ตอนที่แล้วตอนที่ 281 เหนือมนุษย์คนแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 283 พลังพรสวรรค์ตัวตนอนันต์

ตอนที่ 282 ตาสามเผยตัว(อ่านฟรี)


ตอนที่ 282 ตาสามเผยตัว

ศพของพวกนั้นสลายเป็นฝุ่นสีดำ สายตาของเหนือมนุษย์ชุดเกราะราชันมังกรมองตามฝุ่นพวกนั้นก็จะไปตกที่ร่างของลุค

‘เจ้านี่อันตราย’ เหนือมนุษย์ชุดเกราะราชันมังกรกล่าวในใจตัวเองตามสัญชาตญาณทันที แต่ก่อนจะได้เคลื่อนไหวอยู่ ๆ ตอนนั้นเองลุคก็หายไปปรากฏอยู่ตรงหน้า

“เดี๋ยว!”

เหนือมนุษย์ชุดเกราะราชันมังกรต้องการพูดบางอย่าง แต่ก็สายไปแล้ว

ปุ!

ร่างกายส่วนบนตั้งแต่หน้าท้องขึ้นไปถูกลุคต่อยจนระเบิดในหมัดเดียว เมื่อไม่มีพลังงานในระดับ A สนับสนุนก็เป็นแค่เหนือมนุษย์ในระดับ B

ร่างของเหนือมนุษย์ราชันมังกรสลายเป็นฝุ่นเข้าไปในตัวเขา

ลุคไม่ได้ตรวจสอบสิ่งที่ได้รับมา แต่เขามองไปที่ราชาโกเลมแทน

“พวกนั้นอยู่ที่ไหน”

ลุคกระทืบไปที่ขาของราชาโกเลมจนมันแหลกเละ

“อ้า!” ราชาโกเลมกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

ราชาโกเลมในตอนนี้ไร้ซึ่งความสามารถในการต่อสู้กับลุคแล้ว ถึงเขาจะไม่ตายจากการโจมตีของเหนือมนุษย์ชุดเกราะราชันมังกร แต่ก็ยังบาดเจ็บสาหัส

“แกกำลังเข้าใจผิดที่จริงเราอยู่ฝ่ายเดียวกัน” ราชาโกเลมพยายามพูดกับลุค

“แซมสันโกหกบางอย่างกับฉันมาก่อน ทำไมฉันต้องเชื่อคำพูดของแกด้วย อีกอย่างฉันไม่สนใจ บอกมาแซมสันพาเจนไปที่ไหน”

ราชาโกเลมไม่ตอบแต่สายตาของเขาเหลือบมองไปที่คุกมืด

“ที่นั่นสินะ” ลุคเหมือนจะเข้าใจบางอย่าง

เขากำลังจะฆ่าราชาโกเลม อีกฝ่ายลงมือต่อเขาหลายครั้ง ซึ่งลุคก็ไม่ได้ใจดีจนถึงขนาดปล่อยศัตรูไป

“เดี๋ยวก่อน ฉันสามารถบอกแกได้ว่าแกเป็นใครและทุกอย่างที่แกอยากรู้ ถ้าแกปล่อยฉันไป ที่จริงแล้วแกไม่ใช่มนุษย์” ราชาโกเลมกล่าวออกมาทำให้ลุคหยุดชะงักในทันที

“หมายความว่ายังไง หืมแกกล้า!” ลุคยังไม่ทันได้คำตอบก็ต้องโจมตีใส่ราชาโกเลมในทันที เพราะว่าอีกฝ่ายนั้นกลับทำบางอย่างลงไป

“ตายไปด้วยกันเนี่ยแหละ” ราชาโกเลมตะโกนออกมา

ตูม!

ราชาโกเลมโดนลุคโจมตีเข้าจนร่างระเบิดเป็นชิ้น ๆ แต่ว่าก็สายไปแล้ว เพราะราชาโกเลมได้ทำบางอย่างลงไป พื้นดินรอบ ๆ เริ่มสั่นสะเทือนราวกับเป็นสัญญาณของการพังทลาย

แม้จะไม่เกิดขึ้นทันที แต่เขาสังหรณ์ใจว่าอีกไม่นานทุกสิ่งที่นี่จะหายไปตลอดกาล

“ต้องรีบไปช่วยเจน” ลุครู้ว่าเหลือเวลาไม่มากแล้ว

ขณะที่ลุคกำลังจะเคลื่อนไหวตอนนั้นเองคุกมืดที่อยู่ด้านหน้าอยู่ ๆ ก็ระเบิดจากการปะทะกันของสองพลังที่มหาศาล ส่งให้แม้แต่ตัวของลุคยังต้องกระเด็นถอยหลังไปหลายร้อยเมตร

ลุคยกมือขึ้นมากันใบหน้าไว้และก็ต้องตกตะลึงที่เห็นว่าคนที่สู้กันอยู่นั้นคือเจน แต่อีกคนเขาไม่รู้จัก เพียงแต่พลังที่สัมผัสได้นั้นแปลกประหลาดมาก

แต่เขาจะสนใจทำไม ในเมื่อเขาพบเจนแล้ว แถมเจนกำลังโดนชายที่ร่างผอมแห้งเหมือนมัมมี่ทำร้ายอยู่ด้วย

“เจน!”

...

เอเชอร์บีบคอของเจนไว้แน่น ขณะที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ พลังของเขารุนแรงและน่ากลัวมาก มันไม่ใช่ระดับที่เหนือมนุษย์ระดับ A อย่างองค์หญิงเทพอสูรจะสู้ได้

“ถ้าฉันฟื้นพลังกลับมาได้อย่างเต็มที่ละก็...” องค์หญิงเทพอสูรดิ้นรนไปมาเพื่อหวังให้หลุดออกจากเงื้อมมือของเอเชอร์ แต่มันกลับไม่เป็นผล มือของเอเชอร์ล็อกแน่นและยังบีบแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ กระดูกคอของเธอกำลังถูกบดขยี้คามือของเอเชอร์

“ใครก็ได้...ช่วยด้วย” องค์หญิงเทพอสูรกล่าวด้วยสติเลื่อนลอยและอยู่ ๆ ใบหน้าของลุคก็ปรากฏขึ้นมา

แม้เธอจะเข้ามาควบคุมร่างนี้ แต่ตัวตนของเจนก็ยังอยู่

เมื่อทั้งองค์หญิงเทพอสูรและเจนใช้ร่างเดียวกัน ถ้าองค์หญิงเทพอสูรตาย เธอก็จะตายเช่นกัน ความตายที่กำลังเข้ามาหาทั้งสองสามารถรับรู้มันได้ในแบบเดียวกัน จนสุดท้ายแม้แต่องค์หญิงเทพอสูรก็ยังรับรู้ถึงสิ่งที่เจนต้องการได้

ทั้งเจนและลุค ตั้งแต่ที่พ่อแม่เสียไปพวกเขาทั้งสองก็มีแค่กันและกันเสมอ ลุคจึงเปรียบเสมือนกับแผ่นหลังที่กว้างใหญ่ของเจน ไม่ว่าจะเรื่องอะไรลุคก็จะปกป้องเจนเสมอมา

“พี่ช่วยหนูด้วย” เสียงที่อ่อนล้าด้วยลมหายใจเฮือกสุดท้ายดังขึ้นมา

ขณะที่เอเชอร์มีสีหน้านิ่งมองดูองค์หญิงเทพอสูรที่กำลังจะตายด้วยน้ำมือของเขาอีกครั้ง แต่คำพูดเมื่อครูกลับทำให้เอเชอร์ถึงกับหรี่ตาลงเล็กน้อย

“ปล่อยมือนั้นซะ!!!”

ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นมาจากข้างล่างพุ่งเข้ามาหาเอเชอร์พร้อมกับต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของอีกฝ่าย

ปัง!

เสียงการทำลายล้างจากหมัดของลุคมาพร้อมกับคลื่นพลังที่กวาดซัดทุกอย่าง แต่เมื่อทุกอย่างหายไปก็เผยให้เห็นมือที่รับหมัดของลุคเอาไว้ได้

เอเชอร์รับมัดของลุคได้อย่างง่ายดาย

เอเชอร์กำลังจะโจมตีกลับไป แต่ก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าคนที่ตัวเองมองอยู่นั้นกลับมีใบหน้าที่คุ้นเคย

“ใบหน้านั้น! ทำไมแกถึงมีมันได้”

ลุคไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดเรื่องอะไร และเขาก็ไม่สนด้วย

“ปล่อยเจนซะ”

ปัง! ปัง! ปัง!

ลุคต่อยเข้าไปในที่หน้าของเอเชอร์หลายครั้ง แต่อีกฝ่ายกลับไม่รู้สึกอะไรเลย แถมยังเหวี่ยงลุคอย่างรุนแรงจากมือที่จับอยู่ ก่อนจะฟาดเขาลงไปกับพื้นด้านล่าง จนทำลายพื้นที่ดินแดนใต้พิภพแห่งนี้ไปส่วนหนึ่ง

เอเชอร์ยังไม่ทันได้ตามไปหาลุค ตอนนั้นเององค์หญิงเทพอสูรที่ได้ลุคช่วยดึงความสนใจไว้ก็ฉวยโอกาสลงมือกับเอเชอร์ เธอสัมผัสไปที่ท้องของเอเชอร์ จากนั้นก็บิดมือเบา ๆ

พริบตานั้นก็เกิดวงจรจำนวนมากขึ้นที่ท้องของเอเชอร์ ถ้ามองให้ดี ๆ นี่คือลวดลายของมิติขังเทพ

“แก!” เอเชอร์กล่าวออกมาได้เพียงคำเดี๋ยวก็มีเสียงระเบิดขึ้นดังตูม!ภายในร่างของเอเชอร์ ส่งผลให้เอเชอร์บาดเจ็บสาหัสในทันที

ถ้าไม่ใช่เพราะในร่างของเอเชอร์แทบไม่มีเลือดเนื้อหลงเหลืออยู่ เลือดคงทะลักออกมาจากร่างของเอเชอร์ท่วมพื้นที่นี้ไปแล้ว

เอเชอร์ตกลงมาจากฟ้ากระแทกลงไปที่พื้น

ส่วนองค์หญิงเทพอสูรเองก็ตกลงกระแทกพื้นเสียงดัง อัก!

เธอเผยสีหน้าเจ็บปวด แต่ไม่มีเวลามาคิดมาก องค์หญิงเทพอสูรพยายามพยุงตัวเองให้ลุคขึ้นยืนให้ได้ แต่แล้วเธอก็พบว่าค่อย ๆ สูญเสียการควบคุมร่างกายไป

‘บ้าจริงมาเป็นอะไรตอนนี้’

“เจ้าอสูรชั่ว เจ้ากล้าวางกับดักข้า” เอเชอร์ที่สภาพร่อแร่ยืนขึ้นมาและกล่าวด้วยสีหน้าที่โกรธแค้น

เอเชอร์เข้าใจได้ในทันทีว่ามิติขังเทพไม่ได้ถูกทำลายจริง ๆ แต่ถูกเปลี่ยนให้เป็นเหมือนกับระเบิดที่สามารถทำลายล้างจากภายในได้ และตอนนี้เอเชอร์กำลังจะตาย

“นายท่าน”

ตอนนั้นเองอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มชายลึกลับปรากฏตัวขึ้นมา พร้อมกันนั้นยังมีแซมสันที่สภาพเต็มไปด้วยเลือดอยู่ด้วย กลุ่มชายพวกนั้นเดินเข้าไปหาเอเชอร์

คนที่เหลือนี้ทั้งหมดไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเจ้าของบัลลังก์ที่เหลืออีก 6 คน ซึ่งรวมแซมสันแล้วก็นับเป็น 7 คน ทั้ง 7 คนผู้นำของกองทัพเทพอนันต์

แต่ละคนคือคนที่มีพลังในระดับ B ยกเว้นแซมสันที่มีพลังในระดับ Aแต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือตัวตนของพวกเขา

ตูม!

ตอนนั้นเองลุคที่โดนเหวี่ยงไปติดกับกำแพงก็ดีดตัวพุ่งเข้ามายังตำแหน่งที่ทุกคนอยู่ ก่อนจะหยุดอยู่ข้าง ๆ เจน

“พี่!” เจนที่พึ่งกลับมาควบคุมร่างกายได้รีบเข้าไปกอดลุค

“เจน ไม่เป็นอะไรนะ!” ลุคดีใจมากที่พบว่าเจนกลับมาควบคุมร่างกายได้แล้ว

“พี่ตอนที่หนูองค์หญิงเทพอสูรควบคุมร่างอยู่หนูก็จำในช่วงเวลานั้นได้ด้วย ชายที่เหมือนมันมี่คนนั้นเขาชื่อ เอเชอร์ เขาแข็งแกร่งมากพี่ แม้แต่ระดับ A ก็ยังสู้ไม่ได้ องค์หญิงเทพอสูรคิดว่าเขาคือคนที่เหนือกว่าระดับ A แถมเขายังมีความแค้นกับองค์หญิงเทพอสูรเมื่อนานมาแล้ว หนูไม่รู้มันหมายความว่ายังไง แต่พี่เราต้องหนีไปจากที่นี่” เจนรีบกล่าวเตือนลุค แต่ตอนนั้นเองเธอก็กระอักเลือดและเซจนเกือบจะล้ม

ลุครีบเข้ามาพยุงตัวของเจนก็พบว่าเธอนั้นบอบช้ำมาก เพราะร่างกายที่องค์หญิงเทพอสูรใช้ต่อสู้ก็คือร่างเดียวกับจน ต่อให้องค์หญิงเทพอสูรจะไม่ควบคุมแล้ว แต่อาการบาดเจ็บก็ยังอยู่

“พี่เราต้องรีบไป”

‘เอเชอร์หรือว่าจะเป็นเหนือมนุษย์คนแรกของโลก!?’ ลุคเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน มันก็ผ่านมาตั้งนานแล้วอย่างน้อย ๆ ก็หลายทศวรรษ แล้วทำไมชายคนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่และเป็นศัตรูกับองค์หญิงเทพอสูรด้วย

“คุณคือ เอเชอร์ เหนือมนุษย์คนแรก แต่เราไม่เรื่องบาดหมางกัน คุณปล่อยผมกับน้องสาวไปได้ไหม” ลุคพยุงเจนไว้และพูดกับอีกฝ่ายตรง ๆ

เขารู้พลังของตัวเองดี แม้ว่าจะกลายเป็นระดับ A แล้ว แต่เขาพึ่งจะทะลวงระดับเท่านั้น ถึงจะอาศัยความได้เปรียบตอนทะลวงระดับเพื่อก้าวข้ามความแข็งแกร่งของระดับ A คนอื่น ๆ ที่อยู่มานานกว่า

แต่กลับไม่ได้สร้างความมั่นใจให้กับเขาเลยถ้าต้องต่อสู้กับตัวตนที่เหนือกว่าระดับ A เพราะเขายังไม่เข้าใจสิ่งที่เรียกว่าเหนือกว่าระดับ A ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร มีพลังมากแค่ไหน

มันก็เหมือนกับมนุษย์ที่ไม่เข้าใจว่าเทพพระเจ้าคืออะไร ได้แต่คาดเดากว่าแข็งแกร่งกว่าตัวเอง แต่มันจะมีแค่นั้นจริง ๆ เหรอ

เอเชอร์ไม่ได้รีบลงมือโจมตีลุค แต่กลับมองเขาอย่างตั้งใจ ก่อนจะถามแซมสัน

“เจ้ารู้เรื่องนี้ไหม?”

แซมสันหวาดกลัวทันที รีบคุกเขาก้มหัวลงและกล่าวเสี่ยงสั่นเครือ

“รู้ พวกเรารู้ นายท่านไม่ใช่ว่าเราอยากจะทำ แต่มันไม่มีทางเลือก อันที่จริงแล้วสิ่งนี้ถูกเริ่มมาโดยสหพันธรัฐ พวกเขาคิดว่าทั้งท่านและองค์หญิงเทพอสูรคือตัวตนที่แข็งแกร่งมาก ถ้าสามารถสร้างท่านและเธอขึ้นมา จากนั้นควบคุมได้ก็จะสามารถมีแต้มต่อมากขึ้นในสงครามที่กำลังเข้ามา ที่ผ่านแอบขโมยพวกเขามา แต่ก็สูญเสียในภายหลัง ข้าพยายามตามหาพวกเขาและควบคุมมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ทันการแล้ว”

“พอ” เอเชอร์สั่งให้แซมสันหยุดพูดในทันที ก่อนจะหันไปถามลุค

“เจ้าชื่ออะไร”

ลุคขมวดคิ้วกับเรื่องที่แซมสันพูด เขาเริ่มสังหรณ์ใจแปลก ๆ โดยเฉพาะความรู้สึกเชื่อมโยงที่มีอยู่ มันราวกับว่าทั้งเขาและเอเชอร์มีสายสัมพันธ์ที่เชื่อมต่อกันอยู่ แต่ตอนนั้นลุคไม่ได้เป็นคนตอบไป กลับเป็นคนที่พุ่งปรากฏตัวขึ้นมาจากทางด้านหลังของลุค

“เขาคือ ลุค ซันเดอร์”

“ตาสาม คุณมาที่นี่ได้ยังไง” ลุคหันไปมองด้วยความตกใจ

“ไว้จะอธิบายทีหลัง” ตาสามกล่าวกับลุค ก่อนจะเดินขึ้นไปอยู่ด้านหน้าและเผชิญหน้ากับเอเชอร์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด