ตอนที่แล้วตอนที่ 10 ก้าวหน้าขึ้นอีกครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 12 ความยากลำบาก

ตอนที่ 11 โชคร้าย


ตอนที่ 11 โชคร้าย

“เราก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้ว นี่สินะความรู้สึกของการกลั่นลมปราณขั้นที่สี่ มันช่าง…” จี้เตี๋ยค่อยลืมตาตื่นขณะมองไปทางประตู

“จี้เตี๋ย ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้ ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ข้างใน!”

เฮ่อซงผู้อยู่อีกด้านของประตูยังพยายามตะโกน เพียงแต่ประตูที่เดิมปิดแน่นพลันเปิดออกให้เห็นรอยแยก เด็กหนุ่มในชุดสีเขียวประจำสำนักก้าวเดินออกมาพร้อมมองตอบด้วยสายตาอันเย็นเยือก

“ผู้ดูแลกำลังหาตัวเจ้าอยู่!” เมื่อเห็นว่าถูกจ้องมอง เฮ่อซงอดไม่ได้ที่จะเกิดความกังวล น้ำเสียงในปัจจุบันเริ่มโอนอ่อนลง

“คารวะผู้ดูแล” จี้เตี๋ยพบเห็นชายหน้าม้าเดินเข้ามาหาด้วยท่วงท่าอันสง่า เวลานี้จึงโค้งกายตอบด้วยความนอบน้อม

“จี้เตี๋ย ทราบหรือไม่ว่าวันนี้วันอะไร?” ชายหน้าม้าถามออกมาด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก

เฮ่อซงพลันเผยยิ้มยินดีออกมา

“ผู้ดูแลกล่าวว่าทุกเจ็ดวันควรไปทำความสะอาดครั้งหนึ่ง ไม่ได้มีการระบุเวลาแต่อย่างใด” จี้เตี๋ยตอบกลับมาด้วยคำที่ไม่ทั้งนอบน้อมหรือถือดี

“เหอะ ผู้ดูแลคือข้า หากบอกให้ไปทำตอนนี้ เจ้าก็ต้องไปทำ” ชายหน้าม้าขมวดคิ้วตอบ

“ขอรับ” จี้เตี๋ยหลุบตาลง ภายหลังสำเร็จการกลั่นลมปราณขั้นที่สี่จึงทำให้เขาสามารถตระหนักถึงลมปราณของอีกฝ่ายได้ มันแข็งแกร่งกว่าตัวเขาเล็กน้อย จึงพอคาดเดาได้ว่าเป็นผู้กลั่นลมปราณขั้นที่สี่จุดสูงสุด

เพราะไม่อยากมีเรื่องกับอีกฝ่าย เขาจึงคว้าถังน้ำ ตะกร้าผลไม้ แปรง ไม้กวาด และสารพัดอุปกรณ์ทำความสะอาดเดินเข้าไปยังโรงนา และมุ่งตรงไปยังคอกหมายเลขที่สิบเอ็ด

ยามเมื่อเจ้างูดำพบเห็นผู้มาเยือน มันลืมตาขึ้นพร้อมแลบลิ้นออกมาราวกับลูกแมวเชื่อง

“เพราะเห็นว่าเจ้าเพิ่งทำหน้าที่เป็นครั้งแรก ข้าจะให้คำแนะนำก็แล้วกัน หากกล้าคดโกงหรือเบี้ยงาน ก็อย่าหาว่าข้าใจร้าย” ชายหน้าม้าย้ำเตือนขณะเดินตามติดเข้าไป

เฮ่อซงผู้ที่มีความคับแค้นสุมอยู่เต็มอก เวลานี้จึงมองตาไม่กระพริบ นอกจากนี้ยังมีศิษย์บางส่วนที่เกิดความหวังดีขึ้น

เพียงแต่ภายหลังได้เห็นสายตาของเจ้างูดำ พวกเขาพลันหนาวเย็นเยือกตั้งแต่สันหลังจรดเท้า สุดท้ายไม่มีใครกล้าเสนอตัวให้ความช่วยเหลือ เพราะพวกเขาทราบความดุร้ายของมันดี

“เข้าไปเสีย” ชายหน้าม้ามองเข้าไปด้านใน

“ขอรับ” จี้เตี๋ยประสานมือโค้งกายตอบรับ สุดท้ายจึงเปิดประตูคอกเดินเข้าไป สายตาของเขามองเจ้าตัวใหญ่ที่อยู่ไม่ได้ไกลห่าง ขณะนี้จึงวางถังน้ำและอุปกรณ์ในมือลง สุดท้ายจึงเดินเชื่องช้าเข้าไปหามันพร้อมไม้กวาด

ต้องระมัดระวังสัตว์ร้ายทุกฝีก้าว!

แม้ว่าสองวันที่ผ่านมามันจะไม่ได้มีท่าทีดุร้ายเหมือนเช่นที่เคยเป็น แต่งูอย่างไรก็ยังคงเป็นงู จี้เตี๋ยไม่อาจเชื่อใจมันได้เต็มร้อย ต่อให้ปัจจุบันการฝึกฝนของเขาดีเยี่ยมยิ่งกว่า เขาก็ไม่กล้าผ่อนคลายความระวัง

ขณะเดินเข้าไปใกล้ เจ้างูดำพลันแลบลิ้นออกมาขณะขยับเคลื่อนไหวหัวอันใหญ่โตเข้าหาจี้เตี๋ย มันราวกับจะเป็นสัญญาณร้องบอกถึงอันตราย

ตอนนี้เองที่ศิษย์หลายคนซึ่งรับชมอยู่หัวใจแทบหยุดเต้น ราวกับพวกเขาคือผู้ที่เข้าไปอยู่ด้านในคอกเสียเอง

“นั่นแหละ! กินมันเข้าไปเลย!” เฮ่อซงพลันตื่นเต้นยินดีขึ้นมา กระทั่งเห็นภาพจี้เตี๋ยถูกงูดำกลืนเข้าท้องไปแล้วด้วยซ้ำ

จี้เตี๋ยเองก็จับตามองอย่างใกล้ชิดพร้อมใจที่เต้นรัว ไม้กวาดในมือของเขาแทบจะเตรียมถูกใช้งานเป็นอาวุธฟาดเข้าที่หัวของมันในทุกเมื่อชั่วขณะ

โชคดีที่การให้อาหารและฝึกตลอดช่วงสองวันที่ผ่านมาได้ผล เจ้างูดำวางหัวลงตรงหน้าของเด็กหนุ่ม จ้องมอง สุดท้ายจึงถอยกลับไป

‘อย่างน้อยก็พอรู้เรื่องอยู่บ้างสินะ’ จี้เตี๋ยครุ่นคิดพร้อมรู้สึกผ่อนคลาย ปัจจุบันจึงนำเอาตะกร้าผลไม้ออกมาจากถุงมิติและวางมันลงที่ตรงหน้าของเจ้างูดำ แน่นอนว่าภายในนั้นมีผลยกวิญญาณผสมปนเปรวมอยู่ด้วย

พบเห็นเจ้างูดำยื่นหัวไปกินผลไม้ จี้เตี๋ยค่อยใช้ไม้กวาดทำความสะอาดด้านในคอกอย่างสบายใจ

หนึ่งคนหนึ่งงูจึงแยกสัดส่วนกันอยู่อย่างชัดเจน

“นี่… มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมเจ้างูนี่ไม่เล่นงานเขาล่ะ…” เหล่าศิษย์ภายนอกที่ติดตามมารับชมหน้าคอกถึงกับต้องงุนงง

ชายหน้าม้า รวมถึงเฮ่อซงผู้มีสายตาคับแค้นยังต้องมองจี้เตี๋ยอย่างงุนงง พวกเขาไม่อาจเข้าใจได้ว่าเพราะอะไรเจ้างูดำถึงเชื่องจนไม่ทำอะไรจี้เตี๋ย

“เจ้ากินของเจ้าไป ส่วนข้าจะอาบน้ำให้” เพียงไม่ช้า ด้านในคอกจึงถูกทำความสะอาดเรียบร้อย จี้เตี๋ยจึงวางถังในมือลงข้างเท้าขณะหันไปมองเจ้างูดำ สุดท้ายจึงเริ่มใช้หน้าแปรงหันเข้าหาตัวของมัน

งูดำยังคงกินผลไม้ต่อโดยไม่สนใจ เรื่องราวดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น

“นี่มันบ้ากันไปแล้ว!” พบเห็นเหตุการณ์ผิดจากที่คาด เฮ่อซงถลึงตามองด้วยความมุ่งร้าย ยามเมื่อนึกถึงร่องรอยบนใบหน้าของตนเอง สายตาของเขาพลันทอประกายอันเย็นเยือก ความรู้สึกอยุติธรรมและโกรธแค้นกำลังสุมอัด

ทั้งที่ตอนเขาไปทำความสะอาดคอกถึงขั้นได้รับบาดเจ็บ ไฉนเลยอีกฝ่ายอยู่รอดปลอดภัยเช่นนี้ได้?

ปัจจุบัน ความสนใจของทุกคนต่างมุ่งไปยังด้านในคอกสัตว ทำให้ไม่มีใครได้เห็นว่าพริบตานี้เองที่มีลูกธนูสั้นขนาดราวเข็มสีเงิน มันแหวกผ่านอากาศพุ่งเข้าปะทะยังหน้าท้องของงูยักษ์

เคล้ง! เสียงคล้ายโลหะปะทะกันดังนั้น เข็มสีเงินถูกเกล็ดส่วนหน้าท้องของงูดำสกัดเอาไว้ได้ แต่ก็มากพอทำให้มันส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธจนคลุ้มคลั่งออกมา ร่างกายใหญ่โตของมันขยับเคลื่อนไหว ผลไม้ในตะกร้าพลันถูกฟาดจนกระเด็นกระดอนกลิ้งไปตามพื้น

“ตายซะ! ไอ้เวร!” เฮ่อซงราวกับคลุ้มคลั่งไปแล้ว และเวลานี้ข้างกายของงูดำคือจี้เตี๋ย หากว่ามันโกรธจนคิดลงมือ เด็กหนุ่มก็คงตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ชายหน้าม้าตระหนักได้ว่าอะไรเป็นอะไร เวลานี้จึงลอบเหลือบตามอง เพียงแต่ไม่ได้พูดอะไร

ทางด้านศิษย์คนอื่นที่อยู่ใกล้เคียง พวกเขาต่างก็มองด้วยอาการแตกตื่น

“แย่แล้ว มันได้คลุ้มคลั่งแน่!”

“ฝีมือใครกัน!” พบเห็นงูดำกำลังจะอาละวาด จี้เตี๋ยเองก็ชะงัก ร่างกายในเวลานี้เร่งร้อนถอยเว้นระยะห่างออกมา ยามเมื่อทอดสายตาสำรวจ จึงมองเห็นเข็มเงินร่วงหล่นอยู่กับพื้น

ประกายเย็นเยือกสว่างวูบจากดวงตาของจี้เตี๋ย ทันใดนี้เองที่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้างูดำพลันสูญเสียการควบคุม

เพราะมีคนคุกคามมัน!

เฮ่อซง?!

ภายหลังมาถึงที่นี่ คนเดียวที่เขาเคยมีเรื่องด้วยก็มีแต่เฮ่อซง หากไม่ใช่อีกฝ่าย เขาก็คิดไม่ออกแล้วว่าใครกันที่มุ่งร้ายอยากจะฆ่าตนเอง

“ไอ้เวรนั่น!” จี้เตี๋ยพยายามระงับความโกรธของตนเอง เนื่องจากเวลานี้ยังไม่ใช่สถานการณที่เหมาะสม เขายังต้องกำราบเจ้าตัวใหญ่ตรงหน้าให้ได้เสียก่อน

เขาไม่มั่นใจว่างูดำตอนนี้จะโจมตีเล่นงานตนเองหรือไม่

แต่ไม่ช้าเขาก็ได้ตระหนักทราบ ว่ามันมองทุกคนเป็นศัตรู ร่างอันใหญ่โตของมันเหวี่ยงสะบัดอย่างรุนแรงประหนึ่งแส้ และเป้าหมายก็คือเขา!

“บ้าฉิบ!” นัยน์ตาของจี้เตี๋ยหดแคบ พลังวิญญาณภายในกายซึ่งถูกรวบรวมเอาไว้อยู่แล้ว ขณะนี้ร่างกายพลันถอยกลับและพุ่งตัวไปที่ประตูคอก แต่ก่อนจะทันได้ออกไป ประตูคอกกลับถูกปิดใส่หน้า

“งานยังไม่เสร็จ ไม่อนุญาตให้ออกมา” ชายหน้าม้าผู้ยืนอยู่ภายนอกเอ่ยคำหน้าตาเฉย

จี้เตี๋ยจ้องมองอีกฝ่าย ทั้งที่งูดำอยู่ในสภาพคลุ้มคลั่งแล้ว ยังจะให้เขาทำความสะอาดต่อไปอีกงั้นหรือ?

อยากทำก็เข้ามาทำเองสิวะ!

“ผู้ดูแล! มีใครก็ไม่รู้เล่นงานเจ้างูนี่ มัน…” เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ดูแล จี้เตี๋ยจึงทำได้เพียงสะกดกลั้นความโกรธ เพียงแต่ก่อนที่เขาจะทันได้โต้เถียงจบกลับโดนขัดคำขึ้นเสียก่อน

“กฎก็ต้องเป็นกฎ จนกว่าจะทำงานเสร็จไม่อนุญาตให้ออกมา นี่เป็นคำสั่งของผู้ดูแล! หากเจ้ากล้าขัดขืน เช่นนั้นจะถือว่าขัดคำสั่งจนทำผิดต่อกฎของสำนัก ผลลัพธ์คือถูกทำลายการฝึกฝนและถูกขับไล่ออกจากสำนัก!”

ชายหน้าม้าเน้นย้ำคำว่าผู้ดูแลอย่างชัดเจน เพราะอีกฝ่ายคือคนที่กล้ามีเรื่องกับศิษย์พี่หญิงซ่ง เวลาเช่นนี้เขาจึงยิ่งทำตามกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัด

และแน่นอนว่า มันเป็นกฎที่เขาคิดเองเออเอง!

ทั้งที่กฎของสำนักไม่ได้ระบุเอาไว้ด้วยซ้ำ ว่าศิษย์จำเป็นต้องเข้าทำความสะอาดคอกตอนไหน รายละเอียดปลีกย่อยยิ่งไม่มีทางระบุถึง

“ก็ได้ ข้าจะจดจำเอาไว้!” จี้เตี๋ยถลึงมองตาอีกฝ่าย แม้เขาไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ก็พอมองออกว่าอีกฝ่ายกำลังทำให้ตนเองประสบพบเจอความลำบาก!

เขาไม่ทราบว่าเพราะอะไรอีกฝ่ายถึงหมายหัวตนเอง ทั้งที่เขาไม่เคยไปมีเรื่องอะไรกับอีกฝ่าย!

“คิดขู่ข้างั้นหรือ?” ชายหน้าม้ามองตอบราวกับโกรธเคือง กระทั่งเผยสายตาเย้ยหยันแสดงออกลึกในดวงตา

ศิษย์คนอื่นที่พบเห็นพลันตระหนักได้ถึงพฤติกรรมหาเรื่องอันชัดเจนของผู้ดูแล เพียงแต่พอโดนกวาดสายตามองเข้าใส่ พวกเขาเลือกที่จะเงียบโดยไม่กล้าพูดอะไรตอบโต้

อีกฝ่ายคือผู้ดูแล ระดับการฝึกฝนของอีกฝ่ายสูงล้ำกว่า พวกเขาไม่ควรมีเรื่องด้วย

ปัจจุบันร่างของงูดำพลันกวัดแกว่ง ผลไม้บนพื้นนับไม่ถ้วนกระเด็นกระจาย บางส่วนยังกระเด็นพุ่งเข้าไปหากลุ่มคน

4.8 4 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด