ตอนที่แล้วตอนที่ 20 หากเขาอยู่ตรงนี้ก็คงจะดี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 22 อย่าหาว่าเธอโหดเหี้ยม

ตอนที่ 21 ใครบอกว่าฉันไม่พอ


ตอนที่ 21

ใครบอกว่าฉันไม่พอ

ฉินลู่จ้องเขม็งไปที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยว และสูดลมหายใจเข้าลึกพยายามระงับอารมณ์โกรธ

จากนั้นจึงเยาะเย้ยว่า “ผู้จัดการเล่นคุยโวโอ้อวดแบบนี้ ถึงเวลาจริงขึ้นมาก็อย่าให้ผิดพลาดแล้วกันเดี๋ยวจะเสียหน้าจนพูดไม่ออกมาทำให้ทุกคนวุ่นวายกันอีก!”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเหลือบมองเธอด้วยสายตาเย็นและตอบกลับอย่างไม่แยแส “ทางบริษัทไม่มีทางให้พนักงานทำงานโดยเสียเปล่า ยิ่งไปกว่านั้นถ้างานชิ้นนี้ไม่สำเร็จลุล่วง แต่ฉันว่าอย่างน้อยการล้มเหลวในครั้งนี้ก็ทำทุกคนที่ตั้งใจทำงานได้เรียนรู้วิธีการเผชิญหน้ากับความล้มเหลว ครั้งต่อไปถ้าเจอเรื่องแบบนี้อีกมันจะทำให้พวกเขาที่สั่งสมประสบการณ์มาแก้ไขปัญหาได้ และนี่นับว่ากำไรมหาศาลสำหรับพนักงานของเรา!”

“...”

ฉินลู่ไม่พอใจกับคำพูดที่ผดุงความยุติธรรมดังกล่าว

ใบหน้าของเธอดูน่าเกลียดและมืดมนขึ้น

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดต่อ “ผู้จัดการฉินลู่ ฉันอยากจะรู้ว่าเธอที่อยู่ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายนี่ว่างมากเหรอ? มันไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องมาสนใจเรื่องพวกนี้สักหน่อย หรือว่าฉันควรจะสั่งงานเธอดี?”

เธอพูดและหยิบเอกสารบนโต๊ะโยนไปทางฉินลู่ “นี่เป็นโครงการที่ผู้จัดการคนก่อนทำค้างเอาไว้ครึ่งหนึ่ง แต่เกิดปัญหาเข้าโครงการถึงได้ถูกระงับไป ตอนนี้ฉันจะส่งให้เธอไปแก้ไขแล้วกัน และจำได้ว่าฉันให้เวลาเธอแก้ปัญหานี้แค่สิบวันเท่านั้น เพราะยังไงซะมันก็ไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับผู้จัดการฉินลู่ที่มีความสามารถโดดเด่นหรอกใช่มั้ย?”

เธอพูดจิกกัดเรื่องความสามารถ

จนทำให้ฉินลู่แข็งทื่อและไม่ตอบสนองอยู่นาน

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูและอดจะหัวเราะเยาะไม่ได้ “ทำไม? ผู้จัดการฉินลู่คิดว่าแค่สิบวันมันไม่พอเหรอ? หรือว่าฉันควรจะให้เวลาสักครึ่งเดือนดี?”

ดวงตาที่โกรธจัดของฉินลู่จ้องเขม็งไปทาง                         ถงเหมี่ยวเหมี่ยวและกัดฟันพูดว่า “ใครบอกว่าฉันไม่พอ?”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวฟังประโยคตอบกลับขณะที่ดวงตาฉายแววเจ้าเล่ห์

เธอพยักหน้าพอใจ “ผู้จัดการฉินลู่ก็พยายามเข้าล่ะ ถ้าเธอทำโครงการเล็ก ๆ แบบนี้ไม่ได้ ฉันก็คิดว่าเธอควรจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายไปซะนะ เพราะเกรงว่าความสามารถเธอมันจะไม่สอดคล้องกับชื่อตำแหน่งเอาน่ะ”

เธอพูดและส่งยิ้มสดใสให้ฉินลู่

ฉินลู่มองดูรอยยิ้มยียวนด้วยความโกรธที่ทวีคูณขึ้น เธอกัดฟันและตอบโต้ว่า “งั้นเธอก็คอยดูแล้วกันว่าฉันจะทำออกมาดีแค่ไหน”

“งั้นก็ดี ฉันจะรอดู” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยิ้มมุมปาก

ทั้งสองมองหน้ากันอีกครั้งจนกลุ่มควันพุ่งออกมาจากร่างกายของพวกเธอ

พนักงานคนอื่นรู้สึกถึงความตึงเครียดระหว่างทั้งสองคนจนไม่กล้าหายใจ

ในขณะเดียวกันพวกเขาเล็งเห็นถึงความเป็นผู้นำของ   ถงเหมี่ยวเหมี่ยวชัดเจน

พวกเขารู้ว่าฉินลู่ไม่พอใจกับตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของถงเหมี่ยวเหมี่ยว

นอกจากฉินลู่จะไม่พอใจแล้วยังพูดจาหาเรื่องทั้งที่ไม่สามารถทำอะไรให้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวสะทกสะท้านได้เลย

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเบือนหน้าหนีและหันกลับถามหัวหน้าแผนกวางแผนอีกครั้ง “โครงการคืบหน้าไปถึงไหนแล้วคะ?”

หัวหน้าแผนกวางแผนมอบข้อมูลบางอย่างให้เธอ “ผู้จัดการ นี่เป็นการที่พวกพนักงานช่วยกันเร่งทำขึ้นมาครับ ลองดูก่อนสิครับ”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าและส่งสัญญาณให้กู้ชิงออกไปรับ

เธอพลิกมันอ่านดูคร่าว ๆ และพูดขึ้นว่า “ดีมาก รอโครงการนี้จบลงแล้วฉันจะมาเลี้ยงข้าวพวกคุณ”

หลังจากนั้นเธอพูดเรื่องงานต่ออีกเล็กน้อยและ              การประชุมก็จบลง

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเดินกลับมาพิจารณาโครงการข้อเสนอแนะในห้องทำงาน

เมื่อลองอ่านดูอีกครั้งเธอพบว่าพนักงานทำงานกันได้ดีมากจริง ๆ

และมีโครงการหนึ่งที่สามารถชนะเอาชนะใจเธอได้

สองวันต่อมา โครงการดังกล่าวกลายมาเป็นข้อสรุปและถูกส่งไปยังมู่กรุ๊ป

...

ห้องทำงานของท่านประธานมู่กรุ๊ปมีการแตกต่างเป็นสีขาวดำอย่างชัดเจน

มู่อวี้เฉิงกำลังมองดูโครงการข้อเสนอจากบริษัทต่าง ๆ

เขาใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงในการมองดูโครงการ   ต่าง ๆ เหล่านี้และพบว่าโครงการทั้งหมดล้วนเคร่งครัดและน่าเบื่อเกินไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเสนอทางธุรกิจบางแห่งลอกเลียนแบบแผนการอันโด่งดังในอดีตมาใช้ ซึ่งไม่สร้างสรรค์เป็นอย่างมาก

แต่เขายังคงอดทนอ่านต่อไป

จนกระทั่งเขาเห็นโครงการข้อเสนอที่ทางสตีเฟนส่งมา เนื้อหาด้านในทำให้เขาประหลาดใจมาก

อย่างน้อยมันก็ดีกว่าที่เขาเคยเห็นมาก่อน มีทั้งนวัตกรรม ความสร้างสรรค์และรายละเอียดต่าง ๆ ที่ดูสะดุดตา

ดวงตาลุ่มลึกหรี่ลงเล็กน้อย

นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงอย่างถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะเต็มใจร่วมมือกับมู่กรุ๊ปต่อ

ขณะที่เขากำลังตกตะลึงอยู่ จู่ ๆ ลู่หมิงก็เดินมาเคาะประตู “ท่านประธาน คุณหนูซ่งอวี่ซีมาพบครับ”

มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วและพูดตอบรับด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “เข้ามา”

หลังจากนั้นลู่หมิงก็เดินนำซ่งอวี่ซีเข้ามาในห้องทำงาน ปิดประตูลงและเดินจากไป

มู่อวี้เฉิงวางโครงการในมือลงและถามเบา ๆ ว่า “มีธุระอะไร?”

ซ่งอวี่ซีรู้สึกไม่พอใจกับน้ำเสียงทางการของเขาจนชักสีหน้าออกมา

เธอสวมส้นสูงสิบนิ้วเดินบิดสะโพกเข้าไปตรงหน้าโต๊ะทำงาน

ขณะที่เธอกำลังเดินเข้ามาใกล้ กลิ่นหอมเย้ายวนก็ลอยเข้ามาปะทะจมูกของมู่อวี้เฉิง

เขาขมวดคิ้วด้วยความไม่ชอบใจ

ขณะเดียวกันน้ำเสียงออดอ้อนของซ่งอวี่ซีดังขึ้น “อวี้เฉิง ฉันเอาโครงการของคุณพ่อมาให้นายน่ะ”

เธอพูดพร้อมกับยื่นเอกสารให้

มู่อวี้เฉิงเหลือบมองเอกสาร หยิบขึ้นมาดูและถามเสียงเย็นชา “มีธุระอย่างอื่นอีกมั้ย?”

ความหมายคือหากไม่มีธุระอะไรแล้วก็เชิญออกไปได้

ซ่งอวี่ซีได้ยินเสียงเขาชัดเจน

แต่เธอเพิ่งมาที่นี่ได้แค่ครั้งสองครั้งจึงไม่อยากจากไปเร็วนัก

เธอแต่งหน้าแต่งตัวอยู่ที่บ้านเกือบสองชั่วโมงเพื่อมาพบมู่อวี้เฉิง

เธอเอามือม้วนผมลอนบริเวณหน้าอกด้วยท่าทางยั่วยวน และยิ้มสดใส “ไม่มีอะไรแล้วฉันอยู่ต่อไม่ได้หรือไง?”

หลังจากพูดจบเธอเหลือบเห็นเอกสารโครงการของบริษัทสตีเฟนที่วางกองอยู่บนโต๊ะ ทำให้แววตาเธอมืดมนลงทันที

ถ้าเธอจำไม่ผิดบริษัทนี้คือบริษัทที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวทำงานอยู่

ให้ตายเถอะ จนถึงตอนนี้นังถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังตามราวีมู่อวี้เฉิงอยู่อีก!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด