ตอนที่ 105: โจมตีบุรุษผู้ยิ่งใหญ่!
ภูเขาเทียนหยุน, ศาลาเสวียนหยุน
ราชรถหยกวิหคปีกฟ้าที่บินข้ามตัดผ่านท้องฟ้า และร่อนลงที่ลานบนยอดเขา.
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ สาวกทุกคนของศาลาเสวียนหยุนก็แสดงสีหน้าตื่นตะลึง!
“นี่คือราชรถหยกของราชวงศ์เป่ยเสวียนเทียน เป็นไปได้ไหมที่บุคคลสำคัญมาที่ศาลาเสวียนหยุนของพวกเรา?”
“ท่านอาจารย์เอ่ยกับพวกเราว่า ศาลาเสวียนหยุน ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 30,000 ปีที่แล้ว และพวกเราเองก็ไม่เคยมีการติดต่อกับผู้คนจากดินแดนอมตะเก้าสวรรค์เลย วันนี้ช่างพิเศษจริง ๆ!”
"ข้ามีลางสังหรณ์ที่รุนแรง หลังจากวันนี้ ศาลาเสวียนหยุนของพวกเราจะโด่งดังไปทั่วแดนรกร้างตะวันออก!"
-
ขณะที่เหล่าสาวกศาลาเสวียนหยุนเอ่ยชื่นชมไม่หยุด ราชรถหยกก็ร่อนลงถึงลานแล้ว.
หลินซวน ที่เดินออกมาพร้อมกับบุตรสาวทั้งสี่ของเขา ซึ่งมีเสิ่นเหวินซานและเหวินหยวนซ่งที่มาถึงก่อน รีบเข้ามาต้อนรับ.
“ตี้ฟุ่ เชิญ!”เสิ่นเหวินซานที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.
“เหวินชาน เจ้าพบวิธีรักษาแล้วหรือยัง?”
ในเวลานั้น สตรีงามคนหนึ่งที่เร่งรีบก้าวออกมาจากห้องโถงใหญ่ก้าวมาถึงลานหน้าบ้าน นางเป็นภรรยาของเสิ่นเหวินซาน ซูเฉียง.
เสิ่นเหวินซาน เอ่ยอย่างมีความสุข: "มากกว่าการค้นหายารักษา เรายังเชิญตี้ฟู่แห่งเป่ยเสวียนเทียนมาได้ด้วย"
ซูเฉียงรีบเงยหน้าขึ้น เมื่อมองไปที่หลินซวน เพียงมองแวบเดียว นางก็รู้สึกประหลาดใจอย่างหนัก
สมกับเป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่แห่งดินแดนอมตะเก้าสวรรค์ ท่าทางช่างดูแตกต่างจากผู้คนจากโลกนี้อย่างแท้จริง.
“เฉินเซี่ย(ภรรยาของคนผู้หนึ่ง) ได้พบกับตี้ฟู่แล้ว!”ซูเฉียงเอ่ยด้วยความเคารพ.
หลินซวนพยักหน้าเล็กน้อย: "ไม่ต้องมากพิธี ดูเด็กก่อนเถอะ!"
"ตามแต่จะกรุณา!"เสิ่นเหวินซานและซูเฉียง รีบนำทางพาหลินซวนไปยังห้องนอนที่สวนหลังบ้าน.
หลินซวนเห็นว่ามีเปลที่สร้างขึ้นอย่างสวยงามอยู่ข้าง ๆ เตียงขนาดใหญ่ในห้องนอน
บนเปลนั้นมีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งกำลังนอนอยู่ในห่อผ้า
เมื่อมองดูอย่างตั้งใจ แสงสีเขียวก็ปรากฏจาง ๆ ใต้ผิวขาวของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ
ด้วยขอบเขตอาณาจักรจักรพรรดิ หลินซวนย่อมมองเห็นได้ชัดเจน
ในหลอดโลหิตของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ มีหนอนสีเขียวตัวยาวว่ายอยู่
ด้วยระดับทักษะปรมาจารย์การแพทย์ ร่วมกับตำราสวรรค์เสวียนเจี่ย.
หลินซวนสรุปทันทีว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ได้รับพิษที่ชั่วร้ายมาก
กู่ไหมกินไขกระดูก.
“ตี้ฟู่ อี้เอ๋อร์ถูกวางกู่พิษ?”เสิ่นเหวินซานเอ่ยถามอย่างเร่งรีบ.
เขาจำได้ว่าเหวินหยวนซ่งเคยเอ่ยไว้ก่อนหน้านี้ว่าเสิ่นยี่จง ถูกวางยาพิษกู่
หากแต่ กระทั่งเหวินหยวนซง ก็ไม่อาจบอกได้ว่ามันคือกู่ชนิดไหน แต่พอจะคาดเดาได้ว่ามีเพียงแค่ โสมจักรพรรดิมังกรจื่อหยุนที่มีแนวโน้มที่จะรักษาพิษกู่นี้ได้.
หลินซวน พยักหน้า: "ถูกต้อง มันคือกู่ไหมกินไขกระดูก”
“กู่ตนนี้ชั่วร้ายอย่างยิ่ง เมื่อมันบุกรุกร่างกายมนุษย์ มันสามารถแทรกซึมเข้าสู่ไขกระดูก และในไม่ช้า มันก็จะบุกรุกทั้งร่างกายผ่านทางโลหิต”
“ไม่เพียงแต่มันจะกลืนกินไขกระดูกได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มจำนวนหนอนกู่นับพันล้านตัว ซึ่งสามารถกลืนคนทั้งเป็นจากภายในสู่ภายนอก ภายในเวลาไม่ถึงเจ็ดวัน”
ฟู่!
คำพูดของหลินซวนทำให้เสิ่นเหวินซานและซูเฉียงสูดหายใจที่เย็นยะเยือบเข้ามา.
เหวินหยวนซ่ง เอ่ยด้วยความประหลาดใจ "กลับกลายเป็นพิษกู่ที่ชั่วร้ายมาก!"
เหงื่อเย็นจาง ๆ แผ่กระจายออกมาจากด้านหลังเขา
เขารู้เพียงว่านี่เป็นกู่พิษ แต่เขาไม่รู้ว่าจริง ๆ ว่ามันคือกู่ไหมกินไขกระดูก
เป็นไปได้ว่าหากเป็นเขา คงไม่สามารถช่วยเสิ่นยี่ได้เลย.
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว เสิ่นเหวินซานและภรรยาของเขา ซูเฉียง ก็คิดได้ทันทีว่าตี้ฟู่สามารถบอกพิษในตัวเด็กได้ด้วยเพียงแค่มอง.
ซึ่งหมายความว่า...ตี้ฟู่ สามารถรักษาเด็กได้อย่างแน่นอน
เสิ่นเหวินซานและซูเฉียง รีบคุกเข่าลงกับพื้นและคำนับ“ขอได้โปรดช่วยเด็กด้วย!”
เด็กหญิงตัวน้อยทั้งสี่ เสวียนจู่และน้องสาวได้จับมือเล็ก ๆ ของนางด้วยความคาดหวังและอธิษฐาน
“น้องสาวตัวน้อยกับถูกแมลงกัด ต้องเจ็บปวดมาก ข้าหวังว่านางจะดีขึ้นในเร็ว ๆ นี้!”
“ใช่ ๆ นางจะต้องหายเร็ว ๆ ไม่อย่างนั้นข้าต้องเสียใจ!”
เมื่อเห็นว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ แสดงความเอาใจใส่มาก ทั้งเสิ่นเหวินซานและซูเฉียง ก็แสดงสีหน้าซาบซึ้ง.
หลินซวนไม่ลังเล หันกลับมาและเอ่ยกับเหวินหยวนซ่ง:
"นอกเหนือจากโสมจักรพรรดิมังกรจื่อหยุนแล้ว เจ้าควรเตรียมเข็มทองขนาด 3 นิ้ว หญ้าสีดำ หญ้าสีทอง และหญ้าล้างกระดูก ... "
เขาเอ่ยชื่อสมุนไพรหายากมากกว่าสิบชนิดในลมหายใจเดียว
เหวินหยวนซ่งตั้งใจฟัง ไม่กล้าผ่อนคลายแม้แต่น้อย
เขารู้ว่าหลินซวนกำลังจะสกัดยาเม็ดที่ไม่มีใครเทียบได้
และวันนี้เขาสามารถเฝ้าดูและเรียนรู้จากข้าง ๆ ได้ด้วย และนี่เป็นประสบการณ์อันล้ำค่าในการจัดการกับเซลล์ไขกระดูกที่ถูกทำลายจากกู่ไหมกินกระดูก.
เนื่องจากความแข็งแกร่งของศาลาเสวียนหยุนจึงมีพืชหายากและแปลกใหม่มากมาย
ไม่นานหลังจากนั้น เหวินหยวนซ่งก็รวบรวมสมุนไพรและเตรียมเข็มทองตามคำขอของหลินซวน
หลังจากที่หลินซวนใส่วัตถุดิบยาทั้งหมดลงในเตาปรุงยา เขาใช้ฐานบ่มเพาะอาณาจักรจักรพรรดิเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับเปลวไฟ
ซูมมมม
หลังจากที่กลิ่นหอมเม็ดยาโชยออกมา ยาเม็ดที่มีแสงล้ำลึกแวววาวก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา
“ตี้ฟู่ ยาเม็ดนี้คืออะไร?” เหวินหยวนซงดูประหลาดใจ
หลินซวนเอ่ยเบา ๆ: "ยาเม็ดนี้คือ ยาคืนชีวิตฉีเป่าเกรดต่ำ ซึ่งสามารถทำความสะอาดไขกระดูกและรวมจิตวิญญาณเข้าด้วยกันได้"
เหวินหยวนซ่งพยักหน้า จักรพรรดิแข็งแกร่งมากสามารถสกัดยาศักดิ์สิทธิ์ได้ตามต้องการ มันช่างน่าทึ่งจริง ๆ
เสิ่นเหวินซานและซูเฉียงอดไม่ได้ที่จะมีความสุขเมื่อพวกเขาพบว่ายาที่หลินซวนปรุงขึ้นมานั้นพิเศษมาก.
เสิ่นเหวินซานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ“อี้เอ๋อ เจ้าได้พบกับบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แล้ว!”
จากนั้นหลินซวนก็ใส่ยาคืนชีวิตฉีเป่าเข้าไปในปากของเสิ่นยี่.
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ค่อย ๆ ปักเข็มทองคำเข้าไปที่จุดไป๋ฮุ่ยที่อยู่ด้านบนของขมับของเสิ่นยี่
-
ภายนอกภูเขาเทียนหยุน
ผู้คนหลายพันคนขี่สัตว์อสูรชนิดต่าง ๆ แบ่งออกเป็นสี่ทีมและเคลื่อนที่เข้าใกล้ศาลาเสวียนหยุน เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว พร้อมกับเผยกลิ่นอายที่หนักหน่วงท่วมท้นออกมา.
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เหล่าสาวกที่ดูแลศาลาเสวียนหยุนก็แสดงสีหน้าวิตกกังวลและระมัดระวังทันที
“ขออภัยด้วย ทำไมพวกเจ้าถึงมาที่ศาลาเสวียนหยุนของพวกเรา?”
เจิ้งหง ผู้อาวุโสใหญ่ของตำหนักเสวียนหยุน ได้ออกมาขวางทางเอาไว้.
เขาจำคนเหล่านี้ได้.
ผู้ที่มา ประกอบด้วยจางโปกานผู้นำนิกายซานชิง เจ้าเฉิงเทียนผู้นำนิกายเทียนหยาง เห่าเยว่ผู้นำนิกายสำนักจิวติง และเจียงหงหลางผู้นำนิกายตำหนักจูหลิง.
เนื่องจากเสิ่นหยวนซาน ได้นำราชรถหยกวิหคปีกฟ้ามายังภูเขาเทียนหยุนเมื่อครู่นี้ แสดงให้เห็นว่าวันนี้ผู้ทรงเกียรติได้มาเยือนที่นี่แล้ว.
และคงมีเรื่องสำคัญเกิดขึ้น.
ดังนั้น เขาจึงรู้ว่ามันไม่เหมาะที่จะรบกวนผู้ทรงเกียรติ ในเวลานี้เขาจึงเริ่มเจรจากับพวกจางโปกาน
จางโปกาน มองไปที่เจิ้งหงและเอ่ยออกมาว่า“ข้ามาที่นี่ แน่นอน ก็เพื่อรับราชาโสมจักรพรรดิมังกรจื่อหยุน!”
วันนี้พวกเขาเองก็ได้เข้าสู่อาณาจักรลับด้วย
เดิมทีหากเสิ่นเหวินซานได้รับโสมจักรพรรดิมังกรจื่อหยุนระดับสวรรค์ พวกเขาสามารถเพิกเฉยต่อมันได้.
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เสิ่นเหวินซานได้รับ ราชาโสมระดับศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งกระตุ้นความโลภมหาศาลของพวกเขา.
ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นเหนือกว่าศาลาเสวียนหยุน.
นิกายหลักทั้งสี่ที่ตื่นตะลึง! และตัดสินใจที่จะใช้กำลังของพวกเขาเพื่อแย่งสิ่งของดังกล่าวมา.
ท้ายที่สุด นี่คือผลประโยชน์ ที่สามารถคว้ามาได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก พวกเขาไม่มีเหตุผลที่จะพลาดเรื่องเช่นนี้ได้.
เจิ้งหงผายมือ: "ขอโทษด้วย ราชาแห่งโสมเป็นของเจ้าหรือเปล่า?"
เจ้าเฉิงเทียน กล่าวเสียงเข้ม“ใช่หรือไม่ใช่ พวกเจ้าก็ต้องมอบให้กับพวกเรา!”
เห่าเยว่กล่าวเยาะเย้น“อะไรกัน พวกลูกกระจ๊อก ต้องการหาเหตุผลกับพวกเราอย่างงั้นรึ?”
เจียงหงหลาง เผยยิ้ม ไม่เอ่ยอะไรสักคำทว่าพลังที่น่าเกรงขามได้แผ่ออกมาจากมือของเขา คล้ายกับว่าพร้อมจะลงมือในทุกเมื่อ.
เจิ้งหงสามารถมองเห็นท่าทางที่ยโสโอหังของพวกเขาได้ ทว่าก็ยังเอ่ยออกไปไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยองใด ๆ.
“พลังของผู้น้อยแค่ระดับปานกลาง ย่อมไม่อาจเทียบเคียงกับเจ้านิกายทั้งสี่ได้ จะกล้าหาเหตุผลได้อย่างไร?”
“อย่างไรก็ตาม ข้าขอเตือนพวกท่านว่า วันนี้มีผู้ยิ่งใหญ่ในศาลาเสวียนหยุน ดังนั้นทุกท่านโปรดระวังตัวจะดีกว่า!”
ผู้ยิ่งใหญ่?
จางโปกาน และคนอื่น ๆ มองหน้ากันและกัน.
เจิ้งหงกล่าวต่อ “ผู้ยิ่งใหญ่นี้มาจากราชวงศ์เป่ยเสวียนเทียน ข้าไม่มีคุณสมบัติยืนยันว่าเป็นใคร”
“ราชวงศ์เป่ยเสวียนเทียน?”
คำเอ่ยของเขาทำให้จางโปกานและคนอื่น ๆ เผยความประหลาดใจ.
หากมาจากราชวงศ์เป่ยเสวียนเทียนจริง ๆ นิกายหลักทั้งสี่ของพวกเขาก็ไม่อาจยั่วยุได้จริง ๆ.
ว่าแต่…
แม้นว่าศาลาเสวียนหยุนจะมีความแข็งแกร่งในดินแดนรกร้างตะวันออก แต่ก็ไม่ใช่นิกายชั้นนำของที่นี่.
พวกเขามีคุณสมบัติใดกันที่สามารถติดต่อกับผู้ยิ่งใหญ่จากราชวงศ์เป่ยเสวียนเทียนได้กัน?
เนื่งอจากเสิ่นเหวินซาน ใช้ทางลัดกลับมา ทำให้เจียงหยวนฟ่านยังมาไม่ถึงที่นี่.
จางโปกานและเจียงหงหลางไม่สามารถยืนยันได้ว่าคำพูดของเจิ้งหงนั้นเป็นจริงหรือไม่?
หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง จางโปกาน ก็ตัดสินใจค้นหาความจริง.
เขาขี่สัตว์ร้ายไปข้างหน้า พร้อมกับโค้งมือไปทางลานของศาลาเสวียนหยุน
หลังจากสูดหายใจลึก ก็ใช้แก่นแท้พลังวิญญาณเอ่ยเสียงผ่านวิญญาณดังเหมือนกับระฆังดังก้องไปทั่ว“นิกายซานชิง จางโปกาน ขอเข้าพบผู้ทรงเกียรติเป่ยเสวียนเทียน!”
เขาเอ่ยจบ เจ้าเฉิงเทียน เห่าเยว่ เจียงหงหลางต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย.
เคล็ดลับนี้เหมาะที่จะใช้งานในเวลานี้!
หากเป็นผู้ทรงเกียรติจากเป่ยเสวียนก็จะรับรู้เพียงสายลมพัดเล็กน้อยเท่านั้น.
ด้วยวิธีนี้แล้ว เขาก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าเจิ้งหงกำลังโกหกหรือไม่?
อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึง
หลังจากที่เสียงของจางโปกานดังขึ้น พลังที่น่าสะพรึงกลัวก็สั่นสะเทือนไปทั่วพื้นที่สิบลี้.
แรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่กว้างใหญ่ไพศาล ทำให้หัวใจของพวกเขาสั่นไปมาอย่างรุนแรง ขนทั่วร่างกายที่ลุกตั้งชูชันอย่างอธิบายไม่ได้.
ซูมมมมมมมม
พลังมหาศาลที่ตลงมาจากบนท้องฟ้า ทำให้จางโปกานกระเด็นลอยออกไปหลายพันฟุต.
จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงบุรุษที่สง่าเอ่ยออกมาว่า“เงียบ ๆ!”
หลินซวนในห้องนอนขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากเอ่ยสิ่งนี้แล้ว เขาก็หันไปมองเข็มทองในมือของเขา
ในเวลานี้ โลหิตสกปรกสีเขียวได้ไหลออกมาตามเข็มทองแล้ว
เสิ่นยี่ที่กำลังจะตาย จู่ ๆ ก็ร้อง อุว้า! ร้องไห้ออกมาเสียงดัง