ตอนที่ 2 คุณลุง มีแฟนหรือยังครับ
ตอนที่ 2
คุณลุง มีแฟนหรือยังครับ
ห้าปีต่อมา ณ โรงแรมอิมพีเรียลในเมืองเป่ย
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวลากกระเป๋าเดินทางด้วยมือข้างเดียว ส่วนมือข้างหนึ่งคอยจับเด็กชายตัวน้อยน่ารัก เธอยืนอยู่บนถนนด้านนอกด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง
ไม่คิดไม่ฝันว่าชาตินี้เธอจะต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีก!
ย้อนกลับไปเมื่อห้าปีก่อน เธอตั้งครรภ์และบินลัดฟ้าไปต่างประเทศภายในชั่วข้ามคืน โดยตั้งปณิธานว่าจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกตลอดชีวิต
แต่กลับคาดไม่ถึงว่าบริษัทจะต้องการขยายธุรกิจมายังประเทศจีนจึงหว่านเงินซื้อตัวเธอให้กลับมาดูแลสาขาที่นี่
เธอผู้ต้องการเงินเลี้ยงลูกและตัวเองจึงตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจนัก
จู่ ๆ อารมณ์ที่คิดว่าควรจะสงบนิ่งก็กลับกลายเป็นขั้น ๆ ลง ๆ ซะงั้น!
ด้านนอกโรงแรมมีแขกเดินขวักไขว่กันอยู่จำนวนไม่น้อย
พวกเขาจ้องมองเด็กตัวเล็กที่อยู่หน้าประตูทางเข้าและพึมพำว่า “เด็กน้อยน่ารักจัง น่ารักจนฉันอยากจะขโมยกลับบ้านให้รู้แล้วรู้รอด!”
“คนข้าง ๆ คือแม่เขาหรือเปล่า? สวยจัง”
“ได้ยีนแม่มาเต็ม ๆ ไม่รู้ว่าพ่อจะหน้าตาเป็นยังไงบ้าง...”
บทสนทนาจากผู้คนรอบข้างลอยเข้ามาในหูของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยว
เธอเหลือบมองเด็กชายที่อยู่บนพื้น
เจ้าตัวเล็กดูน่ารักจิ้มลิ้ม ใบหน้าเนียนละเอียด ดวงตาสีดำเงาดุจดั่งอัญมณีสีนิลแวววาว เต็มเปี่ยมด้วยความปราดเปรียวและสติปัญญา ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มสดใสอยู่ตลอดเวลา
ลักยิ้มทั้งสองข้างบนแก้มเสริมความรักแอ๊บแบ๊วยิ่งขึ้น!
นี่คือถงเป่ยหาน ลูกชายของเธอ มีชื่อเล่นว่าเสี่ยวเป่า และเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเธอ!
“หม่ามี้ เราจะไม่เข้าไปข้างในกันเหรอครับ?”
น้ำเสียงไร้เดียงสาของถงเสี่ยวเป่าดึงถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่กำลังฟุ้งซ่านให้กลับมามีสติอีกครั้ง
เธอรีบสงบสติอารมณ์และส่งยิ้มขอโทษ “ขอโทษจ๊ะ หม่ามี้มัวแต่คิดไปเรื่อยเปื่อย ปะ เราไปเช็กอินกันก่อนดีกว่า”
“ฮะ”
ถงเสี่ยวเป่าตอบรับอย่างเชื่อฟัง เขาจับมือแม่เอาไว้แน่นและเดินตามแม่เข้าไปในล็อบบี้
ในไม่ช้าการเช็กอินก็เสร็จสิ้นลง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพาเสี่ยวเป่าไปที่ห้องพัก
โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมห้าดาวที่ตั้งอยู่ในเมืองเป่ย ถูกล้อมรอบด้วยสภาพแวดล้อมที่ดี มีทิวทัศน์กว้างขวาง เหมาะสมกับความต้องการของถงเหมี่ยวเหมี่ยว
เธอเดินทางกลับประเทศจีนมาอย่างกะทันหันจนทำให้ทางบริษัทจัดเตรียมที่พักให้ไม่ทัน เธอจึงต้องพาลูกชายมาพักที่โรงแรมก่อนสักสองสามวัน
ดูเหมือนว่าเสี่ยวเป่าจะชอบที่นี่ไม่น้อย เขามองดูทุกอย่างราวกับสิ่งแปลกใหม่
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวปล่อยให้เขาเล่นสนุก ขณะที่เธอมาจัดการกับกระเป๋าเดินทาง
จนกระทั่งจัดการกับกระเป๋าเสร็จแล้วจึงกลับไปนั่งทำงานอีกครั้ง
แม้ว่าเธอจะเพิ่งเดินทางกลับมาถึงประเทศจีน ทว่าโครงการสำคัญกลับตกมาอยู่ในมือ และเธอจะต้องไปเจรจากับลูกค้าในคืนนี้...
เธอรู้สึกไม่สบายใจอีกครั้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าจะได้เจอคนคนนั้นในไม่ช้า!
หลังจากผ่านไปนาน เธอกลับมาได้สติอีกครั้งและบอกเสี่ยวเป่าว่า “หม่ามี้กำลังยุ่งอยู่ หนูเล่นคนเดียวไปก่อน เดี๋ยวอีกสักพักหม่ามี้ไปเล่นด้วยนะจ๊ะ”
“ฮะ หม่ามี้”
เสี่ยวเป่ารู้ดีว่าแม่ของเขาเป็นคนบ้างาน และเขาเองก็คุ้นเคยกับเรื่องนี้ดี เขาจึงเชื่อฟังและไม่เข้าไปรบกวนเธอ
เพียงแต่ว่าตอนนี้เขาเริ่มหิวและรู้สึกเบื่อขึ้นมาแล้ว
และแล้ว... ก็แอบย่องไปข้างนอกเงียบ ๆ!
โรงแรมแห่งนี้มีแขกแวะเวียนเข้ามาไม่น้อย แต่เสี่ยวเป่ากลับไม่กลัวคนแปลกหน้าเลย เขาเดินเพ่นพ่านไปทุกทีราวกับกำลังสำรวจมันอยู่
หลังจากผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงก็มาถึงร้านอาหาร
เขาสั่งอาหารกับพนักงานอย่างสุภาพ และขอให้พนักงานนำอาหารไปเสิร์ฟให้ที่ห้อง
พนักงานรีบพูดเอาอกเอาใจเมื่อเห็นว่าเขามาคนเดียว “ให้พี่พากลับไปที่ห้องมั้ย? หนูน้อย วิ่งไปรอบ ๆ แบบนี้คนเดียวมันอันตรายนะจ๊ะ”
เสี่ยวเป่าปฏิเสธ “ไม่ต้องฮะ ผมกลับเองได้!”
ถึงแม้ว่าพนักงานจะรู้สึกสงสัย ทว่าเสี่ยวเป่ากลับไม่ได้ให้โอกาสเธอ เขารีบหันหลังกลับและวิ่งหนีไป
เขาเดินกลับมาทางเดิมเพื่อขึ้นลิฟต์...
ขณะเดียวกัน ใครบางคนกำลังยืนอยู่ในลิฟต์
มู่อวี้เฉิงสวมชุดสูทที่ถูกตัดเย็บมาอย่างประณีต ยืนสูงสง่าอยู่ด้านใน ใบหน้าสามมิติยังคงงดงามราวกับเทวดาที่ถูกขับไล่ลงมาจากสรวงสวรรค์ คิ้วเรียวได้รูปจนดูเคร่งขรึมและเอาจริงเอาจังอย่างมาก
ดวงตาที่ลึกล้ำและมืดหม่นเต็มเปี่ยมไปด้วยรังสีของผู้มาเหนือตลอดกาลที่ใครก็ไม่อาจมองข้าม!
ภายในลิฟต์ นอกจากเขาแล้ว ยังมีลู่หมิงที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเขาอีกคน!
เสี่ยวเป่าเดินเข้ามาในลิฟต์และไม่ได้สนใจผู้ชายทั้งสองคนนี้มากนัก เขาพยายามเขย่งปลายเท้าเพื่อกดลิฟต์
ทว่าตัวเลขที่อยู่สูงเกินไปทำให้เขาเอื้อมมือแตะไม่ถึง!
“...”
เสี่ยวเป่าชะงักและพยายามตะเกียกตะกายอีกครั้ง เขาพยายามกดมันอยู่หลายครั้งแต่กลับยังล้มเหลวเหมือนเดิม
มู่อวี้เฉิงมองดูและถามอย่างเย็นชา “อยู่ชั้นไหน?”
เสี่ยวเป่าที่ได้ยินเสียงรีบหันไปมองรอบ ๆ และตอบรับด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา “ชั้นบนสุดครับ”
มู่อวี้เฉิงพยักหน้า เอื้อมมือออกไปกดปุ่มชั้นบนสุดและหันกลับมามองเด็กชายตัวเล็กที่ยืนอยู่บนพื้นอีกครั้ง
การแต่งกายของเด็กชายร่างเล็กค่อนข้างดูดีมีสไตล์ เขาสวมเสื้อทีเชิ้ตสีขาว เอี๊ยมกางเกงยีนและรองเท้าสีขาว มีนัยน์ตาสีดำนิลคู่สวย ดูสุขุม ฉลาดปราดเปรื่องและมีสติปัญญา สดใสน่ารักราวกับดวงอาทิตย์
“ขอบคุณฮะคุณลุง!”
เสี่ยวเป่ากล่าวขอบคุณอย่างสุภาพและจ้องมองมู่อวี้เฉิงด้วยสายตาเป็นประกายโดยที่ไม่หวั่นเกรง
มู่อวี้เฉิงหันกลับไปมองเขาเช่นกัน
ขณะที่ทั้งสองกำลังเผชิญหน้ากัน เสี่ยวเป่าส่งยิ้มสดใสและพูดชมว่า “คุณลุงหล่อจังเลย หล่อกว่าผมอีกแน่ะ!”
มู่อวี้เฉิงเลิกคิ้วขึ้น ท่าทางที่ไม่แยแสถูกรอยยิ้มสดใสหลอมละลายจนเผลอยิ้มออกมา “หนูก็น่ารัก”
เสี่ยวเป่ายิ้มชอบใจ ดวงตาที่เปล่งประกายราวกับดวงดาวจ้องมองมู่อวี้เฉิงและพูดต่อว่า “คุณลุง ผมว่าคุณลุงหน้าตาเหมือนผมเลย!”
มู่อวี้เฉิงชะงัก
เหมือนเขาหรือ?
เขามองดูเด็กชายใกล้ ๆ
เด็กชายตัวเล็กดูขาวละมุน ใบหน้ายังคงเด็กอยู่ มีก้อนไขมันเล็ก ๆ ดูน่ารักจิ้มลิ้ม รูปลักษณ์หน้าตางดงามมีเอกลักษณ์ ทว่าเขาแยกไม่ออกว่าพวกเขาทั้งสองคนมีหน้าตาเหมือนกันอย่างไรบ้าง!
ในทางกลับกัน ลู่หมิงประหลาดใจมากเมื่อมองดูทั้งสองคน “คล้ายกันมาก!”
ทว่าเด็กชายตัวเล็กตรงหน้าที่กำลังยิ้มสดใสช่างแตกต่างกับท่าทางไม่แยแสของท่านประธานอย่างสิ้นเชิง
ถึงอย่างนั้นรูปลักษณ์กลับมีความคล้ายคลึงกับท่านประธานอยู่เล็กน้อย!
มู่อวี้เฉิงไม่ได้สนใจมากนัก
แต่กลับนึกไม่ถึงว่าเด็กชายตัวเล็กจะดึงขากางเกงของเขาและถามอย่างกระตือรือร้นว่า “คุณลุงมีแฟนหรือยังครับ?”
“หนูจะถามไปทำไม? ลุงยังไม่มีแฟน”
มู่อวี้เฉิงถามกลับด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“ไม่มีอะไร ผมก็แค่ถามเฉย ๆ”
เสี่ยวเป่าส่ายหัว แอบยิ้มเบา ๆ และคิดในใจว่าไม่มีแฟนก็ดี ไม่รู้ว่าหม่ามี้ยังจะพอมีโอกาสหรือเปล่า
คุณลุงคนนี้ดูดีมาก เหมาะสมกับหม่ามี้ที่สุด!
ในที่สุดลิฟต์ก็จอดสนิท
มู่อวี้เฉิงบอกเสี่ยวเป่าว่า “ถึงแล้ว กลับไปซะเจ้าหนู แล้วอย่าออกมาวิ่งเพ่นพ่านคนเดียวอีก!”
เสี่ยวเป่ากะพริบตาและพยักหน้า “ครับ คุณลุง”
เขาตอบรับและก้าวขาออกจากลิฟต์
ใบหน้าของมู่อวี้เฉิงกลับมาเฉยเมยตามปกติอีกครั้งเมื่อเขาเดินจากไป
เขาต้องหารือเรื่องความร่วมมือกับบริษัทยุโรปในคืนนี้!
เดิมทีเขาไม่จำเป็นต้องมาหารือเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ทว่าบุคคลที่รับผิดชอบเรื่องนี้ของอีกฝ่ายเรียกร้องให้เขาออกมาหารือเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นการร่วมมือจะไร้ประโยชน์
ตอนนี้มู่กรุ๊ปยังขาดแคลนอำนาจทางเทคโนโลยีอยู่ ดังนั้นเขาจึงต้องมาเข้าร่วม
แต่กว่าจะถึงเวลานัดหมายยังเหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมง!