ตอนที่ 155
ตอนที่ 155
เมื่อโลกแก่นชีวิตกลับสู่ความสงบสุขอีกครั้ง ผนึกที่เกิดกับเต๋าซุนก็หาไปเช่นกัน
เขามองดูโลกแก่นชีวิตของเขาอย่างใกล้ชิดและพบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เมื่อมองดูท่าทางครุ่นคิดของโกลาหล เต๋าซุนก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น "เจ้ารู้อะไรบ้างไหม?"
“มีตำนานโบราณอยู่เรื่องนี้ แต่ไม่มีใครเชื่อเรื่องนี้เลย มันเป็นตำนานที่เกือบจะถูกลืมเลือนไปแล้ว ” โกลาหลกล่าวอย่างเคร่งขรึม: “ข้าเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และทำได้เพียงคาดเดาเอาเองเท่านั้น ”
“ตำนานอะไร?” เต๋าซุน ถาม
“สายพันธุ์ต้นกำเนิด” โกลาหลตอบช้าๆ
เต๋าซุนตกตะลึง อันที่จริงเขาเองก็ไม่ได้รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสายพันธุ์ต้นกำเนิด ในหมู่มนุษย์ สิ่งหนึ่งที่ได้รับการยอมรับก็มีอยู่แค่เรื่องที่ว่ามนุษย์นั้นวิวัฒนาการมาจากสัตว์อสูร
ในเวลานั้น นักพรตชิงหยางได้เสนอทฤษฎีวิวัฒนาการของครึ่งอสูร และจักรพรรดิมังกรทรราชก็ได้สร้างสายพันธุ์ครึ่งอสูรขึ้นมา
แม้ว่าการทดลองนี้จะถือว่าล้มเหลว แต่ทฤษฎีวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรที่นักพรตชิงหยางกล่าวถึงนั้นก็ถูกยอมรับอย่างกว้างขวาง
ไม่เพียงแต่สัตว์อสูรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมนุษย์เองก็ยอมรับทฤษฏีนี้เช่นกัน
“มันคือทฤษฎีกำเนิดและวิวัฒนาการของมนุษย์ที่นักพรตชิงหยางกล่าวถึงในตอนต้นใช่หรือไม่?” เต๋าซุน ถามอย่างสงสัย
“ไม่ มันเก่าแก่กว่านั้น” โกลาหลตอบ “ท่านพอรู้ใช่ไหมว่ามนุษย์นั้นวิวัฒนาการมาจากสัตว์อสูร แต่…แล้วสัตว์อสูรล่ะ วิวัฒนาการมาจากสิ่งใด ?”
“ต้นกำเนิดของสัตว์อสูร?” เต๋าซุน ตกตะลึง เขาไม่เคยสนใจเรื่องนี้มาก่อน
“นี่คือความลับที่ชนเผ่าสัตว์อสูรของเราทิ้งไว้ จริงๆ แล้ว ข้าเองไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่” โกลาหล ตอบ: “ว่ากันว่าในช่วงก่อนกำเนิดยุคสมัย โลกยังคงตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย
ไข่มุกโกลาหลได้แยกสวรรค์และโลกออกจากกัน ในเวลานั้น โลกไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดๆ
หลังจากที่โลกกับสวรรค์ถูกแยกออก แก่นแท้ของดวงอาทิตย์ก็ได้ให้กำเนิดพลังปราณหยางขึ้นมา และพัฒนากลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่า เทียนไขตะวัน
เทียนไขตะวันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังและสูงส่งที่สุดในโลก เราเรียกมันว่าเทพแสงศักดิ์สิทธิ์
หลังจากนั้นพลังปราณหยินเองก็หลอมรวมเข้ากับแก่นโลก และพัฒนาเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีชื่อว่า จันทรามืดมัว
เราเรียกมันว่า เทพมืดโบราณ "
“เทพแสงศักดิ์สิทธิ์ เทพมืดโบราณ” เต๋าซุนพึมพำกับตัวเอง เขาไม่เคยได้ยินสองชื่อนี้มาก่อน
เมื่อตอนที่ไข่มุกโกลาหลพาเข้าไปยังแม่น้ำโชคชะตาก่อนหน้านี้ เขาได้เฝ้าดูการวิวัฒนาการที่เกิดขึ้นในแม่น้ำแห่งโชคชะตามาแล้ว แต่ก็ไม่เห็นว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับสองสิ่งนี้ปรากฏแม้แต่น้อย
ต้องรู้ว่าแม่น้ำแห่งโชคชะตานั้นก่อกำเนิดขึ้นตั้งแต่ยุคสมัยกำเนิด
มีคำอธิบายเพียงข้อเดียว การกำเนิดของเทพแสงศักดิ์สิทธิ์ เทพมืดโบราณ นั้นอยู่ห่างไกลจากแม่น้ำแห่งโชคชะตาไปก่อนหน้านั้นเสียอีก
“เจ้าพูดต่อ” เต๋าซุน มองไปที่ โกลาหล แล้วพูด
โกลาหลพยักหน้าและกล่าวว่า: "หยินหยางถือกำเนิดและแบ่งออกเป็นสองขั้ว ขั้วทั้งสองตัดผ่านกันเกิดเป็นสี่ทิศ ทั้งสี่ทิศตัดกันเกิดเป็นแผนภาพหยินหยางกำเนิดทุกสิ่ง สองขั้วหยินหยางกำเนิดสวรรค์และโลก และทิศทั้งสี่นั้นก็กำเนิดรูปลักษณ์ของสวรรค์และโลก
ตามการคาดเดาที่บรรพบุรุษของเราทิ้งไว้ การหลอมรวมของเทพแสงศักดิ์สิทธิ์ เทพมืดโบราณทำให้เกิดสัตว์อสูรขึ้นในโลก
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ในตำนานทั้งสี่หรือสัตว์อสูรในตำนานต่างๆ พวกมันล้วนมาจากเทพแสงศักดิ์สิทธิ์กับเทพมืดโบราณ
ต่อมา สัตว์อสูรเหล่านี้ก็ได้พัฒนาเป็นเผ่าพันธุ์อื่นๆ "
“ดูเหมือนข้าจะเข้าใจบ้างแล้วเล็กน้อย” เต๋าซุน พูดอย่างครุ่นคิด
“พูดง่ายๆ เลย” โกลาหล กล่าวต่อ “ตำนานเกี่ยวกับเผ่ามังกร ต้นกำเนิดของเผ่ามังกรและสรรพสัตว์นั้นมาจากสัตว์อสูรต้นกำเนิดสายพันธุ์หนึ่งที่ชื่อว่ามังกรศักดิ์สิทธิ์
หัวของมันเหมือนอูฐ มีเขาเหมือนกวาง ตาเหมือนกระต่าย หูเหมือนวัว คอเหมือนงู ท้องเหมือนมังกร เกล็ดเหมือนปลาคาร์พ กรงเล็บก็เหมือนนกอินทรี และฝ่าเท้าก็เหมือนเสือ
ตามตำนานของกลุ่มสัตว์อสูร สิ่งมีชีวิตเช่น กระต่าย วัว งู ปลาคาร์ป นกอินทรี เสือ... พวกมันล้วนวิวัฒนาการมาจากมังกรศักดิ์สิทธิ์ตนนี้
แต่ร่างกายส่วนใหญ่ของมันนั้นคล้ายกับมังกรเป็นที่สุด
มังกรจึงกลายเป็นหนึ่งในสี่สัตว์อสูรเทพ หากสัตว์อสูรในโลกวิวัฒนาการมาจากสี่สัตว์เทพ เช่นนั้นสี่สัตว์เทพก็วิวัฒนาการมาจาก เทพแสงศักดิ์สิทธิ์และเทพมืดโบราณ
หรือจะอธิบายให้ถูกก็คือ สัตว์อสูรบนโลกนั้นกำเนิดมาจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
พูดง่ายๆ ก็คือ เทพแสงศักดิ์สิทธิ์กับเทพมืดโบราณนั้นเป็นผู้ให้กำเนิดสัตว์อสูรเทพทั้งสี่ และสัตว์อสูรเทพทั้งสี่ก็ให้กำเนิดสัตว์อสูรทุกตนบนโลก
หลังจากนั้น สัตว์อสูรเหล่านี้บางตัวก็วิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์เช่นท่าน "
“เจ้าจะบอกว่าสัตว์อสูรตัวเมื่อครู่ มันมีความเกี่ยวข้องกับเทพแสงศักดิ์สิทธิ์และเทพมืดโบราณใช่หรือไม่ ?” เต๋าซุนถามด้วยความตกใจ
“หลังจากที่เทพแสงศักดิ์สิทธิ์และเทพมืดโบราณกำเนิดสรรพสัตว์อสูรขึ้นมา พวกเขาก็ได้หลบซ่อนหายไป ” โกลาหล มองไปที่ เต๋าซุน และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง: “ ข้าสงสัยเช่นกันว่าสัตว์อสูรเมื่อครู่ที่เราพบเจอนั้น อาจเป็นร่างแท้จริงของเทพแสงศักดิ์สิทธิ์
และไข่มุกที่พุ่งออกมาจากร่างของท่านก็ย่อมเป็นไข่มุกโกลาหล "
เมื่อได้ยินคำพูดของโกลาหล เต๋าซุนก็สะดุ้ง เขามองไปที่ โกลาหล แล้วพูดว่า "เจ้าฉลาดไม่เบาเลยหนิ"
“นายท่าน ก่อนอื่นท่านช่วยยืนยันกับข้าหน่อยได้ไหมว่านั่นคือไข่มุกโกลาหลหรือไม่ ?” โกลาหลถามอย่างตื่นเต้น
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า เป็นสุนัขก็เฝ้าบ้านเงียบๆไปเถอะ” เต๋าซุนตอบอย่างเย็นชา
“นายท่าน ข้าไม่คิดเลยว่าท่านจะมีความลับที่สุดยอดเช่นนี้” โกลาหลพูดอย่างตื่นเต้น: “จากนี้ไป เกี๊ยวน้อยคนนี้จะขอติดตามท่านตลอดไป ท่านจะให้ข้าขึ้นภูเขาดาบหรือลงทะเลเพลิงข้าก็จะไปให้ท่าน แม้จะต้องแห้งตาย หรือร่างกายเน่าเสียข้าก็ยอม ”
“ก่อนหน้านี้เจ้าบอกตัวเองเป็นถึงสัตว์อสูรในตำนานจากยุครกร้างไม่ใช่รึ ?” เต๋าซุนพูดอย่างไม่คิดอะไร
“ถ้าท่านประสบความสำเร็จ ท่านจะไม่ทิ้งข้าใช่หรือไม่ ?” โกลาหล ถาม
"ไม่ทิ้ง."
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะขอเป็นลูกน้องของท่านเช่นนี้ตลอดไป ”
"เห้อ…"
“นายท่าน การแสดงออกเช่นนั้นหมายความว่าไง?”
“ทำไมเจ้าถึงได้ดูตื่นเต้นนัก?”
“ไข่มุกโกลาหล, เทพแสงศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเทียบกับสองสิงนี้แล้ว สิ่งที่เรียกว่าจักรพรรดินั้นดูไร้สาระไปเลยก็ว่าได้อ่ะ” โกลาหล ตอบอย่างรวดเร็ว
“ข้าไม่เข้าใจ ข้าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้ากัน ?” เต๋าซุน หันกลับไปถามอย่างจนใจ
“โอ้ ไม่ได้นะนายท่าน เรื่องนี้สำคัญอย่างยิ่ง ข้าเป็นสัตว์อสูรสัญญาของท่าน หากท่านแข็งแกร่งขึ้น คนที่ได้รับผลประโยชน์ด้วยก็ย่อมเป็นข้า ”
"เจ้าคิดงั้นรึ?"
“ท่านกินเนื้อหมดหม้อแล้ว ท่านก็คงเหลือน้ำซุปไว้ให้หากินบ้างใช่หรือไม่ ?”
"ไม่อ่ะ"
……………
“นายท่าน ข้าขอสัมผัสไข่มุกโกลาหลหน่อยได้หรือไม่ ”
"ไสหัวไปเลย"
"ก็ได้!"
…………
หลังออกมาจากดินแดนสายธารมังกร ท้องฟ้าข้างนอกก็มืดลงแล้ว
เต๋าซุนเก็บโกลาหลเข้าไปในมิติสัตว์อสูร และสำรวจโลกแก่นชีวิตของเขาอีกครั้ง แต่เขาก็ยังไม่พบกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เขาไม่รู้เลยว่าเรื่องเทพแสงศักดิ์สิทธิ์กับเทพมืดโบราณนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ดังนั้นเต๋าซุนจึงไม่ได้คาดหวังอะไรขนาดนั้น
พรุ่งนี้จะเป็นวันพิธีแต่งตั้งบุตรแห่งสวรรค์ของนิกายแล้ว และเมื่อเย็นพ่อของเขาเต๋าเสี่ยวโม่ก็ได้ให้คนเอาชุดมาส่งให้แล้วเช่นกัน
เขาบอกว่านี่เป็นเสื้อคลุมของบุตรแห่งสวรรค์ และขอให้ เต๋าซุน สวมใส่มันในวันพิธีพรุ่งนี้
ค่ำคืนก็ผ่านไปอย่างเงียบๆ เต๋าซุนไม่ได้วางแผนที่จะฝึกฝนต่อในตอนกลางคืน เขาเพียงคุยเรื่อยเปื่อยกับโกลาหลตลอดคืนเท่านั้น
เขาถามความลับมากมายเกี่ยวกับเผ่าสัตว์อสูร และดูเหมือนเจ้าโกลาหลก็คิดจะกอดต้นขาของเขาไปตลอดจนโลกสลายจริงๆ
เมื่อคิดถึงความเย่อหยิ่งที่มันแสดงออกก่อนหน้าที่จะทำสัญญากับเขาแล้ว เต๋าซุนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ …. นี่โลกกำลังห้อยกลับหัวหรือไม่ เหตุใดสัตว์อสูรตนนี้ถึงได้หน้าด้านและขี้ประจบนัก !