ตอนที่ 26 ลูกชายไม่เห็นด้วย
ตอนที่ 26
ลูกชายไม่เห็นด้วย
ระหว่างทางเดินถงเหมี่ยวเหมี่ยวได้สติคืนมา
เธอมองดูรถยนต์ที่หายไปจากท้องถนนขณะที่เอามือ กุมหัวใจและรู้สึกได้ถึงหัวใจที่กำลังเต้นแรง
น้ำเสียงทุ้มของเขาที่พูดกระซิบข้างหูยังคงดังก้องอยู่ใน รูหู
จนเธอรู้สึกได้ถึงใบหูที่ออกร้อน
“หยุดคิดได้แล้ว!”
เธอส่ายหัวพยายามขจัดภาพที่คลุมเครืออยู่ข้างในใจ
เธอคอยสะกดจิตตัวเองอยู่ตลอดเวลา
จนไม่กี่วินาทีต่อมาถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็สงบลงและเดินกลับเข้าบ้านตามปกติ
เธอเปิดประตูเบา ๆ ขณะที่ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากทางด้านหลัง
เธอหันหน้ากลับไปเห็นว่ากู้ชิงกำลังเดินออกมาจากห้องของเสี่ยวเป่า
“เสี่ยวเป่าหลับแล้วเหรอ?” เธอถามขณะวางกระเป๋าถือในมือลง
“เพิ่งหลับไปได้สักพักค่ะ” กู้ชิงตอบและเดินเข้าไปรับเสื้อคลุมของถงเหมี่ยวเหมี่ยว
ทว่าเธอกลับได้กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนเข้าจมูกจนอดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ “ผู้จัดการถงไปดื่มมา เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ไม่เป็นอะไร ไม่ต้องห่วง”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดเบา ๆ และโบกมือปฏิเสธ “คุณก็ด้วย คืนนี้ยังอุตส่าห์มาช่วยดูแลลูกชายฉันให้ ขอบคุณมากนะ รีบกลับไปก่อนเถอะ”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยค่ะ” กู้ชิงยิ้ม จากนั้นเธอนึกอะไรบางอย่างออกและพูดว่า “อ๋อ ผู้จัดการคะ ฉันตามหาพี่เลี้ยงเด็กให้ได้แล้วนะคะ พรุ่งนี้ถ้าคุณพอจะมีเวลา ฉันจะให้เขามาสัมภาษณ์ที่บริษัทนะคะ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอบตกลง
...
เช้าวันรุ่งขึ้น ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไปรับเสี่ยวเป่าที่โรงเรียนและตรงไปที่บริษัท
หลังจากเข้ามาที่บริษัทเธอเดินตรงไปที่แผนกวางแผน
เธอเดินเข้ามาหยุดตรงกลางและปรบมือเสียงดัง “ทุกคนหยุดทำงานกันก่อน ฉันมีข่าวดีจะมาบอก”
ทุกคนที่ได้ยินเสียงเธอหยุดทำงานและหันไปมอง ถงเหมี่ยวเหมี่ยว
“ผู้จัดการมีข่าวดีอะไรเหรอครับ?”
“หรือว่าโครงการที่ส่งมอบให้มู่กรุ๊ปจะผ่านแล้ว?” ใครบางคนพูดเดาด้วยความกล้าหาญ
คนอื่น ๆ ต่างจ้องมองถงเหมี่ยวเหมี่ยวแววตาสดใสและพูดเร้าหรือ “ผู้จัดการบอกผมทีว่ามันเป็นข่าวดีใช่ไหม!”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูสีหน้าร้อนรนของทุกคนแล้วไม่อาจเก็บงำความลับได้อีกต่อไป
“ใช่ โครงการของเราได้รับการอนุมัติแล้ว”
“เย้!” ทุกคนอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นส่งเสียงร้องดีใจ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเห็นว่าทุกคนมีความสุขเธอพลอยยิ้มตามไปด้วย
แต่หลังจากมีความสุข จู่ ๆ คนที่เหลือก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา
เพราะเงินโบนัสจำนวนมหาศาลที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเคยสัญญาเอาไว้จะถูกมอบให้กับหัวหน้าโครงการที่ได้รับคัดเลือก
“ไม่ได้การล่ะ ฉันจะไปบอกให้หัวหน้ามาเลี้ยงข้าวฉันบ้าง ถ้าไม่เอาโบนัสก้อนโตมาเลี้ยงพวกเรามันก็เกินไปปะ”
“ใช่ จะเลี้ยงพวกเราด้วยนะ ไม่งั้นฉันจะไปปล้นเงินหัวหน้าซะเลย”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรับรู้ได้ถึงความผิดหวังเมื่อได้ยินพวกเขาพูดคุยถึงแผนการปล้นสะดมเงินจากหัวหน้าโครงการ
เธอจึงปรบมือส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ “ถึงโครงการของพวกคุณจะไม่ได้รับคัดเลือก และไม่ได้รับโบนัสก้อนโต แต่พวกคุณตั้งใจกันทั้งงานล่วงหน้าอย่างขยันขันแข็ง เพราะฉะนั้นฉันขอสัญญาว่าเดือนหน้าฉันจะเพิ่มโบนัสให้พวกคุณเป็นสองเท่า”
ทุกคนส่งเสียงร้องดีใจอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดเธอ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรีบพูดประกาศอีกครั้งในขณะที่ยังมีโอกาส “ทุกคน วันนี้ฉันขอเชิญชวนทุกคนในแผนกวางแผนมากินข้าวเย็นด้วยกัน เพราะงั้นวันนี้รีบทำงานให้เร็ว ๆ นะ”
ทุกคนพากันส่งเสียงร้องดีใจอีกครั้ง
“พอผู้จัดการพูดแบบนี้ วันนี้คงต้องรีบไปทำงานให้เสร็จแล้วล่ะ จะไม่มีทางทำงานล่วงเวลาเด็ดขาด!”
“ใช่ ห้ามทำงานล่วงเวลา!”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวอดจะหัวเราะไม่ได้เมื่อได้ยินคำพูดติดตลกของพวกเขา
เธอพูดแนะนำเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยและเดินเข้าไปในห้องทำงานของหัวหน้าแผนกวางแผน
เนื่องจากมู่อวี้เฉิงต้องการให้แก้ไขบางจุดเธอจึงเดินเข้ามาคุยกับหัวหน้าแผนกวางแผน
“มีประมาณแค่นี้ค่ะ รบกวนคุณช่วยรีบแก้ทีนะคะ”
“ผู้จัดการไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมรีบแก้ให้เลย”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าและเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัว
ตลอดช่วงเช้าไม่รู้ว่าเป็นเพราะข่าวดีที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวนำมาบอกหรือเปล่า พนักงานทั้งหลายถึงได้มีแรงกำลังใจราวกับไก่ดีด
พนักงานพากันพูดชื่นชมถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่น้อย
“ผู้จัดการเก่งจัง เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ถึงเดือนเลยแต่ชนะการประมูลโครงการกับมู่กรุ๊ปไปแล้วสองรายการ”
“ถึงจะดูเข้มงวดไปหน่อย แต่ผู้จัดการก็พูดเรื่องรางวัลกับบทลงโทษชัดเจนดีนะ เดี๋ยวรอโบนัสเดือนหน้าออกก่อน ฉันจะเจียดเงินไปลิปสติกชาแนลที่อยากได้ ฉันน่ะอยากได้มานานแล้วแต่ไม่กล้าซื้อสักที”
ฉินลู่กำลังเดินเข้ามารินน้ำชาในห้องครัวส่วนกลางแต่กลับนึกไม่ถึงว่าจะได้ยินพวกพนักงานพูดยกย่องถงเหมี่ยวเหมี่ยว
จู่ ๆ ใบหน้าของเธอก็บูดบึ้ง มือที่ถือถ้วยชาบีบเข้าหากันแน่นจนกลายเป็นสีขาว
เธอรู้สึกว่าพนักงานในบริษัทเริ่มเบี่ยงเบนความสนใจไปที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยว
จนมันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้!
เธอตั้งใจขยันขันแข็งทำงานมาตั้งหลายปี ทำไมความพยายามทั้งหมดของเธอกลับสูญเปล่าเมื่อผู้หญิงคนที่ชื่อว่า ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมาถึง!
ใครจะรู้ว่าหลังจากผ่านไปหลายปีเธอจะเทียบ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่เพิ่งเข้ามาทำงานแค่เดือนเดียวไม่ได้เลย?
ไอ้พวกคนอกตัญญูไม่รู้บุญคุณ!
เธอจ้องมองตู้ใส่อาหารด้วยความโกรธจัด หันหน้าที่บูดบึ้งเดินกลับเข้าไปในห้องหัวหน้าฝ่าย
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่รู้เรื่องนี้อีกเช่นเคย
หลังจากพักเที่ยง กู้ชิงเดินพาคุณป้าวัยกลางคนคนหนึ่งเข้ามา
“ผู้จัดการ นี่คือพี่เลี้ยงเด็กที่ให้ไปวานหามาค่ะ เธอเป็นญาติของฉันเองมีประสบการณ์การเลี้ยงเด็กมาหลายปีจนทุกคนพากันเรียกเธอว่าแม่ซุนหมด”
เนื่องจากถงเหมี่ยวเหมี่ยวงานยุ่งจึงทำการสัมภาษณ์ในบริษัท
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูซุนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เดินออกจากโต๊ะทำงานและสั่งว่า “กู้ชิงไปเอาชามาให้ฉันถ้วยสิ”
กู้ชิงตอบรับคำสั่งและเดินออกไป
หลังจากนั้นถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็สั่งให้แม่ซุนนั่งลง “คุณแม่ซุนคะ กู้ชิงคงบอกเงื่อนไขของฉันกับคุณไปหมดแล้ว”
“บอกแล้วค่ะ ผู้จัดการไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจัดการเรื่องพวกนั้นได้ดีมาก ฉันจะตั้งใจทำงานดูแลลูกคุณอย่างดี ไม่ให้คุณต้องเป็นห่วงค่ะ”
แม่ซุนนั่งลงตรงข้ามกับถงเหมี่ยวเหมี่ยว และพูดตอบด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดปลอบเมื่อเห็นสีหน้ากังวลของเธอ “คุณไม่ต้องกังวลไปค่ะ ฉันแค่อยากจะถามอะไรสักสองสามข้อ”
“ผู้จัดการถามได้เลยค่ะ ฉันไม่กังวล ไม่ได้กังวลอะไรเลยค่ะ” แม่ซุนพยายามโบกมือปฏิเสธอย่างใจเย็น
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูเธอแล้วอดหัวเราะไม่ได้
จากนั้นจึงเริ่มถามคำถาม
ในตอนแรกแม่ซุนรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นกลับค่อย ๆ ผ่อนคลายลง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวคอยแอบสังเกตมองแม่ซุน
เธอคอยสังเกตว่าเวลาแม่ซุนตอบคำถามดวงตาจะไม่ลอกและหรือพยายามเลี่ยงมอง จึงคิดว่าคนประเภทนี้สามารถลงมือทำสิ่งต่าง ๆ ได้จริงและตกลงจ้างงานทันที
หลังจากตัดสินใจจ้างงาน ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมอบกุญแจบ้านและที่อยู่โรงเรียนของเสี่ยวเป่าให้ทันทีเพื่อที่แม่ซุนจะได้เริ่มทำงานด้วยการไปรับเสี่ยวเป่ากลับบ้านในวันนี้
แม่ซุนดีใจมากเมื่อเห็นถงเหมี่ยวเหมี่ยวเชื่อใจตัวเธอจนถึงขั้นมอบกุญแจบ้านให้โดยไม่ตรวจสอบอะไร
หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับมาทำงานต่อ
กลางดึก ณ ร้านอาหารซงซี
กู้ชิงจัดแจงจองห้องอาหารส่วนตัวเอาไว้ล่วงหน้าสองห้องและมีขนาดเพียงพอสำหรับทุกคนในแผนกวางแผน
ระหว่างรับประทานอาหารเย็น ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นจนเริ่มพูดนินทา
“ผู้จัดการแต่งงานหรือยังคะ? แต่ทั้งเก่งทั้งมีความสามารถแบบนี้คงจะมีคนตามจีบไม่น้อยใช่มั้ย?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นสายตาอยากรู้อยากเห็นที่จ้องมองมา
เธอหลีกเลี่ยงคำถามเรื่องการแต่งงานจึงยิ้มและพูดว่า “เกรงว่าลูกชายฉันจะไม่เห็นด้วยน่ะสิ”