ตอนที่ 12 หม่ามี้อดเจอผู้ชายดี ๆ
ตอนที่ 12
หม่ามี้อดเจอผู้ชายดี ๆ
“คุณลุงสุดหล่อ ผมอยู่นี่ คุณลุงสุดหล่อ...” เขาโบกมือและร้องตะโกนอย่างสิ้นหวัง
แต่รอบข้างมีคนมากเกินและเสียงดนตรียังดังเจื้อยแจ้ว ทำให้มู่อวี้เฉิงไม่ได้ยินเสียงเขา
เสี่ยวเป่าวิตกกังวลเมื่อเห็นว่าเขากำลังเดินออกจากประตูไป
วันนี้หม่ามี้มาที่นี่ด้วยคงจะดีไม่น้อยถ้าคุณลุงสุดหล่อกับหม่ามี้ได้ทำความรู้จักกัน
เขาเด้งตัวออกจากบ้านลมทันทีและรีบบิดก้นวิ่งไล่ตามมู่อวี้เฉิงไป
“คุณลุงสุดหล่อ รอผมด้วย...” เขาร้องตะโกนขณะวิ่งไล่ตาม
ทว่ามู่อวี้เฉิงยังคงไม่ได้ยิน
เขาล้มเลิกการส่งเสียงร้องและวิ่งไล่ตามสุดกำลัง
แต่ขาสั้น ๆ ของเขาไม่สามารถวิ่งไล่ตามมู่อวี้เฉิงได้ทัน
โชคดีที่มู่อวี้เฉิงหยุดอยู่กับที่หลังจากก้าวเดินออกไปได้ระยะหนึ่ง
จนกระทั่งเสี่ยวเป่าไล่ตามทัน
เสี่ยวเป่าหอบจัดขณะคว้าขากางเกงของมู่อวี้เฉิง “คุณลุงสุดหล่อหยุดเดินสักที เสี่ยวเป่าวิ่งจนจะตายแล้วเนี่ย”
“เสี่ยวเป่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
มู่อวี้เฉิงประหลาดใจเมื่อมองดูเด็กชายตัวน้อยยื่นเหงื่อไหล่อยู่ข้างขาเขา
เสี่ยวเป่ายังคงหายใจหอยขณะคลี่ยิ้ม “ผมเล่นอยู่ที่โซนของเล่น พอเห็นคุณลุงผมก็วิ่งไล่ตามมาเลย”
มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้ว หันไปมองทางด้านหลังเสี่ยวเป่าและถามว่า “มาคนเดียวเหรอ?”
“ไม่ฮะ ผมมากับหม่ามี้ หม่ามี้ไปคุยโทรศัพท์”
เสี่ยวเป่าส่ายหน้าและเงยหน้าถามว่า “คุณลุงสุดหล่อยุ่งอยู่เหรอ?”
มู่อวี้เฉิงพยักหน้าและยกมือลูบผมที่ชี้โด่ชี้เด่ของเสี่ยวเป่า
ผู้บริหารกลุ่มหนึ่งมองดูท่าทางสนิทสนมของพวกเขาด้วยความประหลาดใจและรู้สึกสงสัยในตัวเสี่ยวเป่า
เด็กคนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใคร ทำไมท่านประธานถึงทำดีด้วยขนาดนี้?
มู่อวี้เฉิงเมินเฉยต่อสายตาอย่างรู้อยากเห็นของกลุ่มผู้บริหารและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เสี่ยวเป่า ลุงคงยุ่งอีกสักพักเลย หนูอย่าวิ่งไปมาล่ะ รีบกลับไปซะเดี๋ยวหม่ามี้ก็เป็นห่วงเอาหรอก”
“โอ๊ะ” เสี่ยวเป่าร้องอุทานขณะที่ใบหน้าดูผิดหวัง “คิดว่าจะได้เล่นกับคุณลุงซะอีก”
เขาเม้นปากน้อย ๆ ราวกับเด็กน้อยผู้น่าสงสารที่ถูกทอดทิ้ง
มู่อวี้เฉิงรู้สึกอดทนมองต่อไปไม่ไหว
ถึงอย่างนั้นเขายังมีธุระที่ต้องทำต่อ
เขาเอื้อมมือออกไปลูบผมชี้โด่ชี้เด่ของเสี่ยวเป่าและพูดชักชวน “เอาไว้คราวหน้าโทรมาหาลุงนะ เย็นนี้คงไม่ได้หรอก เดี๋ยวลุงให้คนไปส่งแล้วกัน”
เสี่ยวเป่ารู้สึกผิดหวังแต่กลับยังพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
มู่อวี้เฉิงมองดูและอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือออกไปลูบผมของเสี่ยวเป่าอีกครั้ง
“คุณลุงสุดหล่อหยุดลูบหัวสักที ผมของผมจะร่วงหมดแล้ว” เสี่ยวเป่ายกมือขึ้นมาปกป้องศีรษะของเขา
จนมู่อวี้เฉิงหลุดหัวเราะออกมา ทำให้กลุ่มผู้บริการที่ยืนอยู่ด้านข้างมองดูด้วยความประหลาดใจ
ท่านประธานของพวกเขากำลังหัวเราะอยู่จริง ๆ เหรอ?
ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของมู่อวี้เฉิงกลับจางหายไปทันทีเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าประหลาดใจของกลุ่มผู้บริหาร และกลับมาแสดงภาพลักษณ์เย็นชาตามปกติ
เขาจ้องมองกลุ่มผู้บริหารระดับสูงอย่างไม่แยแสและสั่งให้ใครบางคนพาเสี่ยวเป่ากลับไปส่ง
ในขณะเดียวกันชายร่างอวบเดินออกมาขออาสา “ท่านประธาน เดี๋ยวผมไปส่งเขาเองครับ”
มู่อวี้เฉิงพยักหน้าและบอกให้เสี่ยวเป่าออกไปกับเขา
เวลานี้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่อยู่ในโซนสวนสนุกกำลังเสียสติ
เธอไปโทรศัพท์กลับมาและพบว่าเสี่ยวเป่าหายไป
เธอสอบถามพนักงานดูแลบ้านลม แต่เนื่องจากว่ามีเด็กจำนวนมากเกินไป พวกเขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นว่าเสี่ยวเป่าหายไปตอนไหน
เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากออกตามหาลูกชายด้วยตัวเอง
“เสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่า!” เธอยกสองมือขึ้นมาป้องปากและร้องตะโกนเสียงดัง
เธอไม่ได้รู้สึกเกรงใจผู้คนที่เดินผ่านไปมาอีกต่อไป เดินเข้าไปขวางทางพวกเขา ไถ่ถามและทำท่าทาง “สวัสดีค่ะ พวกคุณเห็นเด็กชายตัวสูง ๆ ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงยีนเอี๊ยมบ้างมั้ยคะ?”
“ขอโทษนะครับ แต่ไม่เห็นเลย” ผู้คนที่เดินผ่านไปมาส่ายหน้าและเดินจากไป
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวคอยสอบถามผู้คนที่เดินผ่านไปมาแต่กลับได้รับคำตอบเดียวกัน
เธอตื่นตระหนกจนมือและเท้าเย็นเฉียบ น้ำเสียงเริ่มสะอึกสะอื้น “เสี่ยวเป่าอยู่ไหนลูก? เสี่ยวเป่า...”
เธอกำลังจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรแจ้งตำรวจ แต่เสียงของเสี่ยวเป่ากลับดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“หม่ามี้”
“เสี่ยวเป่า!”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหันมาด้วยความตื่นตระหนกและร้องดีอกดีใจที่เสี่ยวเป่าไม่เป็นอะไร
เธอวิ่งเข้าไปกอดเสี่ยวเป่าแน่นและร้องตะโกนขณะที่น้ำตาไหลลงมา “ไปไหนมา หนูไม่รู้เหรอว่าแม่เป็นห่วงแทบแย่!”
“หม่ามี้อย่าร้องไห้ เสี่ยวเป่าผิดเองที่วิ่งหนีไป” เสี่ยวเป่าลูบหลังของถงเหมี่ยวเหมี่ยวเบา ๆ
หลังจากนั้นไม่นานถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็สงบลง
เธอปล่อยตัวเสี่ยวเป่า หันไปมองชายวัยกลางคนที่อยู่ข้าง ๆ พวกเขาและถามว่า “คุณเป็นใครเหรอคะ?”
แต่ก่อนที่ชายวัยกลางคนจะพูดอะไร เสี่ยวเป่าก็โพล่งขึ้นว่า “หม่ามี้ เขาเป็นคุณลุงที่มาส่งผม”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรีบขอบคุณชายวัยกลางคนเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ขอบคุณมากนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ เสี่ยวเป่าเก่งมาก” ชายวัยกลางคนโบกมือและรีบขอตัวกลับไปทำงานต่อ
หลังจากชายวัยกลางคนเดินออกไปแล้ว ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็หุบยิ้มและตวาดเสียง “ถงเป่ยหาน!”
เสี่ยวเป่าตัวสั่น
เขารู้ดีว่าหม่ามี้กำลังโกรธจัด
เพราะเมื่อไหร่ที่หม่ามี้โกรธจัด หม่ามี้มักจะเรียกเขาด้วยชื่อจริงเสมอ
“หม่ามี้ ผมรู้แล้วว่าผมผิด อย่าโกรธนักสิ”
เขากะพริบตาเบา ๆ ดวงตากลมโตที่เปียกชื้นเล็กน้อยและแสดงสีหน้าท่าทางออดอ้อนจนทำให้อีกฝ่ายในอ่อนจนไม่กล้าตำหนิเขา
หัวใจของถงเหมี่ยวเหมี่ยวอ่อนยวบลงทันที
แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้เธอกลับพูดด้วยสีหน้าจริงจังอีกครั้ง “อย่าคิดว่าอ้อนแล้วเรื่องวันนี้จะจบลง! หม่ามี้ก็บอกแล้วไงว่าอย่าวิ่งไปไหน แม่ออกไปคุยโทรศัพท์แป๊บเดียวเดี๋ยวกลับมา!”
“แต่หม่ามี้ออกไปนานแล้วก็ยังไม่กลับมาสักที อีกอย่างผมแค่วิ่งออกไปหาคุณลุงสุดหล่อ”
เสี่ยวเป่าทำหน้ามุ่ยขณะพูดปกป้องตัวเอง และอดไม่ได้ที่จะพูดตำหนิ “หม่ามี้จะออกไปคุยโทรศัพท์ทำไมเนี่ย รู้มั้ยว่าอดเจอผู้ชายดี ๆ เลย!”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เธอมองดูเสี่ยวเป่าที่ทำหน้าบูดบึ้ง “พูดแบบนี้จะหาว่าเป็นความผิดของหม่ามี้เหรอ?”
เสี่ยวเป่าที่รู้สึกถึงภัยอันตรายจากคำพูดของเธอรีบทำท่าทางน่ารักออดอ้อนทันที “หม่ามี้จะผิดได้ยังไงเล่า เสี่ยวเป่าผิดเอง เสี่ยวเป่าไม่ควรวิ่งไปหาคุณลุงสุดหล่อ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวถอนหายใจและไม่พูดอะไรอีก
เสี่ยวเป่าเล่นสนุกจนกระทั่งถึงตอนเย็นถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงพาเขากลับบ้าน
...
เช้าวันรุ่งขึ้น ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเดินทางไปส่งเสี่ยวเป่าและเข้าไปที่บริษัท
หลังจากนั่งลงได้ไม่นานเซ่าหมิงเวยก็เดินเข้ามาเคาะประตู “ผู้จัดการ ผมต้องขอโทษที่รบกวนผู้จัดการให้ไปที่ มู่กรุ๊ปแทนผมเมื่อสองวันก่อนด้วยนะครับ หากผมเป็นต้นเหตุให้ความร่วมมือทั้งสองบริษัทล่าช้าลง บาปของผมคงจะใหญ่หลวงนัก”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้ว่าเซ่าหมิงเวยกำลังพูดถึงเรื่องการลงนามในเอกสารสัญญาที่มู่กรุ๊ป เธอจึงบอกว่าไม่เป็นอะไร
เธอชี้นิ้วให้เซ่าหมิงเวยนั่งลง “ในเมื่อมู่กรุ๊ปสั่งซื้อใบอนุญาตทางเทคโนโลยีไปแล้ว เราก็ไปสนใจโครงการใหม่ ๆ กันเถอะ”
เธอพูดและหยิบเอกสารขึ้นมาวางไว้ตรงหน้าเซ่าหมิงเวย “นี่คือเอกสารเกี่ยวกับโครงการใหม่ ฉันวางแผนจะเข้าไปครอบครองพื้นที่ของมู่กรุ๊ป คุณช่วยไปจับตาดูแผนกวางแผนด้วย คอยเร่งให้พวกเขาทำงานให้เสร็จภายในหนึ่งอาทิตย์”
เซ่าหมิงเวยมองดูข้อมูลตรงหน้าด้วยความหนักใจ
เธอคนนี้ทำงานรวดเร็วและเฉียบขาดมากจริง ๆ แต่เขาจะนำเสนอแผนการที่ดีที่สุดในช่วงระยะเวลาอันสั้นได้อย่างไร
ดูเหมือนว่าคนเบื้องล่างจะต้องทำงานล่วงเวลาอีกแล้ว