บทที่ 72 ความโกลาหล
[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novelกับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]
[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]
[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]
บทที่ 72 ความโกลาหล
ซุนเฉิงผิดหวังเล็กน้อย ห้องปฏิบัติการมันเล็กเกินไป ถ้าเขาสามารถแปลงร่างเป็นโดรนรีปเปอร์และสกัดกั้นจากบนฟ้าได้ แม้โอกาสที่จะเอาชนะบัมเบิลบี้น้อยมาก แต่เขาก็คงยังสามารถซื้อเวลาให้กับอออนสลอตได้
ตอนนี้พอเห็นบัมเบิลบี้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด แถมออนสลอตยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพัฒนาพลังจากออลสปาร์ค อีกฝ่ายจึงไม่ลังเลเลยที่จะยิงใส่ออนสลอตโดยตรง แม้ว่ามันจะได้แค่สร้างรอยร้าวบนเกราะป้องกันร่างกายเท่านั้น แต่มันก็ขัดจังหวะกระบวนการพัฒนาของออนสลอตไปแล้ว
ขณะที่เขาเซถอยหลังไปสองสามก้าว ผละตัวออกจากออลสปาร์ค ตัวเขาก็ออกจากสถานะวิวัฒนาการ ออนสลอตฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเต็มไปเจตนาฆ่า "เจ้าออโต้บอตส์ผู้ต่ำต้อย เจ้ากำลังรนหาที่ตาย..."
ด้วยความโกรธ เขาเรียกปืนโซนิคของเขาทันที ปืนดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลจากการวิวัฒนาการของเขาเมื่อสักครู่ ด้วย นอกจากขนาดของมันจะขยายขึ้น พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ซุนเฉิงลอบมองออกจากที่ซ่อนของเขาอย่างระมัดระวัง เขาเห็นออนสลอตยิงออกไปด้วยความโกรธแค้นสองนัด นัดหนึ่งทำให้บัมเบิลบี้กระโดดและหลบหลีกอยู่กับที่ แต่นัดอีกนัดยิงโดนที่ท้องของอีกฝ่าย เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น แรงมหาศาลส่งผลให้บัมเบิลบีกลิ้งกลางอากาศทันที และร่างของเขาก็พุ่งชนกำแพงที่มุมห้องปฏิบัติการ
พอเห็นโอกาส ซุนเฉิงไม่ลังเลเลยที่จะกระโดดออกจากที่ซ่อนของเขา ยกปืนจุดระเบิดของเขาขึ้นมาเพื่อโจมตีบัมเบิลบี้
ทว่าก่อนที่เขาจะยกปืนขึ้นได้ เขาก็ถูกคลื่นพลังอันทรงพลังล็อกเอาไว้ เสียงอันสง่างามและมีอำนาจได้ดังขึ้นในหัวของเขาทันที "จงถอยกลับไป ปล่อยให้พวกออโต้บอตส์เอาออลสปาร์คไปก่อนแล้วค่อยเก็บมันไว้ทีหลัง!"
เสียงที่ดังขึ้นอย่างฉับพลันนี้ได้ทำให้ซุนเฉิงตกใจมาก แม้ว่าเขาเคยเจอกับผู้บุกรุกที่เข้ามาในความทรงจำของเขามากมาย ไม่ว่าจะเป็นสตาร์สครีมและซาวด์เวฟ แต่พวกนี้มันก็ได้แค่เข้าไปในแกนหลักของเขาและอ่านข้อมูลความจำบางส่วนเท่านั้น แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ใครบางคนรุกรานสมองของเขาได้อย่างง่ายดาย แถมแกนหลักของเขายังทำงานได้เต็มที่ไม่ได้หยุดทำงาน และยังมีการทิ้งข้อความเสียงไว้อีก
พอผ่านไปสักครู่หนึ่ง ซุนเฉิงจึงตื่นตกใจเล็กน้อย เขามองไปรอบตัว แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าของออนสลอตดูแปลกประหลาดผิดปกติไป เขาจึงจ้องมองดูอีกฝ่าย บนใบหน้าของออนสลอตมันเต็มไปด้วยความสุข ผสมกับความกลัวเล็กน้อย อารมณ์ที่อธิบายไม่ถูกที่เรียกว่า 'เสียใจ' ปรากฏอยู่บนใบหน้านั้นอย่างชัดเจน ซุนเฉิงครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะตัดสินใจคิดเอาว่า อารมณ์บนใบหน้านั้นคือความรู้สึก 'เสียใจ'
"บุคคลผู้นี้คือใครกัน? นอกเหนือจากสตาร์สครีม แบล็คเอาท์และซาวด์เวฟแล้ว ยังมีดีเซปติคอนที่ทรงพลังมากกว่ามาที่โลกอีกงั้นเหรอ?"
ซุนเฉิงรู้สึกสงสัย เขากำลังจะถามออนสลอต แต่อีกฝ่ายก็ตะโกนกลับมาทันที "ทำตามที่เขาบอก!"
น้ำเสียงนั้นดูกดดันยิ่ง
ซุนเฉิงตะลึง เห็นได้ชัดว่าออนสลอตก็ได้รับคำสั่งจากอีกฝ่ายเช่นกัน เขาไม่มีเจตนาที่จะขัดขืนเลย ทำให้ซุนเฉิงรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งใจ
ในกองทัพดิเซปติคอน ไม่มีใครมากนักที่สามารถทำให้นักรบชั้นยอดอย่างออนสลอตเชื่อฟังคำสั่งได้ สตาร์สครีมและช็อคเวฟอาจะเป็นหนึ่งในนั้น แต่ตนแรกเพิ่งก่อเรื่องกับออนสลอตไป และตนที่สองต้องอยู่บนไซเบอร์ตรอนเพื่อปราบปรามกองกำลังกองทัพของออโต้บอตส์ที่ยังคงกบฏ แสดงว่าไม่ใช่ทั้งสองนี้แน่
หลังจากแยกแยะพวกเขาออกไป ตามความทรงจำและข้อมูลที่เขามี ซุนเฉิงก็รู้สึกเลือนลางถึงตัวตนของเจ้าของน้ำเสียงนี้
พอมือของออนสลอตทิ้งดิ่งลง ตัวของบัมเบิ้ลบีก็รู้สึกสงสัย แต่เขาไม่ยอมปล่อยโอกาสอันดีเช่นนี้ไปแน่ เขากระโดดขึ้นอย่างกะทันหันและยิงสองนัดใส่ซุนเฉิงกับออนสลอตตามลำดับ
พอเห็นว่าออนสลอตดูเหมือนจะไม่ตอบสนองจนถูกยิงเซถอยหลังออกจากออลสปาร์คไป ซุนเฉิงก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายและเสียงนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ ทำให้เขาเลือกโดดหนีออกไป เพื่อจะได้เพิ่มระยะห่างระหว่างเขากับออลสปาร์คให้มากขึ้น
บัมเบิ้ลบีใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ รัวยิงชุดกระสุนอย่างรวดเร็ว ออนสลอตเองก็ทำตามคำสั่งและ 'ตอบโต้' อย่างรวดเร็ว เขายกปืนโซนิคของเขาขึ้น ยิงตอบโต้ไป แต่ความแม่นยำของเขานั้นดูจะห่างไกลจากการยิงครั้งก่อนไปมาก
แม้ว่าช่วงแรกเขาจะยิงพลาดใส่บัมเบิ้ลบีไปสองสามครั้ง แต่หลังได้รับคำสั่งมา เขากลับไม่เคยยิงอีกฝ่ายโดนเลย
ซุนเฉิงก็เช่นกัน เขายิงใส่อีกฝ่ายสองนัดเมื่อสบโอกาส ดูเหมือนว่าเจ้าของเสียงและออนสลอตจะมีแผนบางอย่างที่ต้องใช้บัมเบิ้ลบี มิฉะนั้นพวกเขาคงไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าใกล้ออลสปาร์คแน่
เพื่อไม่ให้เสียเวลา เขาจึงทำตามและยอมปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าใกล้ออลสปาร์ค
การต่อสู้ระยะประชิดกินเวลาเพียงชั่วครู่ พอบัมเบิ้ลบีเห็นออลสปาร์คอยู่ตรงหน้าเขา รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา
เขาพลิกตัว คลืบคลานเข้าไปในมุมอับใต้ออลสปาร์คให้พ้นสายตาของออนสลอต แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเขายังคงอยู่ในระยะสายตาของซุนเฉิง แต่เขาก็ไม่กังวลเลยว่าซุนเฉิงจะทำร้ายเขาได้ พอคิดเช่นนั้นแล้ว เขาจึงยื่นมือออกไปแตะออลสปาร์ค ขณะเดียวกันก็ส่งข้อความพิเศษออกไป
ในวินาทีถัดมา ทันทีที่ซุนเฉิงเล็งปืนไปที่บัมเบิ้ลบี เขาก็ต้องประหลาดใจที่เห็นออลสปาร์ค ขนาดใหญ่กำลังสั่นสะเทือนอย่างกะทันหัน มันคล้ายมีตารางลูกบาศก์เล็ก ๆ นับไม่ถ้วนบนพื้นผิวของมัน
ขณะที่บัมเบิ้ลบีกำลังดูดซึมข้อมูลจากออลสปาร์คด้วยมือของเขา ตารางลูกบาศก์นับไม่ถ้วนบนผิวมันก็หดตัวอย่างรวดเร็ว จากบนลงล่าง และจากภายนอกไปด้านใน เปลี่ยนวัตถุขนาดใหญ่ให้กลายเป็นกล่องพัสดุอย่างรวดเร็ว
"ว้าว..."
ซุนเฉิงได้แต่ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ ถ้าเขาไม่ได้เห็นสิ่งนี้ด้วยตาตัวเอง เขาคงไม่เชื่อหรอกว่าออลสปาร์คขนาดใหญ่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้แบบนี้
พอเห็นภาพนี้แล้วเขาก็หวนนึกถึงครั้งที่เขาบุกเข้าไปในฐานเขตที่ 7 เพียงลำพัง ซุนเฉิงเคยมีความคิดที่จะเอาออลสปาร์คไปตัวคนเดียว
แต่พอเห็นออลสปาร์คที่มีความยาว ความกว้าง และความสูงไม่น้อยกว่าสิบห้าเมตร เขาก็คำนวณน้ำหนักของมันในใจแล้วล้มเลิกความคิดนี้ เพราะขนาดของมันใหญ่มาก แม้จะเป็นแค่หินธรรมดาก็คงมีน้ำหนักหลายพันตัน กระทั่งออนสลอตผู้ขนของได้จำนวนมากคงไม่อาจขนมันขึ้นไปบนหลังได้ มันจึงเป็นเรื่องที่ประหลาดมากที่ชาวอเมริกันสามารถขนส่งมันมาที่นี่ได้เมื่อกว่าเก้าสิบปีที่แล้ว
ซุนเฉิงอยู่ใกล้บัมเบิ้ลบีพอสมควร ถึงเขาจะไม่รู้ว่าบัมเบิ้ลบีสามารถแบกของได้มากแค่ไหน แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่อีกฝ่ายจะรับน้ำหนักได้มากเท่าออนสลอต ทว่าเขากลับได้เห็นบัมเบิ้ลบีหยิบออลสปาร์คขึ้นมาและกอดมันไว้แน่ ในพริบตานั้นเอง เขากับอีกสองตนก็มีความคิดชั่วร้ายผุดขึ้นพร้อมกัน
ทันใดนั้น เสียงตะโกนก็ดังขึ้นมาจากมุมห้องปฏิบัติการ ซุนเฉิงรู้ได้โดยไม่ต้องมองว่ามันมาจากออนสลอต
ทั้งสองโจมตีในเวลาเดียวกัน แม้ว่าบัมเบิ้ลบีจะระมัดระวังพวกเขาอยู่มาก แต่มีช่องโหว่เพราะเขาต้องจับออลสปาร์คเอาไว้ ทำให้พวกเขามีโอกาสอันดีในการโจมีต
ออนสลอตยิงใส่บัมเบิ้ลบีหลายนัดติดต่อกัน แต่บัมเบิ้ลบีที่ระวังเขามาตลอดก็หลบหลีกได้หมด
ถึงบัมเบิ้ลบีจะหลบออนสลอต แต่เขาก็ไม่สนใจซุนเฉิงเลย ทำให้ซุนเฉิงคิดใช้โอกาสนี้ยิงปืนวัลแคนยิงใส่ร่างกายหุ่นยนต์ของบัมเบิ้ลบี
"สบโอกาสแล้ว..."
หลังจากการอัปเกรด ความเร็วและพลังของปืนวัลแคนไม่ได้ลดลงเลย อีกทั้งประสิทธิภาพก็สูงขึ้นด้วย แม้ว่าร่างกายหุ่นยนต์ของบัมเบิ้ลบีจะแข็งแกร่ง แต่หลังจากโดนกระสุนเกือบร้อยนัดในวินาทีเดียว เขาก็ถูกบังคับให้ต้องยอมแพ้และได้แต่หลบออนสลอตไปมา
ทั้งสามตัวสั่นเทาด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป พวกเขาได้ยินเสียงระเบิดชุดหนึ่งดังขึ้นมาเรื่อย ๆ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จากฐานทัพ หน้าของออนสลอตและซุนเฉิงพลันเปลี่ยนไปทันที ส่วนทางบัมเบิ้ลบีก็ยิ่งกังวลมากขึ้นและเลือกเปิดฉากการโจมตีอย่างรุนแรงสวนกลับไป
ยามนัน้เอง ทั้งสามคนรู้สึกถึงคลื่นพลังอันมหาศาลพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วจากฐานทัพ
ในไม่ช้า เสียงคำรามต่ำได้ดังขึ้น ซุนเฉิงรู้สึกตรงหน้าพร่ามัวไปหมด เขาเห็นเครื่องบินรูปทรงแปลกประหลาดพุ่งเข้าไปในห้องปฏิบัติการ
ขณะที่เขามองดู มันก็ลงจอดและเปลี่ยนเป็นหุ่นยนต์ยักษ์ที่ร่างกำยำกว่าออนสลอตเสียอีก ซุนเฉิงยังไม่ทันได้ทำอะไร เขาก็เห็นออนสลอตคุกเข่าลงกับพื้น "ทหารออนสลอตขอทำความเคารพท่านเมกะทรอน ข้าโล่งใจที่ทราบว่าท่านปลอดภัย!"
ใบหน้าของซุนเฉิงเปลี่ยนไป เขาไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าของเสียงจะเป็นเมกะทรอน
หลังจากตระหนักในสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซุนเฉิงก็รีบทำตามออนสลอตและคุกเข่าลงเพื่อสรรเสริญทรราชแห่งดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอน "กองทัพคาสเซ็ตต์เฟรนซี่ ขอทำความเคารพท่านเมกะทรอน ราชาแห่งเหล่าดิเซปติคอนตลอดกาล!"
ทันทีที่เขาก้มลง ซุนเฉิงก็รู้สึกว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองเขามาเขม็ง แม้จะไม่มองขึ้นไป เขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายคือเมกะทรอน
อีกฝ่ายมองเขาเงียบ ๆ อยู่สักพักใหญ่เลย จนซุนเฉิงก็ไม่รู้ว่าเมกะตรอนกำลังคิดอะไรอยู่
ขณะที่หัวใจของซุนเฉิงเต้นแรง เขาก็ได้ยินเสียงปืนหลายนัดติดต่อกัน ก่อนที่เขาจะตอบสนองได้ทัน เขาก็ถูกยิงเข้าใส่ และรู้สึกได้เลยว่าร่างกายหุ่นยนต์ของเขากระเด็นไปกระแทกกำแพงห้องปฏิบัติการ
หลังจากเขาล้มลงและมองลงไป เขาก็เห็นรอยร้าวที่น่าสยดสยองนับโหลบนร่างกายหุ่นยนต์ของเขา ซึ่งมันทำให้เขาทั้งเศร้าและโกรธเกรี้ยว เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและเล็งปืนใส่ผู้ที่ยิงมาที่เขา ซึ่งก็คือบัมเบิ้ลบี
ปรากฏว่าแม้บัมเบิ้ลบีจะได้ออลสปาร์คไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงติดอยู่ในห้องปฏิบัติการกับซุนเฉิงและตนอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้น พอมีเมกะตรอน หัวหน้าของดีเซปติคอนอยู่ด้วย เขาย่อมไม่อาจจะหนีไปได้ แต่ว่าจู่ ๆ ออนสลอตและซุนเฉิงกลับทำการเคารพเมกะตรอน ซึ่งมันได้สร้างโอกาสให้เขา
บัมเบิ้ลบียิงออกไปหลายนัด ยิงทั้งออนสลอตและซุนเฉิงติดต่อกัน หลังจากยิงออกไปให้เมกะตรอนหลบกระสุนแล้ว บัมเบิ้ลบีก็ใช้โอกาสนี้แปลงร่างเป็นเชฟโรเลทคามาโรพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงสุด
"เจ้าจะหนีไปไหนรอด..."
ใบหน้าของเมกะทรอนไม่เปลี่ยนแปลง เขายิ้มเยาะและมองไปยังบัมเบิ้ลบีที่วิ่งไปถึงส่วนลึกของทางเดิน ทันใดนั้นเอง เขากลายร่างเป็นเครื่องบินรูปทรงแปลกประหลาดอีกครั้ง พุ่งไล่ตามไปโดยไม่คิดจะพูดอะไรกับออนสลอตและซุนเฉิงเลย