ตอนที่ 16 ฆ่าข้าภายในสิบอึดใจ
ตอนที่ 16 ฆ่าข้าภายในสิบอึดใจ
ความเงียบสงัดโรยตัวทั่วบริเวณ
หลิงจื่อหวน เจ้าเมืองน้อยแห่งเมืองวายุไกลตายกลางลานประลอง
แม้จะเคยพูดกันมาก่อนว่าไม่แบ่งแยกเป็นตาย แต่พวกเขาไม่คิดว่าจะมีใครกล้าฆ่าลูกชายคนเดียวของเจ้าเมืองวายุไกลต่อหน้าต่อตาโดยไม่ให้โอกาสยอมแพ้
การกระทำของเซียวเฉินนั้นบ้าระห่ำ
หลิงหยวนถูสั่นไปทั้งร่างด้วยความโกรธ หลิงจื่อหวนควรจะได้รับการชื่นชมจากจัวชิง ถูกพาตัวไปยังสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขต ฝึกฝนและก้าวเข้าสู่ขอบเขตสะพานชีวาและตำหนักลี้ลับ สร้างชื่อเสียงให้กับแคว้นไพศาล
ทว่าทุกสิ่งเหล่านี้ถูกทำลายด้วยน้ำมือเซียวเฉิน
"ไอ้สารเลว ข้าจะเอาชีวิตเจ้า"
หลังจากเงียบไปหลายอึดใจ หลิงหยวนถูลุกพรวดพราด ฝ่ามือของเขาพลันพุ่งไปยังเซียวเฉินบนลานประลอง ดาบทองลงทัณฑ์น่าเกรงขามรวมตัวกันและพุ่งออกมา ปราณเฉียบคมราวกับจะเจาะทะลวงทุกสิ่ง
"ขอบเขตสะพานชีวา"
หลายคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างร้องอุทาน ลิงหยวนถูใช้ปราณขอบเขตสะพานชีวาในการโจมตีครั้งนี้
"เจ้าเมืองไม่ได้ออกโรงมานานแล้ว แต่กลับก้าวเข้าสู่ขอบเขตนี้ได้เงียบ ๆ หากผู้แข็งแกร่งของตระกูลหวังไม่ลงมือ ใครจะหยุดเจ้าเมืองได้"
"แต่ถึงอย่างไรก็เป็นงานประลองใหญ่ เซียวเฉินยังอยู่บนลานประลอง หากเจ้าเมืองลงมือฆ่าโดยตรง..."
"เมืองนี้เป็นของเจ้าเมือง เขาจะฆ่าใครก็ได้ งานประลองใหญ่แล้วอย่างไรเล่า เจ้าเมืองก็กำหนดกฎเองไม่ใช่หรือ ตายตอนนี้กับตายหลังงานประลองใหญ่สิ้นสุดลงก็ไม่มีอะไรต่างกัน"
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของฝูงชน ดาบทองลงทัณฑ์พุ่งเข้าหาเซียวเฉินอย่างเกรี้ยวกราด เห็นชัดว่าเซียวเฉินนึกไม่ถึงว่าหลิงหยวนถูจะยอมเสียเกียรติและแก้แค้นต่อหน้าธารกำนัล เจตจำนงค์ของเขาหลอมรวมกับกระดูกเต๋า ตั้งท่าจะกระตุ้นพลังของกระดูกเต๋าให้ถึงขีดสุด
"เจ้าเมือง การลงมือกับคนรุ่นหลังนับเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม"
ในขณะนี้เสียงหัวเราะร่าดังขึ้นราวกับแรงตบลงมาจากฟากฟ้า รอยประทับของฝ่ามือเสมือนขุนเขากดทับ ดาบทองลงทัณฑ์ที่กำลังจะฆ่าเซียวเฉินถูกทำลายในทันที
"ขอบเขตสะพานชีวา"
ดวงตาของทุกคนเบิกกว้าง เมืองวายุไกลยังมีผู้แข็งแกร่งในขอบเขตสะพานชีวาที่ซ่อนตัวอยู่หรือ
ทว่าเมื่อเห็นผู้มาใหม่ คนตระกูลไป๋ก็แสดงสีหน้าดีใจ โดยเฉพาะไป๋เนี่ยนปิงที่วิ่งเข้าไปอย่างตื่นเต้น
"ท่านพ่อ"
ไป๋ชิงเฟิงลูบหัวไป๋เนี่ยนปิงพลางยกยิ้ม สีหน้าของเขาสดใส ไร้ซึ่งแววอิดโรยขณะนอนอยู่บนเตียง
"ไป๋ชิงเฟิง! ไม่คิดว่าพิษของเจ้าจะคลายเร็วขนาดนี้ แถมพลังบำเพ็ญยังก้าวหน้าอีก" เมื่อเห็นไป๋ชิงเฟิงปรากฏตัว หลิงหยวนถูก็ค่อย ๆ สงบลง ดวงตาของเขาฉายแววเย็นชา
เขาไม่ได้ไร้เทียมทานในเมืองวายุไกล ยังมีคนที่อยู่ขอบเขตเดียวกันกับเขา
"ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเซียวเฉิน หากไม่ใช่เพราะเขา โอกาสในการก้าวข้ามขอบเขตนี้ ข้าคงไม่รู้ว่าจะต้องรอไปอีกนานแค่ไหน" ไป๋ชิงเฟิงถอนหายใจ ยาเหล่านั้นออกฤทธิ์รุนแรงมาก
"ข้ายังสงสัยอยู่ว่าทำไมท่านพ่อถึงพักฟื้นมานานนัก ที่แท้ก็ลอบก้าวเข้าสู่ขอบเขตสะพานชีวาโดยไม่บอกข้า" ไป๋เนี่ยนปิงกล่าว
"เจ้าอยู่กับเจ้าเด็กนี่ทั้งวัน พ่อไม่มีโอกาสบอกเจ้า" ไป๋ชิงเฟิงไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง
คนตระกูลไป๋พากันหัวเราะ ผู้อาวุโสทั้งเจ็ดก้าวเข้าสู่ขอบเขตทะเลทุกข์ขั้นเก้า ไป๋ชิงเฟิงก้าวเข้าสู่ขอบเขตสะพานชีวา ตระกูลไป๋เป็นหนี้บุญคุณเซียวเฉินมาก
ทั้งตระกูลไป๋ได้เปลี่ยนแปลงไปเพราะเซียวเฉิน
"ไป๋ชิงเฟิง เราถือว่าเป็นเพื่อนกันมานาน เจ้าควรคิดให้ดี การเป็นศัตรูกับข้าก็เหมือนกับการเป็นศัตรูกับแคว้นไพศาล ตระกูลไป๋จะรับมือไหวหรือ" หลิงหยวนถูข่มขู่
"คำพูดของเจ้าเมืองทำข้าสับสนนัก ข้าไม่ต้องการต่อสู้ แต่หลิงจื่อหวนบีบบังคับข้า และยังตกลงที่จะไม่แบ่งแยกเป็นตาย ข้าอยากถามคำหนึ่งว่าท่านต้องการฆ่าข้าด้วยเหตุใด หรือเจ้าเมืองซึ่งเป็นผู้แทนของแคว้นไพศาลสามารถฆ่าชาวเมืองได้ตามอำเภอใจ นี่คือเจตจำนงค์ของแคว้นไพศาลอย่างนั้นหรือ" เซียวเฉินถาม
"เจ้า..." หลิงหยวนถูพูดไม่ออก
"ดำเนินการประลองต่อไปเถิด" จัวชิงกล่าวอย่างไม่พอใจ ความขัดแย้งในเมืองวายุไกลล้วนเป็นเรื่องเล็กน้อยในสายตาของเขา
ขอบเขตสะพานชีวาถือเป็นขอบเขตระดับสูงในเมืองวายุไกล ทว่าในเมืองหลวงคนในขอบเขตนี้ก็เป็นเพียงคนธรรมดา!
“เพื่อเห็นแก่หน้าคุณชายจัว ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าไปอีกหน่อยแล้วกัน!” หลิงหยวนถูแค่นเสียงบอก
“ไม่ต้องนานเพียงนั้นหรอก ข้าจะฆ่าเขาภายในเพียงสิบอึดใจ!” เสียงเยือกเย็นแข็งกร้าวดังขึ้นขณะโจวหลิงเสวี่ยก้าวออกมา ท่าทีงามสง่าราวกับเป็นสตรีที่หาผู้ใดเปรียบ
จัวชิงตาเป็นประกาย การปรากฏตัวของนางกระตุ้นความสนใจของเขา
เมื่อกายเต๋าโดยกำเนิดเติบโตขึ้น นางจะอยู่เหนือทั้งแคว้นไพศาล
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ จัวชิงก็แอบมองหญิงสาวร่างสูงที่อยู่ข้าง ๆ อีกครั้งด้วยความฉงน นางมาเมืองวายุไกลเพื่อกายเต๋าโดยกำเนิดไม่ใช่หรือ
"ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขา จากคนรักวัยเยาว์จึงกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาต" ทุกคนต่างก็คาดเดากัน
"ไม่ว่าพวกเขาเคยเป็นอะไร แต่โจวหลิงเสวี่ยได้ปลุกกายเต๋าโดยกำเนิด และกำลังจะแต่งงานกับอัจฉริยะแห่งตระกูลหวัง นี่คือความจริง"
"นางครอบครองกายเต๋าโดยกำเนิดและมีข้อได้เปรียบด้านขอบเขต เซียวเฉินไม่มีโอกาสชนะ"
แม้เซียวเฉินจะเอาชนะหลิงจื่อหวนและคนอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ แต่ในสายตาของทุกคน เขายังสู้โจวหลิงเสวี่ยไม่ได้
ถึงอย่างไรหลังโจวหลิงเสวี่ยก้าวขึ้นมา นางก็ได้ขับไล่ผู้อาวุโสของตระกูลไป๋ออกไป
"ฆ่าข้าภายในสิบอึดใจหรือ มั่นใจเกินไปแล้ว" เซียวเฉินยิ้มเยาะ
“เจ้าควรตายไปนานแล้ว หากเจ้าไม่ตายข้าคงไม่อาจอยู่เป็นสุข!”
แววตาของนางส่งกระแสเยือกเย็น เรือนผมยาวปลิวสยาย ปราณขอบเขตทะเลทุกข์ขั้นแปดแผ่ซ่าน ยามนี้นางคล้านผสานรวมกับโลกใบนี้
“จะให้กระดูกของข้าฆ่าข้าหรือ”
เซียวเฉินกล่าวถากถางขณะโคจรพลังสวรรค์อมตะ ดวงตาปรากฏอักษรโบราณส่องสว่าง เปล่งประกายระยิบระยับ
ตูม!
โจวหลิงเสวี่ยเร่งฝีเท้าก้าวไปด้านหน้า ลานประลองสั่นสะเทือน ฝ่ามือฟาดผ่าอากาศราวกับมีด ฟันออกไปเสมือนมีดคมกริบ!
ทุกคนต่างตกตะลึง มีดนี้อาจทำลายขอบเขตทะเลทุกข์ขั้นแปดได้โดยง่ายด้วยซ้ำ!
เซียวเฉินเหวี่ยงกำปั้นออกไปด้วยพลังยุทธ์รุนแรง หมัดนี้คล้ายจะมีเพียงพลังยุทธ์ แต่แท้จริงนั้นแฝงพลังน่าเกรงขามลงไปด้วย
ตูม!
คมมีดระเบิดออก การจู่โจมครั้งที่สองของโจวหลิงเสวี่ยมาพร้อมกับเงาวิหคเพลิงสีแดงน่าสะพรึง ไฟลุกโชนเตรียมจะแผดเผาร่างเซียวเฉิน
“เคล็ดวิชาวิหคเพลิงสีชาดอย่างนั้นหรือ” แววตาของหญิงร่างสูงวูบไหว นางหันไปมองผู้แข็งแกร่งตระกูลหวัง น่าจะเป็นวิชาประจำตระกูลหวังไม่ใช่หรือ
วิหคเพลิงสีแดงโฉบไปยังเซียวเฉิน ทำให้เขากดดันอยู่บ้าง ทะเลทุกข์ในกายปั่นป่วนและร้องคำราม ปราณฟ้าดินพรั่งพรูเข้าสู่แขนของเขา
เขากระทืบเท้ารุนแรง ชั่วขณะที่หมัดนั้นปะทุพลังก็คล้ายเงาเทพเจ้าแห่งการต่อสู้จะเลือนหายไป ท่ามกลางแรงปะทะมหาศาล ดูเหมือนจะมีเพียงหมัดต้านอุปสรรคนี้ที่หลงเหลืออยู่
“ช่างเป็นหมัดที่ทรงพลังนัก!” ทุกคนพากันตกตะลึง แม้แต่คนที่รับชมอยู่บนที่นั่งด้านบนยังประหลาดใจ นี่คือพลังที่ผู้บำเพ็ญขอบเขตทะเลทุกข์ขั้นห้าปลดปล่อยได้หรือ
โจวหลิงเสวี่ยสามารถสู้ข้ามขอบเขตได้เพราะกายเต๋าโดยกำเนิด ทว่าเซียวเฉินสามารถสู้ข้ามขอบเขตถึงสามขั้นและต้านทางกายเต๋าโดยกำเนิดได้อย่างไร
ตูม!
หมัดนั้นพุ่งผ่านไป วิหคเพลิงสีแดงสูญสลาย สีหน้าของโจวหลิงเสวี่ยเปลี่ยนไปทันตา ปราณในกายนางปั่นป่วน ทำให้จำต้องถอยหนี!
“โจวหลิงเสวี่ยถอยแล้ว!” สายตาของผู้คนสั่นไหว เจ้าของกายเต๋าโดยกำเนิดตกเป็นรองอีกฝ่ายที่สู้ข้ามขอบเขต นี่มันอะไรกัน
แววฉงนปรากฏในสายตาของผู้อาวุโสตระกูลหวัง แม้โจวหลิงเสวี่ยก็ฝึกเคล็ดวิชาวิหคเพลิงสีชาดมาไม่นาน แต่พลังของนางก็นับว่าไม่น้อย สามารถอยู่เหนือผู้แข็งแกร่งขอบเขตทะเลทุกข์ขั้นเก้าได้ ชายหนุ่มคนนี้สามารถเอาชนะเคล็ดวิชานี้ได้ พลังวิเศษของเขาอยู่ขั้นไหนกัน
"จะเอาชนะข้าภายในสิบอึดใจหรือ"
เซียวเฉินยิ้มเย้ยหยัน "ของปลอมก็คือของปลอมอยู่วันยังค่ำ เจ้าไม่ใช่เจ้าของกายเต๋าโดยกำเนิดที่แท้จริง ไม่สามารถใช้พลังของกระดูกเต๋าได้"
"อย่างนั้นหรือ นี่มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้น"
โจวหลิงเสวี่ยที่ถูกผลักกลับส่งปราณทรงพลังมาจากขอบเขตทะเลทุกข์ของนาง ปราณพวยพุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่งราวกับว่าจะทะลวงขีดจำกัดของขอบเขตทะลทุกข์ขั้นแปด
ตูม!
โจวหลิงเสวี่ยก้าวข้ามขอบเขตเข้าสู่ขอบเขตทะเลทุกข์ขั้นเก้า!