ตอนที่แล้วข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 4
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 6

ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 5


ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 5

ระดับ D+?

หลินอวี่ตาเป็นประกาย นี่คือสกิลที่มีระดับสูงที่สุดของเขาในตอนนี้

-----------------------------------------------

เกราะกระดูกแห่งความตาย (D+):

ใช้เวทมนตร์เพื่อเรียกเกราะกระดูกแห่งความตายออกมาปกป้องเป้าหมาย มีพลังป้องกันทางกายภาพ (120+2 x พลังโจมตีเวทมนต์) มีพลังป้องกันเวทมนตร์ (60+1 x พลังโจมตีเวทมนตร์)

ไม่ต้องร่าย ใช้พลังมานา 100 หน่วย คงอยู่ 1 ชั่มโมง มีระยะเวลาคูลดาวน์ 10 นาที

-----------------------------------------------

!!

เมื่อได้เห็นคำอธิบาย หัวใจของหลินอวี่ก็พลันเต้นแรง

ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เพียงพลังป้องกันตั้งต้นที่ 120 ก็เกือบจะเป็นขีดจำกัดสูงสุดพลังโจมตีของมอนสเตอร์เลเวล 7 - 8 แล้ว!

และตอนนี้เขามีพลังโจมตีเวทมนตร์ถึง 154 ซึ่งจะมอบพลังป้องกันทางกายภาพให้เขา 308 หน่วย!

เมื่อรวมกันแล้วก็จะเป็น 428 หน่วย!

นี่มัน... ไม่ได้หมายความว่า มอนสเตอร์ธรรมดาทั่วไปจะหมดสิทธิ์สร้างความเสียหายให้กับเขาเลยไม่ใช่รึไง?

ไม่รู้ว่ามอนสเตอร์ระดับบอสจะโจมตีเข้าไหมนะ?

ที่น่ายินดีไปกว่านั้นคือ เกราะกระดูกแห่งความตายยังมอบพลังป้องกันเวทมนนตร์ 214 หน่วยให้เขาด้วย!

ต่อให้เจอกับเนโครแมนเซอร์ ระดับความอันตรายก็จะลดลงมาก บางทีอีกฝ่ายกระทั่งยากจะทำอะไรเขาได้ด้วยซ้ำ

หลินอวี่พลันรู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่ขึ้นมาทันที

เขาโบกมือคราหนึ่ง ชุดเกราะกระดูกสีเทาหม่นก็ปรากฏขึ้นคลุมร่างกายของเขาก่อนจะค่อยๆจางหายไป

มันจะปรากฏขึ้นก็ต่อเมื่อถูกโจมตีเท่านั้น

เมื่อเหลือแต้มประสบการณ์อยู่อีก 52 แต้ม หลินอวี่ก็ขยายพลังให้เสื้อคลุมฝึกหัดด้วย

-----------------------------------------------

เสื้อคลุมเปลวเพลิงของลิตเติ้ลเมจ (D)

เสื้อคลุม

พลังป้องกันกายภาพ +30 พลังป้องกันเวท +50

ความอึด +20

ความเสียหายเวทมนตร์ธาตุไฟเพิ่มขึ้น 10%

ข้อกำหนดอุปกรณ์: นักเวท เลเวล 1

-----------------------------------------------

ไอเท็มของนักเวทระดับต่ำอีกชิ้น

หลินอวี้รู้สึกมึนงงเล็กน้อย

ความอึด 20 หน่วย นั่นเท่ากับพลังชีวิต 200 หน่วย เดิมทีเขามีค่าพลังชีวิตเพียง 80 หน่วย...

เสื้อคลุมจะช่วยเพิ่มพลังชีวิตให้เขาอีกสองเท่า!

โหดเกินไปแล้ว!

สำหรับโบนัสพลังป้องกันกายภาพและพลังป้องกันเวทนั้น....ผลก็ตามที่เห็น

ที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือการเพิ่มขึ้นความเสียหายจากไฟ

มันเพิ่มเป็นเปอร์เซ็นต์!

แม้แต่อุปกรณ์ระดับสูงส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีคุณสมบัติแบบนี้ สามารถจินตนาการได้เลยว่ามันหายากเพียงแค่ไหน

สำหรับเขาแล้ว มันจะเพิ่มค่าความเสียหายของระเบิดไฟอีกแค่ 60 หน่วยเท่านั้น

ก็พอได้

ด้วยเสื้อคลุมสีแดงเข้ม คทาสีดำมืด เมื่อสวมใส่อุปกรณ์ชุดนี้แล้ว หากเขาวางท่าเงียบขรึมก็ยิ่งเท่เข้าไปอีก!

หลังจากเก็บกวาดที่นี่นเสร็จ หลินอวี่ก็ออกเดินทางอีกครั้ง

คราวนี้เขาวางแผนที่จะเพิ่มเลเวล

……

บนที่ราบ หยานจีและจั่วมู่เกอกำลังยืนอยู่ท่ามกลางกองกระดูกที่แตกหัก

หยานจีดึงหอกในมือกลับ ก่อนจะเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก

"เลเวล 4 แล้ว เกือบจะไปที่นั่นได้แล้ว"

"ที่นั่นอันตรายมาก เธอจะไปที่นั่นจริงๆ?"

จั่วมู่เกอรู้สึกกังวลอยู่บ้าง

"ไม่มีอะไรหรอก เราจะฆ่าพวกอันเดดในระหว่างทาง พวกเราเกือบจะเลเวล 5 แล้ว เมื่อถึงตอนนั้นก็จะเปลี่ยนอุปกรณ์ได้ สถานที่นั้นไม่ได้ถูกซ่อนไว้เป็นพิเศษ หากมีคนพบมันเข้า เราอาจเสียเวลาไปโดยเปล่า"

หยานจียืนกรานที่จะไป

พูดจบเธอก็หันไปมองจั่วมู่เกอที่อยู่ช้างๆก่อนจะหัวเราะ

"แล้วฉันก็ยังมีเธออยู่ด้วย จริงมั้ย?"

เธอเหลือบมองจั่วมู่เกอที่กัดฟันกรอดด้วยความอาฆาตอย่างขำๆ

จั่วมู่เกอถอนหายใจอย่างจนปัญญา

"เสี่ยวจี เธอไม่มีทางรู้หรอกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นตอนไหน ถ้าไม่บาลานซ์ให้ดี มันก็จะส่งผลต่อการต่อสู้ได้"

"อย่าเรียกฉันว่าเสี่ยวจีจี! ไม่งั้นเธอโดนดีแน่!"

"ได้เลยเสี่ยวจีจี"

"อ๊าาาาก ทั้งหมดเป็นความผิดของตาแก่น่าตายนั่นที่ตั้งชื่อนี้ให้!"

หยานจีบ่นด้วยความขุ่นเคือง จากนั้นทั้งสองก็เดินทางพลางต่อสู้ไประหว่างทาง

……...............

ตู้ม!

-698

-687

…...........

ค่ายโครงกระดูกตกอยู่ในกองเพลิง ทั่วทุกเต็มไปด้วยร่องรอยความเสียหายอันน่าสะพรึง

เมื่อเปลวเพลิงสลายไปแล้ว หลินอวี่ก็ค่อยๆเดินไปหยิบของที่หล่นกระจายอยู่ตามพื้น

"โว้ว~ ประมาณ 3,000 กว่าเหรียญได้"

"แล้วก็ ในที่สุดก็เลเวล 5 สักที"

เขาเพิ่มแต้มคุณสมบัติทั้งหมด 5 แต้มไปที่ค่าสติปัญญา และทุกครั้งที่เลเวเลอัพจะก็จะเพิ่มค่าคุณสมบัติทั้งหมดให้อีก 1 แต้ม

ค่าสติปัญญาปัจจุบันของเขาคือ 86 ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังโจมตีด้วยเวทมนตร์อีก

น่าเสียดายที่หลังจากเลเวลสูงถึงระดับหนึ่งแล้วก็จะไม่มีโบนัสสำหรับการท้าทายข้ามเลเวล ดังนั้นจึงไม่มีอุปกรณ์ดรอปออกมา

"ไปที่ห้องโถงแห่งความตายดีกว่า"

หลินอวี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจได้

ห้องโถงแห่งความตายเป็นศูนย์กลางของที่ราบกระดูกเหี่ยวเฉา อันเดดภายในนั้นมีเลเวลประมาณ 8 - 9 ซึ่งเหมาะสำหรับเขาในตอนนี้

เขาเดินทางมุ่งหน้าไปยังห้องโถงของแห่งความตาย

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขากำลังเดินผ่านป่าเล็กๆแห่งหนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียงคำรามต่ำดังมาจากข้างใน

หลินอวี่ตกตะลึง

นั่นมันอะไรฟะ?

มีคู่รักเข้ามาเปลี่ยนบรรยากาศในมิติลับรึไง?

เล่นบ้าอะไรกันน่ะ?

ในเวลานี้เอง เสียงคำรามก็ดังขึ้นอีกครั้ง

หืม?

คงไม่ใช่...เสียงบอสหรอกนะ?

ดวงตาของเขาเป็นประกาย เขาเริ่มวิ่งเหยาะๆเข้าไปในป่า

…….......

ภายในป่า มีคนสองกลุ่มกำลังยืนเผชิญหน้ากันอยู่ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเคร่งเครียด

"เซินเฟยหง กลุ่มขนนกม่วงของเราต้องการบอสตัวนี้!"

หัวหน้ากลุ่ม จวงอวี่หัวพูดกดเสียงต่ำ

"เจ้าคนแซ่จวง แกเพ้อเจ้ออะไรกัน? ทำไมพวกเราจะต้องยกบอสตัวนี้ให้พวกแกด้วย? คิดว่ากลุ่มขนนกม่วงของพวกแกยิ่งใหญ่มาจากไหนกัน? กลุ่มหยกเมฆาของเราไม่กลัวพวกแกหรอกเฟ้ย!"

ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มขนนกม่วงหรือกลุ่มหยกเมฆา ทั้งสองต่างก็เป็นกลุ่มนักผจญภัยขนาดกลางในเมืองประกายแสง และทั้งสองกลุ่มก็มีความแข็งแกร่งพอๆกัน

ทั้งสองกลุ่มล้วนเป็นกลุ่มระดับฝึกหัดเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่มีใครยอมใคร

ไม่ว่าสำหรับใคร การล่าบอสก็มีประโยชน์อย่างมาก!

แน่นอน ว่าคุณจะต้องมีความสามารถเอาชนะมันให้ได้ด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะจบลงที่ความตาย

ตอนนี้เอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทางด้านหลังของพวกเขา ทุกคนหันมองไปตามเสียงและเห็นชายหนุ่มหน้าตาดีซึ่งสวมชุดคลุมสีแดงและถือคทาสีดำกำลังเดินมาทางนี้