ตอนที่ 104: ความเย่อหยิ่งต้องใช้ให้ถูกคน!
“นี่อาจเป็นราชรถหยกของตี้ฟู่หรือไม่?”
ดวงตาของเหวินหยวนซ่งสั่นไหว และความสุขที่อธิบายไม่ได้ก็พุ่งเข้ามาในหัวใจของเขา
ราชหยกที่ดูหรูหราอย่างยิ่งในเมฆจาง ๆ ราวกับอยู่ในโลกแห่งเซียน
แม้ว่าจะเป็นเพียงการมองแวบเดียว เหวินหยวนซงก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
วันนี้เป็นวันเกิดขององค์หญิงถังหยิง
เหวินหยวนซ่งคาดเดาอย่างกล้าหาญว่า จะต้องเป็นราชรถหยกของหลินซวนที่อยู่ท่ามกลางหมู่มวลเมฆาแน่นอน
“เหวินซาน บางทีเราอาจไม่จำเป็นต้องตาย!”
เหวินหยวนซ่งตบไหล่ เสิ่นเหวินซาน อย่างตื่นเต้น
เสิ่นเหวินซานดูสับสน: "เจ้ากำลังเอ่ยเรื่องไร้สาระอะไร?"
ตอนนี้พวกเขามาถึงทางตันแล้ว เวลานี้ศัตรูไล่หลังมาใกล้จะทันแล้ว จึงเสียสติรึ?
ไม่ตายงั้นรึ?
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องตลกหรอกรึ?
เหวินหยวนซ่ง ชี้ไปที่ราชรถหยกในหมู่เมฆที่อยู่ห่างไกลออกไปแล้วเอ่ยออกมาว่า:
“บุคคลที่อยู่ในราชรถหยกนั่นน่าจะเป็นจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน เราขอความช่วยเหลือจากพระองค์ได้ พวกเราจะต้องมีชีวิตรอดอย่างแน่นอน!”
เสิ่นเหวินซานมองด้วยความตื่นตะลึง ทว่าเมื่อคิดบางอย่างก็ชะงักไปเหมือนกัน!: "ถ้าเป็นผู้มีอำนาจเพียงนั้น เขาจะก้มลงมาช่วยเราอย่างงั้นรึ?"
เหวินหยวนซ่งอดไม่ได้ที่จะเงียบไปสักพัก
ใช่แล้วตัวตนของตี้ฟู่คืออะไร!
ในสายตาของเขาทั่วทั้งทวีปเป็นเพียงฝุ่นผงเท่านั้น.
เมื่อเอ่ยถึงตัวเอง เขาเพิ่งติดต่อกับตี้ฟู่ กล่าวได้ว่าไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะขอให้ตี้ฟู่ช่วยเขาได้เลย.
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว เหวินหยวนซ่งก็ส่ายหน้า แล้วเอ่ยออกมาว่า:
“ตัวตนเช่นตี้ฟู่ จิตใจของเขาไม่ใช่สิ่งที่เจ้าและข้าจะคาดเดาได้”
“ไม่ว่ายังไงก็มาลองขอร้องดูก่อนเถอะ!”
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป และรีบสะสมพละกำลังทั้งหมดของตัวเองออกมาเพื่อตะโกนไปยังราชรถหยกในระยะไกล
และในเวลาเดียวกันนี้
ภายในรถหยก หลินซวนกำลังเล่นกับสาวน้อยสี่คนอยู่.
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทั้งหมดที่กอดเอาไว้ในอ้อมแขนของ หลินซวน และบิดตัวดิ้นไปมาอยู่ในอ้อมแขนของเขาราวกับแมวตัวน้อย
“หือ? มีคนเรียก!”
ทันใดนั้นเสวียนซีก็หยุดและฟังอย่างระมัดระวังด้วยหูเล็ก ๆ ของนาง
เสวียนจู่ เหลือบมองนาง: "เจ้าได้ยินเหมือนกันเหรอ?"
“ใช่ ข้าก็ได้ยินเหมือนกัน!” เสวียนหาน และ เสวียนหยู ก็พยักหน้าเช่นกัน
“แล้วเจ้าได้ยินว่าเต้าหู้ช่วยหรือไม่?” เสวียนจู่ถาม
"ใช่ ๆ นั่นแหละ!"เสวียนซี, เสวียนหาน และ เสวียนหยู คิดอย่างรอบคอบและพยักหน้าในเวลาเดียวกัน
หลินซวน เกือบจะระเบิดเสียงหัวเราะเมื่อเขาได้ยินการสนทนาของพวกนาง
ด้วยจิตวิญญาณยักษาของเขาได้ยินเสียงร้องของเหวินหยวนซ่ง เพื่อขอความช่วยเหลือว่า“ตี้ฟู่ โปรดช่วยด้วย!”
จริง ๆ แล้ว เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ได้ยิน ตี้ฟู่ เป็นเต้าหู้ ซึ่งทำให้ หลินซวนรู้สึกขบขันมาก
แน่นอนเพราะว่าราชรถหยกนั้นอยู่ห่างจากเหวินหยวนซ่งอย่างน้อยสองพันฟุต.
ด้วยการได้ยินของเด็กหญิงตัวเล็ก ได้ยินเล็กน้อยก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว.
“เสด็จพ่อ ไปดูสิ ใครเรียกเต้าหู้มาช่วย!”
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ดึงหลินซวน ทันที
พวกนางอยากรู้อยากเห็นมาก เต้าหู้เอาไว้กินชัด ๆ ช่วยชีวิตได้อย่างไร?
คนที่เอ่ยคงหิวมากไหม?
หลินซวน เห็นว่าเหวินหยวนซ่งและพวกอยู่ที่ขอบหน้าผาจากจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์ และเข้าใจทันทีว่าพวกเขากำลังเผชิญกับอันตรายครั้งใหญ่
และเขาเข้าใจดีว่าจริง ๆ แล้วบุตรสาวทั้งสี่ไม่ต้องการกลับไปที่เป่ยเสวียนเทียนเร็วขนาดนี้
เขาจึงไม่เอ่ยอะไรมาก จากนั้นก็ปล่อยให้วิหคปีกฟ้าลดระดับความสูงและบินร่อนลงไป
และในเวลานั้น.
เมื่อเห็นว่าจู่ ๆ ราชรถหยกก็ร่อนลงมาที่นี่
เหวินหยวนซ่ง สะดุ้งตกใจทันที: "ราวกับฝันที่เป็นจริง! ตี้ฟู่ ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของข้า!"
เมื่อเห็นราชรถหยกสุดหรู เขามั่นใจ 100% ว่าหลินซวนอยู่ภายในรถ
เสิ่นเหวินซานเองก็เริ่มตื่นเต้นดีใจเช่นกัน.
ไม่ว่าบนราชรถหยกนั้นเป็นผู้ทรงเกียรติคนใด ย่อมสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้อย่างแน่นอน.
ท้ายที่สุด การดำรงอยู่เช่นนี้ ไม่ต้องเอ่ยถึงแดนรกร้างตะวันออก แม้แต่ทั่วทั้งทวีปก็ต้องตื่นตะลึงอย่างแน่นอน!
เจียงหยวนฟ่านที่นำลูกศิษย์ของเขาไล่ล่าตามพวกเหวินหยวนซ่งมา อยู่ห่างไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรแล้ว.
พวกเขาที่หยุดชะงักอยู่กับที่ จ้องมองไปยังราชรถหยกปีกฟ้าที่ค่อย ๆ ร่อนลงมาช้า ๆ.
ดวงตาของเจียงหยวนฟ่านเต็มไปด้วยความตกใจ“เมื่อกี้!พวกเจ้าได้ยินหรือไม่?”
"ข้าได้ยินแล้ว!" ศิษย์ที่อยู่ข้างหลังเขา พยักหน้าทันที "พวกเขากำลังขอความช่วยเหลือ!"
ตี้ฟู่...
เจียงหยวนฟ่านเอ่ยชื่อนี้ในใจของเขาอย่างเงียบ ๆ
เมื่อมองแวบแรก ราชรถหยกวิหคปีกฟ้า นี่คือราชรถหยกพระราชวังเสวียนปิง.
และเหวินหยวนซ่งกำลังเรียกหาตี้ฟู่ กล่าวได้ว่า คนที่อยู่ในราชรถหยกปีกฟ้าน่าจะเป็นตี้ฟู่แห่งเป่ยเสวียนเทียนเป็นแน่
ด้วยเหตุนี้ทำให้เจียงหยวนฟ่านไม่กล้าก้าวต่อไป.
“ซิซู(น้องชายเจ้านิกาย) พวกเราควรทำอย่างไรดี?”ศิษย์คนหนึ่งเอ่ยถาม.
เจียงหยวนฟ่านขมวดคิ้วคู่หนึ่ง จากนั้นก็กำหมัดแน่น และเอ่ยออกมาว่า“ถอยออกมา! ระวังเอาไว้ก่อน!”
เขารับรู้ว่าคนที่อยู่ในราชรถหยกนั้น พวกเขาไม่อาจรุกรานได้.
ยิ่งไปกว่านั้น จากที่ได้ยินเสียงของเหวินหยวนซ่งแล้ว ก็ทำให้เจียงหยวนฟ่านรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก.
ศิษย์ที่อยู่ข้างหลังเขาเอ่ยด้วยความสงสัยว่า: "เราต้องระวังขนาดนี้เลยรึ?"
เจียงหยวนฟานหันกลับมา ตบลูกศิษย์คนดังกล่าวอย่างแรงและคำรามดัง:
“เจ้าไม่เห็นรึไงว่าราชรถหยกนั้นคืออะไร จะไม่ระมัดระวังได้อย่างไร!”
“ปรกติหากมีใครช่วยเหวินหยวนซ่งและเสิ่นเหวินซาน ข้าก็พร้อมบุกไปอย่างแน่นอน.”
“แต่ ตัวตนในราชรถหยกนั่น อย่าว่าแต่ตำหนักจูหลิงเลย ต่อให้นิกายทั้งหมดของดินแดนรกร้างตะวันออกรวมกัน ยังไม่พอให้อีกฝ่ายเหยียบย่ำเลย เวลานี้เจ้ากับเร่งรีบเข้าไปหาความตายรึไง?”
สาวกทุกคนต่างก็เห็นด้วยกับการดุด่าเช่นนี้
แม้นว่าจะเย่อหยิ่งอหังการเพียงใดแต่ก็ไม่ควรจะโง่งม.
ต่อหน้าใครบางคนพวกเขาไม่สามารถหยิ่งผยองได้ แม้แต่ต้องระมัดระวังอีกด้วย.
หลังจากนั้นเจียงหยวนฟ่านก็นำสาวกกลับออกมาช้า ๆ.
ก่อนออกจากยอดเขา เขาเห็นหลินซวนก้าวเดินออกมาจากราชรถหยกพร้อมกับบุตรสาวของเขา
“จริง ๆ ด้วย นี่คือจักรพรรดิแห่งเป่ยเสวียนเทียน!”
เจียงหยวนฟ่านที่รู้สึกดีใจที่ตัวเองระมัดระวังพอ.
และในเวลาเดียวกัน.
เขาก็นึกถึงนิกายซานชิง นิกายเทียนหยางและสำนักจิ่วติง รวมถึงพี่ชายของเขาที่พาคนไปยังศาลาเสวียนหยุน.
“ข้าต้องแจ้งให้พี่ชายของข้าทราบโดยเร็วที่สุด ให้กลับมา ถ้าตี้ฟู่ไปยังศาลาเสวียนหยวนด้วยตัวเอง เวลานั้นต้องแย่แน่!”
ขณะปิดล้อมเสิ่นเหวินซาน พวกเขาเจียงหยวนฟ่านและพี่ชายของเขาเจียงหงหลาง และคนอื่น ๆ แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม.
เขามีหน้าที่รับผิดชอบในการนำผู้คนไล่ล่าเสิ่นเหวินซานและพวกอีกกลุ่มก็เดินทางไปยังศาลาเสวียนหยุนเพื่อรอกระต่ายวิ่งไปชนตอไม้ ตอนนี้ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่วิธีการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดเสียแล้ว.
หากตี้ฟู่พบว่าพวกเขาสังหารคนในศาลาเสวียนหยุนทั้งหมด ผลลัพธ์ที่ได้....
เจียงหยวนฟานไม่กล้าคิดเลย เขารีบพาเหล่าสาวกเร่งรีบออกเดินทางออกไปแจ้งข่าวทันที
-
บนหน้าผา
หลังจากการทักทาย เหวินหยวนซ่งและ สิ่นเหวินซาน ก็เล่าให้หลินซวนฟังถึงสิ่งที่พวกเขาต้องประสบในวันนี้
หลังจากนั้นเสิ่นเหวินซานก็กล่าวด้วยความเคารพ.
“ขอบคุณท่านที่ออกหน้าในวันนี้ ทำให้กลุ่มอันธพาลหวาดกลัว ผู้น้อยจะทำให้ดีที่สุดในวันหน้าเพื่อตอบแทนความกรุณาท่านเซียน!”
เขาสังเกตเห็นว่าเจียงหยวนฟ่านและคนอื่น ๆ ถอนตัวจากไปแล้วเช่นกัน
และเนื่องจากการมีอยู่ของตี้ฟู่ เจียงหยวนฟ่านและคนอื่น ๆ จึงไม่กล้าแสดงอาการหุนหันพลันแล่นไปสักระยะหนึ่ง
นี่เพียงพอที่จะให้พวกเขากลับไปช่วยเหลือเด็กแฃ่ง.
หลังจากเอ่ยจบ เขาก็โบกมือให้เหวินหยวนซ่งให้กลับไปที่ศาลาซวนหยุนพร้อมกับเขา
เหวินหยวนซ่งส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า: "หากข้าดำเนินการ โอกาสสำเร็จเพียง 70-80% ที่จะช่วยเด็กได้ "
“แต่ถ้าตี้ฝูลงมือ ธิดาของเจ้าก็จะหายแน่นอน 100%!”
เมื่อเสิ่นเหวินซานได้ยินก็ตระหนักอะไรได้.
ใช่แล้ว ตัวตนของตี้ฟู่คืออะไร!
แม้แต่ราชาโอสถเหวินหยวนซ่งยังเคารพนับถือเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าตี้ฟู่นั้นมีความสามารถที่จะรักษาแม้แต่คนตายได้.
“ตี้ฟู่ ข้าขอร้องให้ท่านช่วยบุตรสาวที่น่าสงสารของข้าด้วยเถิด!”เสิ่นเหวินซานคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความกระวนกระวายใจ.
“เสด็จพ่อ พาพวกเราไปหาน้องสาวคนนั้นหน่อย!”
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เองก็ดูคาดหวังด้วยเช่นกัน
พวกนางคิดว่าน้องสาวตัวเล็ก นางป่วยหนักทั้งที่ยังมีอายุไม่ถึงหนึ่งขวบด้วยซ้ำ นางดูน่าสงสารจริง ๆ.
พวกนางไม่เพียงต้องการให้เสด็จพ่อช่วยชีวิตนางเท่านั้น แต่พวกนางยังต้องการให้กำลังใจน้องสาวตัวน้อยอีกด้วย
เมื่อได้ยินคำขอดังกล่าวจากบุตรสาวของเขา หลินซวนก็มีเพียงต้องตกลงเท่านั้น.