ตอนที่แล้วตอนที่ 16 แต่งงานตั้งแต่เมื่อไหร่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 เธอมีความสามารถสักแค่ไหนกันเชียว

ตอนที่ 17 เธอมีปัญหาอะไร


ตอนที่ 17

เธอมีปัญหาอะไร

หลังจากลงมาจากลิฟต์ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังคงไม่สามารถต้านทานและถูกบีบบังคับให้เข้าไปในรถ

ดวงตาของเธอกำลังลุกโชนดั่งไฟโลกันตร์ขณะจ้องมองชายหนุ่มเดินอ้อมไปยังที่นั่งคนขับ แก้มสวยแดงแปร๊ดด้วยความโกรธจัด หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามความผันผวนของอารมณ์

มู่อวี้เฉิงมองเห็นท่าทางโกรธเคืองของเธอแต่กลับเพิกเฉย

เขาขึ้นรถ ปิดประตูและสตาร์ทรถออกไป

เขาขับรถออกจากโรงจอดรถใต้ดินและพูดอย่างใจเย็นว่า “พักอยู่ที่ไหน”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขบฟันกรามและบอกที่อยู่คอนโด

มู่อวี้เฉิงเหลือบมองเธอและหักพวงมาลัยหมุนรถกลับ

รถยนต์เคลื่อนตัวไปบนท้องถนนอย่างราบรื่น

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวทำหน้าตาบูดบึ้งและหันออกไปมองข้างนอกหน้าต่าง

ทั้งสองเงียบไปตลอดทาง

ไม่นานนักรถยนต์ก็เคลื่อนตัวมาจอดอยู่ใต้คอนโดมีเนียม

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวสงบลงเมื่อเห็นสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย

เสียงทุ้มของมู่อวี้เฉิงดังลอดเข้ามาในหู “ถึงแล้ว”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเปิดประตูลงจากรถด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ลงไปยืนอยู่ข้างรถยนต์และพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ขอบคุณคุณมู่ที่มาส่งฉันนะคะ เชิญคุณมู่กลับได้เลยค่ะ”

เธอพูดจบ หันหลังและเดินจากไป

มู่อวี้เฉิงที่นั่งอยู่ในรถยนต์มองดูร่างของเธอค่อย ๆ เดินจากไปด้วยสีหน้ามืดหม่นคลุมเครือ

...

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับมาถึงบ้านเกือบจะตีสี่แล้ว

เสี่ยวเป่ากับกู้ชิงเข้านอนกันเรียบร้อย

ภายในบ้านเงียบสงบมาก

เธอเดินไฟในห้องนั่งเล่นโดยคิดว่าจะเข้าไปดูเสี่ยวเป่าก่อนแล้วจึงค่อยเข้าไปอาบน้ำพักผ่อน

แต่หลังจากก้าวเข้าไปได้สองก้าว ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดจากทางด้านใน

กู้ชิงเดินหาวออกมาจากห้องด้านใน น้ำเสียงของเธอแหบแห้งราวกับเพิ่งตื่นนอน “ผู้จัดการกลับมาแล้วเหรอคะ ทุกอย่างเรียบร้อยหรือเปล่า?”

“เรียบร้อยดี”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าและขอบคุณ “คืนนี้ขอบคุณมากนะ นอนต่ออีกสักหน่อยแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับก็ได้ค่ะ”

กู้ชิงไม่ได้ปฏิเสธและนอนพักผ่อนต่อ

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรอให้กู้ชิงเข้าไปพักก่อนจึงเดินเข้าไปในห้องนอนของเสี่ยวเป่า

เธอค่อย ๆ เปิดประตูออก

ภายในห้องมีแสงไฟสลัวจากโคมไฟขนาดเล็กข้างเตียง

เสี่ยวเป่านอนฝันหวานขณะกอดผ้าห่มผืนเล็กอยู่บนเตียงไม้

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเดินย่องเข้าไปและห่มผ้าห่มให้เสี่ยวเป่าอย่างระมัดระวัง

เธอมองดูใบหน้าที่อ่อนโยนของเสี่ยวเป่า มองดูเขาที่กำลังหลับใหลเหมือนกับเทวดาจนอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลงไปจูบ

เสี่ยวเป่าส่งเสียงพึมพำจากอาการสะลึมสะลือ “หม่ามี้ เสี่ยวเป่ารักหม่ามี้”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวคิดว่าตัวเองเผลอปลุกลูกน้อย แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นกลับพบว่าเขากำลังละเมออยู่

เธอหัวเราะแต่กลับรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

เธอก้มลงจูบเสี่ยวเป่าอีกครั้งและลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอกลับมาเอนตัวลงนอนข้าง ๆ เสี่ยวเป่า

...

เช้าวันรุ่งขึ้นเสี่ยวเป่าตื่นขึ้นมาด้วยอาการสะลึมสะลือ และยังคงสับสนอยู่

เขาเอาหน้าถูหมอนและคิดว่าจะนอนต่ออีกสักพัก แต่เสียงของแม่กลับดังก้องอยู่ในหู “ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน”

“หม่ามี้~”

จู่ ๆ เสี่ยวเป่าก็ได้สติและหันหน้าไปมองด้วยความประหลาดใจ เขามีความสุขมากที่เห็นแม่นอนอยู่ข้าง ๆ

เขายกวงแขนและขาโอบกอดรัดตัวแม่ ก่อนจะดันตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของแม่อย่างร่าเริง “หม่ามี้กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่? เมื่อคืนทำงานเหนื่อยหรือเปล่า?”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกอดเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนและยิ้มตอบ “กลับมาเมื่อคืน ไม่เหนื่อยหรอกจ้ะ”

เธอพูดและตบก้นเร่งเร้าเสี่ยวเป่าเบา ๆ “เอาล่ะ ลูกก็ลุกขึ้นสักที”

“อยากให้หม่ามี้อุ้ม” เสี่ยวเป่าออดอ้อน

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่ปฏิเสธ

เธออุ้มเขาลุกขึ้นมาจากเตียงและพาเขาไปอาบน้ำ

ขณะที่แม่ลูกออกมาจากห้อง กู้ชิงกำลังช่วยเตรียมอาหารเช้าอยู่ในห้องครัว

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขอบคุณเธอขณะมองดูอาหารเช้ามากมายบนโต๊ะอาหาร “ขอโทษด้วยนะคะ พอดีฉันตื่นสายต้องรบกวนคุณมาทำอาหารเช้าให้”

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่เรื่องเล็กน้อย”

กู้ชิงวางชามกับตะเกียบลงอย่างไม่ใส่ใจนักและถามว่า “ผู้จัดการ เมื่อคืนกลับมาดึกมาเลย ทำไมไม่นอนต่ออีกสักหน่อยล่ะคะ”

“นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็พอค่ะ ฉันไม่นอนเยอะนักหรอก”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพาเสี่ยวเป่าเข้าไปนั่งลงและบอกว่า      “กู้ชิงไม่ต้องทำอะไรแล้ว มานั่งลงกินข้าว”

“ค่ะ” กู้ชิงพยักหน้าและนั่งลงกินข้าวด้วยกัน

ระหว่างกินอาหารเช้าถงเหมี่ยวเหมี่ยวถามขึ้นว่า        “เมื่อวานเสี่ยวเป่ารบกวนอะไรคุณหรือเปล่า?”

กู้ชิงพูดชม “ไม่เคยค่ะ เสี่ยวเป่าเก่งมาก ไม่ร้องไห้สร้างปัญหา มีไหวพริบฉลาดมากเลยค่ะ”

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเข้ากันไม่ได้มากนัก แต่กู้ชิงกลับชื่นชอบเสี่ยวเป่ามาก

เธอไม่เคยเห็นเด็กที่ประพฤติเรียบร้อยและมีเหตุผลเท่านี้มาก่อน

ขณะเดียวกันเสี่ยวเป่าเงยหน้าขึ้นและพูดออดอ้อนว่า “หม่ามี้ ผมเชื่อฟังคุณป้าฮะ”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูเสี่ยวเป่าที่กำลังรอคอยคำชมด้วยหัวใจที่อ่อนยวบลง

เธอยิ้มและเอื้อมมือออกไปลูบผมชี้โด่ชี้เด่ของเสี่ยวเป่า “จ้า เสี่ยวเป่าของเราเก่งที่สุด เดี๋ยวเย็นนี้แม่ทำปลาผัดซอสเปรี้ยวหวานให้กินดีมั้ย”

“ดี!” เสี่ยวเป่าพยักหน้าและกินข้าวต่ออย่างมีความสุข

หลังจากอาหารเช้า ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพาเสี่ยวเป่าไปส่งที่โรงเรียนอนุบาลและพากู้ชิงมาที่บริษัท

หลังจากเข้ามาในบริษัทแล้วถงเหมี่ยวเหมี่ยวเข้าสู่กระบวนการทำงานทันที

เธอพยักหน้าตอบรับคำทักทายจากพนักงานที่อยู่รอบตัว และสั่งการว่า “กู้ชิงช่วยไปติดตามดูโปรแกรมของมู่กรุ๊ปในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาให้หน่อย ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรอีกก็แจ้งรายงานมาได้เลย เราต้องทำบริการหลังการขายให้ดี”

กู้ชิงพยักหน้าตอบรับว่าเข้าใจ

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกดปุ่มลิฟต์ เดินเข้าไปในลิฟต์และถามต่อว่า “แล้วแผนกวางแผนมีความคืบหน้ายังไงบ้าง?”

“หลังจากตรวจดูแล้วทุกอย่างราบรื่นดีค่ะ ทุกคนคิดในทางบวกกันมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ยังไม่ทราบแน่ชัด” กู้ชิงรายงานตามความเป็นจริง

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขมวดคิ้ว “ไปเร่งคนในแผนกวางแผนให้ทำงานกันให้เร็วกว่านี้ เราเหลือเวลาไม่มากแล้วนะ”

“ค่ะ” กู้ชิงพยักหน้าอีกครั้ง

สองนาทีต่อมาลิฟต์ก็จอดสนิท

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขอให้กู้ชิงไปจัดการงานที่ได้รับมอบหมาย ส่วนเธอเดินกลับเข้าไปในห้องทำงาน

เธอนั่งลงบนเก้าอี้มองดูเอกสารกองหนึ่งที่รอให้เธอจัดการอยู่

เธอหยิบปากกาขึ้นมาและทำเครื่องหมายทีละแผ่น

บรรยากาศในห้องทำงานเงียบสงบมาก มีเพียงเสียงเดียวที่ดังขึ้นน่าจะเป็นเสียงปลายปากกาขูดกระดาษและเสียงพลิกหน้ากระดาษ

จนกระทั่งถึงเวลาสิบเอ็ดโมง จู่ ๆ ประตูห้องทำงานก็ถูกผลักออกจากทางด้านนอก

หญิงสาวแต่งกายเซ็กซี่คนหนึ่งเดินเข้ามาข้างในด้วยท่าทางดุดัน ตามมาด้วยเซ่าหมิงเวยที่กำลังมีท่าทางปวดหัว

ทันทีที่หญิงสาวคนนั้นเธอเข้ามา หล่อนเดินตรงมาที่โต๊ะและพูดกระชากเสียงว่า “เธอเป็นผู้จัดการคนใหม่เหรอ?”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

หญิงสาวคนนี้ดูอายุยังไม่ถึงสามสิบปี หล่อนสวมชุดสูททางการเว้าคอลึกอวดหุ่นสรีระที่สมบูรณ์แบบ

ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะ แผ่รังสีความไม่เป็นมิตรออกมา ท่าทางเต็มไปด้วยความก้าวร้าว

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเลิกคิ้วเล็กน้อย เอนกายพิงเบาะหลัง เอามือกอดอกและพูดว่า “ทำไม เธอมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ? แล้วเธอล่ะเป็นใคร?”

ดวงตาของทั้งสองคนปะทะกันกลางอากาศจนเกิดเปลวไฟวูบวาบที่ดวงตาเปล่าไม่สามารถมองเห็นได้

เซ่าหมิงเวยรู้สึกถึงบรรยากาศที่ไม่ชอบมาพากลจึงก้าวเข้าไปข้างหน้า “ผู้จัดการครับ นี่คือหัวหน้าฉินลู่”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด