ตอนที่ 30 ก่อเรื่อง
ตอนที่ 30
ก่อเรื่อง
สีหน้าของถงเหมี่ยวเหมี่ยวดูเย็นชาขึ้นทันที
เธอมองดูบุคคลที่มีความใกล้กับเธอมากที่สุดในโลกด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกประเดประดังเข้ามาในหัวใจ
นึกไม่ถึงว่าหลังจากผ่านพ้นไปหลายปีพวกเขาจะต้องมาเผชิญหน้ากันภายใต้สถานการณ์เช่นนี้
แทนที่จะทักทายกันด้วยความเป็นห่วงเป็นใย แต่กลับสาปแช่งด้วยความโกรธเคือง
เดิมทีถงเหมี่ยวเหมี่ยวคิดจะเมินเฉยและเดินหนีไป
แต่เสียงตะคอกของถงกัวฮุนกลับดังขึ้นอีกครั้ง “ถงเหมี่ยวเหมี่ยว หยุด!”
หลังจากนั้นเขาก็วิ่งเข้ามาหาถงเหมี่ยวเหมี่ยวและขวางทางถงเหมี่ยวเหมี่ยวเอาไว้
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยุดเดิน
“มีอะไร?” เธอมองชายตรงหน้าและพ่นน้ำเสียงเย็นชา
ถงกัวฮุยโกรธจัดทันทีเมื่อเห็นท่าทางของเธอ
“แกยังมีหน้ามาถามฉันอีก! แกหนีงานหมั้นแถมยังทำตระกูลถงพังเละเทะ รู้บ้างมั้ยว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาตระกูลถงเป็นยังไงกันบ้าง!”
ตั้งแต่ที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหนีไป มู่กรุ๊ปยุติความร่วมมือทั้งหมดกับตระกูลถง และไม่เคยร่วมมือกับตระกูลถงอีกเลย!
นอกจากนี้ถงกัวฮุยยังไม่มีความสามารถมากนักจนทำให้ธุรกิจของตระกูลถงตกต่ำลง
ตอนนี้ยิ่งไม่มั่นคงมากขึ้น
ส่วนสาเหตุที่ถงกัวฮัวมาที่มู่กรุ๊ปในวันนี้เพราะเขาต้องการจะเข้าพบมู่อวี้เฉิง
เขาต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับตระกูลมู่และกลับมาเป็นมิตรหมายที่ดีต่อกันอีกครั้ง
แต่มู่อวี้เฉิงกลับไม่แลเขาเลย!
มันทำให้ถงกัวฮุยโกรธมาก
ประจวบกับเขาบังเอิญมาเจอถงเหมี่ยวเหมี่ยว
แน่นอนว่าเขาโกรธถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่เป็นการเรื่องทั้งหมด
เขาคิดว่าสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นในตระกูลถงล้วนมีผลพวงมาจากการที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหนีงานหมั้นไป
“แกตามฉันไปที่มู่กรุ๊ปเลยนะ ไปคุกเข่าขอโทษคุณชายมู่ซะ ขอร้องอ้อนวอนคุณชายมู่ให้ขอโทษให้ตระกูลถง!” เขาพูดและทำทีว่าจะเข้าไปจับถงเหมี่ยวเหมี่ยว
แต่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับเบี่ยงตัวหลบ
“ตระกูลถงเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย?”
เธอมองดูถงกัวฮุยด้วยสีหน้าเย็นชาแต่น้ำเสียงกลับเย็นชายิ่งกว่า “ฉันไม่ขอโทษใครทั้งนั้น ไม่ต้องพูดถึงมู่อวี้เฉิงด้วย ล้มเลิกความคิดไปซะ!”
ถงกัวฮุยโกรธมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“แกมีหน้ามาพูดแบบนี้ได้ยังไง ถ้าไม่ใช่เพราะแก บ้านเราจะตกอยู่ในวิกฤตแบบนี้เหรอ?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวโกรธมากจนเยาะเย้ยว่า “อย่ามาหาว่าฉันวิกฤตการณ์อะไร ที่ตระกูลถงตกมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็เพราะว่าคุณจัดการไม่ดีเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย!”
ถงกัวฮุยนึกไม่ถึงว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะโต้เถียง มันทำให้เขาโกรธมาก!
“ถงเหมี่ยวเหมี่ยวอย่าลืมว่าแกเป็นคนในตระกูลถง เลือดเนื้อเชื้อไขในตระกูลถงไหลเวียนอยู่ในตัวแก การที่ตระกูลถงตกระกำลำบากอยู่อย่างนี้ แกคิดว่าหน้าอย่างแกจะมีชีวิตที่ดีขึ้นได้หรือไง?”
เขาจ้องเขม็งไปที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยว กัดฟันและตะคอกว่า “อีกอย่างตระกูลถงเลี้ยงดูแกมา หนำซ้ำแกยังเป็นถึงลูกสาวของฉัน ตระกูลถงปล่อยให้แกได้เสวยสุขมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี แกก็ควรจะอุทิศตัวตอบแทนน้ำใจให้กับตระกูลถง!”
“แล้วคุณชายมู่ไม่ดีตรงไหน ผู้หญิงหลายคนพากันเข้าคิวอยากจะแต่งงานกับคุณชายมู่จนตัวสั่น แกรู้มั้ยว่าฉันทุ่มเทพยายามแค่ไหนกับทำสัญญาแต่งงานในครั้งนั้น? ต่อให้แกไม่เห็นค่าฉันฉันก็ไม่ว่าอะไร แต่แกดันไปทำให้ตระกูลขุ่นเคืองซะนี่! แกรู้สึกผิดกับฉันบ้างมั้ย? รู้สึกผิดกับตระกูลถงบ้างหรือเปล่า?”
คำถามดังกล่าวกระทบจิตใจถงเหมี่ยวเหมี่ยวเป็นอย่างมากจนทำให้หัวใจของเธอด้านชา
เธอจ้องถงกัวฮัวและพูดเหน็บแนมว่า “คุณคิดว่าลูกสาวคืออะไร? เป็นเครื่องมือในการหาเงินเหรอ? ถ้าคิดอย่างนั้นฉันจะจ่ายคืนให้!”
คราวเมื่อเธอกับมู่อวี้เฉิงหมั้นหมายกัน ตระกูลมู่มอบผลประโยชน์มากมายให้กับตระกูลของเธอ
แต่เมื่อพิจารณาจากคำพูดของถงกัวฮุยแล้วคงจะใช้เงินไปอย่างสุรุ่ยสุร่าย
ถงกัวฮัวตกตะลึง
เขานึกไม่ถึงว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะรู้เรื่องเงิน
ความอดทนของถงเหมี่ยวเหมี่ยวกำลังหมดลง
และไม่อยากเสียเวลากับผู้ชายคนนี้อีกต่อไปจึงหันหลังกลับ
“ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหยุด! ฉันอนุญาตให้แกไปหรือยัง?”
ถงกัวฮุยโกรธมากเมื่อเห็นว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวกำลังจะเดินหนีอีกรอบจึงเดินเข้าไปขวางข้างหน้า
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตกใจกลัว พยายามดิ้นรนและร้องตะโกนว่า “คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ!”
แต่ไม่ว่าเธอจะดิ้นรนสักแค่ไหนก็ไม่สามารถหลุดออกจากพันธนาการของถงกัวฮุยได้
ถงกัวฮุยลากเธอเข้าไปในมู่กรุ๊ป “แกต้องตามฉันไปเจอคุณชายมู่ ไปขอร้องให้คุณชายมู่ยกโทษให้แล้วฉันจะปล่อยแกไป!”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวโกรธมากจนแทบระเบิดออกมา
“ฉันบอกว่าฉันไม่ขอโทษไง ปล่อยฉัน!”
ถงกัวฮัวไม่สะทกสะท้าน
ดวงตาของถงเหมี่ยวเหมี่ยวเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ “ต่อให้คุณลากฉันไปหามู่อวี้เฉิง ฉันก็จะไม่ขอโทษอยู่ดี อย่าลืมสิเมื่อห้าปีที่แล้วว่าฉันลาออกจากตระกูลถงไปแล้ว และตามกฎเกณฑ์ฉันก็ชดใช้หนี้บุญคุณให้ตระกูลถงไปแล้วด้วย!”
ถงกัวฮุยพูดเหยียดหยาม “แล้วมันพอซะที่ไหน! คิดว่าการชดใช้บุญคุณให้ตระกูลถงแบบนั้นมันพอแล้วหรือไง!”
ใบหน้าของถงเหมี่ยวเหมี่ยวซีดเผือดทันทีเมื่อได้ยินประโยคนี้
เธอกัดฟันและจ้องเขม็งไปที่ถงกัวฮุย “งั้นถ้าคุณไม่กลัวว่าฉันจะทำให้ตระกูลมู่โกรธอีกก็ลากฉันไปหามู่อวี้เฉิงเลยสิ!”
ถงกัวฮุยหยุดชะงักทันทีเมื่อได้ยินคำประกาศกร้าว
เขามองดูถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยสายตาโกรธจัด รู้สึกว่านังลูกตัวดีจะต้องทำอะไรสักอย่างให้ตระกูลมู่ขุ่นเคืองอีกเป็นแน่
“ถ้างั้นแกก็กลับบ้านไปกับฉัน ฉันเพิ่งพูดเรื่องแต่งงานกับน้องสาวแกไป จู่ ๆ น้องสาวแกก็หนีงานแต่งไปซะได้ งั้นก็มาแต่งงานแทนน้องสาวแกแล้วกัน!” เขาพูดและพยายามดึง ถงเหมี่ยวเหมี่ยวออกจากมู่กรุ๊ป
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตกใจ
เธอนึกไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้ยังคิดที่จะขายลูกสาวของตัวเองอยู่!
“ปล่อยฉัน ฉันจะไม่กลับไปกับคุณ! จะไม่ฟังข้อตกลงอะไรของคุณทั้งนั้น และจะไม่แต่งงานแทนน้องด้วย!” เธอกัดฟันพยายามดิ้นรนด้วยสุดกำลังที่มี
ถงกัวฮุยแก่ตัวลงมากแล้วและความแข็งแกร่งทางร่างกายไม่สามารถเทียบเท่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ยังเยาว์วัยอยู่ได้ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงก็ตาม
หลังจากฉุดกระชากลากดึงกันอยู่หลายครั้ง ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหลุดออกจากเงื้อมมือของถงกัวฮุย
ในทางกลับกันถงกัวฮุยถูกถีบจนเสียการทรงตัวและล้มลงกับพื้น
ทำให้เขาโมโหมาก
ยิ่งช่วงนี้รายจ่ายหนี้สินทั้งหลายทำให้เขาเสียสติจนแทบจะเป็นบ้า จึงจ้องเขม็งด้วยดวงตาแดงฉาน
เขาลุกขึ้นมาจากพื้นและพุ่งเข้าใส่ถงเหมี่ยวเหมี่ยว
ตรงเข้าไปกระชากผมถงเหมี่ยวเหมี่ยวและกัดฟันพูดว่า “นังลูกเนรคุณ กล้าดียังไงมาผลักฉัน ฉันจะทุบแกให้ตายนังบ้า!”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่สามารถตอบโต้ได้เลย
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำมู่กรุ๊ปเล็งเห็นเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทจึงเข้ามาห้ามปราม
“หยุด! อย่ามาทะเลาะกันที่นี่!”
...
ณ ห้องทำงานของท่านประธานที่อยู่ชั้นบนสุด
มู่อวี้เฉิงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
เดิมทีเขานัดถงเหมี่ยวเหมี่ยวมาเซ็นสัญญาตอนบ่ายสาม
แต่ตอนนี้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังไม่โผล่มา!
ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จักความตรงต่อเวลาเลยหรือไง?
ลู่หมิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่กดดันจึงเอ่ยถามว่า “ท่านประธาน ให้ผมโทรไปเร่งผู้จัดการถงให้มั้ยครับ?”
มู่อวี้เฉิงเหลือบมองเขา “ไปถามสิว่าเกิดอะไรขึ้น?”
ลู่หมิงรับคำสั่งและเดินถือโทรศัพท์มือถือออกจากห้องทำงานไป