ตอนที่ 22 อย่าหาว่าเธอโหดเหี้ยม
ตอนที่ 22
อย่าหาว่าเธอโหดเหี้ยม
ซ่งอวี่ซีหรี่ตาลงปกปิดความโหดเหี้ยม
ถงเหมี่ยวเหมี่ยว ในเมื่อหล่อนยืนกรานจะยั่วโมโหฉันก็อย่ามาหาว่าฉันโหดเหี้ยมอำมหิตแล้วกัน!
แผนการชั่วร้ายก่อปะทุในใจของเธอ ทว่าใบหน้ากลับไม่ได้แสดงออกอะไรและพูดเชิญชวนมู่อวี้เฉิง “คืนนี้ว่างมั้ย? เราไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อสิ”
เธอหยุดครู่หนึ่งขณะมองโครงการของซ่งกรุ๊ปที่ถูก มู่อวี้เฉิงวางทิ้งไว้ และคลี่ยิ้มเบา ๆ “ฉันมีส่วนร่วมในโครงการนี้ด้วยนะ ถ้าติดปัญหาตรงไหนหรือมีอะไรที่ไม่เข้าใจ เราจะได้มาคุยกันไง”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันกลับไปดูเอง” มู่อวี้เฉิงปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะคิด
ซ่งอวี่ซึนึกไม่ถึงว่ามู่อวี้เฉิงจะไม่ไว้หน้าเธอขนาดนี้จนเธอแทบจะรักษารอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้ไม่ได้และรู้สึกอับอายมาก
“มีอะไรอีกมั้ย?” มู่อวี้เฉิงถามอีกครั้ง
“...” ซ่งอวี่ซีไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรจึงได้แต่นิ่งเงียบ
แต่เธอไม่ต้องการจากไปแบบนี้
มู่อวี้เฉิงเหลือบมองเธอที่มีทีท่าว่าไม่อยากจะจากไป จึงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูและพูดว่า “ฉันมีประชุมต่อคงจะไม่มีเวลามาเล่นสนุกกับคุณหนูซ่งหรอก”
เขาพูดและเดินผ่านซ่งอวี่ซีออกไป
ซ่งอวี่ซีกดฟันด้วยความโกรธ
เธอหันหลังกลับเดินออกไปได้สองก้าว แต่จู่ ๆ ก็ราวกับนึกอะไรบางอย่างออก เธอหันกลับมาเดินตรงไปที่โต๊ะทำงาน สายตาจับจ้องไปที่เอกสารโครงการของบริษัทสตีเฟนที่วางอยู่บนโต๊ะ
เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งและยัดเอกสารโครงการใส่กระเป๋า
หลังจากเดินออกมาจากมู่กรุ๊ปเธอฉีกเอกสารออกเป็น ชิ้น ๆ และโยนมันทิ้งไว้ในถังขยะ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่รู้เรื่องนี้
เธอรออยู่ที่บริษัทเป็นเวลาสองวันจนกระทั่งการประมูลโครงการกำลังจะสิ้นสุดลง แต่สุดท้ายมู่อวี้เฉิงก็ยังไม่ติดต่อกลับมา
เธอนั่งขมวดคิ้วอยู่ในห้องทำงาน
หากพูดตามหลักเหตุผลแล้วต่อให้โครงการของพวกเธอล้มเหลว แต่อย่างไรเสียมู่กรุ๊ปก็ควรจะติดต่อกลับมา
การที่มู่กรุ๊ปเงียบไปแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร?
...
ด้านมู่อวี้เฉิงได้อ่านโครงการข้อเสนอที่บริษัททุกแห่งส่งมาจนหมดแล้ว
แต่กลับมีโครงการไม่มากนักที่ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจและสนใจ
ยกเว้นโครงการของบริษัทสตีเฟน ซ่งกรุ๊ปและของวิสาหกิจขนาดกลาง
แต่สิ่งที่ทำให้เขาสับสนไม่น้อยในตอนนี้ก็คือเขาหาเอกสารโครงการที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวส่งมาให้ไม่เจอ
เขาขมวดคิ้วกดต่อสายในและเรียกลู่หมิงเข้ามา “นายเห็นเอกสารโครงการที่ทางสตีเฟนส่งมาให้บ้างมั้ย?”
ลู่หมิงคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบว่า “ก็ส่งให้ท่านประธานไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
“ฉันรู้ แต่ตอนนี้ฉันหาเอกสารโครงการไม่เจอ” มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้ว
ลู่หมิงมองดูสีหน้าบูดบึ้งของมู่อวี้เฉิงอย่างระมัดระวังและถามว่า “ท่านประธานได้ข้อสรุปให้บริษัทคุณถงแล้วเหรอครับ?”
มู่อวี้เฉิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ยัง แค่อยากจะเอามาดูเปรียบเทียบกับอีกสองบริษัทก่อน”
“ถ้าอย่างนั้นท่านประธานก็ให้พวกคุณถงส่งเอกสารโครงการมาให้อีกสิครับ เรื่องสำคัญแบบนี้คุณถงน่าจะมีข้อมูลสำรองเอาไว้” ลู่หมิงพูดแนะนำ
แต่ใครจะรู้ว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะโทรมาทันทีที่เขาพูดจบ
มู่อวี้เฉิงมองดูสายเรียกเข้าและกดรับสายอย่างใจเย็น “มีอะไร?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดเข้าตรงประเด็น “ประธานมู่ ฉันอยากรู้ว่าโครงการข้อเสนอที่ทางเราส่งไปเรียบร้อยดีมั้ยคะ? เห็นใกล้จะถึงเวลาประมูลแล้วแต่ทางบริษัทคุณยังไม่ตอบกลับมาเลย ถึงได้โทรมาสอบถามน่ะค่ะ”
มู่อวี้เฉิงปลดเนกไทลงเล็กน้อยและพูดว่า “คุณโทรมาได้จังหวะพอดี ทางบริษัทคุณน่าจะมีสำเนาโครงการอยู่ ยังไงช่วยให้คนมาส่งเอกสารใหม่ที”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตกตะลึง “ทำไมเหรอคะ?”
มู่อวี้เฉิงไม่ได้ปิดบังอะไรและพูดตามความเป็นจริง “ผมหาเอกสารโครงการที่คุณส่งมาก่อนหน้านี้ไม่เจอ”
“...” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่อยู่ปลายสายถึงกับพูดไม่ออก
เขาทำเอกสารโครงการหายแต่กลับไม่พูดไม่จา รอจนกระทั่งเธอโทรมาสอบถามผลลัพธ์ก่อนถึงค่อยบอกกัน
หากเธอไม่โทรมาสอบถามและรอจนกระทั่งถึงวันประกาศผล มู่กรุ๊ปก็คงจะฉวยโอกาสนี้บอกว่าพวกเธอแพ้ผล การประมูลสินะ!
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่พอใจมากแต่สุดท้ายกลับตอบตกลงว่าจะส่งเอกสารโครงการไปยังมู่กรุ๊ป
ก็ใครใช้ให้เขาคนนั้นเป็นผู้ชี้ชะตาเธอล่ะ!
หลังจากวางสายลงแล้ว ถงเหมี่ยวเหมี่ยวลุกขึ้นเดินไปที่แผนกวางแผนและพูดอธิบายสถานการณ์ “พวกคุณได้เก็บสำเนาโครงการก่อนหน้านี้เอาไว้มั้ย?”
หัวหน้าแผนกวางแผนชะงักทันที “ผู้จัดการไม่ได้ส่งเอกสารให้ทางมู่กรุ๊ปแล้วเหรอครับ? ทำไมถึงยังต้องการอีก?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่ได้ปิดบังอะไรและเล่าเรื่องเอกสารสูญหาย
“อะไรนะ เอกสารโครงการหายไปเหรอครับ?” หัวหน้าแผนกตกใจมาก
เนื่องจากประตูห้องทำงานเปิดแง้มเอาไว้พนักงานด้านนอกจึงได้ยินเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีคนจอมยุ่งสองสามคนเข้าไปแอบฟังเรื่องด้านใน
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่ได้สังเกตเห็นและถามว่า “แล้วคุณยังมีสำเนาสำรองอยู่หรือเปล่า สั่งพิมพ์สำเนาอีกฉบับให้หน่อย ฉันจะให้คนไปส่งที่มู่กรุ๊ป”
“ผู้จัดการ เอ่อ...” หัวหน้าโครงการเริ่มกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ไม่รู้ว่าทำไมถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่เห็นปฏิกิริยาเช่นนั้นถึงรู้สึกไม่ดี “ทำไม?”
หัวหน้าแผนกกัดฟันและพูดสารภาพว่า “ผู้จัดการ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากสั่งพิมพ์ให้นะครับแต่ว่าคอมพิวเตอร์เครื่องเมื่อคืนมันพังไปแล้ว และไฟล์ทั้งหมดที่เก็บไว้ในนั้นสูญหายหมดเกลี้ยง”
“ว่ายังไงนะ!” สีหน้าของถงเหมี่ยวเหมี่ยวเปลี่ยนไป
เธอรีบถาม “ซ่อมไม่ได้เหรอ?”
หัวหน้าแผนกส่ายหน้า “ผมบอกให้ช่างมาซ่อมแล้วครับ แต่ไม่ได้เลย”
“...”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวสูดลมหายใจเข้าลึกโดยไม่รู้ว่าควรจะอธิบายอารมณ์ของเธออย่างไรดี
ตอนที่เธอคุยโทรศัพท์กับมู่อวี้เฉิงเมื่อสักครู่นี้
เธอได้ตีความหมายจากคำพูดของมู่อวี้เฉิงได้ว่าโครงการของพวกเธอมีแนวโน้มว่าจะได้รับการอนุมัติ
แต่ตอนนี้เธอหามันไม่เจอ และไม่มีแม้แต่เอกสารสำรอง
ความรู้สึกดังกล่าวมันเหมือนกับเค้กอันแสนหวานที่กำลังยั่วยวนอยู่ตรงหน้าเธอแต่เธอกลับคว้ามากินไม่ได้ มันช่างน่าหงุดหงิดชะมัด!