ตอนที่แล้วบทที่ 39 ไม่มีอะไรอร่อยไปกว่าเกี๊ยวอีกแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 41 แค่หนึ่งล้านหยวนเอง

บทที่ 40 ผู้นำของเป่ยเฉิน


บทที่ 40 ผู้นำของเป่ยเฉิน

ภายในห้องVIP เงียบเหมือนป่าช้า

ดวงตาของซ่งมู่หยางเบิกกว้าง ความหนาวเย็นแล่นออกมาจากหัวใจของเขา แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายในทันที

สายตาของซ่งชิ่งเหอยิ่งจับจ้องไปที่ซ่งชิ่งหลงอย่างเอาเป็นเอาตาย เขาคำนวณออกมาแล้วว่าซ่งชิ่งหลงจะต้องเจอเรื่องไม่ดี แต่ไม่คิดเลยว่า ซ่งชิ่งหลงจะพูดแบบนี้ออกมาทันใด

“พี่ใหญ่ พี่บ้าไปแล้วเหรอ?” ซ่งชิ่งเผิงก็ตกใจ เสียงของเขาสั่นเทา รีบมองไปที่หวงซิ่วซิ่ว “ซิ่วซิ่ว พี่ใหญ่เมา พวกเรา...พวกเราไม่กินเกี๊ยว”

หวงซิ่วซิ่วเหลือบมองมืออยู่บนไหล่ของเธอ จับมันเอาไว้ แล้วบิดอย่างแรง

เสียงกระดูกเคลื่อนที่อย่างชัดเจนดังขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องของซ่งชิ่งหลง ก้องกังวาลไปทั่วทั้งห้อง

“ซ่งชิ่งหลง ฉันโชคดีจริงๆ ที่นายเผยธาตุแท้ออกมาก่อน” หวงซิ่วซิ่วเตะออกไป ซ่งชิ่งหลงล้มลงไปนอนกองกับพื้นทันที

“คุณพ่อ หนูขอโทษค่ะ หนูทำให้คุณพ่อเสียเวลา” สีหน้าของหวงซิ่วซิ่วดูมืดมนถึงขีดสุด

ผู้หญิงแบบเธอ ในเรื่องความรัก เธอยิ่งถือตัว

หวงซิ่วซิ่วเดินเข้าไป ชกซ่งชิ่งหลงเหมือนกับพายุ

ไม่มีใครกล้าห้าม ยิ่งไม่มีใครกล้าส่งเสียง

อีกฝ่ายคือลูกสาวขอผู้อาวุโสห้าตระกูลหวง

ซ่งมู่หยางหน้าซีดเผือด เดิมคิดว่าจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันกับคนมีอำนาจ ทว่า ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ซ่งชิ่งหลงกลับเหมือนกับถูกผีเข้า ดันพูดจาเหลวไหล “ชิ่งหลงถูกผีเข้างั้นเหรอ?” ซ่งมู่หยางพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา ริมฝีปากของเขาสั่น

“ถูกผีเข้า?” ทันใดนั้นซ่งชิ่งเหอก็เหมือนกับนึกอะไรบางอย่างออก ดวงตาของเขามองไปที่ซ่งชิ่งหลงที่กำลังถูกซ้อม สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที ในขณะเดียวกัน ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม

“นักพรตคนนั้นของตระกูลซ่งกลับมาแล้ว”

หวงซิ่วซิ่วชกเข้าที่สันจมูกของซ่งชิ่งหลง เลือดกำเดาพุ่งออกมา

ซ่งชิ่งหลงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ในตอนนี้เขากลับมาเป็นปกติแล้ว สีหน้ามึนงง “ซิ่วซิ่ว เธอทำอะไร?”

หวงซิ่วซิ่วซ้อมจนพอใจแล้ว พอได้ยินประโยคนี้ เธอก็หันกลับไปทันที ซ้อมซ่งชิ่งหลงอีกหนึ่งชุด

หวงฉีเต๋อลุกขึ้นยืน “ซิ่วซิ่ว ไปกันเถอะ”

เขาไม่ได้พูดอะไรอีก

หวงฉีเต๋อพาหวงซิ่วซิ่วเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าเย็นชา

ซ่งชิ่งหลงถูกซ้อมจนมึนงง นอนอยู่บนพื้น ขยับตัวไม่ได้

“ชิ่งเหอ เมื่อกี้นี้แกพูดอะไรออกมา?” ซ่งมู่หยางตั้งสติกลับมา สีหน้าดูไม่ดี

ซ่งชิ่งเหอกับน้องชายหลายคนเดินเข้าไป ประคองซ่งชิ่งหลงลุกขึ้น

“พี่ใหญ่ พี่รู้ไหมว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?” ซ่งชิ่งเหอรีบถาม

ซ่งชิ่งหลงตั้งสติกลับมาได้หลังจากที่ผ่านไปเกือบห้านาที

“เกิดอะไรขึ้น?” จากนั้นซ่งชิ่งหลงก็ฟังน้องชายหลายคนเล่า สีหน้าของเขายิ่งซีดเผือด ริมฝีปากสั่นเทา “จะเป็นไปได้ยังไง ฉันจะไปกล้าพูดแบบนั้นต่อหน้าซิ่วซิ่วได้ยังไง?”

“พี่ใหญ่ พี่ทำอะไรไม่คิดเลย” ซ่งชิ่งเผิงอยากจะร้องไห้

“ไม่ใช่พี่ใหญ่ที่ทำอะไรไม่คิด แต่มีคนอยู่เบื้องหลัง คอยควบคุมพี่ใหญ่” สีหน้าของซ่งชิ่งเหอดูมืดมน เต็มไปด้วยความกลัว

ทันทีที่พูดจบ สีหน้าของซ่งมู่หยางก็เปลี่ยนไปทันที “สิ่งที่ลูกพูด เป็นความจริงงั้นเหรอ?”

“วิชาลับด้านโหราศาสตร์ มีวิชาคนตัวเล็กจากยันต์ ยกตัวอย่างเช่น สำนักอู๋เสินที่ผมไปขอเป็นศิษย์ ที่นั่นก็มีวิชาคนตัวเล็กมนตร์ดำ” เสียงของซ่งชิ่งเหอสั่นเทา “เพียงแต่ คนตัวเล็กมนตร์ดำยากเกินไป ผมเรียนมาสามปียังไม่เป็นเลย!”

“ความหมายของลูกคือ เมื่อกี้ชิ่งหลง ถูกวิชาแบบคนตัวเล็กควบคุมงั้นเหรอ?” ซ่งมู่หยางกำหมัดแน่น “ทำไมลูกถึงมั่นใจว่า นักพรตคนนั้นกลับมาแล้ว?”

“เพราะพื้นฐานของวิชาคนตัวเล็ก คือการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย แต่เมื่อกี้ คำพูดของพี่ใหญ่ถูกควบคุมอยู่” ซ่งชิ่งเหอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา “ผมเชื่อว่า ในเมืองฉาน คนที่สามารถทำแบบนี้ได้ มีแค่จางเต้าซื่อที่เคยอยู่ที่บ้านซ่งเสียหยางมาห้าปี ถ้าไม่งั้น ทำไมผมถึงไม่กล้าลงมือหลังจากที่เรียนจบกลับมาสามปีล่ะ? ความสามารถด้านโหราศาสตร์ของจางเต้าซื่อเหนือกว่าผมมาก”

“เป็นความผิดของผมเอง” ซ่งชิ่งเผิงรู้สึกเสียใจ “ถ้าไม่ใช่เพราะก่อนออกเดินทาง ผมไปคุยโม้ต่อหน้าซ่งเหยียน พวกเขาคงจะไม่รู้”

“ตอนนี้พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ กลับบ้านก่อน ค่อยๆ คิดหาวิธี” สีหน้าของซ่งมู่หยางดูมืดมน

“ดูเหมือนว่า ต้องใช้วิธีของฉัน จัดการกับพวกเขาแล้ว” แววตาของซ่งชิ่งอิ๋งเต็มไปด้วยความรู้สึกอยากจะฆ่า “แค่นักพรตคนนั้นหายตัวไปตลอดกาล ซ่งเสียหยางกับครอบครัว ก็ไม่น่ากลัวแล้ว!”

ภายใต้ความมืด

ฉู่เฉินกลับมาถึงริมทะเลสาบซ่ง ภายใต้แสงจันทร์ สิงโตกำลังเต้นรำ

อารมณ์ของฉู่เฉินไม่เลว หยุดฝีเท้า มองดูอย่างชื่นชม

“ในบรรดาคนรุ่นเยาว์ ทักษะของซ่งชิวก็ถือว่าไม่เลว” ฉู่เฉินพึมพำกับตัวเอง

ตอนที่ซ่งชิวพัก เขาเดินมาหาฉู่เฉิน “ฉู่เฉิน ฉันได้ยินมาว่า คืนนี้นายออกไปข้างนอกหลายครั้ง”

ฉู่เฉินมองไปที่ซ่งชิว

เงินขวัญถุงหนึ่งแสนหยวน แลกกับการที่ถูกเรียกว่าพี่เขยแค่ครั้งเดียว ครั้งที่สองก็ไม่เรียกแล้ว

“ใช่ ฉันออกไปฟังข่าวซุบซิบนินทามา” ฉู่เฉินตอบพร้อมกับรอยยิ้ม

ดวงตาของซ่งชิวเป็นประกาย รีบถาม “ข่าวซุบซิบนินทาอะไร?”

“ซ่งชิ่งเผิงคุยโม้ต่อหน้าฉัน บอกว่าพี่สะใภ้ของเขา คุณหนูหวง งดงามราวนางฟ้า ฉันอดไม่ได้ที่จะไปเฝ้าดูที่หวงถิง ไม่คิดเลยว่า จะได้ยินข่าวซุบซิบนินทาจริงๆ” ฉู่เฉินยิ้มพลางกล่าว “ซ่งชิ่งหลงพูดจาหยาบคายกับคุณหนูหวงที่หวงถิง ถูกอีกฝ่ายซ้อม สุดท้าย คุณหนูหวงก็จากไปด้วยความโกรธ”

ปากของซ่งชิวอ้ากว้างเป็นรูปตัว O

ครู่หนึ่งต่อมาก็ตั้งสติกลับมา ตื่นเต้นมาก “สิ่งที่นายพูด เป็นความจริงหรือเปล่า?”

ฉู่เฉินพยักหน้า “ไม่งั้น เดี๋ยวนายก็รอดูพวกเขากลับมาก็รู้แล้ว”

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ซ่งชิวหัวเราะเสียงดัง หันหลังกลับไปทันที “ฉันจะไปบอกข่าวดี”

ห้องโถงของบ้านผู้นำ

ซ่งเสียหยางกับคนอื่นๆ กำลังนั่งดื่มชา ในขณะเดียวกันก็กำลังหารือกันว่าต่อไปจะทำยังไง

“งานฉลองของเมืองจินถานสำคัญที่สุด” ซ่งเสียหยางกล่าว “ส่วนบริษัทยาเป่ยเฉิน เหยียนเหยียนเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด ซิ่นผิง โจวเจี้ยน ช่วงเวลานี้พวกเธอสองคนมาติดตามความคืบหน้าของโปรเจ็กต์ความร่วมมือระหว่างสามฝ่ายกับฉัน”

หลินซิ่นผิงกับโจวเจี้ยนพยักหน้า

สีหน้าของทุกคนยังคงเต็มไปด้วยความกังวล

“เวลานี้ ซ่งมู่หยางกับครอบครัว น่าจะกำลังพบกับผู้อาวุโสห้าตระกูลหวงอยู่” ซ่งหยุนขมวดคิ้ว

หัวใจของซ่งเสียหยางจมดิ่ง

พวกเขาจะพยายามแค่ไหน ทำอะไรมากมายแค่ไหน ถ้าซ่งมู่หยางเป็นทองแผ่นเดียวกันกับผู้อาวุโสห้าตระกูลหวงจริงๆ ตำแหน่งผู้นำตระกูลซ่งก็จะไม่มีอะไรต้องสงสัย

ซูเยว่เซียนถอนหายใจ “ฉันจะไปคุยกับเหยียนเหยียนอีกครั้ง อย่างน้อย จะได้ไม่ทำให้คุณชายเย่ผิดหวังมากเกินไป”

ทันทีที่ซูเยว่เซียนก้าวออกไป ซ่งชิวก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม

“ข่าวดี ซ่งมู่หยางกับครอบครัวทำให้ผู้อาวุโสห้าตระกูลหวงไม่พอใจ”

ทุกคนในห้องโถงต่างก็ตกตะลึง

ซูเยว่เซียนไม่รู้เรื่องนี้ เขารีบเดินไปที่บ้านของซ่งเหยียนก่อน

“เหยียนเหยียน วันนี้แม่ต้องย้ำเรื่องนี้อีกครั้ง” ซูเยว่เซียนมองไปที่ซ่งเหยียน สีหน้าจริงจัง ไม่ยอมให้ปฏิเสธ น้ำเสียงของเธอแหลมคม “ซ่งมู่หยางกับครอบครัวเอาใจตระกูลหวงได้ ถ้าพวกเราไม่มีแผนรับมือ พวกเราจะต้องถูกพวกเขาเหยียบย่ำ ไม่ว่าจะยังไง ลูกก็ต้องติดต่อกับคุณชายเย่ให้ดี แม้ว่าตระกูลเย่จะเทียบกับตระกูลหวงไม่ได้ แต่เย่เส้าหวงก็เป็นทายาทคนเดียวของตระกูลเย่...”

“เดี๋ยวก่อน” ฉู่เฉินรู้สึกว่าตัวเองไม่มีตัวตนเลย มือของเขายังคงถือแก้วชาอยู่ “คุณแม่ ผมก็เป็นหนึ่งในผู้นำของเป่ยเฉินนะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด