ตอนที่ 39 หวั่นไหวเข้าแล้วเหรอ
ตอนที่ 39
หวั่นไหวเข้าแล้วเหรอ
ทีมแพทย์และพยาบาลทั้งตึกรู้สึกโล่งใจเมื่อถงกัวฮุยถูกลากตัวออกไป
“คุณถง ถ้างั้นพวกเราขอตัวก่อนนะครับ เชิญพักผ่อนตามสบาย” พวกเขาพูดบอกและขอตัวกลับออกไป
เหลือเพียงคนสี่คนในห้องผู้ป่วย
มู่อวี้เฉิงมองดูคนบนเตียงพยาบาลด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจความหมาย
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยายามหลบสายตาที่เขาจ้องมองมา
“ขอบคุณครับคุณลุงสุดหล่อ!” เสี่ยวเป่าไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ทั้งสองคนกำลังคิดอะไรอยู่ เขากระโดดโลดเต้นขณะพูดขอบคุณมู่อวี้เฉิงด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
ขณะที่เขากำลังจะวิ่งเข้าไปหาอีกฝ่าย ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่อยู่บนเตียงกลับแขนของเขาเอาไว้
เสี่ยวเป่าไม่กล้าขัดขืนถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงเขยิบถอยหลังกลับมา
“ขอบคุณค่ะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจับไหล่เสี่ยวเป่าเงยหน้าและพูดขอบคุณมู่อวี้เฉิงด้วยน้ำเสียงเย็นชา
แม้ว่าปากจะพูดขอบคุณ แต่ทัศนคติกลับตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง
ดวงตาของมู่อวี้เฉิงมืดมนลงเมื่อเห็นว่าเธอมีทัศนคติเช่นนั้น จึงพูดเสียดสี “คำขอบคุณของคุณถงดูไม่ค่อยจริงใจเลยนะครับ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเม้มปากและพูดขึ้นหลังจากนั้น
“ฉันไม่คิดว่าเสี่ยวเป่าจะไปรบกวนคุณมู่อีก ต้องขอโทษคุณด้วยนะคะ ฉันติดหนี้บุญคุณอีกแล้วสินะ” น้ำเสียงเย็นชาของเธอดังชัดเจน
แม่ซุนที่อยู่ด้านข้างถึงกับถอนหายใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมีทัศนคติแบบนั้น
ทั้งที่คุณมู่อุตส่าห์ใจดีมาช่วยเหลือพวกเธอแท้ ๆ
บรรยากาศรอบตัวมู่อวี้เฉิงดูเย็นยะเยือกขึ้น เขาหันหลังกลับไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“คุณลุงสุดหล่อ!” เสี่ยวเป่าอยากจะวิ่งไล่ตามเขาไปแต่กลับถูกถงเหมี่ยวเหมี่ยวดึงเอาไว้
“หม่ามี้! คุณลุงสุดหล่อโกรธแล้วนะ” เขาหันกลับมาด้วยแววตาสดใสที่เป็นกังวลต่อมู่อวี้เฉิง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นว่าเขาดูเป็นห่วงเป็นใยมู่อวี้เฉิง
เพียงแค่เจอหน้ากันแค่ไม่กี่ครั้งแต่มู่อวี้เฉิงกลับสามารถเข้ามานั่งอยู่ในหัวใจของเสี่ยวเป่าไป หากปล่อยให้พวกเขากลับมาเจอหน้ากันอีกครั้ง เธอไม่อยากจะคิดถึงผลที่ตามมาเลย
“คุณถง...” แม่ซุนหันหน้ามามองเสี่ยวเป่าแล้วรู้สึกถึงความแปลกประหลาดบางอย่างจนอดไม่ได้ที่จะพูดทักท้วงออกไป
ไม่รู้ว่าเธอจินตนาการไปเองหรือเปล่าแต่ว่าเสี่ยวเป่าดูคล้ายคลึงกับคุณมู่มาก...
“ว่าไงคะ?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวงุนงง
แม่ซุนเปิดปากถามด้วยความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม “อึดอัดบ้างมั้ยคะ?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยิ้ม ส่ายหน้าและไม่พูดอะไรอีก
ณ ทางเข้าโรงพยาบาล
ลู่หมิงที่นั่งอยู่ในรถยนต์สังเกตเห็นว่าท่านประธานเดินออกมาจากโรงพยาบาลด้วยสีหน้าเรียบนิ่งจึงเดินลงไปเปิดประตูรถให้
“ท่านประธานทำไมกลับออกมาเร็วจังครับ?”
ท่านประธานมู่มาช่วยเหลือพวกเขาก็น่าจะมีการพูดขอบคุณกันบ้าง แต่ทำไมถึงกลับออกมาทันทีที่เข้าไป?
ลู่หมิงยังคงไม่เข้าใจ
มู่อวี้เฉิงที่ได้ยินคำถามดังกล่าวจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา
จนทำให้ลู่หมิงตกใจกลัวและสงบปากสงบคำลง
รถยนต์เคลื่อนตัวออกไปข้างช้า ๆ ขณะที่บรรยากาศในรถตกต่ำมาก
มู่อวี้เฉิงเอาแต่คิดประมวลท่าทางเย็นชาของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวอยู่ในหัว
ทิ้งเขาไปโดยไม่แม้แต่จะบอกลา ตอนนี้กลับมายังพาลูกกลับมาด้วย
แค่เสี่ยวเป่าบอกว่าเธออยู่โรงพยาบาล ทำไมเขาถึงยอมใจอ่อนให้ได้?
มู่อวี้เฉิงดูเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ
ก็แค่คนคนหนึ่งที่เขาจะมีหรือไม่มีไว้ในชีวิตก็ได้ ทำไมถึงเขาสนใจมากขนาดนี้?
“นายท่าน ตอนนี้เราจะไปไหนครับ?” รถยนต์แล่นออกมาจากไกลพอประมาณจนคนขับรถถามขึ้นอย่างระมัดระวัง
มู่อวี้เฉิงไม่ตอบสนอง
ขณะที่คนขับรถกำลังจะถามขึ้นอีกครั้ง เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นก่อน
มู่อวี้เฉิงหรี่ตามองชื่อบนหน้าจอและยกโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย
“พี่เฉิงอยู่ไหน? ออกมาดื่มกับผมมั้ย?” เสียงของ เฮ่อจิ่นเหยียนที่อยู่ปลายสายดังขึ้น เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขาอยู่ในบาร์
“ไม่มีอารมณ์ พวกนายดื่มกันไปเถอะ” มู่อวี้เฉิงปฏิเสธ
ทันทีที่เขาพูดจบ เฮ่อจิ่นเหยียนที่อยู่ปลายสายก็ถอนหายใจและพูดอย่างน่าสงสารว่า พี่อยู่ที่ไหน? ฉันมาคนเดียวเปล่าเปลี่ยวหัวใจ พี่มาหาหน่อยไม่ได้เหรอ?”
มู่อวี้เฉิงไม่ปฏิเสธอีกต่อไปและสั่งคนขับรถให้ขับตรงไปที่บาร์
“ทำไม? เป็นอะไรไปดูอารมณ์ไม่ค่อยดี?” เฮ่อจิ่นเหยียนรับรู้ถึงความผิดปกติทันทีที่ทั้งสองเจอหน้ากัน
มู่อวี้เฉิงเมินเฉยและสั่งพนักงานเสิร์ฟให้มารินไวน์ใส่แก้ว ก่อนจะดื่มหมดแก้มภายในอึกเดียว
“ใครทำให้พี่โมโห? ใครที่บังอาจทำให้คุณชายมู่ของเรามาดื่มเพื่อคลายทุกข์ได้? บอกผมมา!” เฮ่อจิ่นเหยียนอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น เขาลุกขึ้น เขยิบเข้าไปนั่งใกล้ ๆ และใช้ไหล่สะกิดอีกฝ่าย
หลังจากรู้จักกันมานาน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นมู่อวี้เฉิงเป็นแบบนี้ ซึ่งยากนักที่จะเกิดขึ้น
“วันนี้ฉันแค่จะมาดื่ม” มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วและรินไวน์ใส่แก้วอีกครั้ง
เฮ่อจิ่นเหยียนที่เห็นเช่นนั้นไม่ได้ถามอะไรต่อ ยักไหล่และส่งเสียงร้อง “ใช่แล้ว ไชโย”
เฮ่อจิ่นเหยียนพูดและยกแก้วขึ้นมาชนแก้วกับมู่อวี้เฉิงเบา ๆ
มู่อวี้เฉิงถอนหายใจเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ถามจู้จี้ต่อ และก้มหน้าก้มตาดื่มต่อไป
พวกเขาทั้งสองดื่มกันหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งหญิงสาวสุดเซ็กซี่คนหนึ่งมาเผยโฉมต่อหน้าพวกเขา
มู่อวี้เฉิงยังคงดื่มไม่หยุดและเมินเธอ
“หนุ่มหล่อมาดื่มด้วยกันมั้ยคะ?” หญิงสาวเดินเข้ามาหาเขาแต่เมื่อเห็นว่าเขาไม่สนใจ เธอก็ไม่ยอมแพ้ บิดเอวหันหนีไปทางเฮ่อจิ่นเหยียนอย่างยั่วยวน
เมื่อพูดคุยกันจนรู้สึกคุ้นเคยแล้ว เฮ่อจิ่นเหยียนส่งยิ้มหวานหยดย้อยและยกแก้วขึ้นมาชนกับเธอ
“ฉันขอนั่งตรงนี้ได้มั้ยคะ?” หญิงสาวพบว่าตัวเองไม่ถูกปฏิเสธจึงกล้าที่ก้าวข้ามไปอีกขั้น
เฮ่อจิ่นเหยียนเลิกคิ้วและกำลังจะตอบตกลง แต่จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงแก้วกระทบกับโต๊ะดังลอดเข้ามาในหู
เมื่อมองไปรอบ ๆ เขาพบว่ามู่อวี้เฉิงเพิ่งวางแก้วกระแทกกับโต๊ะ
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังไม่พอใจกับหญิงสาวคนนี้อยู่
เฮ่อจิ่นเหยียนตระหนักถึงเรื่องนี้ ยิ้มเบา ๆ และพูดปฏิเสธหญิงสาว “ต้องขอโทษด้วย ไว้เป็นครั้งหน้าแล้วกันนะครับ”
หญิงสาวไม่พอใจอย่างมากเมื่อเห็นว่าเหยื่อกำลังจะบินหนีไป เธอกัดริมฝีปากล่างจ้องมองมู่อวี้เฉิงอย่างติเตียนและเดินจากไป
มู่อวี้เฉิงมองดูเธอเดินจากไปและพูดพึมพำอะไรบางอย่าง “ผู้หญิงนี่น่ารำคาญจริง ๆ”
หากปฏิเสธยังคงจะดีเสียกว่า แต่นี่ไม่ปฏิเสธแล้วยังทำสีหน้าไม่ดีอีก
เมื่อคิดเช่นนั้น สีหน้าเย็นชาของถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่อยู่ในโรงพยาบาลก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขาอีกครั้ง
“พี่ว่าไงนะ?” เฮ่อจิ่นเหยียนที่มีหูแหลมคมได้ยินประโยคนั้นชัดเจนและรู้สึกราวกับว่าเขากำลังค้นพบโลกใบใหม่อยู่
“คุณชายมู่เราไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่?”
มู่อวี้เฉิงเหลือบมองเขาด้วยสายตาเย็นชา
คราวนี้เขาไม่ได้ควบคุมความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองอีกต่อไป
“หรือว่าที่พี่เป็นแบบนี้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?” เฮ่อจิ่นเหยียนรีบพูดเดาอย่างกระตือรือร้น
“ผู้หญิงคนไหนทำให้คุณชายมู่ของเราซึมได้ขนาดนี้นะ? ขอผมเดาหน่อย...” เฮ่อจิ่นเหยียนพยายามคิดพิจารณาแล้วจู่ ๆ ร่างบางก็ปรากฏกายขึ้นในใจเขา
“คงไม่ใช่คนนั้นใช่มั้ย?” เขามองดูมู่อวี้เฉิงอย่างไม่มั่นใจ
หลังจากสิ้นเสียงดังกล่าว มู่อวี้เฉิงหยุดดื่มและเงยหน้ามองเขาอย่างลึกซึ้ง
“ถงเหมี่ยวเหมี่ยวคู่หมั้นที่หนีไปใช่มั้ย? ทำไม พี่เฉิงของเราหวั่นไหวเข้าแล้วเหรอ?”
เฮ่อจิ่นเหยียนค่อย ๆ พูดขณะที่แสยะยิ้มอย่างภาคภูมิใจ