บทที่ 148 เป็นคุณชายหยางจริงๆ
“นายน้อยของพวกเจ้างั้นรึ” บุรุษหนุ่มมองยังหยางเสี่ยวเทียนสีหน้าเหยเกดูประหลาดใจ
เพราะเขาคงไม่คาดคิดว่าครานี้ อัตและน้องชายเขาจะพาเด็กน้อยอายุเพียงแปดขวบมาสถานที่นี้ เพื่อมาพูดคุยเรื่องงานก่อนสร้างของผู้ใหญ่ มิใช่เรื่องเด็กไร้เดียงสาจะเข้าใจได้
หลังนิ่งสงสัยมองอัตสลับกับเด็กน้อยตรงหน้าอยู่ครู่ เขาก็ขอให้หยางเสี่ยวเทียนและคนทั้งสอง หาที่นั่งรอขณะเขาเข้าไปรายงาน
เวลานี้เอง ในห้องทำงานของผู้นำสมาคม หลินชางผู้กำลังนั่งไขว้ขาอยู่บนเก้าอี้ไท่ชือประจำตำแหน่งตัวใหญ่ ขณะสูดดมชาแห่งจิตวิญญาณชั้นดีพร้อมยกดื่มสีหน้าท่าทางดูสำราญสบายใจ
ซึ่งชาแห่งจิตวิญญาณชั้นยอดอันเลิศรสนี้ เป็นสินน้ำใจจากตระกูลหนึ่งในเมืองเสินเจี้ยนส่งมาปรนเปรอเขาจนติดเป็นนิสัยมัวเมาในอำนาจ
ยิ่งได้ดื่ม เขายิ่งรู้สึกสบายเนื้อตัวแลสดชื่น กระทั่งเคลิบเคลิ้มไปกับมัน หรือเพราะพอใจในตำแหน่งที่นับว่ามีอิทธิพล ผู้คนในเมื่องแห่งนี้ก็นับหน้าถือตาอยู่ไม่น้อย
ระหว่างนั้นเอง บุรุษหนุ่มก็เข้ามาขัดจังหวะด้วยต้องทำหน้าที่ รายงานเกี่ยวกับการมาถึงของหยางเสี่ยวเทียนและคนทั้งสองต่อเขา
“อะไรนะ เขาพาเด็กแปดขวบมาที่นี่เพื่อพบข้ารึ” เมื่อหลินชางได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเขาก็มืดลง เขาเป็นถึงคนใหญ่คนโต ไฉนต้องเสียเวลามาสนทนากับเด็กเพียงแปดขวบกัน
“ไม่รู้ความนัก เจ้ากล้าพาเด็กแปดขวบมาที่นี่เพื่อพบข้างั้นรึ บอกพวกเขาว่าข้าไม่ว่างพบ ไม่ก็บอกว่าข้าไม่อยู่ที่นี่!” น้ำเสียงขึงขังพร้อมปาดมือตบฉาดลงบนโต๊ะดังก้องด้วยความโกรธ
“จริงสิ อย่าลืมบอกพวกเขาให้ส่งสามพันหนึ่งร้อยเหรียญทองโดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นอย่าได้หวังจะก่อสร้างสิ่งใดในเมืองแห่งนี้!” สีหน้าผันเปลี่ยนด้วยความเจ้าเล่ห์ขณะกล่าวกับบุรุษหนุ่มที่กำลังถอยตัวกลับไป
บุรุษหนุ่มมิกล้าเอ่ยอันใด แม้จะคุ้นชินกับพฤติกรรมเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังทำตัวงุ่มง่ามด้วยเกรงกลัว ก่อนออกมาพร้อมบอกกล่าวกับหยางเสี่ยวเทียนและอัตตามคำสั่งของผู้เป็นนายทันที
“ผู้นำสมาคมของเราไม่อยู่ที่นี่ พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว”
“อีกเรื่อง พวกเจ้าควรส่งเงินจำนวนสามพันหนึ่งร้อยเหรียญทองมาให้เร็วที่สุด เพราะตอนนี้ ผู้นำสมาคมของพวกเรากำลังอารมณ์ไม่ดี”
“หากส่งช้าจนทำให้ผู้นำของเราโมโห มันจะไม่จบแค่เงินเพียงสามพันหนึ่งร้อยเหรียญทองหรอกนะ อย่าหาว่าข้าไม่เตือนพวกเจ้า” บุรุษหนุ่มกล่าวพร้อมแสยะยิ้ม
“หากส่งช้า ราคาจะเพิ่มขึ้นหรืออย่างไร” หยางเสี่ยวเทียนถามน้ำเสียงเคร่งขรึม
บุรุษหนุ่มโบกมือปัด เนื่องจากขี้เกียจจะเสียเวลาสนทนากับเด็กอย่างหยางเสี่ยวเทียน แล้วหันกล่าวกับอัต
“ไปๆ พวกเจ้ารีบกลับไปได้แล้ว อย่ามาเกะกะขวางทางข้า”
หลังไล่พวกเขาอย่างนั้น เขาก็หันหลังกลับแล้วเดินจากไปโดยไม่คิดสนใจใดๆ อีก
เกะกะขวางทางงั้นหรือ?
พวกคนเหล่านี้ กำลังคิดว่ากลุ่มของหยางเสี่ยวเทียนยืนขวางทางและทำให้เสียเวลาขนาดนั้นเลยหรืออย่างไรกัน
ด้วยวาจาเช่นนั้นของบุรุษหนุ่ม ผู้ควรทำหน้าที่ต้อนรับประชาชนคนธรรมดาทั่วไปอย่างดี พานให้สีหน้าของหยางเสี่ยวเทียนพลันมืดลงในทันที
เวลาเดียวกัน ระหว่างที่หลินชางกำลังนั่งไขว่ห้างในท่าทีสุขสำราญเช่นเดิม จู่ๆ ผู้ใต้บัญชาก็เร่งปรี่เข้ามาแล้วรายงานว่าใต้เท้าหลินหยางมาเยือนที่นี่ ตอนนี้
“อะไรนะ พี่ใหญ่มาที่นี่งั้นเหรอ!” หลินชางตกใจรีบเปลี่ยนอิริยาบถวางขาลง พร้อมลุกยืนตัวตรงทันที
“เร็วเข้า เจ้ากับข้าต้องออกไปต้อนรับเขาเดี๋ยวนี้” เขากล่าวอย่างรีบร้อน
หลินชางปรี่ออกมายืนรอยังโถงอย่างเร็ว ไม่ช้า หลินหยางพร้อมองครักษ์ประจำเมืองสองคนก็เดินตามหลังเข้ามา ขณะเดินผ่านประตูหน้าสมาคมด้วยท่าทางสง่าผ่าเผยแฝงความผยองตนมิน้อย
“พี่ใหญ่ ลมอะไรพัดให้ท่านมาเยือนที่นี่ได้” หลินชางรีบปรี่เข้าหาเขา ขณะยกมือขึ้นกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม
“เช้านี้อากาศดี ข้าเลยอยากเดินเล่น รู้ตัวอีกทีก็ถึงที่นี่แล้ว เลยกะจะแวะเข้ามาดูเสียหน่อย” หลินหยางกล่าวอย่างสบายอารมณ์
เมื่อหลินชางได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ทอดถอนหายใจเริ่มโล่งอกอย่างคลายกังวลก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่ใหญ่ เมื่อวานข้าพบอะไรดีๆ ที่ท่านชอบด้วย”
เขารู้ใจคนเป็นพี่ใหญ่ดี ว่าชมชอบหยกเนื้อดีอันงดงามทุกชนิดเป็นที่สุด
กระทั่งดวงตาของหลินหยางเบิกกว้างขึ้นและเป็นประกายหลังได้ยินจบ แต่ขณะที่เขากำลังเดินไปข้างหน้าตามผู้เป็นน้องชายเพื่อเชยชมของล้ำค่า ทันใดนั้น สายตาก็พลันเหลือบเห็นร่างเล็กผู้คุ้นเคยคนหนึ่ง ซึ่งยืนอยู่ในโถงหน้าสมาคม
พอลองเพ่งมองดูร่างเล็กของเด็กคนนั้นดีๆ หลินหยางก็สะดุ้ง ขณะรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เขาสับเท้าจ้ำอ้าวเข้าหาเด็นผู้นั้น กระทั่งเดินห่างจากหลินชางและคนอื่นๆ ออกไป
หลินชางผู้เห็นพี่ใหญ่เดินเบี้ยงไปอีกทาง ก็หันมองตามด้วยแปลกใจ เมื่อเขากำลังย่างเท้าหาคนกลุ่มหนึ่งสีหน้าดูมีความสุขประดุจพบเจอของอันล้ำค่ากว่าหยกที่ว่านั่นอีก
“นั่น คุณชายหยางใช่หรือไม่!” หลินหยางเดินเข้ามาด้านหลังคนร่างเล็กขณะเอ่ยถามขึ้น
เขาพอจะรู้จักหยางเสี่ยวเทียนอยู่บ้าง ด้วยเคยพบเขายังงานเลี้ยงวันเกิดของเจ้าเมืองเผิงจื้อกัง เมื่อไม่กี่วันก่อน
เพียงไม่แน่ใจว่าใช้เด็กน้อยคนนั้นหรือเปล่า ด้วยขณะนี่หยางเสี่ยวเทียนยืนหันอยู่ในด้านข้าง ทำเขาไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้ทั้งหมด จำต้องเดินมาใกล้ให้แน่ใจว่าคือหยางเสี่ยวเทียนจริง
ซึ่งทันทีที่มีคนเอ่ยนามเขา หยางเสี่ยวเทียนก็หันกลับมามองยังคนต้นเสียงนั้นโดยพลัน
เมื่อหลินหยางเห็นชัดแล้วว่าคือหยางเสี่ยวเทียนจริง ใบหน้าเขาก็แสดงออกถึงความดีใจอย่างสุดซึ้ง
“เป็นคุณชายหยางจริงๆ ข้าช่างโชคดีที่ได้พบคุณชายหยางเช่นนี้ ข้าหลินหยางผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์ประจำเมืองเสินเจี้ยนตอนล่าง!” เขาโค้งคำนับขณะกล่าวทำความเคารพ
หลินชางที่ได้ยินแลเห็นพี่ใหญ่ตนก้มหัวทำความเคารพต่อเด็กน้อยนามหยางเสี่ยวเทียนคนนั้น ก็ถึงกับประหลาดใจ
สำหรับบุรุษหนุ่มที่ไล่หยางเสี่ยวเทียนให้เคลื่อนตัวพ้นอย่าได้ขวางทางขณะนี้นั้น กลับเบิกตาโตอ้าปากค้างด้วยตะลึงลาน หลังประสบเห็นสิ่งนี้