ตอนที่ 37 ก็ยังไม่ตายไม่ใช่เหรอ
ตอนที่ 37
ก็ยังไม่ตายไม่ใช่เหรอ
“เจอมาตั้งหลายครั้งแล้ว ที่โรงแรมครั้งหนึ่ง ที่โซนสวนสนุกครั้งหนึ่ง...”
เสี่ยวเป่าไม่ได้สังเกตสีหน้าของเธอยกนิ้วขึ้นมานับจำนวนครั้งที่พวกเขาเจอกัน
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวนั่งเหม่อลอยตั้งแต่ได้ยินประโยคแรก ภายในใจหวนคิดพิจารณาปฏิกิริยาของมู่อวี้เฉิงที่แรกเจอ เสี่ยวเป่า
หลังจากที่เจอหน้ากันมาหลายครั้ง มู่อวี้เฉิงสังเกตเห็นอะไรหรือไม่?
เสี่ยวเป่าดูเหมือนเขามาก และอายุก็พอจะคาดเดาได้
เธอควรจะทำอย่างไรหากเขารู้ว่าเสี่ยวเป่าคือลูกชายของเขา เธอจะชิงตัวเสี่ยวเป่ากลับมาจากมู่อวี้เฉิงได้หรือไม่...
“แล้วเราก็เจอกันที่โรงเรียนด้วย คุณลุงสุดหล่อทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ให้เสี่ยวเป่า!” เสี่ยวเป่าดูมีความสุขมากเมื่อพูดถึงเรื่องนี้
จู่ ๆ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็กลับมามีสติอีกครั้ง
“โรงเรียนอนุบาลเหรอ? ไปเจอกันที่นั่นได้ยังไง?”
แรงดึงดูดช่างดึงดูดสายเลือดให้มาเจอกันจริง ๆ ไม่อย่างนั้นมู่อวี้เฉิงจะไปโรงเรียนอนุบาลทำไม?
ความประหลาดใจทำให้เธอลืมควบคุมการแสดงออกของตัวเอง เสี่ยวเป่าตกใจกับท่าทางของเธอมากและค่อย ๆ สารภาพว่า “เสี่ยวเป่าเจอคุณลุงตอนวิ่งไปรับลูกบอล หม่ามี้เป็นอะไรไป?”
“ไม่มีอะไร” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวสงบลงและถามว่า “บอกหม่ามี้ได้มั้ยว่าคุยอะไรกันบ้าง?”
หากเสี่ยวเป่าพูดอะไรที่กระตุ้นให้เกิดความสงสัย หลังจากนี้เธอคงจะต้องไปประจันหน้ากับมู่อวี้เฉิง
เสี่ยวเป่าดูตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อพูดถึงหัวข้อบทสนทนาที่พวกเขาพูดคุยกันและจ้องมองถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
“คุณลุงสุดหล่อบอกว่ายังไม่มีแฟน เสี่ยวเป่าจะช่วยแม่จีบคุณลุงเอง! หม่ามี้สวยขนาดนี้ ส่วนคุณลุงก็หล่อเหมาะสมกับหม่ามี้มาก!”
ดวงตาของถงเหมี่ยวเหมี่ยวสั่นระริก “ชอบเขามากเลยเหรอ?”
“ก็คุณลุงดูคล้ายเสี่ยวเป่าเลย หม่ามี้คิดว่างั้นมั้ย?” เสี่ยวเป่าพูดด้วยความไร้เดียงสา
สีหน้าของถงเหมี่ยวเหมี่ยวเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
แม้แต่เสี่ยวเป่ายังดูออกว่าพวกเขาทั้งสองดูคล้ายคลึงกันมาก ดังนั้นมู่อวี้เฉิงก็น่าจะเห็นไม่ต่างกัน
ไม่ จะปล่อยให้ปล่อยเขาเจอหน้ากันอีกไม่ได้
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวคิดและยกมือขึ้นมาลูบผมนุ่มของ เสี่ยวเป่า พูดเบา ๆ ว่า “เสี่ยวเป่า หม่ามี้คงอยู่กับเขาไม่ได้หรอก ทีหลังอย่าไปรบกวนคุณลุงอีกตกลงมั้ย?”
เสี่ยวเป่าที่เอนกายอยู่ข้างเตียงมองดูด้วยแววตาสับสน
“ทำไม? ก็คุณลุงสุดหล่อบอกว่ายังไม่มีแฟน...”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวชะงักเล็กน้อย ร่องรอยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกแวบเข้ามาในดวงตา
“แต่เขามีภรรยามีลูกเป็นของตัวเองแล้ว จะมาอยู่กับไม่ได้หรอก เพราะงั้นเสี่ยวเป่าควรอยู่ให้ห่างจากเขา”
เสี่ยวเป่าอยากจะถามต่อแต่สัมผัสได้ถึงความรู้สึก แปลก ๆ จากหม่ามี้ จึงอ้าปากค้างและตอบตกลงอย่างเชื่อฟัง
“เข้าใจแล้วฮะหม่ามี้”
ทันทีที่พวกเขาสองคนคุยกันเสร็จ เสียงฝีเท้าหน้าห้องผู้ป่วยและเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวนึกว่ามู่อวี้เฉิงเดินกลับมาจึงชำเลืองมองเสี่ยวเป่า
“คุณถง เดี๋ยวป้าไปเปิดให้ค่ะ” แม่ซุนที่อยู่ด้านข้างลุกขึ้นเดินไปที่ประตูและพาเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายเดินเข้ามา
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นพวกเขา สีหน้าเธอกลับมามีชีวิตชีวาเล็กน้อย
“คุณถงใช่มั้ยครับ พวกเรามาสอบถามเหตุการณ์จากคุณ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณพอจะสะดวกให้ปากคำมั้ยครับ?” เจ้าหน้าที่ตำรวจหันไปมองเสี่ยวเป่าที่อยู่ข้างเตียง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองตามสายตาเขาและยิ้มเบา ๆ “ไม่มีปัญหาค่ะ เชิญตามได้เลย”
“หลังจากตรวจสอบแล้วทางเราพบว่าคุณถูก ถงอวิ๋นเหยียนพาผลักออกไปกลางถนนหลังจากมีปากเสียงกัวโจวเพ่ยฮวา”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าเงียบ ๆ
“ไม่ทราบว่าคุณขัดแย้งอะไรกับพวกเขาถึงได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นครับ?” เจ้าหน้าที่ตำรวจถาม
ขัดแย้ง?
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวลดระดับสายตาลง ดวงตาดูเย็นชาขึ้นเล็กน้อย
เธอไม่เคยขัดแย้งอะไรกับตระกูลถงเลย มีแต่ตระกูลถงที่คอยบีบบังคับให้เธอยอมจำนน
เธอแค่เลือกที่จะไม่ร่วมมือด้วย แบบนี้เรียกว่าขัดแย้งได้หรือเปล่า?
“คุณถงครับ?” เธอเงียบไปนานจนเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งเสียงเรียกอีกครั้ง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวได้สติคืนมาอีกครั้งและยิ้มขอโทษ
“ฉันกับครอบครัวไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่น่ะค่ะ พวกเธอมาขอความช่วยเหลือจากฉัน แต่ฉันปฏิเสธไป”
เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายมองหน้ากันทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้นและรู้ดีว่าเธอจะไม่ให้การอะไรเพิ่มเติมอีก
“แต่ว่าพวกเขาเป็นสมาชิกในครอบครัวของคุณ คุณอยากจะแจ้งความคดีอาญากับพวกเขาจริงเหรอครับ?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหรี่ตาลงจนทำให้คนอื่นเห็นสีหน้าของเธอไม่ชัดนัก
“คนทำผิดก็ต้องรับผิดสิคะ แค่ทำตามกระบวนการไปก็พอ ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาอีก”
เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคนตกใจราวกับนึกไม่ถึงว่าเธอจะไม่แยแสครอบครัวขนาดนี้ แต่เมื่อถึงนึกสิ่งที่พวกเธอทำพวกเขาก็รู้สึกสึกได้ว่าการตัดสินใจของถงเหมี่ยวเหมี่ยวนั้นสมเหตุสมผล
“ได้ครับ งั้นทางเราจะขังตัวไว้ก่อน” เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดและขอตัวกลับไป
ณ สถานีตำรวจ
โจวเพ่ยฮวากับถงอวิ๋นเหยียนรอจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายกลับมาแล้วจึงวิ่งแจ้นเข้าไปถามไถ่
“คุณตำรวจคะ...”
“จับพวกเธอเข้าไปขังไว้ แล้วอีกสองสามวันก็ทำตามกระบวนการได้เลย”
เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินผ่านพวกเธอไปโดยไม่สนใจไยดีหญิงชั่วช้าทั้งสอง
ใบหน้าของแม่และลูกสาวแดงก่ำทันทีเมื่อได้ยินคำว่ากุมขัง พวกเธอหันไปมองถงกัวฮุยและเริ่มพูดฟ้อง
“ทั้งหมดเป็นความผิดของนังบ้าถงเหมี่ยวเหมี่ยวคนเดียว! ถ้ามันนึกถึงตระกูลถงบ้าง พวกเราคงจะไม่เป็นอย่างนี้!”
“ใช่! เพราะเห็นว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน เราก็แค่ขอให้มันกลับมาช่วยตระกูลถง ถึงมันไม่ช่วยก็ช่างปะไร แต่กลับมาทำร้ายพวกเราแบบนี้! ทรยศหักหลังพวกเดียวกัน!”
ทั้งสองคนพูดสาปแช่งขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวออกไป
ถงกัวฮุยโกรธจัดเมื่อเห็นภรรยาและลูกสาวถูกพาตัวไปจึงรีบขับรถไปยังโรงพยาบาลที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวอยู่ทันที
“คุณคะ มาหาใครเหรอคะ?”
แม่ซุนเปิดประตูออกไปเห็นชายคนหนึ่งกำลังโกรธจัดจึงพยายามปิดกั้นประตูเอาไว้
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่อยู่ในห้องผู้ป่วยได้ยินเสียงเธอจึงเงยหน้าขึ้นมอง
“แม่ซุนให้เขาเข้ามาค่ะ แล้วช่วยหาเสี่ยวเป่าออกไปที”
แม่ซุนที่ได้รับคำสั่งเช่นนั้นรีบพาเสี่ยวเป่าออกไปอย่างไม่เต็มใจนัก
“แกบอกตำรวจว่าอะไร? รู้มั้ยว่าตำรวจมันจับแม่กับน้องสาวแกไปแล้ว!” ถงกัวฮุยตะคอกเสียงทันทีที่เดินเข้าประตูมา
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่ตอบสนองอะไรหลังจากได้ยินเสียงตะคอก เธอยังคงปอกเปลือกส้มที่เหลืออยู่อีกครึ่งซีกให้เสี่ยวเป่าอย่างใจเย็น
“หูหนวกหรือไง? ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ? โทรหาตำรวจเดี๋ยวนี้! บอกให้เขาปล่อยตัวแม่กับน้องสาวแกซะ!” ถงกัวฮุยก้าวไปคว้าผลส้มในมือเธอและขวางมันทิ้ง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูมือที่ว่างเปล่าและนิ่งไปสองสามวินาที จากนั้นจึงตอบสนองด้วยการเงยหน้าขึ้น จ้องมองชายตรงหน้าด้วยสายตาเยาะเย้ย
“มันเป็นการตัดสินใจของตำรวจ เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย? ฉันก็แค่ผู้ถูกกระทำ”
“ก็ถ้าแกไม่บอกตำรวจว่าไม่ยกโทษให้ ทางตำรวจจะตัดสินใจแบบนี้เหรอ! แกนี่มันคนปลิ้นปล้อน! ตระกูลถงก็ขอโทษแกไปแล้ว แกยังจะต้องเอาคืนกันแบบนี้ด้วยเหรอ!”
ถงกัวฮุยขมวดคิ้วขณะร้องคำราม คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจที่มีต่อถงเหมี่ยวเหมี่ยว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวคุ้นเคยต่ออุปนิสัยของเขาเป็นอย่างดี เธอฟังแต่ไม่ได้เก็บคำพูดพวกนี้มาใส่ใจ จากนั้นเบะปากอย่างไม่ไยดี
“ไม่ต้องมาขอโทษอะไรฉัน ฉันโดนทุบจนเกือบจะตายแล้วด้วยซ้ำ”
ทันทีที่เธอพูดจบ ถงกัวฮัวก็ตวาดเสียงดัง “แขนขาก็ยังอยู่ครบไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ทางตำรวจกำลังพาตัวพวกเธอไป! แกปล่อยพวกเธอไม่ได้หรือไง!”