ตอนที่ 200 ฉลองวันเกิด
“เสี่ยวเยี่ยน คุณพ่อคะ พูดเรื่องอะไรเนี่ย?”
พอได้ยินว่าพ่อ และลูกพี่ลูกน้องพูดล้อตัวเองจริงๆ เซี่ย ซินเหยา ก็เกิดหน้าแดงขึ้นมาทันที แถมเธอยังรู้สึกเขินอายเล็กน้อยด้วย
“คุณลุง คุณป้าครับ พวกคุณออกมาทักทายผมได้ยังไง”
“ต่อไปให้ เสี่ยวเหยา ออกมาเปิดประตูให้ผมก็พอแล้วครับ”
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์นี้ ซูเหวิน ทำได้เพียงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
ครอบครัวของเซี่ย มักจะกระตือรือร้น และออกมาต้อนรับเขาเสมอ ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกแปลก และรู้สึกว่ามันน่าอายจริงๆ
“แล้วมันจะไปเกี่ยวอะไร เราแค่เดินมาที่ลานหน้าบ้านกันเฉยๆ อีกอย่างเราควรต้องออกมาทักทายคุณสักหน่อย”
“ถูกต้องๆ, ตอนนี้คุณคือแฟนหนุ่มของ เสี่ยวเหยา ถ้าเราไม่ออกมาทักทายคุณจะให้ไปทักทายใครเล่า?”
เซี่ย เฉิงตง และสวี่หยุน กลับหัวเราะลั่นพร้อมกับพูดอย่างเฉยเมย
พูดตามตรง พวกเขาในเวลานี้ไม่รู้ว่าชอบ ซูเหวิน ลูกเขยในอนาคตคนนี้มากแค่ไหน(ขนาดไหน)แล้ว
และการออกมาทักทายไม่นับว่าเป็นอะไรจริงๆ
พูดไปก็รีบชวน ซูเหวิน ให้เข้าไปด้านใน
เซี่ย เคอหมิง ได้เข้ามาช่วย ซูเหวิน หยิบถือกระเป๋าเดินทางขึ้นมาด้วย
“เอ๊ะ นี่มันอะไรน่ะ?”
เมื่อทุกคนเดินเข้าไปข้างในลานบ้าน เซี่ย ชิวเยี่ยน พบว่า ซูเหวิน ถือกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ดูละเอียดอ่อนประณีตมากในมือ จึงถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
เพียงแต่เมื่อเธอเห็นภาพบนกล่องบรรจุภัณฑ์ ดวงเธออดไม่ได้ที่จะพลันสว่างขึ้น เหมือนเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างทันที
“ซู สุดหล่อ นี่... หรือว่าเป็นของขวัญวันเกิดให้ พี่สาว รึเปล่า?”
แต่อย่างไร เซี่ย ชิวเยี่ยน ก็อยากรู้อยากเห็นอยู่ดีจึงถามทันที
“อืม ประมาณนั้น!”
ซูเหวิน ก็ไม่ได้ปิดบัง พร้อมกับพยักหน้าตอบกลับ
ถึงอย่างไรปิดบังไปก็ปิดบังไม่ได้อยู่ดี
“เสี่ยวเหวิน เราไปซื้อของมีค่ามาอีกแล้วหรือ? นี่ก็สิ้นเปลืองเกินไป”
สวี่หยุน รู้ทันทีเมื่อมองไปที่กล่องว่ามันต้องเป็นเครื่องประดับ
“ใช่ แล้วทำไมคุณถึงซื้อของเหล่านี้(มา)อีก?”
เซี่ย ซินเหยา พลันกล่าวขึ้น
เธอชอบของขวัญที่ ซูเหวิน ให้มามาก
แต่แค่ ซูเหวิน เคยให้ของขวัญเธอมาหลายครั้งแล้ว
“คุณเป็นแฟนผม วันเกิดคุณไม่ให้ผมซื้อของขวัญเหรอ?”
ซูเหวิน กระตุกยิ้ม
จากนั้นเขาก็มองไปที่ผู้เฒ่าทั้งสองอีกครั้ง : “ส่วนสำหรับ คุณลุง คุณป้า พวกคุณไม่ต้องเป็นกังวลเลย ของขวัญที่ผมซื้อให้ เสี่ยวเหยา นั้นผมเต็มใจ และผมก็มีความสุขมากเมื่อผมสามารถซื้อของขวัญให้เธอได้”
ต้องบอกว่า ซูเหวิน เด็กคนนี้รู้มากขึ้น และพูดได้ดีมากขึ้นจริงๆ
แต่นั่นมันก็เป็นความจริงจากใจของเขาด้วย
เพราะถ้า เสี่ยวเหยา มีความสุขที่ได้รับของขวัญจากเขา เขาเองก็มีความสุขเช่นกัน
“เด็กคนนี้”
เซี่ย เฉิงตง เดินเข้ามาตบไหล่ของ ซูเหวิน เขารู้สึกพอใจกับ ซูเหวิน มากจนไม่มีอะไรจะพูดแล้ว
ระหว่างการพูดคุย ทุกคนได้เข้าไปในคฤหาสน์
สวี่หยุน ได้สั่งให้คนรับใช้ชงชา
เซี่ย เฉิงตง พาทุกคนไปนั่งลงที่ห้องโถง
ทุกคนจึงพูดคุยกันสักพักก่อน
จากนั้น เซี่ย เคอหมิง ก็เสนอให้เล่นไพ่ด้วยความตั้งใจ ทุกคนพยักหน้า และคิดว่าคำแนะนำนี้ไม่เลว
เซี่ย เฉิงตง และภรรยาไม่ได้เข้าไปยุ่ง ปล่อยให้พวกคนหนุ่มสาวเล่นกันไปก่อน
ดังนั้น ซูเหวิน, เซี่ย ซินเหยา, เซี่ย เคอหมิง และเซี่ย ชิวเยี่ยน สองพี่น้องจึงรวมตัวกันที่โต๊ะ และเริ่มเล่น
เล่นกันนานหลายชั่วโมง จนถึงมื้อเที่ยงทุกคนจึงได้หยุด
พอถึงช่วงบ่าย ครอบครัวของอารอง อาสะใภ้รอง และอาสามของ เซี่ย ซินเหยา ก็ได้มาฉลองวันเกิดให้กับ เซี่ย ซินเหยา ด้วยเช่นกัน
ทั้งครอบครัวกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
เมื่อมองเห็นผู้คนมากมายขนาดนี้ ซูเหวิน ก็รู้สึกว่าเป็นการรวมตัวที่หาได้ยาก จึงเสนอที่จะทําอาหารเพื่อให้ทุกคนได้ทานกันในตอนเย็น
หลังจากได้ยินข้อเสนอนี้ ทุกคนก็ดีใจอย่างมาก ย่อมเห็นด้วยทันที
ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาเคยลิ้มรสฝีมือของ ซูเหวิน มาแล้ว และพวกเขาก็คิดถึงมันมากๆ!
ดังนั้นเมื่อใกล้ถึงตอนเย็น ซูเหวิน จึงเริ่มเตรียมอาหาร..
ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้ปรุงอาหารที่มีชื่อเสียงนับหลายสิบเมนูติดต่อกัน และทุกคนในตระกูลเซี่ย พอกินเข้าไปแล้วพากันล่องลอยขึ้นไปถึงแดนสวรรค์
ต่างรู้สึกประหลาดใจ และชื่นชมในฝีมือของ ซูเหวิน อีกครั้ง
เพราะแม้แต่ตัว ซูเหวิน เองก็ไม่ได้คาดคิดเช่นกัน
ในตอนแรกระบบได้ให้ทักษะเชฟนี้แก่เขา ทั้งมันยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างดีเยี่ยมขนาดนี้อีก
มันไม่เพียงแต่ผูกท้อง(เจริญอาหาร)ของ เสี่ยวเหยา เท่านั้น
แม้แต่ทุกคนในตระกูลเซี่ย ก็ด้วยเช่นกัน
“หื้ม เมื่อกี้ผมได้ยินเสียงอะไรน่ะ ยังไง.. คุณกินอิ่มแล้วเหรอ?”
ไม่นานหลังจากทานอาหารเสร็จ ทุกคนต่างกําลังนั่งคุยกันบนโซฟา ทันใดนั้น เซี่ย ซินเหยา เว้นระยะห่างก่อนจะเรอออกมาเบาๆ
เสียงเรอนี้เบามาก แต่ ซูเหวิน ที่นั่งถัดจากเธอ เขาย่อมได้ยินมันอย่างชัดเจนมาก เขาจึงถามด้วยรอยยิ้มหยอกล้อ
“อูย~”
เพียงแต่หลังจากเขาพูดจบได้ไม่นาน ตรงเอวของเขาก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้
กลับเป็น เซี่ย ซินเหยา ที่เอื้อมมือไปแอบหยิกเอวของเขา
“ได้ยินก็ได้ยินแล้ว ทำไมต้องพูดออกมาอีก”
เซี่ย ซินเหยา ใบหน้าแดง และทันใดนั้นเธอก็พูดขึ้นอย่างอายๆ
วันนี้ ซูเหวิน เข้าครัว เธอกินไปไม่น้อยจริงๆ คาดว่าน้ำหนักอาจต้องเพิ่มขึ้นอีก 3-5 กิโลแน่ๆ
“โอเค โอเค คราวหน้าผมจะไม่พูดแล้ว”
ซูเหวิน รีบยอมรับผิด
“คุณดูจะอิ่มขนาดนี้ เดี๋ยวเค้กวันเกิดคุณจะยังกินต่อไว้ไหม?”
ซูเหวิน ถามอย่างสงสัย
“น่าจะได้อยู่..”
“ฉันไม่ได้กินเค้กนานแล้ว ไม่ว่าจะกินอิ่มแค่ไหนของหวานนี้ ฉันยังกินได้อีกนิดหน่อย”
เซี่ย ซินเหยา กล่าวอย่างมั่นใจ
สภาพปัจจุบันของเธอคือ ท้องอิ่มแล้ว แต่ปากยังอยากกินอยู่..
“โอเค!”
ซูเหวิน ส่ายศีรษะ และยอมแพ้เธออย่างสมบูรณ์แล้ว
เขาสรุปได้ว่า ผู้หญิงคนนี้ ..ปกติดี
แต่ลึกๆ ก็มีคุณสมบัติของนักชิมซ่อนอยู่ แถมยังหนักเอามากด้วย
ต่อไปถ้าแต่งงานกับเธอ เขายังสามารถเอาใจใส่เธอด้วยฝีมือการทำอาหารของตัวเองได้
“ยังไงก็เถอะ นี่มันเริ่มดึกแล้ว ทุกคนมากินเค้กกันก่อนดีกว่า!”
ทันใดนั้น เซี่ย เฉิงตง และสวี่หยุน ก็แนะนํา
“อืม ก็ดี”
ซูเหวิน เองก็เห็นด้วย
นี่มันเวลาทุ่มสองทุ่มได้แล้ว
ถ้าไม่กินตอนนี้จะให้รอกินเวลาไหนอีก?
ทันทีจากนั้นทุกคนก็วางเค้กชิ้นใหญ่บนโต๊ะกาแฟ และแกะกล่องเค้กชิ้นใหญ่ที่เตรียมไว้นานแล้วนี้
จากนั้นทุกคนจุดเทียน และจุดไฟ
เขายังได้ร่วมร้องเพลงวันเกิดให้ เซี่ย ซินเหยา ด้วย
ขณะเดียวกันนั้นทุกคนก็หยิบของขวัญวันเกิดที่เตรียมไว้ออกมาให้ เซี่ย ซินเหยา
แม้แต่ เซี่ย ชิวเยี่ยน และเซี่ย เคอหมิง ก็เตรียมของขวัญไว้แล้ว
บางคนมอบชุดเสื้อผ้าใหม่ให้กับ เซี่ย ซินเหยา และบางคนก็เป็นพวกของประดับ
ในที่สุดก็ถึงตาของ ซูเหวิน เขาหยิบสร้อยคอที่เขาได้ไปซื้อมาเมื่อวานนี้ออกมา
และต้องบอกว่า ซูเหวิน มีสายตาที่ดีจริงๆ
พอเขาหยิบสร้อยคอนี้ออกมา ไม่ต้องพูดถึง เซี่ย ซินเหยา เพราะทุกคนก็ต่างถูกดึงดูดทันที
สร้อยคอเส้นนี้สวยมากจริงๆ
โดยเฉพาะภายใต้แสงไฟยามค่ำคืนนี้ มันยิ่งดูสวยงามเปล่งประกายมากเป็นพิเศษ
“ให้ตาย.. สร้อยคอเส้นนี้ดูดีเกินไปแล้ว!”
“ซู สุดหล่อ ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายอย่างพวกคุณจะมีสายตาเฉียบแหลมแบบนี้ได้?”
เมื่อมองดูสร้อยคอเส้นนี้ ดวงตาของ เซี่ย ชิวเยี่ยน พลันเบิกกว้างขึ้น
เธอเองก็อยากมีสร้อยคอสวยๆ แบบนี้บ้าง
“เสี่ยวเหวิน นี่เราเลือกเองหรือเปล่า?”
สวี่หยุน ก็ประหลาดใจเช่นกัน
“ครับ ผมไปเลือกมาเมื่อวานนี้เอง”
“เป็นไงบ้าง เสี่ยวเหยา คุณชอบมันมั้ย?”
พูดไปแล้ว ซูเหวิน ได้หยิบสร้อยคอออกมาแล้วมอบให้กับ เซี่ย ซินเหยา
“อืม ชอบ..”
เมื่อมองไปที่สร้อยคอเส้นนี้ที่อยู่ตรงหน้าเธอ เซี่ย ซินเหยา อดจะพยักหน้าไม่ได้
แม้กระทั่งดวงดาวเล็กๆ ที่เปล่งประกายระยิบ ระยับ ในดวงตาของเธอยังเผยออกมาให้เห็น
ต้องบอกว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่รักในความงาม แม้แต่ เซี่ย ซินเหยา เองก็เช่นกัน
สร้อยสวยขนาดนี้ หากบอกว่าไม่ชอบนั้นคงเป็นเรื่องโกหก
“ตราบเท่าที่คุณชอบ ผมจะนำมาให้คุณ..”
ซูเหวิน ยิ้มน้อยๆ
เห็นเธอชอบสร้อยคอเส้นนี้มาก เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่า ..แล้ว
จากนั้นเขาก็หยิบสร้อยคอเส้นนี้ขึ้นมาสวมที่คอให้เธอเบาๆ อย่างอ่อนโยน
ปกติ เซี่ย ซินเหยา สวยงามมากอยู่แล้ว
หลังจากสวมสร้อยคอนี้แล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความสดใสให้กับเธอมากขึ้น
สวยจนแทบไม่อาจละสายตาไปได้
อาจกล่าวได้ว่าสร้อยคอเส้นนี้ดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ เซี่ย ซินเหยา ซึ่งมันเข้ากับอารมณ์ของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ
“คุณดูดีมาก”
ซูเหวิน เรียกว่าเขาเกือบจะเสียสติแล้ว
ไปพลางกล่าวชื่นชมมันออกมาจากใจ
ถ้าไม่ใช่ว่ามีคนมากมายในที่นี่ เขาก็คงอยากจะเข้าไปจูบอีกฝ่ายจริงๆ
“นี่คงใช้เงินไปไม่น้อยเลยใช่ไหม?”
ส่วน เซี่ย ซินเหยา อายจนหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนเธอจะถามขึ้นทันที
“พอได้อยู่ แค่ประมาณล้านกว่าๆ”
“เมื่อเห็นว่าสร้อยเส้นนี้เหมาะกับคุณมาก ต่อให้เสียเท่าไหร่มันก็คุ้ม”
ซูเหวิน กล่าวออกไปอย่างเฉยเมย
พอคําพูดนี้หลุดออกมา ผู้ใหญ่หลายคนอดจะมองหน้ากันไม่ได้
ทุกคนมองหน้ายิ้มแย้มให้กันอย่างเข้าใจ
ดูไม่ออกจริงๆ ซูเหวิน เด็กคนนี้ดูเรียบง่ายมาก แต่กลับสามารถพูดคำ(มุข)จีบสาวง่ายๆ เช่นนี้ได้จริงๆ