ตอนที่แล้วตอนที่ 19 ใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21 ใครบอกว่าฉันไม่พอ

ตอนที่ 20 หากเขาอยู่ตรงนี้ก็คงจะดี


ตอนที่ 20

หากเขาอยู่ตรงนี้ก็คงจะดี

ใบหน้าเย็นชาของถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังคงเรียบเฉย

พ่อเซี่ยงที่เห็นเช่นนั้นเป็นกังวลมากขึ้นจนรีบดึงแม่เซี่ยงให้คุกเข่าลง “คุณถง เรารู้ว่าพวกเราทำผิดพลาดไป ได้โปรดเห็นใจและยกโทษให้พวกเราด้วยนะครับ”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตกใจกับการกระทำของพวกเขามาและรีบเขยิบตัวออกไป

เซี่ยงฮั่นเจียมองดูพ่อแม่คุกเข่าลงต่อหน้า                          ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงวิ่งเข้าไปอย่างไม่พอใจ

“พ่อแม่ทำไมถึงคุกเข่าต่อหน้าไอ้สารเลวล่ะ รีบลุกขึ้นมาขับไล่พวกมันเร็ว ขับไล่ไอ้เด็กเวรที่แม่มันตั้งท้องออกไปด้วย”

ทันทีคำพูดดังกล่าวดังขึ้นใบหน้าของถงเหมี่ยวเหมี่ยวดูเย็นชาลงอย่างน่าสะพรึงกลัว

เธอมองดูพ่อเซี่ยงด้วยสายตาเหยียดหยามและพูดเยาะเย้ย “คุณเซี่ยงดูเหมือนว่าครอบครัวคุณควรจะให้ความสนใจกับการอบรมสั่งสอนลูกให้มากกว่านี้นะคะ คุณสอนลูกตัวเองให้ได้ดีไม่ได้ด้วยซ้ำแล้วมีหน้าอะไรมาสอนลูกชาวบ้านคนอื่น แบบนี้มันจะไม่ทำให้เด็กเข้าใจผิดเอาเหรอคะ”

“...”

พ่อเซี่ยงตกตะลึงมากจนพูดไม่ออก ใบหน้าที่ตกใจเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด

เซี่ยงฮั่นเจียยังไม่เข้าใจว่าพ่อแม่กำลังจะสูญเสียอำนาจไปและเขาโกรธเคืองมากที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวบอกว่าพ่อเขาไม่สั่งสอนเขา “พ่อฉันไม่สอนฉันงั้นเหรอ นังบ้าอย่ามาพูดยุแยงนักเลย ปาป๊ารีบไล่พวกมันออกไปจากโรงเรียนซะสิ”

เขาวิ่งเข้าไปกอดและออดอ้อนพ่อ

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูพ่อเซี่ยงด้วยสายตาประชดประชัน

“หุบปาก!”

พ่อเซี่ยงโกรธมากจนยกหลังมือขึ้นมาตบเซี่ยงฮั่นเจีย

เซี่ยงฮั่นเจียตกใจมาก

แม่เซี่ยงเริ่มทุกข์ใจและพึมพำว่า “คุณคะ คุณไปตีฮั่นเจียได้ยังไง ทำไมไม่บอกลูกดี ๆ ล่ะ?”

พ่อเซี่ยงหันมาจ้องเธอและตะคอกใส่ “หุบปาก ก็เพราะว่าเธอเอาแต่ตามใจลูกไม่ใช่หรือไงมันถึงได้กลายมาเป็นเด็กนอกคอกแบบนี้? หลายปีที่ผ่านมามันยังสร้างปัญหาให้ฉันไม่พออีกเหรอ?”

ใบหน้าของแม่เซี่ยงร้อนระอุทันทีเมื่อถูกติเตียน

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูเรื่องตลกตรงหน้าจนกระทั่งความอดทนหมดลงและพูดขึ้นว่า “ท่านอธิบดีรบกวนจัดการเรื่องนี้ให้ด้วยนะคะ พอดีว่าฉันมีธุระต้องไปทำต่อ”

“คุณถงวางใจได้ครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้ทันที”

อธิบดีพยักหน้าอย่างจริงจัง จากนั้นจึงหันไปพูดว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผมจะให้คนเข้ามาทำงานแทนที่ตำแหน่งของหัวหน้าเขต และจะเปลี่ยนให้คนอื่นขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนที่ครูใหญ่ด้วย”

พ่อเซี่ยงกับครูใหญ่หน้าซีดเผือดทันที

แต่ก่อนที่ทั้งสองจะร้องขอความเมตตา อธิบดีชี้ไปที่อดีตครูใหญ่และพูดว่า “คุณไปเชิญเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนมาขับไล่ครอบครัวนี้ออกไปซะ แล้วไปเรียกผู้ช่วยครูใหญ่มาด้วย มอบหมายงานให้ผู้ช่วยครูใหญ่แล้วออกจากที่นี่ไปซะ”

อดีตครูใหญ่ไม่กล้าปฏิเสธและทำได้เพียงปฏิบัติหน้าที่ตาม

หลังจากนั้นสิบนาทีเรื่องราวทั้งหมดก็ได้รับการแก้ไข

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมาและพูดขอบคุณ “ท่านอธิบดีขอบคุณมากนะคะ เอาไว้มีเวลาว่างเมื่อไหร่ฉันจะเลี้ยงอาหารเย็นเป็นการตอบแทน”

อธิบดีโบกมือครั้งแล้วครั้งเล่า “เรื่องเล็กน้อยน่ะครับ ไม่จำเป็นต้องมาเลี้ยงข้าวผมหรอก อีกอย่างผมก็ได้รับความไว้วางใจเพิ่มด้วย”

หลังจากพูดจบเขาก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาและพูดว่า “ต้องขอโทษด้วย พอดีผมมีประชุมต่อต้องขอตัวกลับไปก่อน”

“ได้ค่ะ ท่านอธิบดีเดินทางปลอดภัยนะคะ”

“ท่านอธิบดีเดินทางปลอดภัยครับ”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวและผู้ช่วยครูใหญ่ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเดินออกมาส่งอธิบดีด้วยตัวเอง

หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็กลับมาที่สำนักงานด้วยกัน

ครูใหญ่คนใหม่พูดขอโทษ “คุณถง ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้คุณต้องมาเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายแบบนี้”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจับมือเสี่ยวเป่าและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เรื่องในวันนี้มันเลวร้ายจริง ๆ ค่ะ ฉันหวังว่าหลังจากที่ครูใหญ่เข้ารับตำแหน่งแล้วจะกลายเป็นคุณครูที่ดีเพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียนคนนี้ต้องมาประสบปัญหาเลวร้ายแบบนี้เหมือนกัน”

“แน่นอนครับ ผมจะดูแลเรื่องนี้อย่างดี” ครูใหญ่คนใหม่พยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า

สีหน้าเคร่งขรึมของถงเหมี่ยวเหมี่ยวผ่อนคลายลงเมื่อได้ยินคำพูดสัญญา และยิ้มเบา ๆ “ฉันเชื่อว่าครูใหญ่ทำได้ค่ะ”

เธอพูดขณะลูบผมของเสี่ยวเป่าด้วยท่าทางอบอุ่น “วันนี้พอแค่นี้ก่อน ฉันพาลูกชายกลับก่อนนะคะ”

“ครับคุณถง เดินทางปลอดภัยครับ”

ครูใหญ่คนใหม่เดินออกมาส่งถงเหมี่ยวเหมี่ยวเป็นการส่วนตัว

ระหว่างทางกลับบ้านถงเหมี่ยวเหมี่ยวจอดรถทิ้งเอาไว้บนท้องถนน บอกเสี่ยวเป่าให้นั่งอยู่ในรถเงียบ ๆ จากนั้นจึงออกไปซื้อยาทาแผลและแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ

เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธออุ้มเสี่ยวเป่าไปนั่งลงโซฟาและทายาให้เสี่ยวเป่า

โชคดีที่อาการบาดเจ็บไม่ร้ายแรงนัก มีเพียงรอยฟกช้ำบนใบหน้า

เธอเทแอลกอฮอล์ออกมาเช็ดฆ่าเชื้อให้เสี่ยวเป่า จากนั้นจึงทายาบริเวณเลือดคลั่ง

เสี่ยวเป่านั่งอยู่บนโซฟาอย่างเชื่อฟังและปล่อยให้           ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่สงบสติอารมณ์ลงแล้วทายาให้

เขามองดูสีหน้ามุ่งมั่นของแม่และพูดขอโทษ “ขอโทษครับหม่ามี้ ผมทำให้หม่ามี้เดือดร้อน”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวชะงักอยู่ครู่หนึ่ง มองดูลูกชายที่กำลังรู้สึกผิดและส่งยิ้มให้ “ถึงการต่อสู้จะเป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่ในเมื่ออีกฝ่ายเริ่มต่อสู้ก่อน และเสี่ยวเป่าแค่ป้องกันตัวเองเท่านั้น เพราะงั้นแม่จะไม่ดุอะไรเสี่ยวเป่า”

เธอพูดและนวดคลึงศีรษะเสี่ยวเป่า

เธอคอยนวดศีรษะเขาและเป่าเบา ๆ “เจ็บมั้ย?”

“ไม่เจ็บ หม่ามี้นวดเลย ไม่เป็นอะไร”

เสี่ยวเป่าส่ายหน้าอย่างรู้เหตุรู้ผล

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูเขาโดยที่หัวใจอ่อนยวบลง อดไม่ได้ที่จะอุ้มเจ้าตัวน้อยเข้ามาในอ้อมแขน

สองคนแม่ลูกพูดคุยหัวเราะคิกคักกันอยู่สักพักหนึ่ง จากนั้นเสี่ยวเป่าก็เริ่มง่วงนอน

รอจนกระทั่งเสี่ยวเป่าผล็อยหลับไป ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงค่อย ๆ ย่องออกมาจากห้องของลูกชาย

เธอเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่น หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและโทรไปขอบคุณลู่ซีจวี๋

หากไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือจากเขา เสี่ยวเป่าคงจะถูกไล่ออกจากโรงเรียนอนุบาลไปแล้ว

หลังจากวางสายลงถงเหมี่ยวเหมี่ยวเหม่อมองดูวิวยามค่ำคืนข้างนอกหน้าต่าง

เธอหวนนึกถึงว่าการดูแลเสี่ยวเป่าในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานั้นยากลำบากถึงเพียงไหน...

หากมู่อวี้เฉิงอยู่ตรงนี้เสี่ยวเป่าคงจะไม่ต้องถูกรังแก และเธอคงจะไม่ต้องลำบากแบบนี้ใช่ไหม?

ตอนเกิดเหตุเมื่อกลางวัน เธอรู้สึกถึงแรงกระตุ้นบางอย่างที่ทำให้เธอต้องการโทรหามู่อวี้เฉิง

เพราะอย่างไรเสียเขาก็เป็นพ่อของเสี่ยวเป่า เขาควรจะปกป้องเสี่ยวเป่า

แต่สุดท้ายเหตุผลกลับเอาชนะความคิดดังกล่าว

ครั้งนี้เธอติดหนี้บุญคุณของลู่ซีจวี๋

และในอนาคตเธอจะต้องจ่ายคืนเขา!

...

เช้าวันรุ่งขึ้นที่บริษัทมีการจัดประชุมตามปกติ

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเหยียบรองเท้าส้นสูงสิบนิ้วนำกู้ชิงเดินเข้าไปในห้องประชุมด้วยท่วงท่าที่ยอดเยี่ยมราวกับราชินี

เธอวางเอกสารในมือลงบนโต๊ะ ปรายตามองรอบ ๆ และพบว่าฉินลู่ก็อยู่ที่นี่ด้วย

ฉินลู่สังเกตเห็นสายตาที่จ้องมองมาจึงเลิกคิ้วยียวน

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเมินเฉยและพูดเปิดการประชุม

หัวหน้างานต่าง ๆ เริ่มรายงานผลการทำงาน

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตั้งใจฟัง

เมื่อการรายงานเสร็จสิ้นแล้ว เธอขานเรียกหัวหน้าแผนวางแผนและถามว่า “โครงการความร่วมมือกับมู่กรุ๊ปมีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว?”

แต่ก่อนที่หัวหน้างานจะพูดตอบ ฉินลู่กลับหัวเราะเยาะ “ผู้จัดการประเมินความสามารถสูงไปหรือเปล่า? คิดว่าจะได้ร่วมมือกับมู่กรุ๊ปง่าย ๆ ขนาดนั้นเชียวเหรอ”

เธอจ้องมองถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยสายตาดูถูก

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเงยหน้ามอง

ดวงตาของพวกเธอปะทะกันจนราวกับได้ยินเสียงประสายไฟที่ลอยอยู่ในอากาศ

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยิ้มมุมปากราวกับว่ากำลังเยาะเย้ย “เพียงเพราะเธอทำไม่ได้ก็อย่ามาคิดว่าฉันทำไม่ได้สิ อย่าเอาความสามารถของเธอมาเปรียบเทียบกับความสามารถของฉัน!”

“...”

ฉินลู่โกรธมากจนแทบสำลักและอยากจะบ้าตายให้รู้แล้วรู้รอด

นังผู้หญิงคนนี้กำลังบอกว่าเธอไม่มีความสามารถเท่าหล่อนงั้นหรือ ไปเอาความกล้ามาจากไหนนักยะ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด