ตอนที่แล้วข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 8
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 10

ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 9


ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 9

ท่ามกลางฝูงโครงกระดูก

หยานจู่และจั่วมู่เกอถูกรายล้อมไปด้วยนักรบโครงกระดูกจำนวนมาก

เปลวเพลิงลุกโชนอยู่รายรอบเทพธิดาเพลิง หอกเพลิงในมือกราดแทงออกไปไม่ได้หยุด

-654

-635

-652

…......

ตัวเลขค่าความเสียหายอันน่าสยดสยองผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

พวกนักรบโครงกระดูกถูกเพลิงแผดเผาจนไหม้เกรียม กลายเป็นโครงกระดูกกระจัดกระจายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที

อย่างไรก็ตาม เมื่อหยานจีจัดการนักรบโครงกระดูกไปได้กลุ่มหนึ่ง นักรบโครงกระดูกกลุ่มใหม่ก็จะดาหน้าเข้ามาแทนที่

พวกมันพุ่งเข้ามาโจมตีเธอด้วยดาบผุพังในมือ

-5

-4

-4

แม้ว่าค่าความเสียหายนี้จะไม่มากนัก แต่เมื่อสะสมรวมกันแล้วก็ไม่อาจประมาทได้

ด้านหลังของเธอ ไคทาสีขาวในมือจั่วมู่เกอเปล่งแสงออกมา

ประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ส่องต้องใบหน้าอันน่ารักของเธอ ขณะที่เธอเอ่ยขึ้นเบาๆว่า

"โล่วจนะศักดิ์สิทธิ์!"

ทันใดนั้นความเสียหายทั้งหมดก็ถูกดูดซับเอาไว้

จั่วมู่เกอโบกคทาอีกครั้ง

"วจนะศักดิ์สิทธิ์: ฮีลลิ่ง!"

เกิดแสงระยิบระยับห่อหุ้มร่างกายของหยานจี

ทันใดนั้นพลังชีวิตของเธอก็ฟื้นฟูกลับมาจนเต็ม

จากนั้นจั่วมู่เกอก็ร่ายเกราะขึ้นมาต้านทานการโจมตีให้ตัวเอง

หยานจีแทงหอกออกไป สีหน้าของเธอดูไม่สู้ดีสักเท่าใด

"บ้าจริง ฉันไม่นึกเลยว่าจะมีบอสอยู่ข้างใน แล้วก็ยังเป็นถึงเนโครแมนเซอร์ที่จัดการยากที่สุดด้วย!"

จั่วมู่เกอขมวดคิ้ว

"เสี่ยวจีจี น้ำยามานาของฉันใกล้หมดแล้ว"

หยานจีหน้าเปลี่ยนสี จากนั้นเธอจึงกัดฟันพูดว่า

"ตามมา! ฉันจะพาเธอฝ่าออกไป!"

"มังกรเพลิงทะลวง!"

หยานจีแทงหอกในมือออก ร่างเงาของมังกรเพลิงก็ปรากฏขึ้นห่อหุ้มพวกเธอไว้

เงามังกรเพลิงกู่ร้องคำราม มันแหวกฝ่านักรบโครงกระดูกที่ขวางทางออกไปอย่างรวดเร็ว

-

-976

-962

ตู้ม ตู้ม ตู้ม!

ร่างของทั้งสองคนพุ่งผ่านไปที่ชายขอบของฝูงโครงกระดูกอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ขณะที่อยู่ห่างจากชายขอบฝูงโครงกระดูกเพียงสิบกว่าเมตร ร่างเงาของมังกรเพลิงก็สลายไป

หยานจีหน้าซีดเผือด เธอช็อคจนแทบจะลืมหายใจ

ในฐานะที่เป็นสกิลมรดกของอาชีพอัศวินมังกรเพลิง มังกรเพลิงทะลวงย่อมทรงพลังไม่ผิดแน่

เพียงแต่ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเธอยังต่ำเกินไป

ยังไม่ต้องพูดถึงว่ามันใช้ได้แค่หนึ่งครั้งต่อวันเท่านั้น และหลังจากใช้แล้วก็จะทำให้เธอเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก!

เธอเหลือบมองไปที่ชายขอบของฝูงโครงกระดูกก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ

"ถอยไปนะ!"

ขณะที่พูด เธอก็ยังขยับหอกในมือไม่ได้หยุด

อย่างไรก็ตาม เมื่อพละกำลังอ่อนโทรมลง พลังโจมตีของหอกก็ลดลงไปมาก

เป็นการยากที่จะสังหารนักรบโครงกระดูกได้ในเวลาไม่กี่วินาทีอีก

เมื่อทั้งสองกำลังจะฝ่าออกไปได้ พวกเธอก็ถูกพวกนักรบโครงกระดูกล้อมเอาไว้อีกครั้ง

เหล่าผู้มีพลังพิเศษที่อยู่ไกลๆเองก็ย่อมมองเห็นฉากนี้เช่นกัน

"สองคนนั้นมัน....คนของตระกูลหยานและตระกูลจั่ว!"

"สามารถปลุกพลังอัสวินมังกรเพลิงและนักบวชวจนะศักดิ์สิทธิ์ได้ พวกเธอเป็นทายาทตระกูลสายหลัก!"

"ทำยังไงดี? พวกเราต้องเข้าไปช่วยไหม?"

นั่นเป็นตระกูลหยานและตระกูลจั่วเชียวนะ!

ตระกูลทั้งสองก็คือตระกูลผู้ปกครองเมืองประกายแสง!

ประโยชน์ที่จะได้รับนั้นก็เห็นกันชัดเจนอยู่แล้วหากสามารถช่วยเหลือทายาทของตระกูลที่สามารถปลุกพลังอาชีพหายากขึ้นมาได้

และหากว่าสามารถเอาชนะใจสาวงามได้ นั่นก็จะไม่ต่างจากหนูตกถังข้าวสารเลย!

บางคนเริ่มขยับตัวจะเข้าไปช่วย!

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะทันได้วิ่งเข้าไปช่วย คำพูดหนึ่งก็คล้ายกับมีถังน้ำเย็นสาดใส่หัวของพวกเขา

"ช่วยงั้นเหรอ? จะเอาอะไรไปช่วย? ไม่เห็นฝูงโครงกระดูกพวกนั้นรึไง!?"

"ใช่ ในฝูงนั่นอย่างน้อยๆก็มีพันตัวเห็นจะได้ และเจ้าบอสนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะต่อกรด้วยได้เลย!"

"รีบไปกันเถอะ ถ้าพวกเราตกเป็นเป้าหมายของบอสไปด้วย พวกเราจะต้องตายอยู่ที่นี่แน่!"

คนส่วนใหญ่ยังคงมีเหตุผล ไม่ถูกความงามที่อยู่เบื้องหน้าล่อลวงจนหน้ามืดตามัว

ขณะที่พวกเขากำลังจะหันหลังเดินจากไป พวกเขาก็เห็นชายหนุ่มผมสีดำกำลังเดินตรงไปทางฝูงโครงกระดูก

"เจ้านี่...."

"หรือไม่กลัวตายเลย?"

ทุกคนหันไปมองด้วยความตกใจ

หลินอวี่เดินเข้าไปใกล้ฝูงโครงกระดูกก่อนจะตะโกนขึ้นยิ้มๆว่า

"นั่นมันคุณนักเรียนโต๊ะเดียวกันไม่ใช่เหรอ? ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไรเลยนะ? ต้องการให้ช่วยมั้ย?"

เมื่อเจอกันทักทายเช่นนี้ แม้แต่หยานจีและจั่วมู่เกอที่กำลังต่อสู้ด้วยความยากลำบากก็ยังต้องตกตะลึง

"เพื่อนร่วมโต๊ะ?"

จั่วมู่เกอสับสน จากนั้นจึงหันไปมองหยานจี

เพื่อนร่วมโต๊ะของเธอเป็นผู้หญิง

แต่เสียงที่ตะโกนเข้ามานี้เป็นเสียงของผู้ชายชัดๆ

สีหน้าของหยานจีเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เธอย่อมจำเสียงของหลินอวี่ได้

อย่างไรก็ตาม หลินอวี่เป็นแค่นักเวทธรรมดาๆไม่ใช่เหรอ?

เขามาทำอะไรที่นี่?

เจอกับมอนสเตอร์โครงกระดูกฝูงใหญ่แบบนี้ นักเวทฝึกหัดอย่างเขาจะทำอะไรได้?

เธอย่อมไม่มีความคิดจะฉุดดึงคนอื่นเข้ามาในปักโคลนด้วยกัน

เธอกัดฟันก่อนจะตะโกนออกไปว่า "หลินอวี่?! นายมาทำอะไรที่นี่?! รีบหนีไปเร็วเข้า!"

หลินอวี่นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นจึงปรายตามองนักรบโครงกระดูกสองตัวที่กำลังถือมีดผุพังเดินเข้ามาหาเขา

นักรบโครงกระดูกทั้งสองใช้มีดในมือฟันใส่หลินอวี่ที่ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน

-0

-0

-0

ต่อให้สร้างความเสียหายไม่ได้ พวกมันก็ยังโจมตีอย่างไม่ยอมย่อท้อ

คล้ายกับการโจมตีเป็นการสร้างความสุขสำหรับพวกมัน

หลินอวี่ยกมือขึ้นจับหัวกะโหลกของนักรบโครงกระดูกที่เบื้องหน้าอย่างอดไม่ได้

อืม เป็นสัมผัสที่ให้ความรู้ดีจริงๆ

แค่กๆ ไม่ใช่สิ ที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการช่วยคน!

หลินอวี่สลัดความคิดไร้สาระทิ้ง จากนั้นจึงโบกคทาที่อยู่ในมือ

เปลวเพลิงเริ่มควบแน่นกลายเป็นบอลไฟก่อนจะพุ่งเข้าไปตกกลางฝูงโครงกระดูก

ตู้ม!

เปลวไฟที่มีรัศมี 20 เมตรกำลังระเบิดออกมาเป็นควันรูปเห็ดอันงดงาม

-1193

-1201

-1190

…........

ค่าความเสียหายอันน่าพรั่นพรึงเด้งขึ้นรัวๆ นักรบโครงกระดูกหลายสิบตัวถูกระเบิดจนกระจุยกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย......