ตอนที่ 35 คุณลุงสุดหล่อทำไมมาอยู่ที่นี่
ตอนที่ 35
คุณลุงสุดหล่อทำไมมาอยู่ที่นี่
“หม่ามี้จะกลับมากี่โมง?” เสียงเด็กที่อยู่ปลายสายดังขึ้นอีกครั้ง
มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วและตอบรับเสียงเข้ม “ฉันไม่ใช่หม่ามี้หนู”
“...” ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่น้ำเสียงกังวลจะดังขึ้น “แล้วคุณเป็นใคร? ทำไมถึงใช้โทรศัพท์หม่ามี้?”
“ฉันเป็นเพื่อนกับหม่ามี้หนู”
มู่อวี้เฉิงพูดอธิบายและถามว่า “ตัวเล็กที่บ้านไม่มีผู้ใหญ่อยู่เหรอ เรียกผู้ใหญ่มารับโทรศัพท์หน่อย”
“ผู้ใหญ่เหรอ? รอแป๊บฮะ”
เสี่ยวเป่าถือโทรศัพท์วิ่งไปหาแม่ซันที่ยังอยู่ในคอนโนมีเนียม
“คุณยายซุน คุณยายซุนคุยโทรศัพท์ทีครับ เพื่อนหม่ามี้โทรมา”
ถึงแม้ว่าแม่ซุนจะยังมึนงงแต่เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “สวัสดีค่ะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”
มู่อวี้เฉิงพยายามพูดให้กระชับ “ถงเหมี่ยวเหมี่ยวประสบอุบัติเหตุ ตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาล คุณช่วยแวะมาดูหน่อยได้มั้ยครับ?”
แม่ซุนตื่นตระหนักมาก นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
เธอวางโทรศัพท์ลงด้วยมือที่สั่นเทา
เสี่ยวเป่าสังเกตเห็นว่าแม่ซุนดูผิดปกติไปจึงถามว่า “คุณยายซุน คุณลุงว่าไงบ้างครับ เขาได้บอกมั้ยว่าแม่จะกลับมาเมื่อไหร่?”
แม่ซุนก้มหน้าลงและรู้สึกลังเลเมื่อมองดูดวงตากลมโตของเสี่ยวเป่า
แต่สุดท้ายแล้วเธอเลือกที่จะบอกความจริง “เสี่ยวเป่า หม่ามี้ประสบอุบัติเหตุ ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล”
เสี่ยวเป่าตกใจมากจนใบหน้าซีดเผือด น้ำตาไหลลงมาอาบหน้า
เขาใจร้อนรีบดึงแม่ซุนให้ออกไปข้างนอก “คุณยายซุน เรารีบไปโรงพยาบาลกัน ไปโรงพยาบาลเร็ว ๆ”
“อ๊ะ ไป ไปกัน เสี่ยวเป่า ไม่ต้องห่วง หม่ามี้ต้องไม่เป็นอะไร”
ทั้งสองรีบนั่งแท็กซี่ออกไปที่โรงพยาบาล
มู่อวี้เฉิงที่อยู่ในโรงพยาบาลวางสายลงขณะที่ลู่หมิงเดินเข้ามาเคาะประตู
ตำรวจสองนายเดินตามหลังเขามาอีกที
“เกิดอะไรขึ้น?” มู่อวี้เฉิงเหลือบมองเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนด้วยสายตาเย็นและถามด้วยเสียงเรียบนิ่ง
แต่ก่อนที่ลู่หมิงจะตอบอะไร เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งกลับโพล่งขึ้นก่อน “คุณมู่ พวกเรามาจากสถานีตำรวจ หนานหยางครับ มีพยานในที่เกิดเหตุกล่าวว่าคุณถงถูกผลักจนเสียหลักล้มบนถนน ทำให้รถยนต์ที่วิ่งมาชะลอตัวไม่ทันจนเกิดอุบัติเหตุ พวกผมจึงมาบันทึกคำให้การของคุณถง”
มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ใครเป็นคนผลัก?”
“จากการตรวจดูกล้องวงจรปิดตามถนน เบื้องต้นพบว่าเป็นแม่เลี้ยงกับน้องสาวของคุณถงครับ”
มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วแน่น
ขณะที่ลู่หมิงตกใจมากเช่นกัน
ครอบครัวของคุณถงโหดเหี้ยมเกินไปหรือเปล่า?
เมื่อวันก่อนพ่อเธอก็ทุบกะจะเอาชีวิตให้ตาย
มาวันนี้เพิ่งมาได้แค่สองวัน แม่เลี้ยงกับน้องสาวก็พากันมาทำร้ายเธออีกรอบ
ไม่แปลกใจที่คุณถงไม่รู้สึกอะไรเลยที่วันนี้พ่อของเธอถูกจับกุมตัวไป
เกรงว่าคงจะรู้สึกผิดหวังกับทางบ้านมาก
บรรยากาศภายในห้องผู้ป่วยเงียบสงบอยู่ครู่หนึ่ง
จนกระทั่งน้ำเสียงเย็นชาของมู่อวี้เฉิงดังขึ้น “ถ้าคุณตำรวจมาบันทึกคำสารภาพ ผมเกรงว่าตอนนี้คงยังจะไม่ได้เพราะคุณถงยังไม่ฟื้นเลยครับ”
“ครับ ถ้าคุณถงฟื้นแล้วรบกวนแจ้งพวกเราทีนะครับ แล้วเราจะรีบออกไปหลังจากเสร็จธุระ”
“แน่นอนครับ แล้วเบื้องต้นจะจัดการยังไงกับคนร้ายบ้างครับ?” มู่อวี้เฉิงมองดูตำรวจทั้งสองนาย
เขาถามออกไปเพราะเกรงกลัวว่าครอบครัวของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะเข้ามาทำร้ายเธออีก
เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ปิดบังอะไรและพูดตามเป็นความจริง “คนร้ายถูกจับกุมตัวเอาไว้ชั่วคราวแล้วครับ รอจนกว่าคุณถงตื่นขึ้นมาให้การก่อนแล้วเราจะดำเนินคดีต่อ”
มู่อวี้เฉิงพยักหน้าและสั่งการ “ลู่หมิงออกไปส่งคุณตำรวจทั้งสองที”
ลู่หมิงรับคำสั่งและเดินลงไปส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนาย
แต่หลังจากที่เขาเดินออกไปได้ไม่นาน
เสี่ยวเป่าก็รีบลากแม่ซุนเข้ามาในห้องผู้ป่วย
“หม่ามี้...”
เขาไม่ได้สังเกตว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องผู้ป่วยด้วย รีบปล่อยมือแม่ซุนแล้ววิ่งเข้าไปข้าง ๆ เตียงพยาบาล เขย่งปลายเท้าจ้องมองหม่ามี้บนเตียง
“...”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่นอนอยู่บนเตียงพยาบาลยังคงหลับตานิ่งไม่ตอบสนองอะไร
แต่มันยิ่งทำให้เสี่ยวเป่าวิตกกังวลขึ้น
“หม่ามี้ หม่ามี้ตื่นสิ...” เขาคว้าแขนของถงเหมี่ยวเหมี่ยวขึ้นมาเขย่าเบา ๆ ขณะที่น้ำเสียงเริ่มสะอึกสะอื้น
แม่ซุนมองดูและรีบก้าวเข้าไปปลอบ “เสี่ยวเป่าคนเก่ง อย่าร้องไห้สิ หม่ามี้พักผ่อนอยู่อย่าเพิ่งไปรบกวน”
“หม่ามี้ไม่ยอมตอบผม แม่ตะโกนเรียกตั้งหลายรอบแล้วหม่ามี้ก็ไม่ยอมตื่น คุณยายซุน หม่ามี้จะไม่ตื่นขึ้นมาแล้วเหรอ?” เมื่อประโยคสุดท้ายสิ้นสุดลง ใบหน้าเขาก็ยิ่งดูตื่นตระหนกมากขึ้น
น้ำตาที่มีขนาดเท่าเม็ดถั่วไหลลงมาอาบหน้า
แม่ซุนมองดูเขาด้วยความทุกข์ใจ คอยเช็ดน้ำตาและพูดปลอบ “เสี่ยวเป่าเชื่อยายสิ หม่ามี้ไม่ได้เป็นอะไรมาก เพราะงั้นสัญญากับยายก่อนว่าจะไม่คิดอะไรเหลวไหลอีกตกลงมั้ย?”
“แต่... ทำไมหม่ามี้ไม่ตื่นขึ้นมาล่ะ?” เสี่ยวเป่าร้องไห้สะอื้นขณะมองเตียงพยาบาลด้วยความกังวล
แม่ซุนเหลือบมองถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่กำลังนอนหลับสบายหายใจสม่ำเสมออยู่บนเตียงพยาบาลจึงพูดเกลี้ยกล่อมว่า “ช่วงนี้หม่ามี้คงจะเหนื่อยถึงได้หลับลึกขนาดนี้ เสี่ยวเป่าคนเก่งอย่าไปรบกวนหม่ามี้ ถ้ากังวลก็ไปนั่งดูหม่ามี้เฉย ๆ พอ”
เสี่ยวเป่ามองดูหม่ามี้บนเตียงขณะสะอึกสะอื้น “ถ้างั้นผมจะนั่งเฝ้าหม่ามี้”
“เอาล่ะ งั้นเรานั่งเฝ้าหม่ามี้กันตรงนี้เนอะ” แม่ซุนไปหยิบเก้าอี้มานั่งขณะที่มีเสี่ยวเป่าอยู่ในอ้อมกอด
เสี่ยวเป่าจับมือของถงเหมี่ยวเหมี่ยวเอาไว้แน่น และจ้องมองถงเหมี่ยวเหมี่ยวโดยที่ไม่กะพริบตา
แม่ซุนรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าเขาหยุดร้องไห้
ขณะที่มู่อวี้เฉิงมัวประหลาดใจเมื่อเห็นเด็กชายตัวเล็กข้างเตียง
เขานึกไม่ถึงว่าเด็กชายตัวเล็กที่เขาบังเอิญเจอจะเป็นลูกชายของถงเหมี่ยวเหมี่ยว!
แม่ซุนสัมผัสได้ถึงสายตาของมู่อวี้เฉิงที่จ้องมองมาจึงค่อย ๆ เขยิบถอยหลังจากเสี่ยวเป่า
เธอเดินเข้าไปถามมู่อวี้เฉิงว่า “คุณคะ เมื่อสักครู่นี้คุณเป็นคนโทรหาพวกเราใช่มั้ยคะ?”
มู่อวี้เฉิงพยักหน้า
เขามองเห็นความกังวลในสายตาของแม่ซุนจึงรีบพูดอธิบายก่อนที่เธอจะถามอะไร “ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่เป็นอันตรายอะไร แต่ร่างกายได้รับรอยขีดข่วนหลายจุดและได้รับการกระทบกระเทือนเล็กน้อย คุณหมอยังให้เฝ้าดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาลต่ออีกสองวัน ส่วนพวกค่าใช้จ่ายอะไรผมจัดการให้เรียบร้อยแล้วครับ”
แม่ซุนทรุดตัวลงด้วยความโล่งใจทันทีเมื่อได้ยินว่า ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่เป็นอะไรมาก
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ ดีแล้ว”
มู่อวี้เฉิงเหลือบมองเธอเบา ๆ และถามว่า “คุณเป็นอะไรกับถงเหมี่ยวเหมี่ยวครับ?”
“คุณถงเป็นเจ้านายของฉันอีกทีค่ะ ส่วนฉันเป็นพี่เลี้ยงเด็ก” แม่ซุนตอบตามความจริง
มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้ว
ขณะเดียวกันเขาค้นพบอะไรบางอย่าง
นับตั้งแต่เสี่ยวเป่ากับพี่เลี้ยงมาถึงโรงพยาบาล จนป่านนี้บุคคลที่สามยังไม่มีปรากฏตัวเลย
เขาพูดถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเมื่อคิดอะไรบางอย่างออก “ทำไมมากันแค่สองคนล่ะครับ? สามีเธอล่ะ?”
“สามี?”
แม่ซุนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดขึ้นด้วยความลังเล “เอ่อ... คุณถง... เหมือนจะไม่มีสามีนะคะ?”
“ไม่มีสามี?” คำตอบดังกล่าวทำให้มู่อวี้เฉิงตกตะลึง
เขาขมวดคิ้วและมองดูหญิงสาวบนเตียง
เธอบอกว่าเธอแต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ?
ขณะเดียวกันบังเอิญว่าเสี่ยวเป่าหันมามองพอดี
เขาเบิกตากว้างมองดูมู่อวี้เฉิงและร้องตะโกนด้วยน้ำเสียงชัดแจ๋ว “คุณลุงสุดหล่อ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”