ตอนที่ 105 ของล้ำค่าที่ไม่อาจประเมินค่าได้ อยากได้ก็ประมูลไปเลย! (อ่านฟรี 05/11/2567)
“ดินอัศจรรย์ระดับจักรพรรดิ ดินนี้มีพลังชีวิตและพลังปราณมากมายอยู่ภายใน สามารถนำไปปลูกพืช สมุนไพร ต้นไม้ระดับจักรพรรดิได้ หรือใส่ไว้ในถุงพกติดตัวไว้ฝึกตนก็ทำได้เช่นกัน ความล้ำค่าของมันนับว่ามีมากมายนัก” เสียงของพิธีกรสาวที่บรรยายถึงดินอัศจรรย์ดังขึ้นมา
“ทั้งหมดในโหลแก้วใบนี้ราคาเปิดประมูลเพียง 100,000 ผลึกเท่านั้น!! ใส่ราคาประมูลขั้นต่ำ 1,000 ผลึก” หลังพิธีกรสาวกล่าวจบก็มีคนให้ราคาในทันที
หลังผ่านไปสักพักก็จบราคาประมูลไปที่ 653,000 ผลึก ซึ่งนับว่าเป็นราคาที่สูงไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ผู้ที่ได้ไปก็คือชายชราผู้หนึ่งที่ไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขานั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของแขกพิเศษเช่นเดียวกับพวกเย่ซี
“หยาดพิรุณธรรมชาติระดับจักรพรรดิ ปริมาณสิบหยด เป็นน้ำที่ถือกำเนิดในสถานที่ซึ่งเปี่ยมล้นไปด้วยพลังธรรมชาติ พลังชีวิต พลังปราณ เพียงหยดเดียวก็สามารถรักษาผู้คนที่อยู่ในสภาพใกล้ตายได้ขอเพียงคนผู้นั้นยังมีลมหายใจอยู่ หรือนำไปสกัดทำเป็นโอสภวิเศษระดับจักรพรรดิก็ไม่มีปัญหา ภายในหยดน้ำทุกหยดอัดแน่นไปด้วยพลังธาตุน้ำ พลังชีวิต พลังปราณที่ไม่อาจประเมินค่าได้” พิธีกรสาวกล่าวแนะนำรายการถัดไปทันที
ซึ่งตัวหยาดพิรุณธรรมชาติถูกประมูลไปในราคา หนึ่งล้านผลึก นับว่าเป็นราคาที่ทำให้หลายฝ่ายถึงกับประหลาดใจไม่น้อย เงินจำนวนนี้มีเพียงตระกูลระดับสูงสุดเท่านั้นแหละที่จะจ่ายมันออกมาได้
“อีกสองรายการสินะ” เย่ซีกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่มีใครรู้ว่าชายหนุ่มที่ใบหน้าเรียบเฉยผู้นี้กำลังคิดอะไรอยู่ เพราะตลอดเวลานอกจากการเสนอราคาเป็นครั้งคราว เขาก็ไม่ได้ประมูลของสิ่งใดได้สำเร็จเลย
“แล้วเจ้าเอาแค่ของสิ่งนั้นจะพอรึ ?” ชายหนุ่มหันไปมองหญิงสาวที่ใส่ต่างหูรูปจันทร์เสี้ยวเอาไว้ นั่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่นางเอ่ยขอให้เขาประมูลให้
“เท่านี้ก็เพียงพอแล้วเถ้าแก่” เยี่ยหลิงลูบต่างหูที่นางสวมอยู่ด้วยความยินดี
‘นับว่านางเลือกได้ดีจริง ๆ’
[ต่างหูแสงจันทร์กระจ่าง (หลับใหล)
ระดับ : ต่ำ(กึ่งเทพ)
คุณสมบัติ : สามารถดูดซับแสงจันทร์เพื่อเพิ่มปราณให้แก่ผู้สวมใส่ได้ (จิตวิญญาณหลับใหล)]
“และแล้วก็มาถึงสองรายการสุดท้าย ซึ่งทั้งสองชิ้นนี้จะถูกประมูลคู่กัน มันถูกจัดว่าเป็นสิ่งของที่ล้ำค่าที่สุดจากผู้ที่นำมาฝากประมูลเลยทีเดียว!” พิธีกรสาวเปิดผ้าสีแดงออกมา เผยให้เห็นขวดหยกล้ำค่าขวดหนึ่งกับขนพญาเสือขาวที่ขดเป็นวงกลมถูกวางเอาไว้บนถาดผ้ากำมะหยี่สีแดงสด
“ของสองสิ่งนั้นคืออะไรกัน ? ท่านกล่าวว่าไม่ทราบระดับของมัน เช่นนั้นมันจะมีค่าอะไร ?” ผู้เข้าร่วมงานประมูลผู้หนึ่งกล่าวออกมาด้วยความข้องใจ
“ใช่แล้ว แต่ถึงขนาดที่ทางโรงประมูลนำสองสิ่งนี้มาปิดท้ายการประมูล มันก็คงไม่ใช่ของไร้ค่าอันใดสินะ ?” ชายชราที่ดูจะมีความรู้ไม่น้อยกล่าวออกมา
ไม่มีทางอยู่แล้วที่โรงประมูลใหญ่ระดับนี้จะนำของไร้ค่ามาประมูลให้ตัวเองเสื่อมเสียชื่อเสียง แถมจากที่เขาสัมผัสได้ก็พบว่าขนพญาเสือขาวที่ขดเอาไว้นั้นมีพลังอันน่ากลัวแฝงเอาไว้ด้วย มันเป็นพลังที่ทำให้ยามที่ส่งจิตวิญญาณไปตรวจสอบจะรู้สึกถูกกดดันจนแทบหายใจไม่ออกเลยทีเดียว
“ข้าเข้าใจว่าทุกท่านมีข้อข้องใจไม่น้อย และทางร้านเซียนรับจ้างก็คิดถึงปัญหานี้เช่นกัน ดังนั้นขอเรียนเชิญแขกในห้องส่วนตัวพิเศษทุกท่านลงมาตรวจสอบได้เลยเจ้าค่ะ” พิธีกรสาวกล่าวจบก็เกิดเสียงดังขึ้นในหมู่ผู้ฝึกตน
ครึ่งหลัง
ทำไมถึงทำแต่แขกในห้องส่วนตัวพิเศษล่ะ ? แต่ก็นับว่าพอทำความเข้าใจได้ ถ้าให้ทุกคนในงานประมูลขึ้นเวทีไปตรวจสอบดูก็คงไม่จบไม่สิ้นในวันนี้เป็นแน่
“เจ้านี่มัน ข้าไม่เคยพบเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อนเลย...” ผู้ฝึกตนชราผู้หนึ่งกล่าวออกมาหลังจากได้สัมผัสขนของพญาเสือขาวที่วางเอาไว้
มันเป็นเพียงขนของสัตว์อสูรตนหนึ่ง แต่ที่น่าอัศจรรย์ก็คือขนเพียงเส้นเดียวกับมีความยาวขนาดนี้ แถมเขายังสังเกตเห็นว่าที่บริเวณปลายขนมีร่องรอยของการถูกเผาไหม้ทำให้ขนเหลือขนาดเพียงเท่านี้อีกด้วย
“ข้าขอทดสอบความแข็งแกร่งของมันได้หรือไม่ ?” ชายชราไม่อาจข่มกลั้นความสงสัยเอาไว้ได้อีกต่อไป เขารู้ดีว่ามันเป็นเรื่องที่เสียมารยาทแต่ก็ลองกล่าวถามดู
“ได้เต็มที่เจ้าค่ะ ผู้ที่นำมาฝากประมูลบอกว่าไม่มีสิ่งใดในอาณาจักรนี้จะสามารถสร้างความเสียหายให้กับขนเส้นนี้ได้” พิธีกรสาวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงร่าเริง
แต่คำตอบของนางกลับสร้างความตื่นตะหนกให้ผู้ที่ได้ยินเป็นอย่างมาก
เป็นคำกล่าวที่ช่างโอ้อวดยิ่งนัก!
“เช่นนั้นข้าขอเสียมารยาทแล้ว...” ชายชราเรียกขวานยักษ์ออกมา ดูเหมือนว่าอาวุธของเขาจะไม่ค่อยเข้ากับรูปร่างที่ดูบอบบางของเขาสักเท่าไหร่
เปรี้ยง! แคร๊ก!
ชายชราเหวี่ยงขวานในมือเข้าใส่ขนของพญาเสือขาวที่วางเอาไว้เต็มแรง เกิดเสียงดังสนั่นจากการปะทะกันของขวานและขน
แต่แล้วทุกคนก็ถึงกับต้องอ้าปากค้าง เพราะขนของพญาเสือขาวกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย ผิดกับขวานในมือของชายชราที่หักครึ่งลงต่อหน้าต่อตอของทุกคน และที่น่าแปลกใจอีกอย่างก็คือแท่นวางและเวทีที่ทำมาจากไม้ปกติกลับไม่พังลงจากการโจมตีครั้งนี้
ดูเหมือนขนที่ว่าจะป้องกันแรงสั่นสะเทือนจากการโจมตีเอาไว้ได้!
“แข็งแกร่งมาก... เช่นนั้นแล้วของอีกสิ่งก็คงจะเป็นของล้ำค่าไม่แพ้กันสินะ” หลังเก็บขวานที่หักครึ่งกลับไป ชายชราก็เบนสายตาไปมองยังน้ำตาพญาเสือขาว
“ตามที่ผู้นำของมาประมูลบอกมา ของสิ่งนี้เปรียบเหมือนสิ่งวิเศษสำหรับผู้ที่ฝึกฝนเคล็ดวิชาธาตุหยินหรือเคล็ดธาตุน้ำแข็ง ภายในขวดนี้มีน้ำตาของพญาเสือขาวอยู่หนึ่งหยด แต่เพียงหยดเดียวก็เท่ากับบ่อน้ำขนาดเล็กแล้ว ขวดหยกนี้เป็นสมบัติมิติอีกด้วย”
“นอกจากนั้นมันยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต พลังปราณ วิถีแห่งเซียน วิถีแห่งสัตว์ป่า วิถีแห่งราชัน ถ้าหาสถานที่สร้างสระน้ำแล้วนำน้ำตาหยดนี้เทลงไป มันก็จะกลายเป็นสระล้ำค่าได้อย่างไม่ยากเย็นนัก” พิธีกรสาวสาธยายสรรพคุณออกมายาวเหยียด ทุกสิ่งเป็นการบอกกล่าวของผู้นำมาประมูลทั้งสิ้น ทั้งนางและโรงประมูลก็ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นดังที่กล่าวอ้างทั้งหมดหรือไม่ ได้แต่เลือกเดินพันว่าอีกฝ่ายจะพูดจริงก็เท่านั้น
เพราะจากการได้อยู่ใกล้ ๆ ของทั้งสองสิ่งก็สัมผัสได้ว่ามันมีสรรพคุณตามที่บอกมาจริง ๆ นับว่าล้ำค่าอย่างถึงที่สุด
การฝึกวิถีเป็นสิ่งที่นอกเหนือจากการฝึกพลังปราณและเคล็ดวิชาต่าง ๆ วิถีเป็นสิ่งที่จับต้องได้ยากและมีเพียงน้อยคนที่เข้าถึงมันได้ ถ้าสามารถเข้าถึงวิถีใดได้สักวิถีหนึ่ง การจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับทวีปในด้านที่เข้าถึงวิถีได้ก็ไม่ได้ยากเย็นนัก
“ถ้าเช่นนั้นขอเชิญทุกท่านกลับไปยังห้องส่วนตัวได้เลยเจ้าค่ะ” พิธีกรสาวกล่าวออกมาก่อนที่บรรดาแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายจะทยอยกันกลับไป
“น้ำตาและขนพญาเสือขาว ราคาเริ่มต้นประมูลคือ หนึ่งล้านผลึก!! เสนอราคาขั้นต่ำครั้งละ หนึ่งหมื่นผลึก!!” พิธีกรสาวกล่าวออกมาด้วยเสียงอันดัง
ผู้คนต่างคิดไว้อยู่แล้วว่าราคาจะต้องไม่น้อยอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าแค่ราคาเปิดการประมูลก็จะมากถึงหนึ่งล้านผลึกแล้ว
สำหรับขุมกำลังชั้นกลางส่วนมากทรัพย์สินทั้งหมดจะอยู่ที่ราว ๆ หนึ่งล้านผลึก ส่วนขุมกำลังชั้นสูงจะอยู่ที่ห้าล้านผลึก ขุมกำลังชั้นสูงสุดคือสิบล้านผลึก
แน่นอนว่าพอกล่าวเช่นนี้อาจดูเหมือนหนึ่งล้านผลึกไม่ได้เป็นจำนวนที่มากอันใด แต่อย่าลืมว่าทรัพย์สินทั้งหมดไม่ได้อยู่ในรูปของเงินเพียงอย่างเดียว พวกมันรวมถึงที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง เคล็ดวิชา ของล้ำค่าต่าง ๆ อีกด้วย
ดังนั้นแล้วขุดกำลังต่าง ๆ จึงดึงเงินออกมาใช้มากสุดได้แค่ หนึ่งถึงสองในสิบส่วนเท่านั้น ถ้ามากไปกว่านั้นอาจทำให้เกิดกระแสเงินติดขัดในขุมกำลังได้