ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 5
ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 5
ระดับ D+?
หลินอวี่ตาเป็นประกาย นี่คือสกิลที่มีระดับสูงที่สุดของเขาในตอนนี้
-----------------------------------------------
เกราะกระดูกแห่งความตาย (D+):
ใช้เวทมนตร์เพื่อเรียกเกราะกระดูกแห่งความตายออกมาปกป้องเป้าหมาย มีพลังป้องกันทางกายภาพ (120+2 x พลังโจมตีเวทมนต์) มีพลังป้องกันเวทมนตร์ (60+1 x พลังโจมตีเวทมนตร์)
ไม่ต้องร่าย ใช้พลังมานา 100 หน่วย คงอยู่ 1 ชั่มโมง มีระยะเวลาคูลดาวน์ 10 นาที
-----------------------------------------------
!!
เมื่อได้เห็นคำอธิบาย หัวใจของหลินอวี่ก็พลันเต้นแรง
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เพียงพลังป้องกันตั้งต้นที่ 120 ก็เกือบจะเป็นขีดจำกัดสูงสุดพลังโจมตีของมอนสเตอร์เลเวล 7 - 8 แล้ว!
และตอนนี้เขามีพลังโจมตีเวทมนตร์ถึง 154 ซึ่งจะมอบพลังป้องกันทางกายภาพให้เขา 308 หน่วย!
เมื่อรวมกันแล้วก็จะเป็น 428 หน่วย!
นี่มัน... ไม่ได้หมายความว่า มอนสเตอร์ธรรมดาทั่วไปจะหมดสิทธิ์สร้างความเสียหายให้กับเขาเลยไม่ใช่รึไง?
ไม่รู้ว่ามอนสเตอร์ระดับบอสจะโจมตีเข้าไหมนะ?
ที่น่ายินดีไปกว่านั้นคือ เกราะกระดูกแห่งความตายยังมอบพลังป้องกันเวทมนนตร์ 214 หน่วยให้เขาด้วย!
ต่อให้เจอกับเนโครแมนเซอร์ ระดับความอันตรายก็จะลดลงมาก บางทีอีกฝ่ายกระทั่งยากจะทำอะไรเขาได้ด้วยซ้ำ
หลินอวี่พลันรู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่ขึ้นมาทันที
เขาโบกมือคราหนึ่ง ชุดเกราะกระดูกสีเทาหม่นก็ปรากฏขึ้นคลุมร่างกายของเขาก่อนจะค่อยๆจางหายไป
มันจะปรากฏขึ้นก็ต่อเมื่อถูกโจมตีเท่านั้น
เมื่อเหลือแต้มประสบการณ์อยู่อีก 52 แต้ม หลินอวี่ก็ขยายพลังให้เสื้อคลุมฝึกหัดด้วย
-----------------------------------------------
เสื้อคลุมเปลวเพลิงของลิตเติ้ลเมจ (D)
เสื้อคลุม
พลังป้องกันกายภาพ +30 พลังป้องกันเวท +50
ความอึด +20
ความเสียหายเวทมนตร์ธาตุไฟเพิ่มขึ้น 10%
ข้อกำหนดอุปกรณ์: นักเวท เลเวล 1
-----------------------------------------------
ไอเท็มของนักเวทระดับต่ำอีกชิ้น
หลินอวี้รู้สึกมึนงงเล็กน้อย
ความอึด 20 หน่วย นั่นเท่ากับพลังชีวิต 200 หน่วย เดิมทีเขามีค่าพลังชีวิตเพียง 80 หน่วย...
เสื้อคลุมจะช่วยเพิ่มพลังชีวิตให้เขาอีกสองเท่า!
โหดเกินไปแล้ว!
สำหรับโบนัสพลังป้องกันกายภาพและพลังป้องกันเวทนั้น....ผลก็ตามที่เห็น
ที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือการเพิ่มขึ้นความเสียหายจากไฟ
มันเพิ่มเป็นเปอร์เซ็นต์!
แม้แต่อุปกรณ์ระดับสูงส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีคุณสมบัติแบบนี้ สามารถจินตนาการได้เลยว่ามันหายากเพียงแค่ไหน
สำหรับเขาแล้ว มันจะเพิ่มค่าความเสียหายของระเบิดไฟอีกแค่ 60 หน่วยเท่านั้น
ก็พอได้
ด้วยเสื้อคลุมสีแดงเข้ม คทาสีดำมืด เมื่อสวมใส่อุปกรณ์ชุดนี้แล้ว หากเขาวางท่าเงียบขรึมก็ยิ่งเท่เข้าไปอีก!
หลังจากเก็บกวาดที่นี่นเสร็จ หลินอวี่ก็ออกเดินทางอีกครั้ง
คราวนี้เขาวางแผนที่จะเพิ่มเลเวล
……
บนที่ราบ หยานจีและจั่วมู่เกอกำลังยืนอยู่ท่ามกลางกองกระดูกที่แตกหัก
หยานจีดึงหอกในมือกลับ ก่อนจะเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก
"เลเวล 4 แล้ว เกือบจะไปที่นั่นได้แล้ว"
"ที่นั่นอันตรายมาก เธอจะไปที่นั่นจริงๆ?"
จั่วมู่เกอรู้สึกกังวลอยู่บ้าง
"ไม่มีอะไรหรอก เราจะฆ่าพวกอันเดดในระหว่างทาง พวกเราเกือบจะเลเวล 5 แล้ว เมื่อถึงตอนนั้นก็จะเปลี่ยนอุปกรณ์ได้ สถานที่นั้นไม่ได้ถูกซ่อนไว้เป็นพิเศษ หากมีคนพบมันเข้า เราอาจเสียเวลาไปโดยเปล่า"
หยานจียืนกรานที่จะไป
พูดจบเธอก็หันไปมองจั่วมู่เกอที่อยู่ช้างๆก่อนจะหัวเราะ
"แล้วฉันก็ยังมีเธออยู่ด้วย จริงมั้ย?"
เธอเหลือบมองจั่วมู่เกอที่กัดฟันกรอดด้วยความอาฆาตอย่างขำๆ
จั่วมู่เกอถอนหายใจอย่างจนปัญญา
"เสี่ยวจี เธอไม่มีทางรู้หรอกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นตอนไหน ถ้าไม่บาลานซ์ให้ดี มันก็จะส่งผลต่อการต่อสู้ได้"
"อย่าเรียกฉันว่าเสี่ยวจีจี! ไม่งั้นเธอโดนดีแน่!"
"ได้เลยเสี่ยวจีจี"
"อ๊าาาาก ทั้งหมดเป็นความผิดของตาแก่น่าตายนั่นที่ตั้งชื่อนี้ให้!"
หยานจีบ่นด้วยความขุ่นเคือง จากนั้นทั้งสองก็เดินทางพลางต่อสู้ไประหว่างทาง
……...............
ตู้ม!
-698
-687
…...........
ค่ายโครงกระดูกตกอยู่ในกองเพลิง ทั่วทุกเต็มไปด้วยร่องรอยความเสียหายอันน่าสะพรึง
เมื่อเปลวเพลิงสลายไปแล้ว หลินอวี่ก็ค่อยๆเดินไปหยิบของที่หล่นกระจายอยู่ตามพื้น
"โว้ว~ ประมาณ 3,000 กว่าเหรียญได้"
"แล้วก็ ในที่สุดก็เลเวล 5 สักที"
เขาเพิ่มแต้มคุณสมบัติทั้งหมด 5 แต้มไปที่ค่าสติปัญญา และทุกครั้งที่เลเวเลอัพจะก็จะเพิ่มค่าคุณสมบัติทั้งหมดให้อีก 1 แต้ม
ค่าสติปัญญาปัจจุบันของเขาคือ 86 ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังโจมตีด้วยเวทมนตร์อีก
น่าเสียดายที่หลังจากเลเวลสูงถึงระดับหนึ่งแล้วก็จะไม่มีโบนัสสำหรับการท้าทายข้ามเลเวล ดังนั้นจึงไม่มีอุปกรณ์ดรอปออกมา
"ไปที่ห้องโถงแห่งความตายดีกว่า"
หลินอวี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจได้
ห้องโถงแห่งความตายเป็นศูนย์กลางของที่ราบกระดูกเหี่ยวเฉา อันเดดภายในนั้นมีเลเวลประมาณ 8 - 9 ซึ่งเหมาะสำหรับเขาในตอนนี้
เขาเดินทางมุ่งหน้าไปยังห้องโถงของแห่งความตาย
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขากำลังเดินผ่านป่าเล็กๆแห่งหนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียงคำรามต่ำดังมาจากข้างใน
หลินอวี่ตกตะลึง
นั่นมันอะไรฟะ?
มีคู่รักเข้ามาเปลี่ยนบรรยากาศในมิติลับรึไง?
เล่นบ้าอะไรกันน่ะ?
ในเวลานี้เอง เสียงคำรามก็ดังขึ้นอีกครั้ง
หืม?
คงไม่ใช่...เสียงบอสหรอกนะ?
ดวงตาของเขาเป็นประกาย เขาเริ่มวิ่งเหยาะๆเข้าไปในป่า
…….......
ภายในป่า มีคนสองกลุ่มกำลังยืนเผชิญหน้ากันอยู่ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเคร่งเครียด
"เซินเฟยหง กลุ่มขนนกม่วงของเราต้องการบอสตัวนี้!"
หัวหน้ากลุ่ม จวงอวี่หัวพูดกดเสียงต่ำ
"เจ้าคนแซ่จวง แกเพ้อเจ้ออะไรกัน? ทำไมพวกเราจะต้องยกบอสตัวนี้ให้พวกแกด้วย? คิดว่ากลุ่มขนนกม่วงของพวกแกยิ่งใหญ่มาจากไหนกัน? กลุ่มหยกเมฆาของเราไม่กลัวพวกแกหรอกเฟ้ย!"
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มขนนกม่วงหรือกลุ่มหยกเมฆา ทั้งสองต่างก็เป็นกลุ่มนักผจญภัยขนาดกลางในเมืองประกายแสง และทั้งสองกลุ่มก็มีความแข็งแกร่งพอๆกัน
ทั้งสองกลุ่มล้วนเป็นกลุ่มระดับฝึกหัดเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่มีใครยอมใคร
ไม่ว่าสำหรับใคร การล่าบอสก็มีประโยชน์อย่างมาก!
แน่นอน ว่าคุณจะต้องมีความสามารถเอาชนะมันให้ได้ด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะจบลงที่ความตาย
ตอนนี้เอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทางด้านหลังของพวกเขา ทุกคนหันมองไปตามเสียงและเห็นชายหนุ่มหน้าตาดีซึ่งสวมชุดคลุมสีแดงและถือคทาสีดำกำลังเดินมาทางนี้