ตอนที่แล้วตอนที่ 9 ไม่ชอบคลุมถุงชน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 ไม่เจอก็ต้องเจอ

ตอนที่ 10 เธอจะไม่มีทางเข้าไปพัวพัน


ตอนที่ 10

เธอจะไม่มีทางเข้าไปพัวพัน

ซ่งอวี่ซีมองดูเขาเดินจากไป ขณะที่มือข้างหนึ่งกำตะเกียบเอาไว้แน่นจนผิวหนังกลายเป็นสีขาวซีด

หากไม่ใช่เพราะตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในที่สาธารณะ เธอคงจะแสดงสีหน้าน่าเกลียดน่ากลัวออกมา

เธอเหลือบมองลิ่นอวี๋เหยียนที่กำลังขุ่นเคืองและแสร้งทำเป็นเศร้าใจ “คุณน้าลิ่น ลืมเรื่องนี้ไปเถอะค่ะ หนูว่าอวี้เฉิงคงจะไม่ชอบหนูหรอกค่ะ”

ลิ่นอวี๋เหยียนจะเห็นชอบได้อย่างไร

เพราะซ่งอวี่ซีเป็นผู้สมัครคนโปรดของเธอ

เธอปลอบใจ “อวี่ซี หนูอย่าเพิ่งถอดใจสิจ๊ะ ตอนนี้เจ้าเด็กอวี้เฉิงกำลังมุ่งมั่นไปที่การงาน ยังไม่เข้าใจอะไร รอให้เขาคิดได้ก่อนเถอะ อีกอย่างน้าน่ะชอบหนู รู้จักหนูมานานแล้วและอยากได้หนูมาเป็นลูกสะใภ้!”

“จริงเหรอคะ?” ดวงตาของซ่งอวี่ซีเป็นประกายทันที

เธอรู้สึกราวกับมีความหวังอีกครั้ง

ลิ่นอวี๋เหยียนยิ้มและพยักหน้า “จริงสิจ๊ะ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวน้าช่วยเอง”

หมู่อวี้เฉิงไม่รู้ถึงแผนการที่ก้าวหน้าไปไกล

เขากลับออกไปสะสางงานที่บริษัทต่อ

ต่อมาเขาได้รับสายโทรศัพท์จากเฮ่อจิ่นเหยียน เพื่อนสนิทที่โทรมาชวนไปดื่มเหล้า

และเขาเองก็ไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน

...

เช้าวันรุ่งขึ้น ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไปส่งเสี่ยวเป่าที่โรงเรียนอนุบาลและรีบเข้ามาที่บริษัท

หลังจากเธอเข้ามานั่งห้องทำงานได้ไม่นาน พนักงานคนหนึ่งก็เดินมาเคาะประตู “ผู้จัดการคะ รองผู้จัดการป่วยขอลาหยุดหนึ่งวันค่ะ เดิมทีรองผู้จัดการต้องไปเซ็นสัญญาที่มู่กรุ๊ป แต่ตอนนี้ไม่มีใครไปแทนเขาได้ ผู้จัดการคิดว่า...”

“เข้าใจแล้ว ฉันจะไปแทนรองผู้จัดการเอง คุณออกไปได้”

“ค่ะ” พนักงานเดินจากไปด้วยความโล่งอก

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก

เดิมทีเธอคิดว่าหลังจากเสร็จสิ้นโครงการแล้ว เธอจะไม่ต้องเจอหน้ามู่อวี้เฉิงอีก

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะมั่นใจเรื่องนี้เร็วเกินไป

สุดท้ายแล้วถึงเธอจะรู้สึกฝืนใจแต่ก็ยังรับเอกสารสัญญาไปลงนามที่มู่กรุ๊ปอยู่ดีเพราะนั่นเป็นหน้าที่ที่เธอต้องรับผิดชอบ

เมื่อมาถึงสำนักงานของมู่กรุ๊ป

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเงยหน้ามองตึกที่สูงตระหง่านราวกับ   พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า

ถูกล้อมรอบไปด้วยอาคารหลายตึก  แต่กับไม่มีอาคารไหนสง่างามเท่ากับตึกที่อยู่ตรงหน้าเธอ

ตัวอาคารที่อยู่ภายใต้แสงแดดสีทองเปล่งประกายสวยงาม

หลังจากนั้นไม่นานถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงเดินเข้าไปที่แผนกต้อนรับและพูดอย่างใจเย็นว่า “สวัสดีค่ะ ฉันมาพบท่านประธานค่ะ”

น้ำเสียงของเธอดึงดูดความสนใจอย่างมากเมื่อพูดประโยคดังกล่าวออกมา

หญิงสาวที่แผนกต้อนรับมองดูถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยความสงสัยและถามตามขั้นตอนว่า “ได้นัดเอาไว้หรือเปล่าคะ?”

“ไม่ค่ะ แต่ฉันมาจากบริษัทสตีเฟน” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดรายงานตัว

หญิงสาวร่างน้อยที่แผนกต้อนรับตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณผู้หญิงรอสักครู่นะคะ ฉันจะไปแจ้งเจ้านายให้ค่ะ”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าและหันไปมองรอบ ๆ

ต้องบอกว่าแผนกต้อนรับของทางมู่กรุ๊ปมีความเป็นมนุษยธรรมสูงมาก

มีพื้นที่สำหรับรับแขกและมีห้องน้ำโดยเฉพาะ

การตกแต่งก็อลังการงานสร้างมากเช่นกัน

ผู้คนมากมายที่เดินเข้าเดินออกมีรอยยิ้มฉายถึงความมั่นใจปรากฏอยู่บนใบหน้า

ขณะที่กำลังมองดูอยู่นั้น เสียงของพนักงานต้อนรับก็ดังขึ้น “คุณผู้หญิงเชิญทางนี้เลยค่ะ” เธอชี้ทางให้ถงเหมี่ยวเหมี่ยว

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขอบคุณและเดินจากไป

เธอเดินออกมาจากลิฟต์และเห็นว่าลู่หมิงยืนอยู่ข้างหน้าประตู จึงพยักหน้าให้เบา ๆ “ผู้ช่วยลู่”

“ผู้จัดการถง ท่านประธานกำลังรออยู่ในห้องทำงานครับ”

ลู่หมิงพาถงเหมี่ยวเหมี่ยวเข้าไปในห้องทำงาน

เขาเคาะประตู “ท่านประธาน ผู้จัดการถงมาแล้วครับ”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเดินเข้ามาและเห็นว่าเขานั่งตัวตรงอยู่บนโต๊ะด้วยสีหน้ามุ่งมั่น

แสงแดดสีทองจากทางด้านหลังส่องประกายตกลงมากระทบกับร่างกายของเขา ใบหน้าด้านข้างเกิดส่วนเว้นส่วนโค้งอย่างสมบูรณ์แบบจนยากที่จะละสายตาออกไป

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตกอยู่ในภวังค์ขณะที่เผลอสบตาเข้ากับดวงตาลุ่มลึกโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว

เธอลดระดับสายตาลงทันทีราวกับว่าหวาดกลัว

เธอทำหน้านิ่งราวกับพยายามปกปิดจิตใจที่กระสับกระส่ายและพูดเข้าประเด็น “ฉันแวะมาเซ็นเอกสารค่ะ ประธานมู่อยากจะอ่านสัญญาอีกรอบไหมคะ?”

มู่อวี้เฉิงส่งเสียงฮึมฮัมและเดินออกมาจากโต๊ะทำงาน

เขาสั่งให้ลู่หมิงออกไปเตรียมน้ำชาและโบกมือให้           ถงเหมี่ยวเหมี่ยวนั่งลงบนโซฟา

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวนั่งลงและส่งเอกสารให้

มู่อวี้เฉิงเดินเข้ามาและพลิกหน้าเอกสารดูคร่าว ๆ

ขณะเดียวกันลู่หมิงกำลังนำน้ำชามาเสิร์ฟ

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขอบคุณเขา จากนั้นจึงมองไปที่มู่อวี้เฉิงที่ยังคงสงบนิ่งและมีความเป็นมืออาชีพ ก่อนจะพูดถึง              พันธสัญญาว่า “ตัวสัญญาไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนทางด้านเทคโนโลยี หากหลังจากนี้เกิดปัญหาอะไร ทางเราจะส่งทีมงานมืออาชีพมาดูแลถึงที่ให้ค่ะ”

เธอพูดและมองดูมู่อวี้เฉิงที่เพิ่งอ่านสัญญาเสร็จ

“ดีมาก วันนี้ผมจะโอนเงินไปให้ครับ”

เขาวางเอกสารสัญญาลง หยิบปากกาหมึกซึมที่ถูกสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษออกมาจากกระเป๋าเสื้อและตวัดมือลงนามอย่างกระฉับกระเฉง

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูลายเซ็นสละสลวยด้วยสายตา   ชื่นชม

เธอพยักหน้า “ฉันจะส่งคนไปตรวจสอบ หวังว่าหลังจากนี้ความร่วมมือของเราจะผ่านไปด้วยดีนะคะ”

“หวังว่าอย่างนั้นเช่นกันครับ” มู่อวี้เฉิงตอบรับเบา ๆ

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเห็นว่าธุระของเธอเสร็จสิ้นแล้วและไม่ได้วางแผนที่จะอยู่ต่อจึงเดินกลับออกไป

แต่หลังจากเดินกลับออกมาแล้ว ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอซ่งอวี่ซีที่หน้าประตู

เดิมทีเธอต้องการแสร้งทำเป็นไม่รู้จักอีกฝ่าย แต่กลับดูขวางเอาไว้

“ถงเหมี่ยวเหมี่ยว ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

ซ่งอวี่ซีเดินเข้ามาหาถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยหน้าถมึงทึง กัดฟันและถามว่า “เธอคิดจะเข้ามาพัวพันอวี้เฉิงสินะ? ฉันขอเตือนเธอไว้ก่อนว่าให้อยู่ห่าง ๆ ตอนนี้เขาเป็นของฉันแล้ว!”

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้สึกเจ็บแปล๊บในใจทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น

เธอมองดูซ่งอวี่ซีด้วยสีหน้าเรียบนิ่งและพูดออกมาอย่างเฉยชา “เธอก็คิดมากจัง ฉันแค่มาทำธุระเอง อีกอย่าง...”

เธอหยุดพูดก่อนจะยกยิ้มมุมปากราวกับกำลังประชดประชัน “ฉันไม่คิดจะเป็นมือที่สามทำลายครอบครัวของคนอื่นหรอกนะ”

“เธอหมายความว่ายังไง?” ซ่งอวี่ซีจ้องเขม็งไปที่              ถงเหมี่ยวเหมี่ยว

เธอรู้สึกว่าหล่อนกำลังพูดพาดพิงเรื่องราวบางอย่างอยู่

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยักไหล่ ยิ้มเยาะและพูดว่า “ไม่ได้หมายความว่าอะไร ฉันก็แค่พูดไปเรื่อยเปื่อย เธอไม่เห็นจำเป็นจะต้องอ่อนไหวกับเรื่องนี้เลยนี่”

“ถงเหมี่ยวเหมี่ยว!” ซ่งอวี่ซีกัดฟันแน่น

แต่ก่อนที่เธอจะตอบโต้อะไร ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาและพูดดูถูกว่า “ถ้าคุณซ่งจะกังวลขนาดนี้                  ฉันขอแนะนำเป็นการส่วนตัวว่าให้ตามไปเฝ้ามู่อวี้เฉิงตลอดทั้งวันเลยน่าจะดีกว่า ฉันยังมีอย่างอื่นที่ต้องทำต่อ ขอตัวล่ะ”

เธอและเดินผ่านซ่งอวี่ซีไปโดยไม่ได้หันกลับไปมอง

ซ่งอวี่ซีจ้องมองแผ่นหลังของถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยสายตามืดมน

เธอกัดฟันจ้องเขม็งจนดูน่ากลัว

ถงเหมี่ยวเหมี่ยว หวังว่ามันจะเป็นความร่วมมือจริง ๆ อย่างที่เธอพูดนะ ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่!

ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขับรถกลับมาด้วยอารมณ์ที่ขุ่นเคือง

ถึงแม้ว่าวันเวลาจะผ่านพ้นมานานหลายปี แต่เธอกลับยังรู้สึกไม่พอใจทุกครั้งที่เห็นหน้าซ่งอวี่ซี

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนึกถึงตอนที่หล่อนกับมู่อวี้เฉิงใช้เวลาร่วมกัน

ในเมื่อทั้งสองคนมีใจให้กันมาตั้งแต่แรก แล้วทำไม     มู่อวี้เฉิงถึงตกลงปลงใจมาหมั้นหมายกับเธอ

ถ้าเขาบอกเธอ เธอจะไม่มีทางเข้าไปพัวพันกับเขา และจะยุติการหมั้นหมายกับเขา!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด