บทที่ 30 ไม่ใช่เรื่องปกติ
ความอ่อนแอบางครั้งก็เกิดจากการฝึกฝนหนักเกินไป
เกาเถิงนอนหลับสนิทจนถึงเวลาเที่ยงคืนและเขาได้รับความสามารถใหม่【ธาตุสายฟ้า】
เขาอยากได้ความสามารถนี้มากเพราะสามารถใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นร่างกายเพื่อเพิ่มความเร็วและความแข็งแกร่งได้
【เพิ่มความเร็ว】บวกกับ 【ธาตุสายฟ้า】 ทำให้เขาเคลื่อนไหวและหนีได้อย่างรวดเร็วซึ่งเพิ่มโอกาสรอดชีวิตมากยิ่งขึ้น
เกาเถิงลงไปดื่มน้ำข้างล่าง
ตอนนี้ฟางเหมิงเริ่มฝึกอีกครั้งแล้วจริงๆด้วย
“ฉันชื่นชมในความพยายามของเธอมาก ไม่รู้สึกเหนื่อยบ้างงั้นหรอ?”
เกาเถิงเดินไปที่ตู้เย็นในห้องครัวแล้วเปิดเพื่อหยิบขวดน้ำแร่ออกมาหนึ่งขวดและดื่มไปสองสามอึก
"เหนื่อย...เหนื่อยสิ แต่...ฉันรู้สึกว่า...มันคุ้มค่า...สำหรับตัวเอง..."
ฟางเหมิงตอบทั้งที่หายใจหอบขณะกำลังกระโดดกบ
เกาเถิงส่ายหัว ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนว่าร่างกายของเขาหนักขึ้นแม้แต่เดินลงมาชั้นล่างก็ยังเจ็บปวด
ฟางเหมิงเสร็จสิ้นการฝึกกระโดดกบ เธอเช็ดเหงื่อด้วยผ้าขนหนูแล้วมองไปยังเกาเถิงและพูดว่า "นายจะมาฝึกพร้อมกับฉันไหม เห็นนายไปพักผ่อนมานานร่างกายคงจะฟื้นตัวแล้ว”
"ฉันไม่เคยฝึกหนักขนาดนี้มาก่อนดังนั้นต้องเพิ่มการฝึกทีละนิดทีละหน่อยเพื่อให้ร่างกายคุ้นชินกับมัน งั้นฉันไปนอนต่อก่อนแล้วเจอกันพรุ่งนี้"
เกาเถิงรีบพูดอย่างรวดเร็วและขึ้นไปชั้นบนราวกับว่าเขากำลังวิ่งหนี
ฟางเหมิงแสดงรอยยิ้มแห่งชัยชนะและเริ่มฝึกฝนอีกครั้ง
เช้าตรู่
เกาเถิงถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงเคาะประตู
เขาค่อยๆลุกขึ้นอย่างง่วงนอนแล้วลุกขึ้นสวมรองเท้าแตะเพื่อไปเปิดประตู
"ทำไมถึงมาเคาะประตูห้องผู้ชายแต่เช้ากันละเนี่ย"
ก่อนที่จะเห็นหน้าฟางเหมิงเกาเถิงก็ได้บ่น
"กรี๊ดดด!"
ฟางเหมิงกรีดร้องใบหน้าของเธอร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วลิ้นทั้งหมดพันกันแล้วพูดว่า “นายกำลังทำอะไรอยู่!!”
"เธอเป็นอะไรของเธอกัน"
เกาเถิงเหลือบมองเห็นน้องชายของเขาที่ตื่นตั้งแต่ตอนเช้า
"นี่...นี่..."
หัวใจของฟางเหมิงตื่นตระหนกมากและเธอไม่รู้ว่าจะวางสายตาไปที่ไหน
"ไปแต่งตัวก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน"
ฟางเหมิงลงไปชั้นล่างราวกับกำลังหลบหนี
เมื่อเธอจากไปเกาเถิงก็เกาหัวแล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำชั้นบนก่อนที่จะลงไปยังชั้นล่าง
ฟางเหมิงนั่งตัวตรงบนโซฟาด้วยความรู้สึกอึดอัด
"เธอมีอะไรจะคุยกับฉัน"
เกาเถิงนั่งข้างฟางเหมิงและตบไหล่เธอโดยสัญชาตญาณ
ฟางเหมิงขยับหลบไปทางซ้ายด้วยระยะห่างที่ไกลมากและพูด "นาย...นาย...ห้ามแตะต้องฉัน..."
“เมื่อกี้ฉันแค่ไม่ใส่กางเกงในทำไมเธอถึงต้องตื่นเต้นขนาดนี้?”
"ฉัน...ตื่นเต้นงั้นหรอ?"
"ฉันเข้าใจแล้วว่าเมื่อมนุษย์ทุกคนเห็นสัตว์ประหลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนปฏิกิริยาแรกของพวกเขาคือตกใจ กลัว และคงจะตื่นเต้น"
"ใครตื่นเต้นกัน!"
ฟางเหมิงใช้หมอนทุบ
"ใช่แล้วเธอไม่ควรตื่นเต้นเพราะเธอคงไม่ได้ใช้งานมัน แถมฉันยังไม่สนใจความรักหนุ่มสาวด้วย ฉันแค่อยากเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก"
"ใครจะใช้กัน!"
ฟางเหมิงตะโกนด้วยความโกรธ
"เอาล่ะ เธอไปเรียกฉันตั้งแต่เช้าคงมีอะไรจะพูดใช่ไหม?"
เกาเถิงเปลี่ยนเรื่อง
ฟางเหมิงมีท่าทีสงบลงอย่างรวดเร็วและจ้องมองที่เกาเถิงโดยไม่พูดอะไร
"บางทีครอบครัวเธออยากให้เธอใจเย็นในเรื่องนี้จนกว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่"
"หากครอบครัวของฉันยังอยู่พวกเขาคงไม่ว่าอะไรหรอก"
"งั้นหรอขอโทษด้วยละกันที่คิดแทน"
เกาเถิงขอโทษอย่างเรียบง่าย
หลังจากมุขตลกอารมณ์ของฟางเหมิงก็สงบลงในที่สุด
เธอกล่าวว่า "เมื่อไม่กี่นาทีก่อนสำนักงานความมั่นคงส่งภารกิจมาให้ดังนั้นฉันต้องถามนายก่อน"
เกาเถิงสงสัย "ภารกิจบังคับงั้นหรอ?"
"ไม่ใช่" ฟางเหมิงกล่าวว่า "เป็นภารกิจสำหรับคนที่อยู่ในพื้นที่นี้"
เธอหยิบมือถือออกมาเปิดรายละเอียดของภารกิจและแสดงให้เกาเถิงดู
ภารกิจคือการปกป้องคนธรรมดาที่ชื่อเจียงเหว่ย
เจียงเหว่ยเป็นคนส่งของของบริษัทขนส่ง เขาทำงานอย่างขยันขันแข็งแถมยังชอบช่วยเหลือผู้อื่นทำให้เขาเข้ากับทั้งญาติ เพื่อน เพื่อนร่วมงาน และเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดี
"ทำไมคนดีๆแบบนี้ถึงกำลังจะถูกฆ่าล่ะ?"
เรื่องนี้เริ่มต้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
นักเรียนที่ชื่อเจียงเฉินได้ปลุกความสามารถขึ้นมา
อย่างไรก็ตามความสามารถสัมพันธ์ของเจียงเฉินนั้นต่ำเกินไป
ดังนั้นเจียงเฉินจึงเป็นได้แค่สมาชิกอย่างไม่เป็นทางการของสำนักงานความมั่นคง
หลังจากเจียงเฉินลาออกจากโรงเรียนเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงและแทบจะกลายเป็นคนละคน
เจียงเฉินนั้นเขาถูกรังแกในสำนักงานความมั่นคงเพราะความสามารถของเขานั้นแปลกมากนั่นคือมีดวงตาอยู่ที่มือแต่ละข้าง แต่ดวงตานี้กลับไม่มีผลหรือพลังอะไรเลยทำให้หลายคนเรียกเขาว่าตัวประหลาด
ความเกลียดชังสะสมอยู่ในใจเขาเรื่อยๆเจียงเฉินต้องการแก้แค้นแต่เขาก็ไม่มีพลังพอ
จนกระทั่ง "ยาเลือดคลั่ง" ปรากฏขึ้น
หลังจากกินยานี้เข้าไปความสามารถสัมพันธ์ของเขาก็เพิ่มขึ้นและในที่สุดความสามารถนี้ก็มีประโยชน์
ดวงตาบนฝ่ามือสามารถปล่อยแสงที่ทำให้สิ่งต่างๆเป็นหินได้ พลังประหลาดนี้จึงยากที่จะต้านทาน
ผู้มีความสามารถหลายคนที่รังแกเจียงเฉินก็ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม
เจียงเหว่ยและคนอื่นๆผู้ที่ทำให้เจียงเฉินมีความทรงจำแย่ๆในสมัยที่เป็นนักเรียนจะต้องถูกเขาตามมาแก้แค้นอย่างแน่นอน
สำนักงานความมั่นคงจึงออกภารกิจมากมายเพื่อปกป้องคนเหล่านี้ ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ต้องการจับเจียงเฉินเพื่อไม่ให้สามารถสังหารคนอื่นต่อไปได้อีก
ข้อมูลของภารกิจนี้เป็นรายละเอียดที่เข้าใจง่าย หลังจากดูแล้วเกาเถิงก็มุ่งความสนใจไปที่อู๋โหยวเจียว หลักคำสอนไร้กังวล
"หลักคำสอนไร้กังวลนี้คืออะไร? เปลี่ยนคนเลวให้เป็นคนดีงั้นหรอ?"
เกาเถิงยื่นมือถือกลับไปให้ฟางเหมิง
"ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกันและไม่เคยสนใจหลักคำสอนพวกนี้เลย" ฟางเหมิงรับมือถือ "เดี๋ยวฉันจะลองตรวจสอบดู"
ค้นหาหลักคำสอนไร้กังวล
มีข้อมูลมากมายขึ้นมา
หลังจากอ่านแล้วพวกเขาทั้งสองก็เริ่มเข้าใจเกี่ยวกับอู๋โหยวเจียว
"กลายเป็นว่ามันคือองค์กรศาสนาที่ชักนำผู้คนให้เป็นคนดีคิดบวกและเผยแพร่ความเมตตาไปทุกที่"
ใช่หากตามข้อมูลที่ค้นหาบนอินเทอร์เน็ตหลักคำสอนไร้กังวลเป็นเช่นนี้แถมมีบางคนออกมาแสดงความคิดเห็นด้วย
[ปีที่แล้วฉันเป็นคนที่ติดพนันมากจนสูญเสียเงินกับอสังหาที่สะสมมาทั้งหมด แถมยังทำให้พ่อกับแม่กระโดดน้ำฆ่าตัวตายและลูกเมียก็ขาดการติดต่อ แต่พระเจ้าก็ให้โอกาสแก่ฉันอีกครั้งโดยการนำพาเข้าสู่หลักคำสอนไร้กังวลจึงทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป ตอนนี้ฉันเลิกเล่นการพนันและตั้งใจทำงานชำระหนี้เพื่อหวังว่าภรรยาและลูกสาวจะกลับมาเพื่อให้ฉันพูดคำว่า ฉันขอโทษต่อจากนี้ไปฉันสัญญาว่าจะทำให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น]
[ปีนี้ฉันอายุ 86 ปีและมีลูกชายเพียงคนเดียวโดยเลี้ยงดูเขามาเป็นอย่างดี แต่พอฉันแก่ตัวลงเขาก็ไล่ฉันออกจากบ้านและให้นอนอยู่ข้างถนน ภายใต้การนำทางของพระเจ้าจึงได้พบกับท่านผู้นำ ด้วยความช่วยเหลือจากท่านลูกชายของฉันก็ตระหนักถึงความผิดพลาดจึงมารับฉันกลับบ้านหลังจากนั้นเขาก็ดูแลฉันเป็นอย่างดีทำให้ได้สัมผัสกับความอบอุ่นของครอบครัวอีกครั้ง]
[ลูกของฉันก็ดีขึ้น…]
เกาเถิงเริ่มพบสิ่งแปลกๆที่ดูน่ากลัวเพราะไม่มีใครใส่ร้ายอู๋โหยวเจียวเลยแถมมีแต่คนชื่นชม ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องปกติ