ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 6
ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 6
หล่อชะมัด
เพ้ย!
ช่างเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่ดูทรงพลังนัก
อุปกรณ์ที่มีระดับต่างกันจะสามารถแยกแยะได้จากรูปลักษณ์ภายนอก
มองแวบเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าอุปกรณ์ที่ชายหนุ่มสวมใส่นั้นไม่ธรรมดา!
การมีอุปกรณ์ระดับนี้ได้ขณะที่เป็นเพียงนักผจญภัยฝึกหัดนั้นย่อมหมายความว่าเขาจะต้องร่ำรวยมาก
ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังลังเล
หลินอวี่ก็มองทั้งสองกลุ่มก่อนจะถามด้วยรอยยิ้ม
"กำลังตีกันอยู่เหรอ?"
"..."
ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันไม่รู้จะตอบอย่างไร
ที่นี่มีบอสอยู่ด้วย ชายหนุ่มผู้นี้บุกเข้ามาได้ยังไง?
เมื่อเห็นว่าไม่มีคนตอบ หลินอวี่ก็ไม่ได้สนใจ
สายตามองลอดผ่านไปตามช่องว่างระหว่างต้นไม้
ในพื้นที่เปิดโล่งลึกเข้าไปในป่า ซอมบี้ขนาดยักษ์ที่มีความสูงกว่าสี่เมตรและกล้ามเนื้อที่บวมเป่งกำลังเดินเตร่ไปมาพร้อมกับซอมบี้จำนวนหลายร้อยตัว
ในบางครั้ง ซอมบี้ยักษ์จะคำรามและทุบทำลายต้นไม้ในหมัดเดียว
ชัดแล้ว มันคือบอสแน่นอน!
หลินอวี่ยิ้ม
"ถ้าพวกคุณไม่ลงมือ งั้นผมลุยล่ะนะ"
จวงหยูหัวและเสิ่นหงเฟยต่างผงะ
"นายจะลงมือ? คนเดียวเนี่ยนะ?"
เสิ่นหงเฟยสับสน
นักเวทฝึกหัดต้องการจะลุยบอสโดยลำพัง?
จวงหยูหัวตาเป็นประกาย
"สหาย ทำไมไม่เข้าร่วมกลุ่มของพวกเราล่ะ เมื่อจัดการบอสได้แล้ว จะให้นายเลือกของก่อนเลย!"
มองประเมินดูหลินอวี่แล้ว เขาก็สามารถบอกได้ว่าชายหนุ่มผู้นี้ต้องมีฝีมือพอตัว หากได้มาร่วมทีม เขาก็จะจัดการจวงหยูหัวได้แน่ ต่อให้ต้องให้หลินอวี่เลือกของก่อนก็นับว่าคุ้ม
ทุกคนต่างก็มีชีวิตเดียว ดังนั้นชีวิตต้องมาก่อน
เสิ่นหงเฟยเองก็ไม่ใช่คนโง่ ได้ยินคำพูดของจวงหยูหัว เขาก็ได้สติทันที
"สหาย เข้าร่วมกับพวกเราเถอะ พวกเราแข็งแกร่งกว่าเจ้าพวกนั้นแน่นอน!"
หลินอวี่มองหัวหน้ากลุ่มทั้งสองก่อนจะส่ายหน้า
"ฉันจัดการคนเดียวได้ พวกนายถอยไปก่อน"
"หะ? นายต้องการจะลุยเดี่ยวจริงๆ?"
ทั้งสองกลุ่มต่างนิ่งอึ้ง
เขากำลังล้อเล่นรึไง?
เสิ่นหงเฟยและจวงหยูหัวหันไปมองหน้ากัน ในดวงตาปรากฏประกายขึ้นวูบ
จากนั้นทั้งสองกลุ่มก็พาคนของตัวถอยห่างออกไป
พวกเขาต้องการจะดู
บางทีนักเวทระดับสูงอาจจะมีสกิลมากมาย จนสามารถล่าบอสได้โดยลำพังก็เป็นไปได้
แต่ชายหนุ่มผู้นี้เป็นแค่นักเวทฝึกหัดชัดๆ!
คุณไม่มีสกิลมากมาย แล้วคุณจะล่าบอสคนเดียวได้ยังไง?!
มองดูการแต่งกายของหลินอวี่ ดูเหมือนชายหนุ่มจะมีพื้นเพไม่ธรรมดา
ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอน พวกเขาไม่ต้องการล่วงเกินหลินอวี่ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะปล่อยบอสให้หลนอวี่
และเมื่อหลินอวี่ตกอยู่ในอันตราย บางทีพวกเขาอาจจะช่วยชีวิตหลินอวี่และทำให้เขาติดหนี้บุญคุณได้
ทั้งสองกลุ่มต่างก็ไม่ใช่คนโง่ ยิ่งคิดก็ยิ่งใจเต้นแรง
หลินอวี่ย่อมไม่ได้สนใจว่าพวกเขาจะคิดอะไรกันอยู่
เขาค่อยเดินเข้าไปจนถึงระยะโจมตี จากนั้นจึงเริ่มร่ายเวท
บังเกิดบอลไฟขนาดเท่าหัวคนขึ้นเบื้องหน้าของหลินอวี่ ทำให้อุณหภูมิโดยรอบเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
"นั่น...นั่นมันอะไรน่ะ?"
เสิ่นหงเฟยและจวงหยูหัวต่างก็เบิกตาค้างด้วยความตกตะลึง
"บอลไฟระดับ E? ไม่ นั่นมันระเบิดไฟระดับ D?!"
ทุกสกิลล้วนมีระดับของมัน พวกเขาแน่นอนว่าย่อมต้องเคยศึกษามาบ้าง
นักเวทที่ไม่ใช่แม้แต่คลาสหนึ่งกลับมีสกิลระดับ D?!
นี่มันเรื่องอะไรกัน??
ทุกคนต่างกลายเป็นโง่งม
"เดี๋ยวก่อน… ว่ากันว่ายังมีวิธีที่จะทำแบบนี้ได้อยู่ ยกตัวอย่างเช่น หินสกิลอันล้ำค่าที่สามารถผนึกสกิลไว้ภายใน จากนั้นก็ให้ผู้มีพลังพิเศษระดับต่ำเรียนรู้ได้… ใช่รึเปล่านะ?"
เสิ่นหงเฟยพึมพำกับตัวเอง
ผู้คนโดยรอบต่างก็ตกตะลึง
"รวยมาก!"
ชายหนุ่มผู้นี้เป็นใครกันแน่?
ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจของทุกคน
ผู้ที่สามารถเรียนรู้สกิลระดับ D ได้ตั้งแต่ระดับฝึกหัด ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน!
ตู้ม!
บอลไฟเกิดการระเบิดขึ้นบนร่างของบอสซอมบี้ยักษ์ เปลวเพลิงม้วนกวาดออกโดยรอบอย่างบ้าคลั่งและครอบคลุมซอมบี้ทั้งฝูง
-
-976
-967
…......
ตัวเลขค่าความเสียหายระดับสูงปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ศพของพวกซอมบี้ถูกไฟแผดเผา ร่างกายของพวกมันไหม้เกรียมและนอนนิ่งอยู่กับพื้น
ทุกคน "???"
"ดะ....ดาเมจเกือบหนึ่งพัน?! บอสโดนดาเมจเกือบเก้าร้อย?"
ทุกคนอ้าปากค้าง
นักเวทฝึกหัดมันโหดขนาดนี้เลยเหรอ?!
เจ้านี่มันเป็นปีศาจรึไง?!
แล้วก็ระเบิดไฟมันน่ากลัวขนาดนี้เชียว?!
หากแต่หลินอวี่กลับขมวดคิ้ว
ปัจจุบันเขามีพลังโจมตีเวทมนตร์มากกว่า 200 หน่วย และค่าความเสียหายของระเบิดไฟนั้นมากกว่า 900 หน่วย และด้วยโบนัส 10% ของเสื้อคลุมแล้ว ค่า ความเสียหายจึงมากกว่า 1,000
มิคาด บอสกลับโดนดาเมจไปแค่ 800 กว่า ดูท่ามันจะมีพลังป้องกันเวทสูงไม่เบา
ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากตัวบอสแล้ว ยังมีซอมบี้ซึ่งสูงกว่าสองเมตรอีก 10 ตัวที่ไม่ตาย
ชัดเจนว่าพวกมันคงเป็นมินิบอส
"โฮก!"
มันถูกโจมตี ลูกสมุนตายเกือบหมด ซอมบี้ยักษ์ย่อมเดือดดาลเป็นธรรมดา
มันคำรามพลางพุ่งเข้าใส่หลินอวี่พร้อมกับลูกสมุนที่เหลือ
ตึง ตึง ตึง
พื้นดินเกิดการสั่นสะเทือนเบาๆ