ตอนที่ 15 อยู่ให้ห่างจากฉัน
ตอนที่ 15
อยู่ให้ห่างจากฉัน
ทันทีที่คำพูดดังกล่าวสิ้นสุดจบ ช่างเทคนิคที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เริ่มเหงื่อตก
เขาเป็นวิศวกรแนวหน้าของมู่กรุ๊ปแต่กลับจัดการงานได้ไม่เหมาะสมจนโปรแกรมเกิดปัญหาตามมา
ตอนนี้ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข แถมผู้หญิงยังต้องเข้ามารับผลที่ตามมาจากการกระทำของเขาอีก
กลัวว่าหลังจากนี้หน้าที่การงานของเขาจะไม่มั่นคงอีกต่อไป!
เขาคิดถึงเรื่องนี้และเหล่ตามองท่านประธาน ก่อนจะรีบพูดขอโทษขอโพย “ท่านประธาน ผมทำผิดพลาดจนเกิดความสูญเสีย ผมขอน้อมรับบทลงโทษของทางบริษัททุกประการครับ”
“ไม่เป็นไร นายยังไม่คุ้นเคยกับขั้นตอนนี้ดี ความผิดพลาดถือว่าเป็นเรื่องปกติ”
มู่อวี้เฉิงไม่ได้ละสายตาไปจากหน้าจอคอมพิวเตอร์
เขาเฝ้าดูการทำงานของถงเหมี่ยวเหมี่ยวเงียบ ๆ และเห็นว่าขั้นต่อการดำเนินการค่อนข้างยุ่งยาก หากใครยังไม่คุ้นเคยกับขั้นตอนดังกล่าวจะต้องเกิดข้อผิดพลาดตามมาอย่างแน่นอน
ช่างเทคนิครู้สึกโล่งใจที่ท่านประธานไม่ได้ไล่กวดข้อผิดพลาดของเขา
มู่อวี้เฉิงเมินเขา มองดูถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยสายตาเย็นชาและถามว่า “คืนนี้คุณอยู่จัดการได้มั้ย?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
เพราะสุดท้ายแล้วลูกชายเธอยังอยู่ที่บ้าน
เธอกังวลที่จะต้องทิ้งเสี่ยวเป่าไว้ที่บ้านเพียงลำพัง
แต่ถ้าจากไปตอนนี้ก็จะเป็นละทิ้งหน้าที่เช่นกัน
เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งและบอกว่า “ฉันขอออกไปโทรศัพท์ก่อนนะคะ”
เธอลุกขึ้นยืนเดินเลยมู่อวี้เฉิงและออกจากห้องทำงานไป
มู่อวี้เฉิงเลิกคิ้วขณะมองดูเธอเดินออกไป
จะโทรไปรายงานใครงั้นหรือ?
เด็กชายที่รับสายโทรศัพท์เมื่อครั้งล่าสุดที่เขาโทรไปหา ถงเหมี่ยวเหมี่ยวแวบเข้ามาในหัวทันที
โทรหาลูกเหรอ? หรือว่าโทรหาพ่อของลูกกันแน่?
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่รู้ว่ามู่อวี้เฉิงกำลังคิดอะไรอยู่
เธอเดินถือโทรศัพท์ออกมาข้างนอกและกดโทรหากู้ชิง “กู้ชิง คืนนี้ฉันรบกวนคุณไปดูแลลูกที่บ้านให้หน่อยได้มั้ย พอดีตัวเทคโนโลยีที่ทางเราส่งมอบให้มู่กรุ๊ปมีปัญหานิดหน่อย ฉันต้องอยู่จัดการปัญหาที่นี่ก่อน”
กู้ชิงไม่ปฏิเสธ
หลังจากวางสายแล้ว ถงเหมี่ยวเหมี่ยวโทรศัพท์หา เสี่ยวเป่าอีกครั้ง
“หม่ามี้~”
“เสี่ยวเป่า เดี๋ยวอีกสักพักคุณป้ากู้ชิงที่เป็นผู้ช่วยแม่จะแวะไปดูแลหนูที่บ้าน อย่าลืมเปิดประตูบ้านให้คุณป้ากู้ชิงด้วยล่ะ”
“แล้วหม่ามี้ล่ะ?”
“หม่ามี้ยังทำงานไม่เสร็จ คืนนี้คงจะกลับไปไม่ได้ หนูอยู่บ้านต้องเชื่อฟังคุณป้ากู้ชิงนะลูก รีบเข้านอนเร็ว ๆ ด้วยล่ะ เข้าใจมั้ย?”
“เข้าใจแล้ว หม่ามี้ก็พักผ่อนด้วยสิ อย่าทำงานหนักนัก”
เสี่ยวเป่าตอบรับอย่างเชื่อฟังจนทำให้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้สึกอบอุ่นหัวใจ
หลังจากวางสายแล้ว เธอเดินถือโทรศัพท์กลับเข้ามายังห้องทำงานและตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อ
มู่อวี้เฉิงปล่อยให้ลู่หมิงยืนประกบอยู่ด้านหลังและไล่พวกช่างเทคนิคให้กลับไปพักผ่อนก่อน
จนกระทั่งตกดึกลู่หมิงถือกาแฟเข้ามาเสิร์ฟสองแก้ว และมอบอีกแก้วหนึ่งให้ถงเหมี่ยวเหมี่ยว
“ขอบคุณค่ะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขอบคุณเขา
ลู่หมิงถามอีกครั้ง “คุณถงหิวหรือเปล่าครับ? อยากทานอะไรรองท้องสักหน่อยมั้ย?”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
ทันทีที่พูดจบ เสียงทุ้มของมู่อวี้เฉิงก็ดังก้องอยู่ในห้องทำงาน “ไปซื้อของกลับมาที กินอะไรรองท้องหน่อยน่าจะดีกว่า”
“ครับ” ลู่หมิงตอบรับคำสั่งและเดินออกไป
บรรยากาศในห้องทำงานกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจดจ่ออยู่กับคอมพิวเตอร์และใช้นิ้วกดแป้นพิมพ์เป็นครั้งคราว
จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าแสงไฟเหนือศีรษะหรี่ลงผิดปกติ
และได้ยินอำพันทะเลที่รู้จักเป็นอย่างดีแต่กลับไม่คุ้นเคย
เธอชะงักทันทีเมื่อปรายตามองและเห็นว่ามู่อวี้เฉิงยืนอยู่ข้างหลังเธอ
ถึงแม้ว่าระยะห่างระหว่างพวกเขาทั้งสองจะไม่ได้ใกล้กันมากนัก แต่กลิ่นอายความเป็นตัวเขากลับชัดเจนมากและเต็มเปี่ยมไปด้วยความกดขี่ตามแบบฉบับของเขา
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้สึกอึดอัดอยู่ครู่หนึ่ง
เธอเม้มปากและหันหน้ากลับไปดูว่า “คุณมู่ คุณไปทำธุระของคุณเถอะค่ะ ไม่ต้องมาเฝ้าหรอก คุณวางใจได้ ฉันจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย”
“ผมยืนอยู่ตรงนี้มันคงจะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับคุณถงใช่มั้ย?”
มู่อวี้เฉิงมองดูถงเหมี่ยวเหมี่ยวจากตำแหน่งสูง มุมนี้ทำให้เขาสามารถสังเกตเห็นถงเหมี่ยวเหมี่ยวได้ชัดเจน
ภายใต้แสงสว่างสีขาวนวลผู้หญิงคนนี้ไม่ได้แต่งหน้า แต่สีผิวของเธอกลับเหมือนหิมะที่สะท้อนแสงแดดยามเช้า
ผมลอนสีดำสยายอยู่เหนือหัวไหล่ ร่างกายส่งกลิ่นหอมจาง ๆ หลังจากอาบน้ำเสร็จ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าไม่ใช่เวลาทำงานหรือไม่ได้ใส่ชุดทำงาน
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงไม่ได้ดูก้าวร้าวเหมือนปกติ ราวกับว่าเธอถอดชุดเกราะกำบังออกและกลายเป็นคนอ่อนโยนขึ้น
หัวใจของมู่อวี้เฉิงเต้นแรงอย่างอธิบายไม่ถูก ดูใจลอยเล็กน้อย
จู่ ๆ คนตรงหน้าก็คล้ายคลึงกับคนในความทรงจำของเขา
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่รู้ว่ามู่อวี้เฉิงกำลังคิดอะไรอยู่
เธอรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ถูกเขาคนนี้จ้องมอง
โดยเฉพาะดวงตาสีหม่นของเขาที่ราวกับมักจะดึงดูดผู้คนเข้าไปข้างในอยู่เสมอ
เธอหันไปมองทางอื่น “คุณมัวมายืนอยู่อย่างนี้จะทำให้ฉันเสียสมาธิเปล่า ๆ”
มู่อวี้เฉิงยกยิ้มมุมปาก “โอ้? ผมนึกไม่ถึงว่าผมจะมีอิทธิพลต่อคุณถงขนาดนี้”
“...”
ดวงตาของถงเหมี่ยวเหมี่ยวฉายแววความรำคาญ
เธอจะพูดถึงความคิดที่อยู่ในใจออกไปได้อย่างไร?
เธอกระแอมเบา ๆ และแย้งว่า “คุณมู่เข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ ฉันแค่ไม่ชินกับการที่มีคนอื่นมายืนอยู่ข้างหลังเวลาทำงาน มันคือนิสัยการทำงานของฉัน หวังว่าคุณมู่จะเข้าใจนะคะ”
มู่อวี้เฉิงไม่ได้พูดอะไร เขามองดูถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยสายตาลึกซึ้งและโน้มตัวลง
“คุณจะทำอะไร?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวสะดุ้งตัวโหยงจนแทบจะกระโดดออกจากเก้าอี้
มู่อวี้เฉิงมองดูสีหน้าตกใจของเธอ ยกเอกสารในมือขึ้นและพูดด้วยเสียงทุ้มลึกแกมหยอกล้อชวนน่าหลงใหล “แล้วคุณตงคิดว่าผมจะทำอะไรล่ะครับ?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูเอกสารตรงหน้าด้วยความรู้สึกอับอายจนแทบอยากสิ้นใจตาย
แก้มทั้งสองข้างกำลังร้อนผ่าว “เอ่อ... ฉันจะทำงาน คุณมู่อย่าเข้ามาใกล้ฉันนักสิคะ คุณกำลังรบกวนสมาธิฉันอยู่!”
เธอเลิกสนใจมู่อวี้เฉิงและบังคับตัวเองให้หันกลับมาจดจ่อกับหน้าจอคอมพิวเตอร์
จนกระทั่งเธอตระหนักได้ว่าคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลังได้จากไปแล้ว เธอจึงแอบถอนหายใจด้วยความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
มู่อวี้เฉิงหยิบเอกสารแล้วเดินไปนั่งตรวจสอบที่โซฟา
บรรยากาศในห้องทำงานกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นานถงเหมี่ยวเหมี่ยวละสายตาออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ และหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาซึ่งไม่ไกลจากเธอนัก
ทรวดทรงคมชัดที่อยู่ภายใต้แสงไฟดูสมบูรณ์แบบไม่มีข้อบกพร่องแม้แต่จุดเดียว
โดยเฉพาะท่าทางที่กำลังจดจ่ออยู่กับการทำงานดูหล่อเหลามีเสน่ห์จนใคร ๆ ก็ละสายตาออกไปไม่ได้
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหวนนึกถึงภาพลักษณ์ของผู้ชายคนนี้เมื่อหลายปีก่อน
ในตอนนั้นเขานั่งจดจ่ออยู่กับหน้าที่การงานในห้องนั่งเล่นเช่นกัน
หากเป็นในตอนนั้นเธอคงจะเฝ้ามองเขาด้วยหัวใจที่สั่นระรัว
แต่พอเป็นตอนนี้...
จิตใจกลับสงบนิ่งนัก!
ขณะที่เธอกำลังจะละสายตาออก จู่ ๆ ชายคนที่กำลัง จดจ่ออยู่กับงานก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอ
สายตาทั้งสองคู่ประสานเข้าหากัน
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวชะงักเล็กน้อยจนทำอะไรไม่ถูก
ในขณะที่เสียงหัวเราะของเขาดังขึ้น “คุณถง ถ้าอยากจะมองผมก็มองมาตรง ๆ เลยสิครับ ผมไม่ใช่คนขี้งกสักหน่อย”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้สึกอับอายจนความร้อนแผ่ซ่านขึ้นมาบนแก้มของเธออีกครั้ง
มันน่าอับอายที่ถูกอีกฝ่ายจับได้ว่ากำลังแอบมองดูอยู่
เธอมองดูรอยยิ้มเยาะเย้ยของอีกฝ่ายและทำเป็นปากแข็งใส่ “คุณคิดมากไปหรือเปล่าคะ ฉันไม่ได้แอบมองคุณสักหน่อย ฉันก็แค่เหม่อลอยไปเรื่อย เอาล่ะ ฉันจะทำงานต่อแล้วค่ะ”
เธอพูดและไม่ได้สนใจท่าทีของมู่อวี้เฉิงอีกต่อไป เธอละสายตากลับ ดึงหน้าตึงดังเดิมและจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์