ตอนที่ 33 อุบัติเหตุทางรถยนต์
ตอนที่ 33
อุบัติเหตุทางรถยนต์
“ทำยังไง?” โจวเพ่ยฮวากับถงกัวฮุยถามออกมาพร้อมกัน
ถงอวิ๋นเหยียนหรี่ตาลง “ก็นังถงเหมี่ยวเหมี่ยวมันกลับมาแล้วไม่ใช่หรือไง? ตัวหนูน่ะไม่อยากแต่งงานกับคนแก่อย่างผู้จัดการหลี่หรอก งั้นพ่อแม่ก็ให้นังถงเหมี่ยวเหมี่ยวมันแต่งงานแทนหนูแล้วกันจะได้ช่วยป้องกันไม่ให้นังถงเหมี่ยวเหมี่ยวมันเข้าไปพัวพันตระกูลมู่ด้วย”
“จะว่าไปแบบนี้ก็ดีนะ แม่คิดว่าดีเหมือนกัน” โจวเพ่ยฮวาเห็นด้วยอย่างมาก
ท้ายที่สุดเธอไม่ต้องการให้ลูกสาวแสนสวยที่กำลังบานสะพรั่งแต่งงานกับผู้ชายที่มีอายุรุ่นราวคราวพ่อ
แม้ถงกัวฮุยจะเงียบไป แต่สีหน้ากลับปรากฏอารมณ์บางอย่าง
ถงอวิ๋นเหยียนพูดต่อ “สำหรับตระกูลมู่ ถ้ายังพอมีโอกาสพ่อก็ส่งหนูไปบ้างสิคะ อย่างน้อยหนูก็ทำตัวเชื่อฟังกว่านังบ้า ถงเหมี่ยวเหมี่ยว และหนูจะใส่ใจดูแลครอบครัวเราให้มากกว่านี้ ถ้าหนูเข้าไปในตระกูลมู่ได้นะ สิ่งแรกที่หนูจะทำคือการสนับสนุนครอบครัวของเรา”
ประโยคสุดท้ายที่หลุดออกมาถูกใจถงกัวฮัวยิ่งนัก
ทว่าเขากลับยังลังเลอยู่ “แต่เราไม่รู้ว่าตอนนี้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวอยู่ที่ไหน”
“ถึงไม่รู้ แต่หนูก็มีเพื่อนที่ทำบริษัทนักสืบอยู่ เดี๋ยวให้เพื่อนหนูไปตรวจสอบดูให้ก็ได้ค่ะ” ถงอวิ๋นเหยียนไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาอะไร
หลังจากได้ยินดังนั้น ถงกัวฮุยจึงไหว้วานเรื่องนี้กับเธอ
ต่อมาถงอวิ๋นเหยียนจึงโทรศัพท์ไปถามเพื่อน
...
ตอนเที่ยงของเช้าวันรุ่งขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวส่งตรงมายังโต๊ะน้ำชาของบ้านตระกูลถง
แต่ทุกคนกลับตกตะลึงเมื่ออ่านข้อมูลทั้งหมด!
พวกเขานึกไม่ถึงว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะกลายมาเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัทต่างชาติ
สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจมากที่สุดคือ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ที่มีต่อมู่อวี้เฉิงหารือโครงการยักษ์ใหญ่กับมู่กรุ๊ปถึงสองโครงการ
เรื่องดังกล่าวทำให้ครอบครัวอิจฉาและไม่พอใจ
“อวิ๋นเหยียน เพื่อนไม่ได้สืบค้นมาผิดใช่มั้ย? ทำไมนัง ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมันถึงเก่งขนาดนี้!”
โจวเพ่ยฮวากับถงกัวฮุยรู้สึกเหลือเชื่อ
“เพื่อนหนูสืบไม่ผิดหรอก” สีหน้าของถงอวิ๋นเหยียนดูไม่น่ามองนัก และภายในใจเริ่มรู้สึกอิจฉาริษยามากขึ้น!
เธอนึกถึงว่านังสารเลวถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะมีชีวิตที่ดีกว่าเธอ เพราะฉะนั้นเธอจะทำให้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมาแต่งงานแทนเธอให้ได้!
มันไม่เพียงแต่จะทำลายชีวิตถงเหมี่ยวเหมี่ยวเท่านั้น แต่ยังช่วยชีวิตเธอให้รอดพ้นอีกด้วย
ถึงเรียกได้ว่าเป็นผลดีต่อกันทั้งสองฝ่าย
ถงอวิ๋นเหยียนนึกถึงเรื่องนี้ขณะที่ดวงตาฉายแววความชั่วร้าย เธอพูดให้กำลังใจต่อว่า “พ่อคะ ในเมื่อถงเหมี่ยวเหมี่ยวมีความสามารถขนาดนี้แล้วก็พามันไปแต่งงานกับผู้จัดการหลี่เลยสิคะ ดูจากมูลค่าของถงเหมี่ยวเหมี่ยวแล้วเรายังสามารถเรียกเงินจากผู้จัดการหลี่ได้อีกนะคะ!”
ดวงตาของถงกัวฮุยเป็นประกายเมื่อเขาคิดว่าตัวเองสามารถเรียกข้อเงินเพิ่มได้อีก!
ขณะที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย
เย็นวันนั้นเธอกลับมาจากบริษัทและพบเห็นบุคคลทั้งสองที่ไม่อยากเจอหน้าอีกเลยในชีวิตนี้ทันทีที่ก้าวเข้ามาในเขตที่พักอาศัย
แม่เลี้ยงและน้องสาวตัวดีของเธอ
ขณะเดียวกันความทรงจำที่เลวร้ายมากมายที่เธอต้องการจะลืมมันไปกลับพรั่งพรูออกมาจากจิตใจของเธอ
ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ
เดิมทีเธอแสร้งจะทำเป็นไม่เห็นสองคนนี้และกำลังจะเดินก้าวเข้าไปข้างใน
แต่กลับนึกไม่ถึงว่าจะถูกขวางเอาไว้
“ถงเหมี่ยวเหมี่ยวแกกลับมาแล้วจริงด้วย!”
ถงอวิ๋นเหยียนมองดูหญิงสาวแสนสวยทรงเสน่ห์ตรงหน้าด้วยสายตาอิจฉาริษยาที่ไม่สามารถปิดบังได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอพบว่าเครื่องแต่งงานของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมีราคาแพงมากกว่าหกหลัก ดวงตาของเธอก็แทบจะกลืนกินถงเหมี่ยวเหมี่ยวทันที
ทำไมนังสารเลวนี้แต่งตัวดีกว่าเธอ!
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาครอบครัวของเธอตกต่ำมากจนไม่สามารถเอื้อมมือไปคว้าแบรนด์เนมสุดหรูได้เลย
แต่ตอนนี้ผู้หญิงที่เธอดูถูกเหยียดหยามกลับกำลังสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำมาจากยี่ห้อแบรนด์เนมที่เธอใฝ่ฝัน
และเธอกำลังจะคลั่งด้วยความอิจฉาริษยา!
โจวเพ่ยฮวาประหลาดใจมากเช่นกัน
ถึงแม้ว่าเธอจะได้อ่านประวัติความเป็นมาของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมาก่อนแล้ว แต่ก็ยากที่จะเชื่อว่าหล่อนจะกลายมาเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจและแข็งแกร่ง หล่อนคือ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่สามารถบดขยี้ทุกอย่างได้ตามที่ต้องการ
และหล่อนสามารถปิดซ่อนอารมณ์ได้เป็นอย่างดี
เธอถอนหายใจและตะคอกอย่างเย็นชา “ถงเหมี่ยวเหมี่ยว แกนี่มันนังตัวแสบจริง ๆ เลย ทำไม อยู่ต่างประเทศมานานจนไม่รู้จักไปมาลาไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่เลยหรือไง?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอกกลับอย่างไม่แยแส “คุณนับว่าเป็นผู้ใหญ่ด้วยเหรอ?”
เธอเหลือบมองทั้งสองอย่างไม่แยแสและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่?”
“มันจะยากอะไร แค่สืบดูก็รู้แล้ว!” โจวเพ่ยฮวาเยาะเย้ยและพูดจาดูถูกเหยียดหยาม
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก้มหน้าลงทันที
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองมีเจตนาที่ไม่ดี
“พวกเธอคิดจะทำอะไร?”
เธอมองดูพวกเขาทั้งสองอย่างระมัดระวังขณะที่ร่างกายเริ่มตึงเครียด
แต่ก่อนที่โจวเพ่ยฮวาจะพูดอะไร ถงอวิ๋นเหยียนกลับด่าทอราวกับแมวที่พองขนฟ่อ ๆ “ถงเหมี่ยวเหมี่ยวแกยังมีหน้ามาถามอีกเหรอว่าพวกเราจะทำอะไร! นังเนรคุณ แกหนีไปเพราะไม่พอใจที่จะต้องหมั้นกับตระกูลมู่ ทำให้ตระกูลมู่โกรธเคืองแล้วทิ้งให้พวกเราแบกรับความเดือดร้อน บ้านเราแย่ลงทุกปีก็เพราะแก แต่ในที่สุดพ่อก็หาแกเจอสักที แทนที่แกจะขอโทษกลับลากตำรวจมาจับพ่อ ทำไมจิตใจแกมันถึงบอดสนิทขนาดนี้!”
สีหน้าของถงเหมี่ยวเหมี่ยวมืดมนลงทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของหล่อน
ตอนนี้เป็นเวลาเร่งด่วนหลังเลิกงาน ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาหยุดดูทันทีเมื่อได้ยินเสียงวุ่นวาย
ถงอวิ๋นเหยียนแอบสะใจที่เห็นกลุ่มคนชี้ไม้ชี้มือไปทาง ถงเหมี่ยวเหมี่ยว
วันนี้เธอจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของศีลธรรมและเหยียบย่ำชื่อเสียงของถงเหมี่ยวเหมี่ยวให้จมดิน!
หล่อนให้คำพูดเฉียบคมหาว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวอกตัญญูและเหยียบหยามศักดิ์ศรีจนถึงที่สุด
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตัวสั่นด้วยความโกรธ ดวงตาที่เย็นชาจับจ้องไปทางถงอวิ๋นเหยียน
ทว่าถงอวิ๋นเหยียนไม่ได้สังเกตเห็นและยังรนหาที่ตายต่อไป “ได้ยินมาว่าแกกลายมาเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัทต่างชาติยักษ์ใหญ่แล้ว อยากรู้จังว่าแกได้ตำแหน่งนี้มาครอบครองได้ยังไง คงไม่ได้ไปนอนกับคนอื่น...”
แต่ก่อนที่หล่อนจะพูดจบ ฝ่ามือกลับปะทะเข้าที่ใบหน้าหล่อนอย่างแรง
จนใบหน้าของหล่อนหันไปข้างหนึ่งด้วยความตกตะลึง
เธอตกใจอย่างมาก
“ถงเหมี่ยวเหมี่ยว แกกล้าดียังไงมาตบฉัน!” ถงอวิ๋นเหยียนรู้สึกโกรธจนแทบบ้าและจ้องมองถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยดวงตาแดงก่ำ
“ถ้าปากไม่สะอาดก็ควรจะทำความสะอาดซะ!” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหวาดกลัวท่าทางของหล่อน รีบจับมือที่ตบหน้าหล่อนขึ้นมาลูบด้วยความเจ็บปวด
โจวเพ่ยฮวาเพิ่งได้สติและรีบร้องตะโกนด้วยความโกรธ “นังกบฏกล้าดียังไงมาตีครอบครัวด้วยเอง เข้ามาจับมันไว้!”
หลังจากสิ้นเสียง ผู้คุ้มกันทั้งห้าคนก็เดินออกมาจากที่ไหนสักแห่ง
โจวเพ่ยฮวาออกคำสั่ง “ไปจับตัวมันมา รอกลับไปก่อนเถอะฉันจะสั่งสอนบทเรียนให้แก!”
“พวกแกกล้าเหรอ!” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจ้องมองผู้คุ้มกันที่ร่างกายบึกบึนแข็งแกร่งด้วยความตื่นตระหนก
เธอมองดูผู้คุ้มกันที่เดินเข้ามาใกล้แล้วจึงจำใจคว้ากระเป๋าขึ้นมาหลับตาไล่ตีไปทั่วทุกสารทิศ
เธอขยับเขยื้อนไปทั่วจนพวกผู้คุ้มกันไม่กล้าลงมือทำอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ทำได้เพียงเดินเข้าไปใกล้
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวค่อย ๆ ถอยหลังกลับ
ทว่าเหตุการณ์ยังคงดูวุ่นวาย
ถงอวิ๋นเหยียนที่เล็งเห็นโอกาสรีบเข้าไปผลัก ถงเหมี่ยวเหมี่ยว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวนึกไม่ถึงว่าถงอวิ๋นเหยียนจะทำแบบนี้
เธอตื่นตระหนกจนเสียการควบคุมและล้มถอยหลังไป
ด้านหลังของเธอเป็นถนนสายหลัก และขณะนี้กำลังมีรถยนต์พุ่งเข้ามาทางเธอ...