? ทำไมไม่กลับมาด้วย?” แม่ซุนวิตกกังวลมากเมื่อเห็นว่าเสี่ยวเป่าไม่ได้กลับมาพร้อมเธอ
ใบหน้ามืดมนของถงเหมี่ยวเหมี่ยวผ่อนคลายลงเมื่อเห็นท่าทางวิตกกังวลของอีกฝ่าย เธอรู้สึกเหนื่อยล้าเต็มทน
เธอโบกมือเป็นการบอกว่าไม่อยากพูดอะไร
“เกิดอะไรขึ้นคะ? คุณไม่ได้ไปรับเสี่ยวเป่าเหรอ?” แม่ซุนดูแลพวกเขามาได้สองสามวันแล้วและถือว่าตัวเองเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวจึงปฏิเสธกับถงเหมี่ยวเหมี่ยวราวกับลูกสาวคนหนึ่ง
แม่ซุนเห็นว่าเธอไม่ยอมตอบจึงถามขึ้นอีกครั้ง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยล้าและพูดขึ้นหลังจากเงียบไปเพียงไม่กี่วินาที
“ถงกัวฮุยจับตัวไปซ่อนไว้”
แม่ซุนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินเช่นนี้และนึกขึ้นได้ว่าเขาคือตาของเสี่ยวเป่า
“เขาจะทำอะไรคะ? ป้าว่าเราโทรแจ้งตำรวจกันเถอะ...”
แม่ซุนเฝ้ารอมาตลอดทั้งวันจนมาเห็นสภาพของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงรับรู้ได้ว่าเธอไม่สามารถจัดการอะไรกับ ถงกัวฮุยได้เลย หลังจากคิดพิจารณาอยู่นานจึงแนะนำให้โทรแจ้งตำรวจ
ถงกัวฮุยดูไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่นัก เขาถึงกับลักพาตัวเสี่ยวเป่าไปขังไว้ เป็นแบบนี้แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเป่าหรือเปล่า!
แม่ซุนดูกังวลมากขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องนี้
“คุณถงอย่าเสียเวลาเลยค่ะ เราโทรแจ้งตำรวจเถอะ...”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่ต้องการโทรแจ้งตำรวจ
อันเนื่องมาจากถงกัวฮุยมีศักดิ์เป็นตาที่แท้จริงของ เสี่ยวเป่า พวกเขาเชื่อมโยงกันทางสายเลือด หากเขาไม่ได้ลงมือทำร้ายอะไรเสี่ยวเป่า การโทรแจ้งตำรวจไปจะมีผลอะไร
...
ขณะเดียวกัน โจวเพ่ยฮวากับถงอวิ๋นเหยียนที่กลับมาถึงบ้านตระกูลถงแล้วตระหนักได้ว่าตอนนี้ลูกชายของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกำลังอยู่ในเงื้อมมือของพวกเธอ
ใบหน้าทั้งสองคนจึงเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
“พ่อคะ ไอ้เด็กเหลือขอนั่นอยู่ไหน หนูจะสั่งสอนบทเรียนให้มันสักหน่อย” ถงอวิ๋นเหยียนทำตัวเชื่อฟังถงกัวฮุย แต่คำพูดคำจากลับโหดเหี้ยม
ต้องโทษถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ทำให้เธอทุกข์ทรมานในสถานกักกันมาหลายวัน ในเมื่อทำอะไรถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็เอาความเจ็บช้ำมาลงที่ลูกมันแทนได้ใช่ไหม?
นอกจากนี้ดูเหมือนว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะเป็นห่วงลูกมาก
ถงอวิ๋นเหยียนหวนนึกถึงความรักความเอาใจใส่ที่ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมีต่อเด็กแล้วจึงยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ
“หุบปาก”
ขณะที่เธอกำลังจินตนาการเพ้อฝันถึงการแก้แค้น น้ำเสียงของถงกัวฮุยก็ดังก้องขึ้นมาในหู
“พ่อ... หมายความว่ายังไงคะ?” ถงอวิ๋นเหยียนตกตะลึงและนั่งลงด้วยความสับสน
“ไอ้เด็กนั้นยังมีประโยชน์อยู่ พวกเธอสองคนห้ามคิดทำอะไรมัน และห้ามขัดคำสั่งฉันด้วย! ถ้าแส่เข้ามายุ่งเมื่อไหร่อย่าหาว่าฉันไม่เตือน!”
หลังจากพูดจบ ถงกัวฮุยลุกขึ้นยืนและเดินจากไปด้วยสีหน้ามืดมน