ตอนที่ 140
ตอนที่ 140
คังไป่หลี่หายใจเข้าลึก ๆ หลับตาเล็กน้อย และพลังจิตวิญญาณรอบตัวนางก็เริ่มม้วนตัว
ดอกบัวบานช้าๆใต้ร่างของนาง และทั้งร่างของนางก็ลอยอยู่ในอากาศ
ดอกบัวดูเหมือนจะบานไปตามทางที่ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อกลีบดอกบัวบานทีละน้อย เสียงของการเหยียบลงบนดอกไม้ก็ดังขึ้น และหูของทุกคนก็เงียบลงในทันที
ไม่ว่ารอบข้างจะเสียงดังแค่ไหนน ทุกคนก็จะเหมือนกับหูหนวกและไม่ได้ยินอะไรเลยในตอนนี้
เมื่อมองไปยังดอกบัวที่บานทีละน้อย จิตใจของทุกคนก็ดูเหมือนจะถูกดึงดูดไปที่มัน
เมื่อดอกบัวบานจบ พลังจิตวิญญาณระหว่างสวรรค์และโลกก็ยิ่งใหญ่ขึ้นในทันที และสีของดอกบัวก็กลายเป็นสีน้ำเงินทีละน้อย
คังไป่หลี่เหยียบบนดอกบัวสีเขียว ดวงตาของนางลึกและไร้ขอบเขต และแรงกดดันรอบตัวนางก็ราวกับมีมังกรยาวคำรามออกมา
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังไม่จบ เมื่อดอกบัวสีเขียวบาน ดอกบัวอีกดอกก็เริ่มรวมตัวกันต่อหน้านาง
ดอกบัวควบแน่นอย่างรวดเร็วและกลายเป็นดอกบัวสีดำในพริบตา
หลังจากดอกบัวกลายเป็นสีดำ ดอกบัวก็รวมตัวกันและบานสะพรั่งกลางอากาศมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้มีด้วยกันทั้งหมด 8 แปดดอก
เป็นสี ฟ้า ดำ ขาว น้ำเงิน แดง เหลือง ม่วง ส้ม
เมื่อดอกบัวทั้งแปดดอกรวมตัวกัน คังไป่หลี่ก็เดินบนเส้นทางที่ปูด้วยดอกบัวทีละก้าว และกลิ่นอายของนางก็แข็งแกร่งขึ้นในแต่ละก้าวที่เดิน
“ดอกบัวนี้ดูคุ้นเคยนัก” ศิษย์ด้านล่างพูดด้วยความสงสัย
“มันคือบัวเขียวหมื่นชาติ สิ่งมหัศจรรย์อันดับที่ 11 ของโลก” ศิษย์คนหนึ่งตกใจและตะโกนอย่างรวดเร็ว
“นี่ไม่ใช่บัวเขียวหมื่นชาติของจริง บัวเขียวหมื่นชาติดอกหนึ่งยังคงอยู่ในสระล้างดาบของนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ของเรา สำหรับดอกบัวที่เหลือ พวกมันได้หายไปนานแล้วพร้อมกับการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของจักรพรรดินีหงเทียน” ศิษย์ที่คุ้นเคยบางคนกล่าว เขากระซิบ: "ข้าได้อ่านบันทึกเกี่ยวกับจักรพรรดินีหงเทียนแล้ว ข้าได้ยินมาว่าจักรพรรดินีเข้าใจความลับของบัวเขียวหมื่นชาติ จึงใช้มันสร้างวิชาของตนเองขึ้นมา ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงหรือไม่ "
คังไป่หลี่ยืนอยู่บนท้องฟ้า ดวงตาของนางเย็นชาและไร้อารมณ์ และที่เท้าของนาง ดอกบัวทั้งแปดดอกกำลังเบ่งบานและหมุนอยู่
คลื่นอากาศหนาแน่นไหลเวียนอยู่ในนั้น เมื่อคังไป่หลี่โบกมือของนาง แสงที่เปล่งออกมาจากดอกบัวทั้งแปดดอกก็ส่องสว่างหลากสีสันแตกต่างกัน
ด้วยการหลอมรวมของแสงสีที่แตกต่างกันแปดสี ดอกบัวทั้งแปดดอกที่เท้าของคังไป่หลี่ก็เริ่มรวมเข้าด้วยกัน
ในกระบวนการหลอมรวม เสียงของแก่นแท้เต๋ายังคงดังต่อไป มันราวกับเสียงน้ำไหลบนสะพานเล็กๆ ซึ่งเงียบสงบอยู่ในใจ และพลังจิตวิญญาณบนท้องฟ้าก็หลอมรวมกันอย่างเข้มข้นเกินกว่าจะกระจายออกไป
เต๋าซุนมองไปที่ฉากนี้ ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็นั่งขัดสมาธิและวางดาบสั้นไว้ข้างหน้าเขา
การกระทำของเต๋าซุน ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากในกลุ่มผู้ชมอย่างรวดเร็ว
“ศิษย์พี่เต๋ากำลังทำอะไรกัน?” บางคนในกลุ่มผู้ชมถามด้วยความสับสน
“ข้าก็ไม่รู้ ไม่ว้าใครก็ไม่เคยเห็นวิชาของศิษย์พี่เต๋าทั้งนั้นอ่ะ” ศิษย์บางคนพูดอย่างสงสัย
เมื่อ เต๋าซุน วางดาบสั้นไว้ตรงหน้า แสงสว่างก็เริ่มส้องจ้ารอบตัวเขา
แสงนี้ปกคลุมดาบ และทลายโลกาก็เริ่มสั่นทีละน้อย
คังไป่หลี่เดินขึ้นไปในอากาศ และในที่สุดดอกบัวที่อยู่ใต้เท้าของนางก็ควบแน่น และดอกบัวแปดสีดั้งเดิมก็กลายเป็นปั่นป่วนวุ่นวาย
คังไป่หลี่ โบกมือขวา และจิตวิญญานอันไม่มีที่สิ้นสุดก็ปรากฏบนดอกบัว จิตวิญญานนั้นลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า และจากนั้นก็กลายเป็นเงาดอกบัวกระแทกไปที่ เต๋าซุน
ในเวลานี้ เต๋าซุนก็ยืนขึ้นอย่างช้าๆ ทลายโลกาในมือของเขาสั่นเล็กน้อย และรัศมีสีเทาเข้มก็ปกคลุมไปทั่วดาบ
เมื่อพลังจิตวิญญาณสีเทานี้ระเบิดไปในอากาศ เสียงของเต๋าอันยิ่งใหญ่ที่ดังจากดอกบัวหมื่นชาติก็เริ่มสั่นสะเทือน
คังไป่หลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย นางรู้สึกได้ถึงความกลัวของดอกบัวหมื่นชาติ
“จุดสูงสุดของเต๋า” คนอื่นอาจไม่เข้าใจ แต่ผู้นำนิกายของนิกายหลักที่นั่งดูอยู่นั้นต่างก็ตระหนักได้ถึงเรื่องนี้
“พี่เสี่ยวโม่ หลานซุนไปถึงจุดสูงสุดของเต๋าได้ตั้งแต่อายุเพียงเท่านี้ อนาคตของเขาย่อมไร้ขีดจำกัดแน่นอน” หลัวชางเหอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ผู้นำนิกายอื่น ๆ โดยรอบก็เริ่มพูดด้วยเสียงต่ำ
เต๋าเสี่ยวโม่จ้องมองไปที่ออร่าสีเทาซึ่งปกคลุมไปทั่วดาบของเต๋าซุน
เมื่อดอกบัวหมื่นชาติปะทะเข้ากับดาบ กลีบบัวก็ปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ และบังเกิดเป็นเสียงแห่งเต๋าไม่มีสิ้นสุด
เต๋าซุน หัวเราะเบา ๆ และพึมพำด้วยเสียงต่ำ: "กระบวนท่าโจมตีที่เก้า เส้นแบ่งท้องนภาและผืนดิน"
เขาโบกดาบในมืออย่างแรงและรัศมีสีเทาที่ปกคลุมใบมีดก็ระเบิดออกไป พื้นที่ก็ราวกับพังทลายลงชั่วนิรันดร์
เมื่อทั้งสองปะทะกัน การระเบิดที่เหนือจินตนาการกลับไม่ได้ปรากฏแต่อย่างใด ทุกคนเพียงรู้สึกว่าโลกตรงหน้าพวกเขาหายไปเท่านั้น
ในหมอกอันกว้างใหญ่ ดาบพลังก็แยกความว่างเปล่าออก โลกถูกแหวก และตอนนี้ดวงตาของผู้คนก็พบเพียงแต่ความสว่าง
ในโลกนี้ ดูเหมือนว่าจะเหลือเพียงแสงดาบนี้เท่านั้น
ทุกสิ่งหลอมรวมกัน ณ จุดเดียว และท้องฟ้ากับผืนโลกก็รวมกันกลายเป็นเส้นเดียว
ดอกบัวหมื่นชาติถูกสับเป็นชิ้น ๆโดยตรง จากนั้นดาบที่เฉียบคมยิ่งก็พุ่งต่อไปหมายจะสังหารคังไป่หลี่
“เพียงพอแล้ว หลี่เอ๋อแพ้แล้ว” เสียงที่ชัดเจนดังขึ้น และจากนั้นก็เห็นมือใหญ่ตบลงมาจากอากาศ ฟาดแสงดาบของ เต๋าซุน โดยสิ้นเชิง
ผู้อาวุโสหกลอยมาจากท้องฟ้าและปกป้องคังไป่หลี่ นางมองไปที่ เต๋าซุน และพูดว่า "หลี่เอ๋อยอมแพ้แล้ว การประลองนี้เจ้าชนะ "
“ผู้อาวุโสหก ดูเหมือนว่าสิ่งที่ท่านทำจะผิดกฏนะ ” เต๋าซุนค่อย ๆเก็บทลายโลกาและพูดด้วยรอยยิ้ม
คังเย่ซานเหลือบมองไปในทิศทางของเต๋าเสี่ยวโม่ และเห็นว่าเต๋าเสี่ยวโม่กำลังปิดตาอยู่ นางไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
“หลี่เอ๋อเป็นทายาทของจักรพรรดินี ต่อให้ไม่นับเรื่องที่อยู่นิกายเดียวกัน ยังไงก็ไม่จำเป็นต้องสู้กันถึงตาย ” คังเย่ซานกล่าว
เต๋าซุน เหลือบมองไปยังทิศทางของเต๋าเสี่ยวโม่ หลังจากที่เห็นว่าเต๋าเสี่ยวโม่ไม่ได้หยุดเขา เขาก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดว่า "ถ้าท่านคิดว่าตัวเองสามารถเข้ามาแทรกแซงการประลองได้เพียงเพราะเป็นผู้อาวุโสล่ะก็ ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด ”
เมื่อเห็น เต๋าซุน เดินลงจากเวที ทุกคนก็มองไปที่เต๋าเสี่ยวโม่ ราวกับรอให้เขาพูดอะไรบางอย่าง
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เต๋าเสี่ยวโม่ยังคงปิดตาและไม่เคลื่อนไหว
จากนั้นผู้อาวุโสหกก็พา คังไป่หลี่ ลงจากเวที คังไป่หลี่มองลึกไปที่เต๋าซุน นางมีลางสังหรณ์ว่าไพ่ตายของเต๋าซุนนั้นยังไม่ได้ถูกใช้เลยแม้แต่น้อย
…………
การแข่งขันระหว่าง เต๋าซุน และ คังไป่หลี่ก็สิ้นสุดลง และทุกคนก็หันความสนใจไปที่การแข่งขันระหว่าง เย่เฉินกับซวนหยวนที่อยู่ใกล้ๆ
หลายคนไม่รู้จักเย่เฉิน พวกเขารู้เพียงว่าชายคนนี้เพิ่งเป็นบุตรแห่งสวรรค์ของนิกายหยินหยางได้ไม่นาน
และชื่อเสียงของซวนหยวนก็ค่อนข้างมากมาย
อันที่จริงซวนหยวนมีชื่อเสียงมานานแล้ว
ว่ากันว่าในวันที่เขาเกิด แสงจากดวงอาทิตย์ได้พุ่งลงมาจากท้องฟ้าและหลอมรวมเข้ากัยร่างกายของเขา
ต่อมา ผู้คนได้เรียนรู้ว่าวัตถุในแสงอาทิตย์นั้น แท้จริงแล้วคือร่างราชันย์แสง ที่อยู่อันดับ 100 ในรายชื่อร่างนักรบศักดิ์สิทธิ์
แม้ว่าร่างนักรบนี้จะถูกจัดให้อยู่อันดับสุดท้าย แต่ก็มันยังถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในร้อยร่างนักรบศักดิ์สิทธิ์ ฉะนั้นมีหรือที่จะธรรมดา ?