ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 235 หนึ่งต่อสาม
ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 235 หนึ่งต่อสาม
ในตอนนี้
สายตานับไม่ถ้วนต่างก็มองไปทางกู่หยางอย่างพร้อมเพรียง
สายตาเหล่านั้นเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ!
หลินฉู่เทียน...พ่ายแพ้แล้ว!?
แถมยังพ่ายแพ้ให้กับ...คนจากราชวงศ์เล็ก ๆ นี่จะเป็นไปได้อย่างไร!?
อวิ๋นเทียนหมานก็ใบหน้าตกใจเช่นกัน
เขาไม่คิดมาก่อนเลย...
ความสามารถของกู่หยางจะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้!
ไม่เพียงแต่มีร่างกายแข็งแกร่ง วรยุทธหลอมกายที่บำเพ็ญเพียรก็ลึกซึ้งอย่างยิ่ง
ตอนนี้ยังระเบิดสัจธรรมหมัดออกมา 3 ส่วน!
หากว่าตอนดวลกับเขา กู่หยางได้ระเบิดสัจธรรมหมัด 3 ส่วนออกมา...
เขาจินตนาการต่อไปเล็กน้อย แล้วร่างก็อดสั่นไม่ได้
ใบหน้ายังเผยความตกใจ
พี่ใหญ่...
แข็งแกร่งเกินไปหรือไม่!?
เขาใจตกใจ
ในขณะเดียวกัน องค์ชายแปดและองค์หญิงเก้าก็ลุกขึ้นในทันที จ้องมองกู่หยางอย่างไม่อยากจะเชื่อ
"จะเป็นไปได้อย่างไร!?"
"เขา...กลับเอาชนะหลินฉู่เทียน!?"
พวกเขาตกใจยิ่งนัก
ชัดเจนว่าไม่ได้คาดไว้ว่าผลจะออกมาเช่นนี้
หลินฉู่เทียนได้ใช้หลากหลายกลยุทธ์ออกมาแล้ว การโจมตีเช่นนี้...แม้แต่ขอบเขตมรณะชีวันทั่วไปก็ไม่แน่ว่าจะรับมันไหว!
แต่กู่หยาง...กลับรับมันไว้ได้อย่างง่ายดาย แถมยังโจมตีกลับเอาหลินฉู่เทียนกระเด็นออกไปได้!
คนนี้...
หน้าตาพวกเขาเริ่มบูดเบี้ยวพอสมควร
เห็นได้ชัดว่า พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าคนจากราชวงศ์เซวียนเหนี่ยวเล็ก ๆ
จากราชวงศ์เล็กที่ไม่รู้จัก...
จะสามารถแสดงวิชาน่าสะพรึงขนาดนี้ได้!
แถมยังสามารถเหยียบย่ำหลินฉู่เทียนได้อีก!
หากเป็นเช่นนี้...
ตำแหน่งของพวกเขาสามคนในลานฝ่ายนอก จะไม่ถูกกู่หยางคุกคามหรอกหรือ!?
นอกจากศิษย์ที่กำลังดูการประลองอยู่
จริง ๆ แล้วยังมีสัตว์ประหลาดเฒ่าบางคนกำลังแอบมองอยู่
อย่างไรเสีย ฝีมือของกู่หยางในการทดสอบก็น่าทึ่งอย่างยิ่ง
และหลินฉู่เทียนก็เป็นศิษย์อันดับหนึ่งของตระกูลหลิน
การต่อสู้ระหว่างทั้งสองจึงสามารถดึงดูดความสนใจจากสัตว์ประหลาดเฒ่าได้
ในนั้น ผู้อาวุโสชุดเขียวก็อยู่ด้วย
"น่าสนใจ สัจธรรมหมัด 3 ส่วน แม้แต่ศิษย์ขอบเขตแก่นสุญตา ก็ไม่แน่ว่าจะเข้าใจได้"
"กู่หยาง...มีวิชายุทธก็ทรงพลัง"
ได้ยินเสียงข้าง ๆ ผู้อาวุโสชุดเขียวก็ยิ้มน้อย ๆ ดวงตาส่องประกายอย่างเฉลียวฉลาด
"เขายังถนอมกำลังไว้เช่นเคย"
"ดูเหมือนว่าเขายังไม่ได้เอาจริง"
"ข้าได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับกู่หยางมาบ้าง วรยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเป็นวิถีกระบี่ หลินฉู่เทียนไม่มีสิทธิ์ให้เขาชักกระบี่ด้วยซ้ำ
"ไม่แปลกใจที่เขาจะรีบเข้าลานฝ่ายใน ด้วยพรสวรรค์และความสามารถที่มีอยู่ในตอนนี้...เขาอยู่ในลานฝ่ายนอกคงได้รับความอับอายอยู่ไม่น้อย"
"มีทั้งข้อดีข้อเสีย อย่างไรเสีย ด้วยพรสวรรค์และความสามารถที่น่าตกใจของเขา ไม่นานหรอกก่อนจะได้เข้าลานฝ่ายใน"
สัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านี้คุยกันไม่หยุด
คุยกันไปก็ดูถูกกู่หยางอยู่ไม่น้อย
"เห็นทีหลินฉู่เทียนกับลูกหมาน้อยพวกนั้นจะถูกเหยียบย่ำเสียแล้ว"
"ดีเหมือนกัน คนเหล่านั้นจะได้ให้เห็นโลกกว้าง คิดว่ามียอดฝีมือขอบเขตราชันชี้แนะแล้วจะเหาะเหินอากาศก็ได้หรือ”
ระหว่างคุยนี้
ด้านล่าง
หลินฉู่เทียนก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นมา
ท่าทางเต็มไปด้วยความตกใจ
เขามองยันต์หยกที่มืออยู่
ยันต์หยกนี้เป็นรางวัลที่ตระกูลหลินให้เขาไว้เอาชีวิตรอด
สามารถทานทานพลังโจมตีนึงของยอดฝีมือขอบเขตผันแปรได้!
ส่วนหมัดที่กู่หยางใช้...
กลับทิ้งรอยกดลึกไว้บนยันต์หยก!
คนผู้นี้...
แกร่งเกินไปแล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้น...
ไม่เพียงแค่ฝึกฝนวิชาหมัดระดับราชัน ยังเข้าใจสัจธรรมหมัดถึง 3 ส่วน!
เมื่อคิดได้ดังนี้ สีหน้าของเขาก็ยิ่งเหี่ยวเฉา
"เจ้าแพ้แล้ว ส่งแต้มความรู้มาเสีย"
กู่หยางกลับไม่สนใจเรื่องนี้เท่าไร กล่าวอย่างเรียบเฉย
ได้ยินเสียงกู่หยาง
หลินฉู่เทียนก็ขบฟันเข้าให้
ในลานฝ่ายนอกนี้ แต่ไหนแต่ไรก็มีเพียงหลินฉู่เทียนที่ได้แต้มความรู้จากคนอื่นมาตลอด ใครจะช่วงชิงแต้มความรู้ของเขา!?
แต่ตอนนี้...
เขาโดนเองเสียแล้ว!
แต้มความรู้ 10,000 แต้ม...
ในใจหลินฉู่เทียนก็รู้สึกโล่งอกเล็กน้อย
ถ้าหากตนไม่ได้ต่อรองราคา แต่เดิมพันแต้มความรู้ 30,000 แต้มที่กู่หยางหวังไว้...
ตอนนี้เขาก็คงร่ำไห้แล้ว!
ถึงแม้จะไม่เต็มใจยิ่งนัก หลินฉู่เทียนก็ทำตามที่ตกลงไว้ โอนแต้มความรู้เข้าป้ายหยกประจำตัวของกู่หยาง
แต้มความรู้ 10,000 แต้มถูกโอนเข้ามาอย่างง่ายดาย กู่หยางก็ยิ้มเล็กน้อย
แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงสายตากดดันมาจากอีกสองสายตาข้าง ๆ
ดูเหมือน...ยังมีแต้มความรู้ให้ยึดอีก?
กู่หยางเลิกคิ้ว
"ดูเหมือน พวกเจ้าคงไม่ชอบข้าเท่าไร"
"ว่าอย่างไร? พวกเจ้าก็อยากต่อสู้เดิมพันเช่นกันหรือ?
กู่หยางหันไปมองอีกฝั่ง
และที่นั่น...
ก็มีองค์ชายแปดและองค์หญิงเก้า!
กู่หยางเอ่ยปากพูดก่อน
องค์ชายแปดและองค์หญิงเก้าได้ยินแล้ว คิ้วก็ขมวดเล็กน้อย
ไม่ได้ตอบรับในทันที
อย่างไรเสีย หลินฉู่เทียนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกู่หยาง พวกเขามีความสามารถพอ ๆ กับหลินฉู่เทียน แม้จะต่อสู้กันจริง ๆ ก็ไม่ได้เปรียบ
หากไม่มั่นใจล่ะก็...พวกเขาไม่อยากให้แต้มความรู้แก่กู่หยาง
แต่ถัดมา คำพูดของกู่หยางทำให้พวกเขาโมโหจนควันออกหู
"ถ้าไม่กล้า...พวกเจ้าสามคนก็ออกมาพร้อมกันได้เลย"
"ข้าย่อมไม่เอาเปรียบ ถ้าข้าชนะ พวกเจ้าแต่ละคนให้ข้า 10,000 แต้มความรู้ ถ้าข้าแพ้ ข้าจะให้พวกเจ้าคนละ 10,000 แต้ม ย่อมเป็นธรรม"
กู่หยางอมยิ้มพูด
รอยยิ้มดูราวกับเป็นผู้ไม่ประสงค์ร้าย
แต่พอคำพูดของเขาจบลง
ในทันทีที่พูดจบ
ศิษย์ทุกคนที่ดูการประลองต่างแสดงสีหน้าตกใจ มองกู่หยางอย่างไม่อยากเชื่อ
กู่หยาง... บ้าไปแล้วหรือ!?
แม้ว่าความสามารถของเขาจะแข็งแกร่งจริง ๆ แม้แต่สามศิษย์ชั้นยอดก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้
แต่...
ท้าทายศิษย์ชั้นยอดสามคนพร้อมกัน?
ช่างหยิ่งเกินไปแล้ว!
อวิ๋นเทียนหมานก็ชะงักไปครู่
แต่ต่อมาใบหน้าก็เผยความคลั่งไคล้ยำเกรง
"ยอดเยี่ยม! พี่ใหญ่เก่งมาก!"
"บุรุษที่แท้จริงย่อมเป็นเช่นนี้ หนึ่งต่อสาม!"
เขาตื่นเต้นอย่างยิ่ง
อีกด้านหนึ่ง องค์ชายแปดและองค์หญิงเก้าชะงักไปครู่ ใบหน้าแดงก่ำด้วยโทสะ!
"กู่หยาง! อย่าโอหังนัก!"
"ข้ายอมรับว่าความสามารถเจ้าแข็งแกร่ง แต่เจ้ากล้าดูถูกพวกเราถึงเพียงนี้หรือ!?"
คำพูดนี้ของกู่หยางช่างดูหมิ่นพวกเขาชัดเจน
ไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
พวกเขาอายุไล่เลี่ยกัน เป็นวัยที่หนุ่มแน่นเลือดร้อน
ได้ยินคำพูดเหล่านี้ พวกเขาจะยอมได้อย่างไร!?
"หลินฉู่เทียน พวกเราไปพร้อมกัน เจ้าบัดซบนี่หยิ่งเกินไปจริง ๆ!
องค์ชายแปดหลัวเฉิงคุนมองไปทางหลินฉู่เทียน
ตอนนี้หลินฉู่เทียนหน้าตาก็ไม่สู้ดี
ได้ยินแล้ว เขาก็พยักหน้า
"ดี!"
"กู่หยาง เจ้าจะต้องชดใช้ความหยิ่งผยองของเจ้า!"
พูดจบ
องค์ชายแปดและองค์หญิงเก้าก็พุ่งออกมา กระโดดขึ้นลานประลอง
หลินฉู่เทียนก็ลุกขึ้นยืนมายืนข้าง ๆ องค์ชายแปดและองค์หญิงเก้าพร้อมจ้องกู่หยางเขม็ง
แต่กู่หยางกลับสงบนิ่ง สีหน้ายิ้มเล็กน้อย
"โจมตีพร้อมกัน!"
หลัวเฉิงคุนมองหน้าหลัวหยูเฟยและหลินฉู่เทียนข้าง ๆ แล้วตะโกนออกมาทันที
ทั้งร่างก็ปลดปล่อยพลังแก่นแท้ออกมาอย่างน่าสะพรึง!
ปราณขอบเขตห้วงสมุทรแก่นแท้ระดับ 13 ขั้นสูงสุดระเบิดออกมา
ในขณะเดียวกัน หลัวหยูเฟยและหลินฉู่เทียนข้าง ๆ ก็ระเบิดกลิ่นอายของตัวเองออกมา
สามศิษย์ชั้นยอดของลานฝ่ายนอกในตอนนี้ กำลังร่วมมือโจมตีกู่หยาง
และแน่นอนว่า นี่ทำให้ศิษย์บริเวณโดยรอบที่กำลังดูต่างตกใจ
เพราะ...
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นสามศิษย์ชั้นยอดร่วมมือกัน
ในขณะเดียวกัน พวกเขายังเผยแววตาคาดหวังอย่างรุนแรง
"สามศิษย์ชั้นยอดร่วมมือโจมตี ครั้งนี้มีอะไรให้ดูแน่แท้!"
"จริงหรือ? ข้าคิดว่ากู่หยางทำอะไรบ้าบอคอแตกไป แม้ความสามารถเขาจะสูงกว่าหลินฉู่เทียนทั้งสาม แต่คิดจะหนึ่งสู้สาม... ช่างเพ้อฝันเหลือเกิน!"
"ใช่แล้ว ศิษย์ชั้นยอดต่างก็บรรลุขอบเขตห้วงสมุทรแก่นแท้ระดับ 13 ขั้นสูงสุด ความสามารถขอบเขตเดียวกันล้วนอยู่แนวหน้า กู่หยางที่กล้าสู้หนึ่งต่อสาม... ช่างเดินไปหาความตายโดยแท้!"
"รอดูเถอะ ผลการต่อสู้จะออกมาในไม่ช้า กู่หยางอาจจะทนไม่ได้แม้แต่กระบวนท่าเดียวด้วยซ้ำ!"
ศิษย์ส่วนใหญ่มาจากราชวงศ์ใหญ่ต้าเหยียน
พวกเขาจึงให้กำลังใจและเชียร์ศิษย์ชั้นยอดจากบ้านเกิดตัวเอง
อีกอย่างตามที่พวกเขาคิด ความสามารถของสามศิษย์ชั้นยอดที่ร่วมมือกันปลดปล่อยออกมา ไม่ใช่แค่หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสองง่าย ๆ
กู่หยางถึงแม้จะชนะหลินฉู่เทียนได้ แต่ต่อให้ต้านทานการโจมตีที่สามคนร่วมมือกัน ก็ไม่มีทาง!
ในเวลาเดียวกัน
ผู้อาวุโสที่แอบดูอยู่ก็เผยสีหน้าสงสัย
"น่าสนใจ กู่หยางคนนี้...ก็มีความกล้าอยู่ไม่น้อย!"
"หนึ่งต่อสาม วิธีนี้เหมือนกับครั้งก่อน ๆ ที่ผู้อาวุโสเฉินเคยทำเลยไม่ใช่หรือ” ผู้อาวุโสข้าง ๆ กล่าวอย่างขบขัน มองไปที่ผู้อาวุโสชุดเขียว
ตอนนี้ผู้อาวุโสชุดเขียวก็เผยแววตาประหลาดใจ
ได้ยินผู้อาวุโสข้าง ๆ ล้อเลียน เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ส่ายหน้า
"สมัยก่อนข้าท้าทายก็แค่ขอบเขตหลอมรวม แต่ขอบเขตห้วงสมุทรแก่นแท้ระดับ 13 ขั้นสูงสุด... แม้แต่ข้าก็คิดไม่ถึง"
"ตามความเห็นผู้อาวุโสเฉินแล้ว กู่หยางต้องแพ้ไม่เป็นท่าหรือไม่?” ผู้อาวุโสข้าง ๆ อดถามด้วยความสงสัยไม่ได้
"ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน แต่สัญชาตญาณบอกข้าว่า...กู่หยางน่าจะชนะ"
ผู้อาวุโสเฉินส่ายหน้า
ได้ยินแล้ว ผู้อาวุโสรอบข้างต่างตกใจ
สัญชาตญาณ?
สัญชาตญาณยอดฝีมือขอบเขตผันแปร?
ดูเหมือนผู้อาวุโสเฉินจะชื่นชมกู่หยางมากทีเดียว
พวกเขาก็มองกลับไปที่ลานประลองอีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่า...พวกเขายังคงเอนเอียงทางสามคนมากกว่า