การทดลองเสมือนจริง ชายที่เป็นดั่งปีศาจ (อ่านฟรี 01/07/2567)
“อ๊ากกกกกก พอสักที!!” เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังสนั่นสนามประลอง
หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงในตอนนี้ไม่สามารถขยับตัวได้แล้ว แต่ที่เขายังไม่เสียสติไปก็เพราะความสามารถของอาร์ติแฟกต์ชุดเกราะราชสีห์เพลิงคำราม ตัวชุดเกราะนี้นอกจากจะมีทักษะที่สามารถใช้เรียกเปลวเพลิงราชสีห์ออกมาได้แล้ว มันยังมีทักษะติดตัวที่ชื่อว่า ราชสีห์กล้าหาญ[A]อีกด้วย
ทักษะนี้จะช่วยให้ผู้ครอบครองไม่เสียสติไปง่าย ๆ นับว่ามีประโยชน์อย่างมากเวลาเจอกับคู่ต่อสู้ที่มีทักษะประเภทมายาหรือลวงตา
แต่ในยามนี้มันกลับส่งผลตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง...
“น่าสนใจมาก แม้จะเป็นเพียงโลกเสมือนจริงแต่ก็จำลองสภาพร่างกายของมนุษย์ทุกส่วนอย่างถูกต้อง” คริสกล่าวออกมาในมือของเขามีนิ้วชี้ข้างขวาของหัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิง ที่เขาเพิ่งจะกระฉากออกมาอยู่ด้วย
ไม่ว่าจะเป็นกระดูก กล้ามเนื้อ ผิวหนัง เลือด เส้นเอ็น ทุกสิ่งเหมือนกับร่างกายของมนุษย์ในโลกความเป็นจริงไม่มีผิด
แน่นอนว่าความเจ็บปวดที่หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงได้รับมันมากมายจนเขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าถ้ากล่าวยอมแพ้ออกมา เขาก็จะหลุดจากที่แห่งนี้ไปได้
เปรี้ยง! เปรี้ยง!
“พรวดด ฆ่าฉันสักที! ไอ้สารเลว ถ้าออกไปข้างนอกเมื่อไหร่อย่าหวังว่าแกจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้นานเลย!” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงที่ถูกชายหนุ่มต่อยเข้าตามลำตัวอย่างแรงกระอักเลือดคำโตออกมา
ถึงแม้หมัดเปล่า ๆ ของคริสจะไม่อาจทำลายชุดเกราะของอีกฝ่ายได้ แต่มันก็ส่งแรงกระแทกเข้าไปด้านในได้พอสมควร ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่เหลือพลังเวทย์แถมยังใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงจะได้รับความเสียหายมากกว่าปกติ
“อ๊ะ! ฉันขอยอม...” แต่แล้วหัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงก็นึกออก เขารีบกล่าวคำพูดยอมแพ้ออกมาทันที น่าเสียดายที่ถูกชายตรงหน้าใช้มือบีบคอไว้ก่อนที่จะพูดจบ
เขาได้แต่สาบแช่งคนออกแบบระบบที่มันออกแบบให้การยอมแพ้ต้องพูดออกจากปากเท่านั้น ทำไมทำระบบที่มันทันสมัยขนาดนี้ได้แล้วถึงไม่ทำให้ยอมแพ้แบบใช้ความคิดเอาวะ!
ซึ่งก็แน่นอนว่าเขาได้แค่คิดนั่นแหละ ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้
ปึด! ฉูดดด
“ข้ายังทดลองไม่เสร็จเลย เจ้าอย่ารีบร้อนสิ” คริสดึงลิ้นของอีกฝ่ายออกมาจนสุด ก่อนจะใช้ทั้งสองมือฉีกให้มันขาดออกจากกัน เขาได้เรียนรู้จากก่อนหน้านี้ว่าขอแค่อีกฝ่ายไม่พูดยอมแพ้ออกมาก็จะยังประลองต่อไปได้จนกว่าจะสิ้นสภาพ
“ดูแล้วคงจะทนได้อีกสักพัก ข้าขอลองอะไรหน่อยนะ เจ้าไม่ว่าใช่หรือไม่ ?” คริสกล่าวออกมาพลางจ้องมองไปยังอีกฝ่ายที่น้ำตาไหลออกมา หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงพยายามจะเปล่งเสียงออกมาเต็มที่
“อ้า อู้... อา” แต่เมื่อไร้ซึ่งลิ้นไปแล้ว เสียงที่ออกมาก็เลยฟังไม่รู้เรื่องอีกต่อไป
“เจ้าไม่กล่าวอะไรแสดงว่าตกลงสินะ” คริสที่เห็นอีกฝ่ายตอบรับจึงกล่าวออกมาเองเสียเลย
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
เสียงกรีดร้องดังลั่นไปทั่วทั้งสนามประลอง ภาพที่เกิดขึ้นทำเอาทุกคนถึงกับต้องละสายตาไปจากจอขนาดยักษ์ที่กำลังเล่นภาพเหตุการณ์ภายในสนามประลองอยู่
ดูเหมือนว่าการประลองครั้งนี้จะให้ผลลัพธ์ที่เกิดคาดเป็นอย่างมาก กิลด์ราชสีห์เพลิงคงจะขายหน้าไม่ใช่น้อยเลยล่ะ
ครึ่งหลัง
[ขอแสดงความดี ท่านเป็นผู้ชนะการประลอง กำลังจะกลับสู่โลกภายนอกใน 3...2...1] เกิดหน้าจอโปร่งแสงขึ้นที่ด้านหน้าของคริสหลังจากที่ร่างของฝั่งตรงข้ามหมดลมหายใจไป
“น่าตื่นเต้นกว่าที่คิด โลกใบนี้ยังมีหลายสิ่งที่ข้ายังไม่เคยพบเห็นยิ่งนัก” หลังจากกลับมาสู้โลกความเป็นจริงคริสก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก” แต่ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของใครบางคนดังเข้ามาในหู ชายหนุ่มจึงเปิดฝาเครื่องประลองเสมือนจริงออกก่อนจะเดินไปยังต้นทางของเสียงอันน่ารำคาญนั่น
“บัดซบ บัดซบ บัดซบ ฉันจะฆ่ามัน ฉันจะฆ่ามันน” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงที่ในตอนนี้ถูกลูกกิลด์ฉุดเอาไว้คำรามออกมาราวกับเสียสติ สภาพของเขาในตอนนี้เกือบจะเสียสติไปแล้ว
โชคดีที่ความแข็งแกร่งบวกกับน้ำยาเรียกสติที่ลูกกิลด์เอาให้ดื่มไว้ช่วยให้เขายังเป็นปกติอยู่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกเจ็บปวดและความตายที่ได้รับเป็นห้าเท่าจากปกติก็ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเขาอยู่ดี
“ข้ามารับของเดินพัน” คริสเดินไปหยุดตรงหน้าหัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงที่กำลังคลุ้มคลั่งก่อนจะกล่าวออกมาเสียงเรียบ เหมือนกับว่าเขาไม่ได้รับรู้ถึงสภาพของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
ไม่สิ ต้องบอกว่ารับรู้แต่ไม่สนใจเสียมากกว่า เพราะยังไงอีกฝ่ายก็ไม่มีปัญญาทำอะไรเขาได้อยู่แล้ว เขาไม่ได้รู้สึกติดขัดอะไรถ้าต้องต่อสู้กับอีกฝ่ายในโลกจริง
แต่ด้วยพื้นฐานของกฎหมายของโลกใบนี้ จึงต้องรอให้ถูกโจมตีก่อนค่อยตอบโต้ถึงจะไม่ผิด ดังนั้นชายหนุ่มจึงเลือกที่จะไม่สนใจจนกว่าอีกฝ่ายจะล้ำเส้นนั่นเอง
“แกตาย !” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงที่ได้ยินก็สะบัดลูกกิลด์ด้วยพละกำลังมหาศาล ก่อนที่จะหลุดออกมาแล้วพุ่งเข้าใส่คริสที่ยืนมองอยู่ตรงหน้า
ด้วยความขาดสติเขาไม่แม้แต่จะเรียกชุดเกราะหรือสนับมือออกมาสวมแม้แต่น้อย แต่เลือกที่จะใช้ดาบยาวในการโจมตีแทน
ถ้าฝ่ายตรงหน้าไม่ได้มีผิวหนังที่แข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้า จะต้องโดนการโจมตีนี้ฟันขาดครึ่งได้ไม่ยากเป็นแน่ แต่น่าเสียดายที่ดันมาเจอคริสเข้า
“อืม หลับอีกสักรอบก่อน ตื่นขึ้นมาจะได้คุยง่ายขึ้น” ชายหนุ่มกล่าวออกมาก่อนที่จะเคลื่อนไหวร่างกายหลบหลีกไปมาเพื่อหาจังหวะที่เหมาะสม
“หยุดเดี๋ยวนี้!” แต่แล้วก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นขัดจังหวะพร้อมกับร่างในชุดสูทสวมหน้ากากยิ้มพุ่งเข้ามาขวางทางหัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงเอาไว้
ร่างนั้นใช้มือตบไปยังข้อมือของอีกฝ่ายจนดาบหลุดจากมือก่อนจะจับหัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงทุ่มลงกับพื้นอย่างแรง หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงที่ถูกทุ่มก็เริ่มได้สติขึ้นมาจากความเจ็บปวด
“แค่นี้ยังขายหน้าไม่พอรึยังไง ? สงบสติอารมณ์ซะ!” ร่างในชุดสูทเรียกน้ำยาฟื้นฟูกับน้ำยาฟื้นสติออกมาเทราดร่างที่นอนกองอยู่กับพื้นก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความหงุดหงิด
ถ้าไม่ใช่ว่าเบื้องบนสั่งมาเธอคงจัดการเก็บกวาดกิลด์ขยะนี่ทิ้งไปแล้ว!
“อะ... ท่านตัวแทน ฉันขออภัยจริง ๆ ที่ทำให้ท่านต้องวุ่นวายแบบนี้” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงที่ได้สติกลับมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็รีบคุกเข่าให้ทันที เขากล่าวออกมาด้วยความหวาดกลัว
“พอ! ลุกขึ้น” ร่างที่ถูกเรียกว่าตัวแทนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“ขอของให้ข้าด้วย ข้ารีบอยู่” คริสกล่าวขึ้นมาอีกครั้งนึงทำเอาร่างของหญิงสาวที่ถูกเรียกว่าตัวแทนต้องหันไปมองด้วยความสงสัย
ขนาดเธอแสดงพลังไปมากขนาดนี้ อีกฝ่ายยังกล้าทักท้วงอยู่อีก ? เหมือนจะมีความกล้าไม่เบาเลยสินะ