ตอนที่แล้วตอนที่ 117: เจี่ยฟู่เกอช่างมีเสน่ห์จริง ๆ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 119: ไม่มีปัญหาที่เขาแก้ไม่ได้!

ตอนที่ 118: ราวกับเทพเซียนเสด็จสู่โลกหล้า!


“กายาเสวียนเฟิง!” เซียวเฟยตื่นตะลึง!

ปรากฎว่าหลิงเอ๋อไม่ได้ป่วย แต่เกิดมาพร้อมกับกายาที่หายาก

หลินซวนเอ่ย“พรสวรรค์ทางร่างกายนี้ไม่สูงมาก ทว่าต้องมีความอดทนและมีใช้เวลายาวนานในการปลุก หากสามารถผ่านไปได้ ก็จะมีอายุขัยที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน.”

“เพราะสิ่งที่เรียกว่า เป็นตายเก้าชีวิตนั้น ก็คือเส้นทางเพื่อก้าวสู่ความเป็นอมตะ.”

เซียวเฟย, มู่โหย่วชิง, จิงไห่ และคนอื่น  ๆ พยักหน้าอย่างเงียบ  ๆ

ตามที่คาดไว้ ตี้ฟู่มีองค์ความรุ้มากมายและลึกซึ้ง.

“แล้วหลิงเอ๋อจะตื่นได้อย่างไร” เซียวเฟยเอ่ยถามด้วยความกระตือรือร้น

หลินซวนเพิ่งเอ่ยว่าการนิพพานครั้งแรกของเซียวหลิงเอ๋อนั้นยากที่สุด.

นั่นก็หมายความว่ายังคงมีอันตรายและตัวแปรมากมาย.

ถ้านางไม่ประสบความสำเร็จในการนิพพาน เช่นนั้นก็หมายความว่านางอาจไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย.

ทว่าในเมื่อมีหลินซวนอยู่ด้วย เซียวเฟยมั่นใจว่าจะต้องมีวิธีช่วยเหลือหลิงเอ๋อได้อย่างแน่นอน.

หลินซวนเอ่ย“เจ้าต้องค้นหาเหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสวรรค์ ให้พบภายในเก้าสิบเก้าวัน และนำหัวใจของมันมาให้เซียวหลิงเอ๋อ ซึ่งจะช่วยให้นางประสบความสำเร็จในการนิพพานครั้งแรกอย่างแน่นอน!”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เซียวเฟยก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.

ตี้ฟู่มีหนทางจริง ๆ!

“ขอบพระทัย ตี้ฟู่!” เซียวเฟยกำหมัดด้วยความตื่นเต้นขณะหันหน้าไปมองเซียวหลิงเอ๋อ "หลิงเอ๋อ แม้ว่าพี่ชายจะต้องค้นหาไปทั่วดินแดนอมตะเก้าสวรรค์ ก็ต้องช่วยเจ้าจับเหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสวรรค์มาให้เจ้าให้ได้!"

แน่นอนว่าเหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสวรรค์นั้นเป็นสัตว์ที่หายากมาก.

พวกมันชอบซ่อนตัวอยู่ในภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ โดยมีลาวาหลอมเหลวที่ร้อนจัดซึ่งยากต่อการดักจับ

อย่างไรก็ตาม เพื่อเห็นแก่เซียวหลิงเอ๋อ เซียวเฟยก็ตัดสินใจอย่างหนักแน่น.

ในเวลาเดียวกันนั้น นายพลคนหนึ่งที่รีบก้าวเข้ามา.

“ฝ่าบาท ภูเขาไฟนอกเมืองกวางหยางปะทุขึ้นอย่างกะทันหัน และลาวาก็ไหลออกมายาวหลายพันลี้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อเมืองและประชาชนเป็นอย่างมาก!”

เซียวเฟยขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งนี้: "ภูเขาไฟในเมืองกวงหยางไม่ได้รับการคุ้มครองโดยกองทัพพิเศษหรอกรึ? ทำไมมันถึงเป็นอันตรายต่อเมือง?"

นายพลเอ่ยว่า: "ว่ากันว่ามีสัตว์อสูรเหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสวรรค์ขนาดใหญ่กำลังสร้างคลื่นความร้อนในภูเขาไฟ ทำให้กองกำลังพิเศษยากที่จะรับมือได้"

เมื่อได้ยิน ดวงตาของเซียวเฟยก็สว่างขึ้นทันที.

เหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสวรรค์.

ช่างบังเอิญเป็นอย่างมาก.

เขาเอ่ยอย่างกระตือรือร้น: "สั่งกองทัพที่ประจำการอยู่ที่นั่นปกป้องความปลอดภัยของเมืองด้วยกำลังทั้งหมด แล้วข้าจะพาคนไประงับภัยพิบัติด้วยตัวเอง!"

"รับด้วยเกล้า!" เมื่อได้ยินเช่นนี้ นายพลก็หันหลังและจากไปทันที

และเมื่อเซียวเฟยกำลังจะบอกลาหลินซวน นายพลอีกคนก็เร่งรีบเข้ามา.

“ฝ่าบาท กองทัพอสูรเริ่มโจมตีเมืองเฟิงฉีของพวกเรา และตอนนี้ทั้งเมืองเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ข้าเกรงว่าจะไม่สามารถรับมือพวกมันได้นาน!”

"นี้…"

เซียวเฟยผงะไปครู่หนึ่ง

เขาได้เอาชนะเผ่าอสูรทั้งหมดที่เข้ามาบุกรุกชายแดนในครั้งนี้แล้ว

แม้นว่าจะได้ยินข่าวว่าเขาถูกปลด เขาก็คิดว่ากลุ่มอสูรจะไม่สร้างปัญหาในระยะเวลาสั้น ๆ นี้ แล้วเขาค่อยรีบกลับไป.

โดยไม่คาดคิด เพียงแค่ครึ่งวัน กองทัพอสูรก็กลับมาอีกครั้งแล้ว.

นอกจากนี้ เมืองเฟิงฉียังเป็นเมืองที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทางชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือ

หากปล่อยให้กองทัพอสูรเข้ามาได้ ย่อมเป็นอันตรายต่อเมืองหลวงทันที.

มือซ้ายต้องจับเหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสวรรค์ และมือขวาก็ต้องรักษาเสถียรภาพของประเทศเยว่ชาง.

สิ่งนี้ทำให้เซียวเฟยตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่พักหนึ่ง

“เผ่าพันธุ์อสูรสารเลว ข้าจะนำกองกำลังของข้าไปต่อสู้ และกวาดล้างพวกเจ้าทุกตนอย่างแน่นอน!”

“แต่...หากไม่จับเหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสวรรค์... น้องสาวของข้า…”

ท่าทางที่ซับซ้อนพัวพันและ วิตกกังวลปรากฏบนใบหน้าของเซียวเฟย

“อมิตาพุด! ประสกเซียว เจ้าสามารถจัดการกับเผ่าพันธุ์อสูรได้เลย อาตมาจะช่วยจัดการจับเหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสรรค์เอง!”

จิงไห่เห็นเซียวเฟยตกอยู่ในภาวะที่อักอ่วนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

จึงตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยจับเหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสวรรค์เพื่อให้อีกฝ่ายมุ่งเน้นเพื่อดูแลกิจการของชาติ.

เซียวเฟยยิ้มด้วยความดีใจ: "ต้องรบกวนใต้ซือแล้ว!"

จิงไห่มีฐานบ่มเพาะของอาณาจักรเสมือนจักรพรรดิ และเขาย่อมสามารถจับเหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสวรรค์ได้อย่างแน่นอน.

ด้วยเหตุนี้เซียวเฟยจึงสามารถที่จะวางใจ ยกทัพเข้ารับมือกับเผ่าอสูรได้.

หลังจากทักทายหลินซวนแล้ว เซียวเฟยก็รีบก้าวไปพร้อมกับนายพล

“เจี่ยฟู่เกอ อย่างไรซะยังมีเวลาอยู่ไม่น้อย ก่อนถึงงานชุมนุมกระบี่รุ่นเยาว์ พวกเราไปยังเมืองกวงหยางด้วยกันดีหรือไม่?”

มู่โหย่วชิงให้ตงหวงเห่าหยูและคนอื่น  ๆ ไปยังสวนราชวังเพื่อฝึกกระบี่ จากนั้นนางก็มาหาหลินซวนเอ่ยด้วยความคาดหวัง.

หลินซวนเอ่ยออกมาว่า "เจ้าต้องการปรับแต่งกระดูกสันหลังของเหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสวรรค์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับกระบี่ชิงหลวนของเจ้างั้นรึ?”

อสูรเหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสวรรค์ที่ควบคุมภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นได้ต้องเป็นอสูรเต็มตัวเต็มวัย.

เหยี่ยวเพลิงสายฟ้าเพลิงสวรรค์ที่โตเต็มวัยย่อมเป็นอสูรยักษ์เหนือระดับสาม.

กระดูกสันหลังของมันสามารถที่จะหลอมเข้ากับกระบี่เพื่อเพิ่มพลังได้.

โดยเฉพาะกระบี่ชิงหลวนของมู่โหยวชิงที่ทำมาจากกระดูกสันหลังของชิงหลวนโบราณ.

กระดูกสันหลังของเหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสวรรค์ ย่อมเข้ากันได้อย่างกลมกลืนกับกระบี่ชิงหลวนของนาง.

มู่โหย่วชิงเผยยิ้มอย่างสวยงาม: "ไม่อาจปกปิดเจี่ยฟู่ได้จริง ๆ"

นางคิดกับตัวเองเสมอว่าเจี่ยฟู่ของนางมีพลังมากมายจนสามารถมองผ่านความคิดทั้งหมดของนางได้อย่างรวดเร็ว.

หลินซวน พยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจนัก: "ถ้าอย่างนั้นก็ไปเถอะ"

"เสด็จพ่อไปกันเถอะ!"

“ใช่เสี่ยวอี พวกเราไปดูเหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสวรรค์กัน!”

เมื่อเห็นหลินซวนและมู่โหยวชิงพูดคุยกันอยู่นั้น เสวียนจู่ เสวียนหาน เสวียนซีและเสวียนหยู ก็วิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว.

จิงไห่เหลือบมองฮุยเหนิงแล้วเอ่ยออกมาว่า:

“พวกเราก็รีบเดินทาง ไม่เพียงแค่จับเหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสวรรค์ ยังช่วยชาวเมืองกวงหยางด้วย.”

หลังจากเอ่ยจบ เขาก็คว้าฮุยเหนิงเร่งฝีเท้าติดตามพวกหลินซวนไป.

ครึ่งชั่วโมง หลินซวนและคนอื่น ๆ ก็เดินทางเกือบ 50,000 ลี้

ทางเหนือของเมืองที่อยู่ด้านหน้า เต็มไปด้วยเปลวเพลิงที่ลุกโชน.

คลื่นความร้อนที่แผ่ออกมา.

ดูเหมือนว่ามันกำลังจะบุกทะลวงกำแพง กลืนทุกสิ่งทุกอย่างของเมืองอย่างต่อเนื่อง.

ฮุยเหนิงอดไม่ได้ที่จะเผยความจริงจัง“พระอาจารย์ มันไม่ง่ายเลยที่จะหยุดทะเลเพลิงที่ใหญ่ขนาดนี้!”

"ทำให้ดีที่สุด!"

จิงไห่กระตุ้นแก่นแท้ในร่างกายของเขาทันที และแสงสีทองของอำนาจพุทธก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา.

เขาได้ใช้ทักษะระฆังทองช้างมังกรเพื่อปกป้องกำแพงเมืองเอาไว้.

และในเวลาเดียวกันนั้น.

แสงสีฟ้าที่ส่องสว่างก็ล่วงหล่นลงใจกลางเมืองกวางหยาง.

ในชั่วพริบตาเดียว แสงสีฟ้าก็กระจายลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าปกคลุมทั่วทั้งเมืองเอาไว้ด้วยความเร็วที่ไม่อาจจินตนาการถึงได้.

ซูมมมม~

ทันใดนั้นฝนก็ตกหนังลงมาราวกับฟ้ารั่วไหลบ่ายังกับแม่น้ำเหลืองเก้าสาย.

คลื่นน้ำที่ปะทะเข้ากับเปลวเพลิง พร้อมกับลดความร้อนทั้งหมดลงอย่างรวดเร็ว.

จิงไห่ที่เงยหน้าขึ้น มองไปยังหลินซวน พร้อมกับเผยความตื่นเต้นดีใจ“นี่คือฝีมือของตี้ฟู่!”

เขาบอกได้ทันทีว่านี่คือ “มหาค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าวิถี!” ซึ่งเป็นค่ายกลโบราณ.

ฟู่~บูม!

ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าวิถีที่ดับไฟในเมือง ลดอุณหภูมิลงอย่างลวดเร็ว.

อย่างไรก็ตามแมกมาร้อนที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยลี้ก็ยังคงส่งผลต่อพื้นที่รอบ ๆ.

ด้วยเหตุนี้ หลินซวนที่วาดมือสร้างผนึกสีน้ำเงินและโยนออกไปอีกครั้ง.

หวึ่ง ๆ! -

ทันใดนั้นแสงสีฟ้าที่ปกคลุมท้องฟ้าปกปิดดวงตะวัน.

ก้อนศิลาสีน้ำเงินขนาดใหญ่ก็ทำการแบ่งพื้นที่ขวางลาวาเอาไว้.

ทะเลลาวาถูกแยกออกจากเมืองกวงเหยา ปิดกั้นพื้นที่รัศมี 300,000 ลี้เอาไว้ทันที.

ไม่ว่าลาวาจะร้อนอย่างไรก็ไม่อาจเคลื่อนที่เข้าใกล้กำแพงเมืองกวงเหยาได้อีกต่อไป.

ดวงตาของจิงไห่สั่นไหว”นี่คือมหาค่ายกลฮุ่นหยวนหลง ค่ายกลโบราณที่น่าเกรงขาม ด้วยค่ายกลนี้เมือง กวงหยางไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว.

แทบจะในทันที.

ผู้คนนับล้านในเมืองกวงหยางที่ตกอยุ่ในความสับสนวุ่นวายและเงียบลงทันที ด้วยการปรากฎตัวของสองค่ายกล.

พวกเขาตระหนักได้ว่าได้รับการคุ้มครองปกป้องเรียบร้อยแล้ว จึงได้แสดงความเคารพต่อหลิงชวน.

“บุรุษชุดขาวนั้นเหมือนกับเทพเซียนเสด็จสู่โลกหล้าเพื่อช่วยขจัดภัยพิบัติให้กับปวงประชา!”

“สองค่ายกลโบราณในคราวเดียว จะต้องเป็นเทพเจ้าแน่ ๆ!”

“ลักษณะท่าทางของเขาราวกับผู้เป็นอมตะมาเยือนโลกหล้า น่าชื่นชมยิ่งนัก!”

ในสายตาของผู้คนนับล้าน ล้วนแต่เต็มไปด้วยความชื่นชมเป็นอย่างมาก.

มู่โหย่วชิงหันมาหาหลินซวนและเผยยิ้ม: "เจี่ยฟู่ ภูเขาไฟเต็มไปด้วยเถ้าถ่านและอากาศสกปรก ท่านพาเด็ก  ๆ ไปรอในเมืองสักพักเถอะ!"

หลินซวนพยักหน้า: "ได้"

เมื่อภูเขาไฟระเบิด อุณหภูมิไม่เพียงแต่ร้อนเท่านั้น แต่ยังมีฝุ่นที่เต็มไปด้วยสารพิษ ไม่ควรนำเด็กเข้ามาใกล้.

ยิ่งไปกว่านั้นหลินซวน รู้สึกว่าด้วยความแข็งแกร่งของมู่โหยวชิงและจิงไห่ ที่มีขอบเขตกึ่งจักรพรรดิ ย่อมสามารถจัดการกับเหยี่ยวสายฟ้าเพลิงสวรรค์ได้.

ภายใต้การจ้องมองของผู้คนนับล้าน เขาก็พาเด็ก ๆ เข้ามาในเมืองกวงหยาง.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด