ตอนที่ 75
ตอนที่ 75
“เจ้าสองคนมีอะไรกับข้างั้นหรือ ?” เต๋าซุนถามด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
“เรามาที่นี่เพื่อส่งข้อความจากพี่สาวคังไป่หลี่” ซูเชียนซูพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา: “พี่สาวไป่หลี่อยากมาเยี่ยมเยียนเจ้ามาโดยตลอด ดังนั้นจึงฝากให้มาถามว่าเจ้าจะว่างเมื่อไหร่”
“ถ้าเป็นเจ้าสองคน ข้าย่อมว่างเสมอ แต่ถ้าเป็นนาง ข้าไม่สนใจ” เต๋าซุน ส่ายหัวพร้อมรอยยิ้ม
“แล้วสรุปว่าเจ้าจะว่างเมื่อไหร่ ?” ซูเชียนซูพูดอย่างช่วยไม่ได้: “เรามาที่นี่เพื่อส่งข้อความให้พี่สาวไป่หลี่เท่านั้น นางชื่นชมเจ้าอยู่เสมอ ”
“ชื่นชมข้ารึ ? ชื่นชมที่จะปอกลอกข้าล่ะสิไม่ว่า ” เต๋าซุนแอบรู้สึกตลกอยู่ในใจ
แต่เขายังคงหรี่ตาลงเล็กน้อย สำรวจร่างกายของสองสาวและพูดว่า "ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าก็ไปบอกให้นางมาหาที่ยอดเขาเดียวดายตอนบ่ายโมงพรุ่งนี้ "
เมื่อมองดูดวงสายตาที่เจ้าเล่ห์ของเต๋าซุน ซูเหมิงเหมิงก็ย่นจมูกและพูดอย่างหงุดหงิด : "นี่เจ้ากำลังมองอะไร ? ไม่เคยมองดูหญิงงามมาก่อนรึ"
“ไม่ใช่ว่าข้าไม่เคยเห็นหญิงงาม เพียงแต่ข้ายังไม่เคยลิ้มลองหญิงสาวสองคนที่เป็นพี่น้องฝาแฝดเท่านั้น” เต๋าซุน กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“พี่สาว ไปกันเถอะ อย่าคุยกับคนเลวเช่นเขาเลย” ซูเหมิงเหมิงก็ดึงแขนเสื้อของซูเชียนซูและพูดด้วยสีหน้าแดงก่ำ
“งั้นจำสิ่งที่เจ้าพูดไว้ให้ดี บ่ายวันพรุ่งนี้จงทำตัวให้ว่างซะ” ซูเชียนซูมองไปที่เต๋าซุนอย่างลึกล้ำ และเตรียมที่จะจากไปพร้อมกับน้องสาวของนาง
“ข้าเฝ้ามองท้องฟ้าเสมอมา คืนนี้เป็นคืนที่ดวงดาวส่องประกายกว่าทุกคืน และดวงจันทร์กระจ่างใสกว่าที่ใด เรามาร่ำสุรา หากถกถามปัญหาพูดคุยเรื่องราวในชีวิตกันนั่นจะไม่วิเศษไปเลยรึ?”
ขณะที่เสียงหัวเราะของเต๋าซุนดังมาจากด้านหลัง สองพี่น้องฝาแฝดซูเหมิงเหมิงก็อดไม่ได้ที่จะรีบเร่งฝีเท้าจากไปเร็วกว่าเดิม
เมื่อมองดูทั้งสองคนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของ เต๋าซุน ก็ค่อยๆ กลับมาสงบลง เขาเดาะลิ้นเบาๆแล้วพูดว่า "ไป่หลี่ ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะเล่นกลอันใด "
เต๋าซุนก็หวนคิดถึงเรื่องราวในชีวิตก่อน การที่เขาติดตามคังไป่หลี่ไปทุกที่และพยายามเอาใจนางทุกอย่างนั้น เป็นเพราะเขาชอบนางจริงๆรึ ?
หรือจริงๆแล้วข้าเพียงแค่อยากหลับนอนกับนาง
เรื่องไร้สาระใดๆที่พูดถึงรักแรกพบ จริงๆแล้วล้วนเป็นเพียงเรื่องของรูปลักษณ์เท่านั้น ความรักแท้จริงคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากผ่านการสานสัมพันธ์มาเป็นเวลายาวนานเท่านั้น
…………
ตั้งแต่ช่วงบ่าย เต๋าซุน ก็อยู่ในสระสายฟ้าฟาดตลอดเพื่อหลอมธาตุสายฟ้าให้กับดาบทลายโลกา
พูดให้ถูกก็คือ การหลอมด้วยสายฟ้าสวรรค์ในระยะแรกนั้นเสร็จสิ้นไปแล้ว แต่ถ้าต้องการหลอมธาตุให้เป็นหนึ่งเดียวกับดาบอย่างสมบูรณ์ เขาย่อมต้องพยายามมากกว่านี้
ในพื้นที่ที่ห้าของสระสายฟ้าฟาด สายฟ้าเส้นมหึมาก็ถักทอกันกลายเป็นมังกรสีเงิน และมันก็คำรามปลดปล่อยสายฟ้าสีม่วงออกมา
ใครก็ตามที่เข้ามาในสระสายฟ้าฟาดเป็นครั้งแรกย่อมตกใจกับภาพนี้อย่างแน่นอน แต่สำหรับบางคนเช่นเต๋าซุนแล้ว มันคือเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทุกครั้ง
ดาบทลายโลกาสั่นและแสงก็พวยพุ่งออกมาจากมัน นอกจากสัญลักษณ์มังกรสีดำบนดาบแล้ว ยังมีสัญลักษณ์เครื่องหมายสายฟ้าปรากฏอยู่ใกล้ด้ามดาบอีกด้วย
…………
หลังจากที่ เต๋าซุน เดินออกจากสระสายฟ้าฟาด เขาก็ตระหนักได้ว่ามันได้ผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งวันแล้ว ข้างนอกยามนี้เป็นช่วงเวลาบ่ายโมงและเป็นเวลาที่เขานัดพบกับคังไป่หลี่
“นี่ถือได้ว่าเป็นการพบกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างพวกเราทั้งสองคนในชีวิตนี้” เต๋าซุนส่ายหัวและยิ้ม และเดินไปที่ยอดเขาเดียวดาย
พระอาทิตย์ตกดินนั้นสวยงามอย่างไร้ขอบเขต และเกือบจะพลบค่ำแล้ว
ที่หน้าลานของยอดเขาเดียวดาย หญิงสาวคนหนึ่งกำลังยืนอยู่บนขอบไหล่เขา นางหันหลังให้กับเส้นทางที่นำมาสู่ยอดเขา และจ้องมองออกไปยังอาทิตย์ตกดินที่อยู่ปลายขอบฟ้า
รัศมีของดวงอาทิตย์ตกดินทอดยาวไปบนขอบฟ้า พระอาทิตย์ตกวันนี้ดูสดใสกว่าที่เคยเป็น ท้องฟ้าสีคราม เมฆขาวนวล และภูเขาเขียวขจี
ผมของหญิงสาวสยายไปทางด้านหลัง นางสวมเสื้อสีขาวบาง และมีชุดคลุมไหมสีฟ้าอ่อนคลุมอยู่ด้านนอก
ชุดคลุมของนางปลิวไปตามสายลมพร้อมกับเส้นผม กลิ่นหอมจางๆโชยออกมาจากร่างของนาง ผิวของนางขาวราวกับหิมะ และดวงตาก็เต็มไปด้วยจิตวิญญาณและความอ่อนโยน
ที่สะดุดตาที่สุดคือขายาว ขาว ตรง เมื่อผ้าสีฟ้าโบกพัดเบาๆ ขาก็ปรากฏออกมาให้เห็นเป็นบางครั้ง ภาพนี้ล้วนแต่สามารถทำให้บุรุษระเบิดอารมณ์ออกมากระหือรือ
น่าเสียดายที่ไม่มีใครผ่าน ณ ลานยอดเขาเดียวดายแห่งนี้เลย
เต๋าซุน เดินขึ้นไปบนยอดเขาเดียวดาย และพบกับคังไป่หลี่เป็นครั้งแรก
อีกฝ่ายก็สังเกตเห็นการมาถึงของเขาเช่นกัน นางจึงหันหลังกลับมาช้าๆ
ด้วยดวงตาที่ชุ่มฉ่ำ ริมฝีปากสีแดง และฟันเรียงขาวใส จากมุมมองของผู้คนทั่วไป คังไป่หลี่ย่อมเป็นหญิงงามที่ไม่ธรรมดายิ่ง
นางเป็นเหมือนกับเทพธิดาที่ลงมาจากสวรรค์ ราวกับว่าแม้เพียงจ้องมองก็เป็นการดูหมิ่น
“ศิษย์น้องไป่หลี่ เจ้ามีอะไรกับข้ารึ ” เต๋าซุนเดินขึ้นมาและถามพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
“ศิษย์พี่เต๋า ท่านน่าจะเคยได้ยินว่าศิษย์น้องคนนี้มาจากหมู่บ้านเล็กๆบนภูเขามาก่อนใช่หรือไม่
ข้ายังมีอีกหลายสิ่งนักที่ไม่คุ้นเคยในนิกายแห่งนี้ ดังนั้นจึงคิดว่าข้าควรมาเยี่ยมศิษย์พี่ หากเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ข้าก็หวังว่าศิษย์พี่จะช่วยดูแลข้าบ้าง “คังไป่หลี่ยิ้มราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิและพูดช้าๆ:”จริงๆ แล้ว ก่อนหน้านี้ไม่นานศิษย์น้องเคยมาเยี่ยมหาท่านแล้ว แต่ตอนนั้นศิษย์พี่ไม่อยู่ในนิกาย ดังนั้นข้าจึงขอให้ใครสักคนมาเยี่ยมถามท่านก่อน หวังว่าศิษย์พี่จะไม่รังเกียจ "
เต๋าซุน จ้องมองอย่างจริงจังไปที่คังไป่หลี่ หลายคนล้วนแต่ต้องการปกปิดฐานะต่ำต้อยของตนทั้งนั้นหลังจากที่พวกเขาทะยานขึ้นฟ้าในชั่วข้ามคืน
แต่คังไป่หลี่ผู้นี้กลับกล้าเปิดเผยออกมาอย่างใจเย็น
“ไม่มีปัญหา” เต๋าซุน พูดขณะที่เขาเดินไปที่ลานบ้าน “นี่คือเหตุผลที่เจ้ามาหาข้ารึ”
“ก่อนหน้านี้ ท่านป้าของข้ากับท่านรองนิกายได้หมายจะจัดงานแต่งขึ้นระหว่างเรา แม้ว่าข้าจะไม่ชื่นชอบการแต่งงานอย่างคลุมถุงชนเช่นนี้สักเท่าไหร่นัก แต่จริงๆแล้ว ข้าก็หาได้ปฏิเสธไม่” คังไป่หลี่เดินตามเข้าไปในสนามอย่างใกล้ชิดและมองดูเขาด้วยท่าทางสงสัย ใบหน้าที่ดื้อรั้นของนางมองไปที่เต๋าซุน และนางเอ่ยปากถามตรงๆ "ข้าขอทราบได้ไหมว่าเหตุใดท่านจึงได้ปฏิเสธ "
เต๋าซุน มองกลับไปยังคังไป่หลี่ที่กำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาดื้อรั้น สายตาของนางแสดงออกถึงความไม่เต็มใจและไม่พอใจในแบบของหญิงสาว
“ช่างเป็นทักษะการแสดงที่ดีเยี่ยม” เต๋าซุน หัวเราะเบา ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะประสบการณ์ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา เขาคงไม่อาจปฏิเสธมารยาของหญิงสาวคนนี้ได้อย่างแน่นอน
“ศิษย์พี่ ท่านหัวเราะอะไรรึ” คังไป่หลี่เม้มริมฝีปากแน่นแล้วพูดอย่างเสียใจเล็กน้อย “หลี่เอ๋อน่าสมเพชมากใช่หรือไม่?”
เมื่อมองดูเด็กหญิงที่กำลังเสแสร้งอย่างเศร้าสร้อย จู่ๆเต๋าซุนก็ยิ่งรู้สึกตลกขบขันมากขึ้น เขารู้สึกราวกับว่ากำลังมองดูคนทั้งโลกมึนเมาในขณะที่เขามีสติอยู่คนเดียว
เขาส่ายหัวแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: "ข้าก็แค่ไม่อยากไปแย่งความรักจากผู้อื่นเท่านั้น "
คังไป่หลี่ตกตะลึงและตอบกลับอย่างรวดเร็ว: "ศิษย์น้องหาได้มีคนที่ชื่นชอบ…."
“จริงรึ” เต๋าซุน มองไปที่คังไป่หลี่ด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็เรียกองครักษ์นิกาย จางจงเทียน มา
เขาพูดช้าๆ: "สังหารใครสักคนให้ข้า "
จางจงเทียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่ยังคงพูดด้วยความเคารพ: "นายน้อย โปรดออกคำสั่งด้วย "
“ไปที่หมู่บ้านชิงหยางและสังหารชายหนุ่มชื่อเย่เฉิน”
เมื่อได้ยินคำพูดของ เต๋าซุน การแสดงออกของคังไป่หลี่ก็เปลี่ยนไปทันที และนางก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว "ศิษย์พี่ เย่เฉินกับข้าเป็นเพียงสหายกันเท่านั้น หาได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งใดๆไม่ เหตุใดท่านถึงต้องเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ด้วย ?"
“ดูเจ้ากังวลจังเลยนะ” เต๋าซุนยิ้มและยื่นมือขวาออกไปแตะคางของคังไป่หลี่
แต่คังไป่หลี่ก็ก้มหน้าลงและพูดด้วยสีหน้าไม่มีความสุข: "ศิษย์พี่เต๋า ได้โปรดเคารพตนเองด้วย "