ตอนที่ 11 ไม่เจอก็ต้องเจอ
ตอนที่ 11
ไม่เจอก็ต้องเจอ
ระหว่างทางถงเหมี่ยวเหมี่ยวเริ่มคิดมากและอารมณ์ไม่ดี
แต่เธอกลับสงบสติอารมณ์ได้ทันทีเมื่อมาถึงบริษัท
เธอกลับเข้าไปในห้องทำงาน
ทันทีที่นั่งลง วิดีโอก็เด้งขึ้นมาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
เป็นสายวิดีโอเรียกเข้าจากทางสำนักงานใหญ่ที่ขอให้เธอรายการสถานการณ์ปัจจุบันของที่นี่
“ฉันขายลิขสิทธิ์เทคโนโลยีออกไปแล้วค่ะ และรู้ข้อมูลส่วนที่เหลือภายในองค์กรหมดแล้ว” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรายงานตามความเป็นจริง
สำนักงานใหญ่พึงพอใจกับการทำงานที่มีประสิทธิภาพของเธอมาก
“ดีมาก ต่อไปคุณมุ่งเน้นไปที่การขยายแผนการทางธุรกิจ และยกระดับความสำเร็จทางสาขาให้สูงขึ้นอีกสักนิดหนึ่ง”
“ฉันจะพยายามค่ะ”
หลังจากพูดคุยเรื่องงานเสร็จ การประชุมก็จบลง
ห้องทำงานตกอยู่ในความเงียบสงบอีกครั้งหลังจากวางสายวิดีโอ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวนั่งหมุนเก้าอี้ไปมา เรียวนิ้วยาวเคาะลงบนโต๊ะเบา ๆ
เธอต่อสายโทรศัพท์บนโต๊ะและโทรหาหัวหน้าแผนกทรัพยากรฝ่ายบุคคล “มาหาฉันที่ห้องทำงานหน่อย”
เธอตั้งใจจะเลื่อนตำแหน่งให้พนักงานกลายมาเป็นผู้ช่วย
เซ่าหมิงเวยเพียงลำพังคนเดียวไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้ทุกเรื่อง ดังนั้นเธอจึงต้องการดูประวัติการทำงานและความสามารถของพนักงาน
หลังจากนั้นไม่นานผู้จัดการฝ่ายบุคคลก็เดินเข้ามาเคาะประตูห้อง “ผู้จัดการเรียกหาผมเหรอครับ?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าและออกคำสั่ง “คุณไปรวบรวมรายชื่อพนักงานที่อยู่ในบริษัทมานานกว่าสามปีขึ้นมาให้ฉันหน่อยสิคะ”
ถึงแม้ว่าผู้จัดการฝ่ายบุคคลจะไม่เข้าใจความหมาย ทว่าเขากลับทำตามคำสั่งโดยไม่เอ่ยถามอะไร
ประสิทธิภาพการทำงานของเขาค่อนข้างใช้ได้
เขาเดินถือรายชื่อพนักงานกลับมาที่ห้องทำงานภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
“ผู้จัดการ นี่คือรายชื่อของพนักงานครับ” เขาวางรายชื่อเอาไว้บนโต๊ะ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหยิบขึ้นมาไล่ดูรายชื่อทีละคน
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลไม่สามารถระงับความอยากรู้อยากเห็นในใจได้ จึงถามขึ้นว่า “ผู้จัดการอยากได้ไปทำไมเหรอครับ?”
“ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากได้ผู้ช่วยที่มีความสามารถน่ะค่ะ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่ได้ปิดบังอะไร เธอพูดตามความจริงและถามอีกครั้งว่า “คุณอยากจะแนะนำใครมั้ยคะ?”
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลตกตะลึง
หลังจากได้สติกลับคืนมา เขาต้องการจะนำเสนอตัวเอง ทว่าสุดท้ายแล้วเขาพูดแนะนำพนักงานคนอื่นอีกสองคนให้ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวฟัง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูประวัติโดยย่อของทั้งสองคนและรู้สึกไม่พึงพอใจอย่างมาก
“ช่างเถอะ ฉันลองดูอีกสักครั้งแล้วกัน”
เธอวางประวัติทั้งสองคนลงและหยิบรายชื่อขึ้นมาคัดกรองอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นานเธอหยิบประวัติของใครบางคนออกมาวางลงข้างหน้าผู้จัดการฝ่ายบุคคล “คนนี้ค่ะ ไปบอกให้เธอมารายงานตัวกับฉันที”
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลมองลงไปและเห็นว่าเป็นผู้หญิงชื่อกู้ชิง
เขาตอบตกลงทันที หันหลังกลับและไปพาเธอเข้ามา
กู้ชิงรู้สึกตื่นเต้นมากที่ตัวเองได้รับคัดเลือกเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ถึงกระนั้นก็ยังรู้สึกกังวลเล็กน้อย
เนื่องจากว่าความเข้มงวดของถงเหมี่ยวเหมี่ยวเป็นที่รู้จักกันดีในบริษัท
เธอกลัวว่าตัวเองจะถูกไล่ออกหากทำงานได้ไม่ดีพอ
กู้ชิงคิดในใจและเดินตามผู้จัดการฝ่ายบุคคลเข้าไปในห้องทำงาน
“ผู้จัดการ กู้ชิงมาแล้วครับ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารและมองดูหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านข้างผู้จัดการฝ่ายบุคคล
ผู้หญิงคนนี้สวมใส่ชุดทางการสีเทา ในหน้าประวัติส่วนตัวเขียนว่าเธออายุสามสิบกว่าแล้ว แต่เมื่อมองดูกลับรู้สึกว่าเธอเหมือนหญิงสาวที่มีอายุยี่สิบกว่า ๆ เท่านั้น เครื่องสำอางบนใบหน้าไม่ได้ถูกแต่งแต้มจนหนาหรือบางจนเกินไป ผมถูกรวบตึงไว้ทางด้านหลังอย่างเรียบร้อย ดูมีความสามารถและกระฉับกระเฉง
เธอพยักหน้าและพูดเบา ๆ “คุณคงรู้เหตุผลที่ฉันเรียกคุณมาที่นี่แล้ว การที่คุณจะมานั่งทำงานข้างฉัน ฉันสนใจแค่สองสิ่งเท่านั้น หนึ่งคือประสิทธิภาพและสองคือผลลัพธ์”
กู้ชิงพยักหน้า “ฉันจะไม่ทำให้ผู้จัดการต้องผิดหวังค่ะ”
“ดีมาก ส่วนคุณออกไปได้”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขอให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลออกไปก่อน จากนั้นจึงมอบหมายงานให้กู้ชิง
เธอพึงพอใจกับผู้ช่วยคนใหม่มาก
นอกจากเหนือจากความสงบในการทำงานแล้ว ภาพลักษณ์ในการทำงานโดยรวมและประสบการณ์เก่าแก่ที่พกติดตัวมาก็ดีมากเช่นกัน
พนักงานคนอื่น ๆ ในบริษัทต่างพากันอิจฉาที่กู้ชิงได้เลื่อนตำแหน่ง
พวกเขาพากันจับกลุ่มนินทาและมีหลายคนที่ต่อต้านการทำงานของกู้ชิงอย่างรุนแรง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเมื่อเห็นว่ากู้ชิงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้
ขณะนี้การขายใบอนุญาตทางเทคโนโลยีเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว หลายวันต่อมาถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงอุทิศตนให้กับการขยายธุรกิจ
บริษัทสตีเฟนดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก แต่ยังมีธุรกิจเสริมอีกมากมาย
วันนี้เธอดำเนินการเปิดโครงการตามปกติ ซึ่งย่อมมีการแข่งขันเป็นธรรมดา และการแข่งขันในครั้งนี้คือที่ดินแห่งหนึ่งในเขตชานเมือง
เธอวางแผนจะขยายย่านธุรกิจขนาดใหญ่บนที่ดินผืนนั้น
เธอตัดสินใจเช่นนั้นและขอให้กู้ชิงไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินมาให้
ตกบ่าย กู้ชิงเข้ามาส่งข้อมูล
ร่างกายของถงเหมี่ยวเหมี่ยวแข็งทื่อเมื่อมองดูข้อมูลบนเอกสาร
สิทธิ์ครอบครองที่ดินผืนนั้นที่เธอให้ความสนใจอยู่ในกำมือของมู่กรุ๊ป!
เธอเม้มปากแน่น
นึกไม่ถึงว่าหลังจากความร่วมมือเสร็จสิ้นแล้ว เธอจะต้องเข้าไปพัวพันกับผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง!
“ผู้จัดการ ข้อมูลผิดเหรอคะ?” กู้ชิงมองดูสีหน้าของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวและถามขึ้นด้วยความวิตกกังวล
“ไม่ผิด ให้แผนกวางแผนวางแผนที่จะเป็นไปได้โดยด่วนที่สุด” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวถอนหายใจเมื่อกลับมาได้สติอีกครั้ง
เธอไม่เคยคิดว่าจะต้องเจอมู่อวี้เฉิงอีกเลย แต่สถานการณ์ปัจจุบันกลับบีบบังคับให้เธอต้องเจอเขา!
เธอระงับอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ในใจและสั่งการด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ครั้งนี้การแข่งขันไม่ง่าย ถ้าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างมู่กรุ๊ปไม่ต้องการแผนธุรกิจที่น่าทึ่ง ฉันก็เกรงว่าเขาจะไม่แลเลยด้วยซ้ำ ไปบอกคนในแผนกวางแผนว่าให้ตั้งใจทำงานให้ดี”
“ค่ะ” กู้ชิงตอบรับคำสั่งและเดินออกไป
...
ในเย็นวันนั้นถงเหมี่ยวเหมี่ยวเลิกงานตรงเวลาและออกไปรับเสี่ยวเป่าทันที
แต่เธอไม่ได้พาเสี่ยวเป่ากลับบ้านโดยตรง
ตลอดช่วงวันที่ผ่านมา เธอมัวแต่ยุ่งอยู่กับการออกใบอนุญาตทางเทคโนโลยีและการปฏิรูปองค์กรจนไม่มีเวลาพาเสี่ยวเป่าออกไปเที่ยวเล่นรอบ ๆ
วันนี้เธอมีเวลาว่างพอดีจึงตั้งใจพาเสี่ยวเป่าออกไปมองดูรอบ ๆ
เสี่ยวเป่าที่นั่งอยู่ในรถยนต์ตื่นเต้นมากเมื่อรู้ข่าวดี
ถ้าแม่ไม่ได้กำลังขับรถอยู่ เขาคงจะจุ๊บหวานใส่แม่สักที
แม่กับลูกชายพากันออกไปกินข้าวเย็นข้างนอก และไปเดินเล่นกันต่อในย่านธุรกิจขนาดใหญ่ใจกลางเมือง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวซื้อเสื้อผ้าให้เสี่ยวเป่าหลายชุด
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเดินออกมาจากร้านขายเสื้อผ้าเด็กแล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย พูดถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “เสี่ยวเป่า อยากไปเล่นที่ไหนอีกมั้ย?”
“หม่ามี้ เราไปเล่นที่โซนสวนสนุกข้างนอกสักแป๊บได้มั้ยฮะ?”
เสี่ยวเป่าแหงนหน้ามองถงเหมี่ยวเหมี่ยว ดวงตากลมโตระยิบระยับราวกับดวงดาว ดูน่ารักสดใส
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่มักจะพาเสี่ยวเป่าออกมาวิ่งเล่นไม่ได้พูดปฏิเสธอะไร
เธอพาเสี่ยวเป่าออกไปเล่นที่โซนสวนสนุกด้านนอก
แต่หลังจากเดินผ่านไปได้ครึ่งทาง เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอบอกให้เสี่ยวเป่าไปเล่นบ้านลมรอ จากนั้นจึงเดินไปทางที่เงียบสงบเพื่อรับสายโทรศัพท์
เสี่ยวเป่ากำลังเล่นสนุกอยู่ในบ้านลม แต่จู่ ๆ ก็เหลือบเห็นร่างที่คุ้นเคยจากทางหางตา
วันนี้มู่อวี้เฉิงเดินทางมาตรวจดูงานพร้อมกับกลุ่มผู้บริหารห้างสรรพสินค้า
เสี่ยวเป่าจดจำเขาได้ในทันทีและรู้สึกตื่นเต้นมาก “คุณลุงสุดหล่อ คุณลุงสุดหล่อ...”
เขาวิ่งเหยาะ ๆ มาที่ริมขอบบ้านลง ร้องตะโกนและโบกไม้โบกมือไปยังทิศทางของมู่อวี้เฉิง