ตอนที่แล้วบทที่ 152 ตาเฒ่าเช่นข้าช่างน่าเวทนา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 154 เจ้าส่งเติ้งอี้มาใช่หรือไม่

บทที่ 153 สุสานกระบี่มรณะ


หลังแยกจากเหล่าผู้อาวุโสทั้งห้า เวลานี้ หยางเสี่ยวเทียนก็ได้มาถึงประตูเข้าลานชั้นใน เขายืนนิ่งหยุดสังเกตดูมันด้วยสนใจสักพัก

ประตูบานใหญ่สู่ลานชั้นในถูกปิดอย่างแน่นหนา และมีลวดลายของทักษะกระบี่นับไม่ถ้วนอยู่เหนือประตู

หยางเสี่ยวเทียนเพ่งมองมันจนถี่ถ้วน จานนั้นโบกสะบัดฝ่ามือปลดปล่อยปราณของศิลากระบี่เล่มที่ร้อย พุ่งลำแสงเข้าประตูบานนี้ ปกคลุมมันทั้งบานกระทั่งสว่างจ้า

ทันทีที่มันอาบแสงจากปราณกระบี่ ประตูบานเก่าดูคร่ำครึก็พลันรุ่งโรจน์มีชีวิตชีวาน่าครั่นคร้าม ขณะมันค่อยเปิดอ้าออกอย่างช้าๆ ต้อนรับเขาเข้าสู่โลกอีกด้าน

เมื่อประตูลานชั้นในเปิดอ้าสนิท ก็ปรากฏเป็นห้องโถงขนาดกว้างใหญ่ตรงหน้าหยางเสี่ยวเทียน

ห้องโถงหลักครอบคลุมพื้นที่หลายสิบหมู่ พื้นทั้งหมดทำจากหินเหล็กดำขัดเงา มีตู้ชั้นคัมภีร์ขนาดโอฬารอยู่ผนังด้านซ้าย และกระบี่ต่างๆ แขวนอยู่ด้านขวา

หยางเสี่ยวเทียนย่างก้าวไปข้างหน้าขณะแหงนมองดูคัมภีร์ ที่วางเรียงบนชั้นนับพันเหล่านั้น แต่ละชั้นล้วนเป็นคัมภีร์เกี่ยวกับเคล็ดวิชามากมาย ประกอบด้วย เคล็ดวิชากระบี่ เคล็ดวิชาฝึกปราณ เคล็ดวิชาหมัดมวย และเคล็ดวิชาฝ่ามือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเคล็ดวิชากระบี่

ระดับขั้นต่ำสุดของเคล็ดวิชาจำนวนมากเหล่านี้ ล้วนเป็นวรยุทธขั้นเซียนสวรรค์ชั้นยอด

มีคัมภีร์หลายเล่มที่เกี่ยวกับศาสตร์เวทย์

อย่างไรก็ตาม เฉพาะผู้ที่แข็งแกร่งในขั้นราชันยุทธ์เท่านั้นที่สามารถฝึกฝนพลังเวทย์ได้

ศาสตร์กระบี่และศาสตร์เวทย์เหล่านี้เป็นความลับของสำนักเสินเจี้ยน

หลังเดินเลือกดูเคล็ดวิชากระบี่และเคล็ดวิชาฝึกปราณเหล่านี้เพียงผ่านๆ หยางเสี่ยวเทียนก็มาหยุดที่โต๊ะหินมุมซ้ายบนของโถง ซึ่งมีคัมภีร์หลายเล่มวางซ้อนทับกันอยู่บนโต๊ะ

ขณะเขาลองพลิกมันดูผ่านๆ ก็พบว่าคัมภีร์เหล่านั้นเป็นบันทึกที่เขียนด้วยลายมือของเฉาชุ่น ผู้ก่อตั้งสำนักเสินเจี้ยน ซึ่งเนื้อหาภายในเริ่มดึงดูดความสนใจหยางเสี่ยวเทียนเป็นอย่างมาก

เพราะเนื้อหาในบันทึกของเฉาชุ่น ล้วนเกี่ยวข้องกับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบเล่ม

กล่าวถึงกระทั่งกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ตงเทียนและเพลงกระบี่ตงเทียนเอาไว้ด้วยเช่นกัน

นอกเหนือจากกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ตงเทียนแล้ว ก็ยังมีรายละเอียดของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ อีกเก้าเล่ม

สิ่งที่บันทึกนั้นประกอบด้วยรูปลักษณ์กระบี่ พลังอันน่าอัศจรรย์แลความแข็งแกร่งของเพลงกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบเล่ม

ในบึนทึกของเฉาชุ่น กระบี่ราตรีนิรันดร์ ถูกอธิบายรายละเอียดไว้มากที่สุด

เนื่องจากบันทึกนี้ มีความเกี่ยวข้องกับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบเล่ม หยางเสี่ยวเทียนจึงอ่านอย่างละเอียดและไม่พลาดหน้าใดๆ แม้แต่น้อย ด้วยกลัวจะข้ามเนื้อหาส่วนสำคัญไป

หลังจากหยางเสี่ยวเทียนอ่านจบ เขาก็ปิดคัมภีร์ พร้อมกับหัวใจที่สั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น

ข้าไม่คิดเลยว่า เฉาชุ่นจะค้นคว้าเกี่ยวกับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบเล่มเช่นนี้

ตามบันทึกได้กล่าวไว้ กระบี่ราตรีนิรันดร์ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความทรงพลังอันดับต้นๆ และมีความเป็นไปได้ว่ามันจะอยู่ในสุสานกระบี่มรณะ

“สุสานกระบี่มรณะ” หยางเสี่ยวเทียนพึมพำกับตนเองอย่างพิศวงใจ

เพราะสุสานกระบี่มรณะที่หมายถึงนี้ อยู่ที่ไหนสักแห่งในอาณาจักรมังกรศักดิ์

ตามเฉาชุ่นกล่าวไว้ มันเป็นสถานที่กลบฝังเหล่าเซียนกระบี่นับพัน และกระบี่อันทรงพลังที่มีชื่อเสียงเลื่องลือจำนวนนับไม่ถ้วน จึงได้เรียกสถานที่แห่งนี้ว่าสุสานกระบี่มรณะสืบมา

เพราะสุสานกระบี่มรณะนั้น ล้วนเต็มไปด้วยอันตรายมากมายสุดคณานับ ไม่ว่าใครก็ตามที่ย่างกรายเข้าไปในสุสานกระบี่มรณะ จะเพื่อค้นหาสมบัติกระทั่งท้าทายความแข็งแกร่งตน เขาหรือนางจะไม่สามารถมีชีวิตกลับออกมาได้

ผู้ใดที่ริอาจย่างเท้าเข้าสู่อาณาเขตของสุสาน ไม่ตายก็ต้องหายสาบสูญ เรียกว่าไม่เคยมีโอกาสได้กลับออกมา เพื่อบอกเล่าถึงอันตรายที่เฝ้ารอภายในนั้นได้เลย

ถึงกระนั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก็ยังมีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนท้าทายตน ย่างกรายเข้าไปในสุสานกระบี่มรณะ พร้อมความหวังจะค้นหากระบี่ หรือเคล็ดวิชากระบี่อันไร้เทียมทานที่ไม่มีใครสามารถต่อกรได้ จวบจนทุกวันนี้ พวกเขาเหล่านั้นก็ยังมิได้กลับออกมาจากสุสานแต่อย่างใด

“อาจารย์ติง ท่านพอรู้เกี่ยวกับสุสานกระบี่มรณะนี้หรือไม่?”

“แม้นจะเป็นข้า ก็ไม่เคยได้ยินเรื่องราวของสุสานกระบี่มรณะมาก่อน เฉกเช่นเดียวกับเจ้า” เหยาติงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

พร้อมกล่าวเสริม “แต่… ไม่ว่ามันจะอันตรายแค่ไหน มันคงไม่อาจเทียบเท่าหุบเหวแห่งบาปได้แน่นอน ไว้มีโอกาสเราค่อยไปเดินเล่นในสุสานกระบี่มรณะนั้น จะได้รู้ว่าเป็นอย่างที่เขาลือหรือไม่”

แม้เขาจะไม่รู้ว่าหุบเหวแห่งบาปที่เหยาติงกล่าวถึงนั้นอยู่ที่ใด แต่หยางเสี่ยวเทียนก็รู้สึกมั่นใจและไร้ความกังวลมากขึ้นหลังได้ยินวาจาเช่นนั้น

สุสานกระบี่มรณะ ข้าจะต้องหาเวลาไปเยี่ยมชมในสักวัน

หลังออกจากลานชั้นใน หยางเสี่ยวเทียนก็ได้พบพานกับเฉินฉางชิง เหอเล่อ และผู้อาวุโสอีกสามคน

ครั้นผู้อาวุโสทั้งห้าเห็นหยางเสี่ยวเทียนอีกครั้ง ใบหน้าพวกเขาก็ซับซ้อนเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

เนื่องจาก ไฟประหลาดนั้นหาได้ยาก ไม่ว่าใครก็ตามที่สามารถควบคุมไฟประหลาดได้ ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมิใช้น้อย

ซึ่งหากมีผู้ที่สามารถพิชิตเปลวไฟประหลาดในร้อยอันดับแรกได้ ทั่วทั้งอาณาจักรโดยรอบ ต้องตกอยู่ในความโกลาหลแน่นอน

สำมะหาอะไรกับการพิชิตไฟประหลาดสิบอันดับแรก

ผู้ที่สามารถพิชิตไฟประหลาดสิบอันดับแรกได้ เขาจะต้องกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ที่แม้แต่มหาอำนาจก็ยังต้องก้มหัวให้

“เจ้าตำหนัก ส่วนตัวข้าคิดว่าท่านควรอาศัยอยู่ในตำหนักกระบี่แห่งนี้เลยจะถือเป็นการดีกว่า” เฉินฉางชิงกล่าวกับหยางเสี่ยวเทียน

เชิงอรรถรส 

ความหมาย 1 หมู่ = 666 ตรม.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด