ตอนที่แล้วตอนที่ 15 อยู่ให้ห่างจากฉัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17 เธอมีปัญหาอะไร

ตอนที่ 16 แต่งงานตั้งแต่เมื่อไหร่


ตอนที่ 16

แต่งงานตั้งแต่เมื่อไหร่

มู่อวี้เฉิงเหล่ตามองหญิงสาวที่ก้มหน้าก้มตาทำงานอีกครั้ง

จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้เอาซะเลย

แต่ก่อนเขารู้สึกว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวน่าเบื่อและจืดชืด ทำให้เขาไม่ได้สนใจอะไรเธอ แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าตัวเองยังรู้จักเธอได้ไม่ดีพอ

คราวเมื่อได้เจอหน้ากันอีกครั้ง ความเข้มแข็งและเฉยเมยของผู้หญิงคนนี้ทำให้เขารู้สึกสนเธอขึ้นมา

เขามองดูถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยสายตาลึกซึ้ง จากนั้นจึงหันกลับมาสะสางงานที่ทำค้างเอาไว้

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่อยู่อีกด้านหนึ่งรู้สึกโล่งใจเมื่อสังเกตเห็นว่าสายตาคู่นั้นไม่ได้จับจ้องมาที่เธออีกต่อไป

เธอมองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีโค้ดเรียงรายอยู่ และพยายามบีบบังคับให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ลง

ต่อมา ลู่หลิงกลับมาพร้อมกับอาหารเย็น

เขาวางกล่องอาหารลง

จากนั้นทั่วทั้งห้องทำงานก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของอาหาร

“ท่านประธานเชิญมาทานก่อนสิครับ”

ลู่หมิงวางกล่องข้าวลงและพูดบอกเบา ๆ

มู่อวี้เฉิงพยักหน้าและโบกมือให้เขาออกไป

รอจนกระทั่งลู่หมิงกลับออกไป เขาเงยหน้ามองถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ยังคงจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์และพูดเบา ๆ ว่า “คุณถง มากินข้าวก่อนสิครับเดี๋ยวค่อยกลับไปทำงานต่อ”

เดิมทีถงเหมี่ยวเหมี่ยวต้องการจะปฏิเสธ แต่กลิ่นหอมในอากาศกลับทำให้เธอรู้สึกหิวมาก

เธอมองดูกองอาหารมากมายบนโต๊ะที่ดูน่าอร่อยและส่งกลิ่นหอม

จนเธอไม่กล้าพูดปฏิเสธออกไป

“ขอบคุณค่ะ” เธอพูดขอบคุณด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง จากนั้นจึงเริ่มขยับตัวไปนั่งกินอาหารบนโซฟาข้างมู่อวี้เฉิง

ทั้งสองนั่งกินกันเงียบ ๆ

มู่อวี้เฉิงคอยแอบมองถงเหมี่ยวเหมี่ยวก้มหน้ากินอาหารเงียบ ๆ

จากนั้นเขาก็ถามขึ้นว่า “แต่งงานตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตกใจและตอบกลับว่า “แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณคะ?”

มู่อวี้เฉิงพูดตอบ “ถึงมันจะไม่เกี่ยวอะไรกับผม แต่อย่างน้อยคุณก็คือคู่หมั้นของผมในนาม และผมยังไม่ได้ถอนหมั้น”

“ของแบบนี้ คุณใช้อำนาจทำมันให้เป็นเรื่องโมฆะก็ได้นี่คะ แล้วอีกอย่างคุณไม่ใช่คนที่จะมาใส่ใจเรื่องพรรค์นี้สักหน่อย ใช่มั้ยล่ะคะ?”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเยาะเย้ย ดวงตาที่แยกถูกผิดดีชั่วเต็มไปด้วยความเสียดสี

ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่เคยตระหนักถึงการหมั้นหมายกับเธออย่างจริงจังเลยด้วยซ้ำ

ไม่อย่างนั้นเมื่อหลายปีก่อนเขาจะเมินเฉยต่อเธอเหรอ?

แถมยังมีหน้าส่งคนรักให้มาขับไล่เธอออกไปอีก!

มู่อวี้เฉิงยังไม่รู้เรื่องนี้

เขารู้สึกเพียงแต่ว่าคำพูดของถงเหมี่ยวเหมี่ยวเต็มไปด้วยหนามทิ่มแทง และไม่ชอบทัศนคติของเธอที่มีต่อการแต่งงาน

เขาจึงพูดขึ้นว่า “ดูเหมือนว่าคุณจะไม่พอใจมาก แล้วทำไมตอนนั้นคุณไม่โทษที่ผมปล่อยปละละเลยคุณเลยล่ะ?”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเยาะเย้ยอีกครั้ง “คุณนี่คิดมากจังเลยนะคะ ฉันกับคุณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว มามัวพูดถึงความไม่พอใจอยู่ทำไม? อย่างมากตอนนี้เราก็เป็นแค่คู่ค้าที่ต้องร่วมมือกัน อีกอย่างคุณเองก็มีครอบครัวแล้ว คิดว่าคำถามพวกนี้มันเหมาะสมแล้วเหรอคะ?”

มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว

เขามีครอบครัวแล้วเหรอ?

เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมเขาถึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย?

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่รู้ว่ามู่อวี้เฉิงกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ

เธอเหลือบมองเขาและพูดต่อว่า “งานหมั้นที่เกิดขึ้นในตอนนั้นมันไม่ใช่เพราะคุณกับฉัน เลิกรากันไปก็ดี ต่อจากนี้ไปคุณไปใช้เวลากับภรรยาและลูกเถอะค่ะ และนอกจากเรื่องงานแล้วเราไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีก”

หลังจากพูดจบเธอวางชามกับตะเกียบลงและบอกว่าอิ่มแล้ว จากนั้นจึงลุกกลับไปทำงานต่อ

มู่อวี้เฉิงหันไปมองเธอที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงาน และนั่งอยู่ที่เดิมด้วยความงุนงง

ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจที่ผู้หญิงคนนี้พูดสักนิด

ภรรยากับลูกคนไหน?

เธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่?

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่นั่งอยู่บนโต๊ะสังเกตเห็นสายตาที่จ้องมองมาที่เธอ

ทว่าเธอกลับไม่ได้สนใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

เพียงแต่ภายในใจของเธอเก็บงำความแค้นที่มีต่อเขาเอาไว้

หลายปีที่ผ่านมาการอุ้มท้องเสี่ยวเป่าไปอยู่ต่างประเทศเพียงลำพังมันไม่ใช่เรื่องง่ายสักนิด

การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมันทำให้เธอทุกข์ทรมานมาก

หลายครั้งที่เธอแทบจะทนไม่ไหว

วันเวลาเหล่านั้นมันช่างมืดหม่นจริง ๆ

หลายครั้งที่เธอรู้สึกเกลียดชังความโหดเหี้ยมของผู้ชายคนนี้

เกลียดมากแต่ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้นหากไม่ใช่เพราะเรื่องงาน ชาตินี้เธอคงจะไม่มีวันมาเจอหน้าเขาอีก

บรรยากาศภายในห้องทำงานเงียบสงัดมาก มีเพียงเสียงเคาะแป้นพิมพ์ของถงเหมี่ยวเหมี่ยวเป็นครั้งคราว

มู่อวี้เฉิงยังคงสะสางที่ทำค้างไว้อยู่บนโซฟา

บรรยากาศแปลก ๆ ลอยตัวอยู่กลางอากาศ

เวลายังคงเดินต่อไปแต่ละวินาที

ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มมืดสนิท

ในที่สุดคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็แสดงกล่องพรอมต์*(1)ขึ้นมาในช่วงเวลาประมาณตีสามกว่า

*(1) พรอมต์ คือ ระบบปฏิบัติการในโปรแกรมวินโดว์ที่เปรียบเสมือนล่ามคำสั่ง สามารถใช้สั่งการทำงานทุกอย่างที่ต้องการ

เธอทำการเชื่อมต่ออีกสองสามครั้งจนกระทั่งเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรจึงเงยหน้าขึ้นเตรียมจะเรียกหามู่อวี้เฉิง

แต่เธอกลับพบว่ามู่อวี้เฉิงกำลังนั่งกอดอกเอนกายพิงโซฟาราวกับเขาผล็อยหลับไป

ดวงตาของเขาปิดสนิทภายใต้แสงไฟสว่างจ้า ขนตา   เรียวหนาปัดลงราวกับขนแปรงซี่เล็ก

สีหน้าของเขาดูเย็นชาน้อยลงกว่าตอนตื่นและดูไม่เป็นอันตรายอะไร

นี่คือด้านที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่เคยเห็นมาก่อน

จนเธออดไม่ได้ที่จะจ้องมองเขา

ขณะที่เธอกำลังลังเลว่าจะปลุกเขาดีหรือไม่ จู่ ๆ คนที่ควรจะหลับอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาจนเห็นดวงตาชัดใสแจ๋ว

มู่อวี้เฉิงมองดูถงเหมี่ยวเหมี่ยวและถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “มีอะไร?”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรีบหันหน้าไปมองทางอื่น

เธอระงับความรู้สึกแปลกประหลาดใจและอาการร้อนตัว พยายามพูดด้วยน้ำเสียงปกติว่า “ระบบเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว      คุณจะมาดูมั้ย?”

มู่อวี้เฉิงไม่ได้ปฏิเสธอะไร

เขาลุกขึ้นและก้าวขาเรียวยาวเดินตรงเข้าไปหา              ถงเหมี่ยวเหมี่ยว

ขณะที่เขาเดินเข้ามาใกล้ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวได้กลิ่นอำพันทะเลจาง ๆ ที่ลอยออกมาจากร่างกายของเขาอีกครั้ง

รวมถึงความรู้สึกกดขี่ที่ตามมา

จู่ ๆ เธอก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดที่เธอเพิ่งพูดออกไป

แต่ตอนนี้เสียใจไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรเพราะเขามายืนอยู่ข้างหลังเธอแล้ว

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวสูดลมหายใจเข้าลึกและพยายามจดจ่อไปที่งานตรงหน้า

เธอวางมือลงบนแป้นพิมพ์อีกครั้งและพูดตามหน้าที่ว่า “ตอนนี้ตัวโปรแกรมเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายในของทางบริษัทคุณแล้วแต่ยังมีการอัปเดตอยู่ คุณบอกให้ทีมวิศวกรของคุณมาดูแลต่อก็ได้ค่ะ”

เธอลุกออกจากเก้าอี้ หยิบโทรศัพท์มือถือกับเสื้อคลุมและบอกว่า “ฉันเสร็จธุระแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะคะ”

มู่อวี้เฉิงมองดูท้องฟ้าด้านนอกและพูดว่า “ดึกแล้ว เดี๋ยวผมจะให้คนไปส่ง”

“ไม่ต้องค่ะ ฉันกลับเองได้”

น้ำเสียงที่ไม่แยแสและห่างเหินดังออกมาจากฝั่ง            ถงเหมี่ยวเหมี่ยว

มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วขณะลุกขึ้นยืน

เขาไม่ชอบทัศนคติของถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอนนี้เอาเสียเลย

เขาเห็นว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวกำลังจะเดินออกไปจึงรีบคว้าข้อมือเธอขึ้นมาและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในเมื่อคุณไม่อยากให้คนอื่นไปส่ง งั้นผมก็จะไปส่งคุณเอง”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตกใจจนรีบร้องตะโกน “มู่อวี้เฉิงปล่อยฉันนะ!”

เธอดิ้นรนพยายามดึงข้อมือออกจากมือของมู่อวี้เฉิง

ทว่ามือของผู้ชายคนนี้กลับแข็งแกร่งเหนียวแน่นเป็นพิเศษ

เธอถูกบังคับให้ออกจากห้องทำงานและเข้าไปในลิฟต์

“มู่อวี้เฉิง คุณไม่เข้าใจที่ฉันพูดหรือไง? ฉันบอกว่าฉันไม่ต้องการให้คุณไปส่งฉัน ปล่อย!”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหงุดหงิดและจ้องมองเขาด้วยสายตาโกรธเคือง

มู่อวี้เฉิงเม้มริมฝีปากบาง สีหน้าดูไม่น่ามองนัก

เขารู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้ามีหนามทิ่มแทงอยู่ทั้งตัว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้หนามพวกนั้นมุ่งเป้าหมายมาทางเขา มันทำให้เขารู้สึกร้อนรนอย่างอธิบายไม่ถูก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด