ตอนที่แล้วตอนที่ 198 ตัวตนของชายหนุ่มคนนี้ไม่ง่าย..
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 200 ฉลองวันเกิด

ตอนที่ 199 ไปพักอาศัยที่บ้านตระกูลเซี่ย


“คุณ... คุณพูดว่าไงนะ?”

ผู้จัดการหู หันกลับมามอง ซูเหวิน พร้อมกับพูดอย่างไม่อยากเชื่อ

“ที่ผมพูดยังไม่ชัดเจนพออีกหรือ? ผมต้องการจะเติมเงินในบัตรสมาชิก 30 ล้านหยวน”

“ผมทำให้เจ้านายของพวกคุณสูญเสียลูกค้าคนสําคัญไปเช่นนี้ไปคนหนึ่ง ถึงยังไงผมก็ต้องเติมเงิน และนี่มันก็แค่เงินจำนวนเล็กน้อยเอง ..ไม่ใช่เหรอ?”

ซูเหวิน พูดราวกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่สำหรับคนอื่น.. มันกลับเป็นคำพูดที่น่าตกใจมาก

แต่จะว่าไปแล้ว อันที่จริงนี่ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดที่ ซูเหวิน ตัดสินใจเติมเงิน..

ซึ่งมันมีเหตุผลที่สําคัญกว่านั้น นั่นคือเมื่อเห็น คุณนายเฝิง คนนี้ไม่พอใจ เขาก็ต้องการอยากต่อต้าน ..เธอ

คุณนายเฝิง คนนี้คว้าสร้อยคอของเขาทันทีที่ก้าวเข้ามา

แถมยังต้องการไล่เขาออกจากร้านถึงจะยอมเลิกรา

ซึ่งมันจะดีกว่าถ้าเธอไม่พยายามมุ่งเป้ามาที่เขา?

และต้องบอกว่าวิธีนี้ของ ซูเหวิน ไม่เลวจริงๆ

ทันทีที่เขาพูดคําเหล่านี้ออกมาก็ทําให้ คุณนายเฝิง คนนี้โกรธขึ้นอีกครั้ง

ตอนนี้สีหน้าของ คุณนายเฝิง เรียกได้ว่าไม่ค่อยดีแบบสุดๆ

เธอดูเหมือนจะคิดอะไรไม่ออกเลย

ชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามคนนี้ก็รวยขนาดนี้

เขาไม่เพียงสามารถซื้อสร้อยคอมูลค่ามากกว่า 1 ล้านหยวนได้เท่านั้น แต่ที่คาดไม่จริงๆ คือเขาสามารถเอาเงินสด 30 ล้านออกมาได้

“โอเค มันเป็นเรื่องที่เยี่ยมมากๆ!”

“คุณชายซู คนนี้มีความสามารถดีจริงๆ มีเงินที่สามารถจ่ายได้มากขนาดนี้ ดูเหมือนคุณจะเป็นลูกหลานของตระกูลที่ร่ำรวย”

“ฉัน เฝิงม่าน จะจำเรื่องราวในวันนี้อย่างดี และอย่าให้ฉันเจอคุณอีกในอนาคต”

หลังจากพูดจบ คุณนายเฝิงก็หยิบบัตรบนโต๊ะแล้วรีบจากไป

คาดไม่ถึงว่าจะไม่พูดถึงการขอคืนเงินด้วยซ้ำ

แต่ก็ใช่ว่าน่าไม่แปลกใจอะไร..

เดิมที คุณนายเฝิง คนนี้เพียงต้องการใช้การขอคืนเงิน เพื่อบังคับให้ ผู้จัดการหู ขับไล่ ซูเหวิน ออกไป

กลับกลายเป็นตอนนี้ ซูเหวิน ยังต้องการเติมเงินในบัตรสมาชิก 30 ล้านหยวน

ด้วยกรณีนี้ ผู้จัดการหู คงไม่สามารถไล่อีกฝ่ายออกไปได้อย่างแน่นอน

เธอจึงขี้เกียจเกินกว่าจะขอเรียกคืนเงินแล้ว

นอกจากนี้ เงินกว่า 20 ล้านนั้นก็ใช่ว่ามีความหมายอะไรสําหรับเธอ

“อ้า คุณนายเฝิง…”

ผู้จัดการหู ที่เห็น คุณนายเฝิง รับบัตรแล้วจากไป เดิมทีเขายังอยากพูดอีกสักสองสามคำเพื่อชักชวนอีกฝ่ายให้อยู่ต่อ แต่อีกฝ่ายเดินเร็วเกินไป และก็ออกจากล็อบบี้ไปแล้ว

ไม่ง่ายเลย ..เหมือนเธอจะโกรธจริงๆ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า คุณนายเฝิง จะจากไปแล้วเช่นนี้ แต่ ผู้จัดการหู ก็รู้สึกมีความสุขในใจ

คุณนายเฝิง ไม่ได้ยืนกรานขอเงินคืน ซึ่งหมายความว่าพวกเขายังไม่ได้เสียลูกค้ารายนี้ไป

คราวหน้าถ้าอีกฝ่ายมาซื้อเครื่องประดับอีก เขาจะต้องขอโทษ คุณนายเฝิง ด้วยตัวเอง แล้วค่อยให้ส่วนลดเพื่อทำให้เธอพอใจ..

ดังนั้นน่าจะยังมีทางเลือกให้อะลุ่มอล่วยกันได้…

เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในที่สุด ผู้จัดการหู พลันรู้สึกโล่งใจ

จากนั้นเขาหันกลับมามอง ซูเหวิน

“ซู... คุณชายซู ก่อนหน้านี้ผมขอโทษด้วย ผมทำไม่ถูก(ผิด)จริงๆ”

“สร้อยคอที่คุณต้องการนี้ ผมจะให้คนช่วยห่อให้คุณตอนนี้”

ผู้จัดการหู ยิ้มไปพลางหัวเราะเบาๆ เขาเผยสีหน้ายิ้มแย้มอีกครั้ง

รีบเรียกพนักงานขายหญิงให้นำสร้อยเส้นนี้ไปห่อ

ต้องบอกว่า การเปลี่ยนสีหน้าของ ผู้จัดการหู คนนี้นั้นดูจะเชี่ยวชาญชํานิชํานาญการไม่น้อยจริงๆ

“อืม งั้นคุณช่วยจัดการห่อให้เรียบร้อยที!”

ซูเหวิน พยักหน้า และขี้เกียจเสียเวลาอีกจึงยื่นสร้อยคอให้ พนักงานขายหญิง

“เอ่อ…”

“คุณชายซู เมื่อกี้คุณบอกว่าต้องการเติมเงินบัตรสมาชิก ไม่ทราบ…”

ทันใดนั้น ผู้จัดการหู ก็แสร้งหัวเราะแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง

เขาแทบไม่อาจปิดบังความตื่นเต้นในใจได้มากนัก

เมื่อครู่นี้ คุณชายซู บอกว่าเขาต้องการเติมเงินในบัตรสมาชิก 30 ล้านหยวน

นั่นมันคือ 30 ล้านนะ!

ซึ่งหมายความว่าร้านของพวกเขาจะมีลูกค้ารายใหญ่ระดับหลายสิบล้านเพิ่มขึ้นอีกราย

แล้วเขาในฐานะผู้จัดการ แบบนี้โบนัสสิ้นปีของเขาจะไปน้อยลงได้ยังไง?

แต่น่าเสียดายที่ในขณะที่เขากำลังวาดฝันอยู่นั้น ซูเหวิน ก็ได้พูดออกไปว่า

“ลืมมันซะ เดิมทีผมคิดว่าถ้า คุณนายเฝิง ขอให้คืนเงิน ผมจะเติมเงินเพื่อลดการสูญเสียให้กับร้านค้าของพวกคุณ”

“แต่เนื่องจาก คุณนายเฝิง คนนี้เธอไม่ได้เลือกที่จะขอคืนเงิน เช่นนี้ผมก็คงไม่จําเป็นต้องทําเช่นนั้นแล้ว”

ซูเหวิน ส่ายศีรษะพลางพูดออกไปอย่างเฉยเมย

“อ่า นี่…”

ผู้จัดการหู ตกตะลึง

เดิมทีเขายังคิดว่า คุณชายซู ที่บอกว่าเขาต้องการจะเติมเงินบัตรสมาชิก 30 ล้าน ดังนั้นเขาจะต้องเติมเงินแน่นอน..

ใครจะไปคิดว่า คุณชายซู บอกว่าไม่เติมก็จะไม่เติม

แต่เขาจะรู้ได้อย่างไร

เนื่องจาก ซูเหวิน ที่ได้เห็นว่า คุณนายเฝิง ใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้เพื่อขอคืนเงิน โดยแกล้งทำเป็นก้าวร้าว ซึ่งมันน่ารำคาญจริงๆ ดังนั้นเขาจึงบอกไปว่าต้องการเติมเงิน

ในเมื่อตอนนี้ คุณนายเฝิง ไม่ถอนเงินคืนแล้วทําไมเขาต้องทําเช่นนี้ด้วย?

อีกอย่าง ผู้จัดการหู คนนี้ก็ทําให้คนรู้สึกไม่ชอบจริงๆ

ตั้งแต่แรก.. อีกฝ่ายปฏิบัติต่อเขาอย่างไร ซูเหวิน จําได้หมด!

และถ้าไม่จําเป็น เขาจะเติมเงินนี้ไปทําไม?

พูดแล้วเขาก็หยิบเอาบัตรธนาคารออกมา ขอให้ ผู้จัดการหู ชําระบัญชีให้เขา

แม้ว่า ผู้จัดการหู จะรู้สึกผิดหวัง แต่เขาก็ไม่กล้าละเลย และรับบัตรใบนี้มาด้วยความเคารพทันที และให้พนักงานไปรูดบัตร

สร้อยคอนี้มีมูลค่าทั้งหมด 1.75 ล้านหยวน

เจ้านายได้ขอให้เขาดูแล ซูเหวิน เป็นพิเศษ ผู้จัดการหู ย่อมไม่กล้าที่จะละเลยเขา เขาจึงให้ส่วนลดแก่เขา โดยขอให้เขาจ่ายเงินเพียง 1.7 ล้านเท่านั้น

ซูเหวิน เองก็ไม่เกรงใจ เขาพยักหน้าเห็นด้วย

จากนั้นเงินสดจำนวน 1.7 ล้านก็ถูกรูดออกไป

หลังจากนั้น ซูเหวิน ก็ได้รับบัตรคืน

เขาถือกล่องเครื่องประดับแล้วเดินออกไปจากร้าน

เหลือแต่ ผู้จัดการหู ที่กำลังมองตามแผ่นหลังของ ซูเหวิน ที่กำลังจากไป พลางถอนหายอย่างลับๆ อย่างน่าเสียดาย…

อีกด้านหนึ่ง หลังจาก ซูเหวิน ออกจากร้านมาแล้ว เขาอารมณ์ดีมาก

แม้จะเจอ คุณนายเฝิง เมื่อครู่นี้ที่ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง

แต่สุดท้ายเขาก็ทำให้อีกฝ่ายโกรธ

แถมยังซื้อสร้อยคอที่สวยงามเส้นนี้มาได้แล้วด้วย ซึ่งถือว่าไม่เลวเลย

พอคิดถึงเรื่องนี้ เขาจึงรีบขับรถออกจากร้านจิวเวลรี่ แล้วตรงกลับบ้านทันที

หลังจากเขากลับมาถึงบ้าน ทันทีเขาก็เล่าเรื่องที่ตัวเองจะไปพักที่บ้านตระกูลเซี่ยระยะหนึ่งให้พ่อกับแม่ฟัง

โดยไม่คาดคิดเลยว่าพ่อแม่ของเขารู้เรื่องนี้แล้ว พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่คัดค้าน แต่กลับมีความสุขอย่างยิ่ง พวกเขาหวังว่าลูกชายของพวกเขาจะเก็บเสื้อผ้าของเขา และไปที่บ้านตระกูลเซี่ยทันที และยิ่งไปอยู่ที่นั่นนานเท่าไหร่ได้ก็ยิ่งดี

ในมุมมองของพวกเขา ยิ่งลูกชายอาศัยอยู่ในบ้านตระกูลเซี่ยนานเท่าไหร่ได้ ความสัมพันธ์ก็ยิ่งมีแต่จะลึกซึ้งมากขึ้นเท่านั้น

ในเรื่องนี้ ซูเหวิน รู้สึกหัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก..

ดังนั้นเขาจึงรอจนถึงวันรุ่งขึ้น ก่อนจะเก็บเสื้อผ้าไปภายใต้การกระตุ้นของพ่อแม่ โดยเฉพาะกับแม่ของเขา ต่อจากนั้นจึงขับรถออกจากบ้าน โดยมุ่งหน้าไปที่บ้านตระกูลเซี่ย

จากนี้ไป ซูเหวิน จะพักอาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลเซี่ยไปสักระยะหนึ่ง

ระหว่างทาง..

พูดตามตรง ซูเหวิน ยังค่อนข้างรู้สึกแปลกๆ อยู่เล็กน้อย

ท้ายที่สุดแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่เขาอาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลเซี่ย

แต่ในใจเขากลับรู้สึกมีความสุขมากกว่า

มันคงจะรู้สึกดีมากจริงๆ ที่จะได้อยู่กับ เสี่ยวเหยา ในทุกวัน

เขาหันไปมองของขวัญที่วางอยู่บนที่นั่งข้างคนขับ ไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

วันนี้เป็นวันเกิดของ เสี่ยวเหยา ด้วยของขวัญชิ้นนี้เขาเชื่อว่าอีกฝ่ายจะต้องชอบมันอย่างแน่นอน

และโดยไม่รู้ตัว เขาก็ได้ขับมาถึงเขตคฤหาสน์ หม่านถิงซาน แล้ว

ด้วยเนื่องจากเขาบอกอีกฝ่ายล่วงหน้า ทันทีที่ ซูเหวิน มาถึงหน้าคฤหาสน์ตระกูลเซี่ย ทุกคนในตระกูลเซี่ยก็ได้มายืนรอต้อนรับอยู่ที่ลานหน้าบ้านแล้ว

ดูไปแล้วคนไม่น้อยจริงๆ

ไม่เพียงแต่ เซี่ย ซินเหยา และพ่อแม่ของเธอเท่านั้น แม้แต่ เซี่ย เคอหมิง, เซี่ย ชิวเยี่ยน ก็อยู่ที่นั่นด้วย

“ว้าว ซู สุดหล่อ ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว ถ้าคุณไม่มาอีก พวกเราคงได้รอจนตายจริงๆ โดยเฉพาะกับ ..ลูกพี่ลูกน้องฉัน(ยิ้มเสมอง)

ทันทีที่ ซูเหวิน ลงจากรถ เซี่ย ซินเหยา พี่ชายน้องสาวอย่าง เซี่ย เคอหมิง และเซี่ย ชิวเยี่ยน พร้อมกับพ่อแม่ของ เซี่ย ซินเหยา ก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม

เซี่ย ชิวเยี่ยน เป็นคนแรกที่พูด

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว หลังจาก เสี่ยวเหยา กลับมาจากมหาลัยเมื่อวานนี้ เธอก็ดูร่าเริงมาตลอด แม้แต่ตอนทานข้าวเย็นก็ยังพูดว่าอยากให้คุณมาถึงพรุ่งนี้เร็วๆ ดูเหมือนแทบรอไม่ไหวที่จะให้คุณมาถึงที่นี่ในทันทีทันใด ฮ่าฮ่าๆ”

แม้แต่ เซี่ย เฉิงตง พ่อของ เซี่ย ซินเหยา ก็ยังพูดด้วยเสียงหัวเราะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด