คนที่พิเศษ
“นายน้อยเชิญทางนี้เลยค่ะ”สาวรับใช้กล่าวออกมาเมื่อเธอเห็นนายน้อยของเธอเดินออกจากห้องมาในชุดเรียบๆไม่ได้ตกใจกับความหล่อเหลาของเขาเลยแม้แต่ไหนเพราะเธอนั้นชินตาแล้วการที่ต้องเจอคนหล่อแบบนี้ทุกวันเดิมทีก็เป็นสิ่งที่ดีแต่เธอนนั้นคุ้นชินไปกับมันแล้ว
หวังหยวนไม่ได้รับรู้ความคิดของสาวรับใช้แต่อย่างใดตอนนี้เขาแค่รู้สึกตื่นเต้นและยินดีมากกว่าเพราะดวงตาสรรพสิ่งนี้สามารถมองได้ทุกสิ่งจริงๆไม่เว้นแม้แต่สิ่งมีชีวิต
ชื่อ ซูมู่ สาวใช้ คฤหาสน์ตระกูลหยวน
อายุ 25 ปี
ความสามารถ บริหาร หนึ่งดาว หุ้นหนึ่งดาว งานบ้านสามดาว
เขาเริ่มคาดหวังกับชีวิตในอนาคตของตนเองมากขึ้นเรื่อย ๆแล้วแต่ก่อนอื่นเขาต้องรู้ให้ได้ว่าพ่อของเขานั้นไปแย่งโปรเจคนั้นมาจากใคร
สาวใช้พาหวังหยวนมาถึงห้องรับประทานอาหารเสร็จก็ก้มหัวและเดินจากไปหวังหยวนมองเข้าไปในนั้นมีเพียงสองคนเท่านั้นที่อยู่หนึ่งพ่อบ้านชราปิงหยางเขาไม่รู้เช่นกันว่าพ่อบ้านคนนี้อยู่มากี่ปีแล้วเพราะเขาไม่คิดจะสนใจแต่ตั้งแต่เกิดและลืมตาดูโลกเขาก็เห็นอีกฝ่ายแล้ว
ส่วนชายวัยกลางคนที่ไม่ได้ดูแตกต่างจากหวังหยวนมากนักนั้นก็กำลังกินน้ำซุปกระดูกหมูอย่างเงียบๆอยู่ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมา
“มาแล้วเหรอนั่งสิ”หวังหลินกล่าวเพียงเท่านั้นก่อนที่เขาจะก้มลงไปกินซุปกระดูกหมูต่อช่างเป็นการทักทายที่ไร้รสชาติและจืดชืดแต่แบบนี้ก็สมกับเป็นพ่อเขาดีหวังหยวนส่ายหน้าออกมา
“พ่อผมต้องการไปตลาดเทียนหมิน”หวังหยวนกล่าวออกมา
“ตลาดเทียนหมินตลาดเสี่ยงโชคที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้นั้นนะเหรอแกจะไปทำไมกัน”หวังหลินกล่าวถามออกไปอย่างงุนงงร้อยวันพันปีลูกชายเขาถ้าไม่เข้าไนท์คลับก็ไปร้านคาราโอเกะแต่่วันนี้กับเอ่ยปากอยากไปตลาดเทียนหมินงั้นเหรอ?
หรือว่าตอนนั้นไอ้ลูกคนนี้มันนอนตกเตียงและหัวกระแทกพื้นรึเปล่าแต่ไม่น่าใช่เตียงใหญ่ขนาดนั้นกลิ้งตกก็เกินไปหน่อย
“เอาน่าพ่อคนเราต้องมีการเปลี่ยนแปลงบ้างนิจริงไหม”หวังหยวนกล่าวออกมาเขาจะไม่รู้สายตาที่สงสัยของพ่อตัวเองได้ยังไง
“เอาละฉันจะให้หลี่หมินตามแกไปก็แล้วกัน”หวังหลินกล่าวออกมาเขาไม่เซ้าซี้ลูกชายหรอกมันอยากทำอะไรก็ทำเพราะเซี่ยงไฮ้นี้พวกเขาคือผู้ปกครอง
“อ้อพ่อผมคิดว่าจะย้ายจากสายการแสดงไปเป็นบริหารพ่อจัดการให้ผมด้วยละ”หวังหลินกล่าวออกมาก่อนที่เขาจะลุกเดินออกจากโต๊ะไปหาไรกินข้างนอกดีกว่าเงินตั้งเยอะแต่กลับทำแต่ซุปกระดูกหมูกับข้าวต้มนี้นะ?
คราวนี้ไม่ใช่แค่หวังหลินแล้วที่แปลกใจแม้แต่พ่อบ้านชราปิงหยางก็แปลกใจเหมือนกันเชื่อไหมว่าตลอดสิบเก้าปีมานี้นายน้อยของตนนั้นไม่คิดจะอยากบริหารบริษัทต่อจากนายท่านเลยแม้แต่น้อย!
“แปลกๆแฮะหรือว่ามันนอนตกเตียงแล้วหัวกระแทกจริงๆ”หวังหลินกล่าวอย่างครุ่นคิดและจริงจัง
“นายท่านบางทีนายน้อยอาจเติบโตแล้วก็ได้”แน่นอนว่าปิงหยางถึงเขาจะกล่าวออกไปแบบนั้นแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่อยากเชื่อเลย
“เอาเถอะนายอย่าลืมไปจัดการเปลี่ยนคณะให้ไอ้เด็กนี้ด้วยละถ้ามันโวยวายขึ้นมาละก็พวกเราสองคนต้องปวดหัวแน่ๆ”หวังหลินโยนงานทันทีและทานซุปกระดูกหมูต่ออย่างสบายใจ
หวังหยวนที่เดินตามโถงทางเดินมาเรื่อยหลังจากใช้เวลาไปกว่ายี่สิบนาทีในที่สุดตัวเขาก็เดินมาถึงโรงจอดรถสักที
“แม่งคฤหาสน์หลังใหญ่ก็ดีอยู่หรอกแต่กว่าจะถึงโรงรถแม่งเสียเวลาฉิบหายทำไมพ่อไม่สร้างโรงจอดรถใต้ดินเอาวะ”หวังหยวนบ่นออกมาก่อนที่เขาจะเห็นชายวัยกลางคนรูปร่างสมส่วนกำยันหน้าตาดุดันใส่ชุดสูธรัดรูปแนบไปกล้ามเนื้อย่างสวยงามดูราวกับงานศิลปะชิ้นเอก
“หลี่หมิน”หวังหยวนกล่าวออกมา
“ครับนายน้อย”หลี่หมินที่ยืนเหม่ออยู่หน้าประตูโลงรถก็ได้สติกับมาทันทีจากเสียงเรียกขานของนายน้อยของตัวเองเขาได้รับหน้าที่ในการปกป้องดูแลนายน้อยคนนี้จากนายท่านพูดแล้วในคฤหาสน์หลังนี้ก็มีบอดีการ์ดกว่าสามร้อยคนและทุกคนต่างก็เป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งในกองทัพหรือไม่ก็วงการใต้ดินทั้งนั้น
และตัวเขาเองก็ไม่ได้สุดยอดอะไรขนาดนั้นด้วยอยู่แค่กลางๆแต่กลับได้รับมอบหมายในการปกป้องทายาทเพียงคนเดียวนี้ก็ค่อนข้างที่จะกดดันอยู่ไม่น้อยดีหน่อยที่นายน้อยของเขาชอบไปสถานที่ที่อยู่ในการครอบครองของบริษัทหวังกรุ๊ป
“ขึ้นรถเถอะเอา Rolls-Royce Boat Tail ลูกรักฉันไปแล้วกันและตรงไปที่ตลาดเทียนหมิน”หวังหยวนกล่าวออกมาก่อนที่เขาจะเดินขึ้นรถไปทันที
“อ่าครับ..ห๊ะไปไหนนะครับนายน้อย”หลี่หมินกล่าวออกมาอย่างตกใจ
“ตลาดเทียนหมินไง”หวังหยวนพูดขึ้นมาอีกรอบ
“อ่าได้ครับ”หลี่หมินถึงจะยังงงๆแต่เขาก็รีบขึ้นรถและขับออกไปตามทางพิเศษใช้แล้วทางพิเศษเป็นเส้นทางที่ตระกูลหวังกว้านซื้อไปกว่าร้อยไร่เพื่อทำถนนสำหรับตัวเองขึ้นมาในการเดินทางที่แสนติดขัดของเซี่ยงไฮ้
ในระหว่างการเดินทางหวังหยวนก็เกิดสนใจขึ้นว่าหลี่หมินนั้นแข็งแกร่งแค่ไหนเขาจึงลองตรวจสอบดู
ชื่อ: หลี่หมิน บอดีการ์ดตระกูลหวัง
อายุ: 31 ปี
ความสามารถ: ภาษาต่างประเทศ 4 ดาว(อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี สเปน) มวยไทย 2 ดาว MMA 5 ดาว เทควันโด้ 3 ดาว การใช้ปืนสั้น 4 ดาว ปืนยาว 3 ดาว
“เออและแบบนี้นี้มันเก่งหรือไม่เก่งกันวะ”หวังหยวนงงงวยเพราะเขายังไม่รู้เกณฑ์์การตัดสินของดวงตาสรรพสิ่งนี้เลย
[ติ๊ง สำหรับมนุษย์ธรรมดานั้น 7 ดาวถือได้ว่าเป็นขีดสุดแล้วแต่ไม่ใช่ว่าก้าวข้ามไม่ได้เพราะบนโลกนี้มีคนไปถึงระดับ 9 ดาวมาแล้วในประวัติศาสตร์ เช่น ไอแซคนิวตัน เป็นต้น]
“โหวงั้นระดับของหลี่หมินก็ถือว่ากลางๆสินะ”หวังหยวนพูดเพราะระหว่างเดินทางมาโรงรถเขาเจอบางคนที่มีความสามารถระดับ 7 ดาวสองสามคนและถ้ามันเป็นขีดจำดัดละก็พวกเขาถือว่าสุดยอดแล้ว
“ในเมื่อมันมีจักรวาลมากมายนั้นมันแบ่งความสามารถยังไงงั้นเหรอระบบ”หวังหยวนกล่าวถามออกไปอย่างสนใจใคร่รู้
[ติ๊ง จริงๆแล้วโฮสต์ไม่มีสิทธิ์รับรู้แต่ด้วยการที่ท่านและข้าเป็นคนที่พิเศษยิ่งกว่าจึงมีสิทธิ์รับรู้]
“หมายความว่าไง”หวังหยวนกล่าวถามออกไปอย่างหวั่นๆ
[ติ๊ง หนึ่งข้าเป็นระบบที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุด และท่านถูกย้อนกลับมาโดยพลังที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของจักรวาลนี้เป็นตัวตนระดับกาแลคซี่ ส่วนการแบ่งขั้นความสามารนั้นก็ง่ายๆ ดวงดาว ดาวเคราะห์ กาแลคซี่ และจักรวาล]
“งั้นเหตุผลที่โค๊กธรรมดาสามารถช่วยผู้ฝึกตนชรานั้นได้ก็เป็นเพราะเจ้างั้นเหรอ”หวังหยวนถามในสิ่งที่คาใจของตนมาตลอด
งั้นก็หมายความว่าถ้าเขาได้เคล็ดวิชาของพวกจักรวาลฝึกตนมานั้นไม่ใช่ว่าแค่เขาขยับตัวโลกแตกเลยเหรอ?
[ติ๊ง ถูกต้องแล้ว แต่ท่านไม่ต้องห่วงหรอกอย่างมากท่านก็อยู่ที่ 9 ดาว เท่านั้นเพราะไม่อาจก้าวข้ามระดับดวงดาวระดับ 9 ไปได้นอกสะจากท่านจะออกไปท่องจักรวาลอื่น เพราะนี้เป็นขีดจำกัดที่โลกท่านจะรับไหว อย่างมากท่านก็ไปถึงระดับเก้าดาวเท่านั้นไม่ว่าวิชานั้นจะสุดยอดเท่าไหร่ก็ตาม แต่ถ้าให้ข้าแนะนำท่านควรแลกเปลี่ยนพวกเทคโนโลยีมากกว่าเพราะมันไม่ได้จำกัดขอเพียงได้รับแบบแปลนหรือวัสดุมาเพียงพอท่านก็สามารสร้างได้แล้ว]
“อ่าใช่นั้นตรงกับความคิดฉันพอดีแต่แกบอกว่าไม่สามารกำหนดได้ไม่ใช่รึไง”หวังหยวนถอนหายใจออกมาเขายังไม่อยากมีพลังที่จะถล่มทั้งโลกตอนนี้หรอกถ้าอยากได้แบบนั้นก็ต่อเมื่อเขายินอยู่บนจุดสูงสุดของโลกนี้ก่อนแล้วกันค่อยออกไปท่องจักรวาลก็ยังไม่สาย!
“แล้วอีกอย่างฉันจะไม่โดนสอดส่องจากพระเจ้านั้นใช่ไหม”หวังหยวนถามออกไป
[เขาทำไม่ได้แล้ว]
“ฮืม!!ทำไมกัน”หวังหยวนสงสัย
[สิ่งนี้ท่านไม่อาจรับรู้ได้เพราะเกี่ยวข้องกับตัวตนต้องห้ามแล้วอีกอย่างข้าบอกไปแล้วว่าพวกเราสองคนนั้นพิเศษเพราะฉะนั้นท่านไม่ต้องห่วงต่อจากนี้ไปจักรวาลที่เกี่ยวข้องนั้นจะเป็นจักรวาลที่เทคโนโลยีก้าวข้ามโลกไปแล้วแน่นอน]
“นั้นก็ดี”หวังหยวนทำได้เพียงเชืี่อใจระบบเท่านั้นและเขาก็ไม่ถามด้วยเพราะถามไปก็คงไม่ได้คำตอบ
“ว่าแต่เจ้ามีชื่อไหมเรียกระบบต่อไปแบบนี้ก็ดูไม่ดีเท่าไหร่เพราะยังไงนายก็พิเศษกว่าคนอื่นนิถูกไหม”หวังหยวนกล่าวถาม
[ไม่มี]
“งั้นนายก็ชื่อ เทียนเต๋าแล้วกันเป็นไงฟังดูยิ่งใหญ่ใช่ไหม”หวังหยวนกล่าวออกมา
[เป็นชื่อที่ดีขอบคุณโฮสต์มาก] เทียนเต๋าพูดออกมา
“นายน้อยครับถึงตลาดเทียนหมินแล้ว”หลี่หมินกล่าวออกมาเพราะเขาเห็นนายน้อยของตนหลับตามาตลอดทางแน่นอนว่าหวังหยวนคุยกับเทียนเต๋าผ่านความคิด
“โอเค”หวังหยวนกล่าวออกมาก่อนที่เขาจะมองออกไปทางกระจกรถก่อนที่จะเห็นผู้คนพลุ่งพล่านและเสียงร้องตระโกนโหวกเวกโวยวายในการต่อราคากัน
นี้แหละตลาดเทียนหมินตลาดเสี่ยงโชคที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้!!!