ความสงสัยของฮวาเสี่ยวชิง (อ่านฟรี 17/07/2567)
“ของปลอมเหรอ ?? เธอมั่นใจได้ยังไง อย่างน้อยมันก็ต้องมีค่าแน่ ๆ” เย่เซวียนไม่ยอมรับความจริง แม้จะมีหลายสิ่งที่เขาจะได้ยินมาบ้างว่าเป็นของปลอมในร้านของเขา แต่แจกันนี้ปู่ของเขาทุ่มเงินไปหมื่นหยวนเพื่อซื้อมันมา อย่างน้อยต้องมีค่าอะไรบ้างสิ
“ไอ้มีค่ามันก็มีแหละ น่าจะสองร้อยหยวน เอาไว้ใส่ดอกไม้ในห้องส้วมได้” ฮวาหวู่หลิงตอบกลับมาโดยไม่ได้มองหน้าของชายหนุ่มที่กำลังโศกเศร้าแม้แต่น้อย
“ฉันก็ยืนยันอีกเสียง เนื่องจากเคยเห็นและมีความรู้พวกนี้มาบ้าง เจ้านี่เป็นของปลอมจริง ๆ” ฮวาเสี่ยวชิง พี่สาวของหวู่หลิงที่เห็นอยู่ก็ทนท่าทางของชายหนุ่มไม่ได้เลยเข้ามาช่วยน้องสาวของเธออธิบาย
ดูเหมือนเขาจะช็อคน่าดูเลยที่มันเป็นของปลอม... แต่ทำไมคนที่มีน้ำยาวิเศษรักษาคุณยายของเธอได้แบบนี้นถึงมองไม่ออกว่าเจ้านี่เป็นของปลอมกันนะ ?
หรือเขาจะมีเหตุผลบางอย่างอยู่กันแน่...
“อา.. หมดกัน แจกันหลายล้านหยวนของฉัน” เย่เซวียนทรุดลงไปคุกเข่ากับพื้นด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก ในตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าแจกันตรงหน้าเป็นของปลอมจริง ๆ
[แจกันเซรามิก รุ่นผลิตจำนวนมาก
รายละเอียด : ทำโดยโรงงานแถบชานเมือง หลังออกมาจากเครื่องจักรแล้วจะมีช่างคอยตกแต่งให้คล้ายของเก่าอีกทีหนึ่ง
ราคาประเมิน : 100 หยวน]
‘ทำไมฉันไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนค่อยโม้ออกไปนะ คุณปู่... มาต้มกันได้!’ เย่เซวียนที่ใช้ดวงตาแห่งความจริงตรวจสอบแจกันไปก็รู้สึกอับอายและสิ้นหวังไปพร้อม ๆ กัน
“นายเป็นอะไรรึเปล่า ?” หวู่หลิงที่เห็นท่าทางแปลก ๆ ของอีกฝ่ายเลยถามออกมา
“มะ.. ไม่มีอะไรหรอก” เย่เซวียนจึงได้สติก่อนจะตอบกลับไป
“ถ้ายังไงรบกวนช่วยดูของชิ้นอื่น ๆ ให้ผมด้วยจะได้ไหมครับ ว่ามีชิ้นไหนเป็นของจริงบ้าง” ชายหนุ่มกล่าวเสริมออกมา เนื่องจากของในร้านมีปริมาณที่เยอะหลักร้อยชิ้น ถ้าให้เขาเดินเช็คทุกอันคงกินเวลาไม่น้อย
ถ้าทั้งสองคนยอมช่วยก็คงจะประหยัดเวลาไปได้เยอะเหมือนกัน
“ได้สิ ฉันก็สนใจที่นี่อยู่เหมือนกัน จะช่วยก็ได้” ฮวาเสี่ยวชิงตอบรับอย่างว่าง่าย เธอสนใจในตัวชายหนุ่มตรงหน้าอยู่ไม่น้อย ดูภายนอกแล้วเขาก็เหมือนเด็กยากจนทั่วไป ภูมิหลังก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ
แล้วทำยังไงถึงได้มียาวิเศษรวมถึงเงินมากมายขนาดนั้นกันนะ ? หรือจะเกี่ยวข้องกับพวกธุรกิจใต้ดินกัน
ถ้าเป็นอย่างนั้น เธอก็คงจะต้องพูดคุยกับเขาอย่างจริงจังเพื่อให้วางมือจากธุรกิจเหล่านั้นเสีย เพราะเธอไม่อยากให้ชายหนุ่มต้องหมดอนาคตเอา
เพราะขนาดตระกูลของเธอ ที่แม้จะมีหน่วยเก็บกวาดเรื่องสกปรกอยู่ ก็ยังไม่ไปยุ่งพวกธุรกิจใต้ดินเลย ธุรกิจพวกนั้นมันอันตรายจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเจ้าใหญ่ในวงการ เบื้องหลัง อำนาจที่มองไม่เห็น ทุกสิ่งล้วนไม่ควรไปเกี่ยวข้องด้วยทั้งสิ้น
“ถ้าพี่ว่างั้น หนูก็ช่วยด้วยแล้วกัน” หวู่หลิงที่เห็นว่าพี่สาวตัวเองรับคำไปแล้ว แถมเธอก็ยังว่างอยู่ด้วยเลยกล่าวตามน้ำไป ถึงเธอจะไม่เชี่ยวชาญเรื่องการตีราคามากนัก แต่ก็เคยเห็นของโบราณทั้งของจริงและปลอมมาก่อน เลยพอจะแยกแยะได้ไม่ยาก
ครึ่งหลัง
“ขอบคุณทั้งสองคนมากครับ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้นะ” ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณออกมาก่อนจะเดินไปยังครัวด้านหลังของเขา
แต่เขาลืมไปว่ายังไม่ได้ทำความสะอาดครัวเลย เพราะหลังจากทำน้ำต้มแผ่นหยกเสร็จเขาก็รีบร้อนออกจากร้านค้าไป ทำให้ในตอนนี้บนเตาแก๊สยังมีหม้อที่เขาต้มน้ำแผ่นหยกทิ้งเอาไว้อยู่เลย
“ยังเหลืออยู่ก้นหม้อแหะ พอได้สักสามแก้วพอดี งั้นก็เอาน้ำนี้แหละ” ชายหนุ่มตัดสินใจเสร็จเขาก็นำแก้วที่ล้างเรียบร้อยแล้วมารินน้ำต้มแผ่นหยกสามแก้ว แล้วก็ลงมือทำความสะอาดครัวของตัวเองต่อ ส่วนตัวแผ่นหยกเขาก็เก็บใส่กล่องไม้แล้ววางไว้ที่ตู้ในห้องครัว
ก็เขาไม่มีพวกตู้เซฟนี่นา มันจะไปเก็บที่ไหนได้อีก
“นี่น้ำครับ หวังว่าจะชอบกันนะ” เย่เซวียนกล่าวออกมาขณะที่นำน้ำไปให้ทั้งสองสาวคนละแก้ว ซึ่งเขาก็ถือไว้แก้วนึงเพื่อกินเองด้วย
“อืม ขอบใจ” ฮวาเสี่ยวชิงกล่าวออกมาพลางยิ้มให้เล็กน้อย ดูเหมือนชายตรงหน้าของเธอจะมีน้ำใจไม่น้อย ถึงแม้จะเป็นเพียงน้ำเปล่าธรรมดาก็เถอะ
“น้ำไรอ่ะ อย่าบอกนะว่าน้ำก๊อก ?” ตรงกันข้ามกับพี่สาว หวู่หลิงเลือกที่จะถามออกมาด้วยความระแวง เพราะเธอแอบเห็นว่าชายหนุ่มเอาน้ำนี่มาจากหม้อในห้องครัวที่ยังไม่ทำความสะอาด
“น้ำที่ยายเธอกินไปไง จะเอาไหม ?” เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มตอบกลับมา สิ่งแรกที่หวู่หลิงทำก็คือรีบยกแก้วน้ำกินจนหมดในทันที
ทำเอาเย่เซวียนและฮวาเสี่ยวชิงถึงกับพูดไม่ออก
เมื่อสักครู่นี้ยังทำท่าทางระแวงอยู่เลย แล้วนี่มันอะไร ?
“นี่คือน้ำยาวิเศษเหรอ ?” ฮวาเสี่ยวชิงที่รู้มาว่าคุณยายของเธอหายดีจากน้ำยาวิเศษบางอย่างก็พอจะประติดประต่อเรื่องราวบางอย่างได้
แสดงว่าน้ำในแก้วในมือของเธอตอนนี้ ก็คือน้ำยาวิเศษที่รักษาอาการของคุณยายได้สินะ
‘จะเก็บไว้ดีกว่าไหมนะ ? ถ้ากินซะตอนนี้ก็เสียดายของเปล่า ๆ’ เธออดที่จะเกิดความคิดเช่นนี้ไม่ได้
“ใช่ครับ กินไปเถอะครับจะได้บำรุงสุขภาพด้วย อีกอย่างผมก็ยังพอมีเหลืออยู่อีก” เหมือนจะอ่านใจของอีกฝ่ายได้ ชายหนุ่มจึงกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม ทำให้ฮวาเสี่ยวชิงต้องยกแก้วในมือขึ้นดื่มอย่างขัดไม่ได้
ยังไงมันก็เป็นของที่อีกฝ่ายให้มา จะไม่กินก็คงเสียมารยาทมากไปหน่อยเพราะเธอก็รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ได้มีอันตรายอะไร
“ขอบใจนะ” ฮวาเสี่ยวชิงยิ้มออกมาหลังจากที่ดื่มเสร็จ
“ฉันไม่เห็นรู้สึกอะไรเลยอ่ะ” มีเสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นมาจากข้างหลัง ชายหนุ่มเลยหันไปดูก็พบกับหญิงสาวผมชมพูที่ทำหน้ามุ่ยอยู่
“เธอเคยป่วยอะไรมาก่อนไหม ? หรือมีโรคเรื้อรังภายใน ? มีปัญหาสุขภาพรึเปล่า ?” เย่เซวียนกล่าวถามออกมา แต่คำถามของเขาไม่ค่อยจะดีสักเท่าไร ถ้าเป็นคนปกติที่คิดมากสักหน่อยก็อาจคิดว่าชายหนุ่มกำลังแช่งพวกเขาอยู่ก็เป็นได้
“ไม่อ่ะ ทำไมเหรอ ?” ฮวาหวู่หลิงตอบกลับมาด้วยใบหน้าไม่เข้าใจ
“ก็ไม่ป่วยไม่มีปัญหาภายใน ยามันจะไปรักษาอะไรให้เธอล่ะ!” ชายหนุ่มจึงตอบกลับไปด้วยใบหน้าเหนื่อยใจ ทำไมผู้หญิงคนนี้เวลาจะฉลาดก็แสนฉลาด แต่กลับเรื่องง่าย ๆ แค่นี้ดันคิดไม่ได้กันนะ
“อ๋อ! ฉันก็ลืมไปเลย แบบนี้กินไปไม่เสียของฟรีรึไง ?” หญิงสาวตัวเล็กที่ได้ยินคำตอบก็ร้องออกมาด้วยความเข้าใจก่อนจะรู้สึกเสียดายไม่ได้
“ไม่หรอก อย่างน้อยถ้ามีโรคหรือปัญหาภายในที่ไม่เคยตรวจพบเจอมันก็อาจช่วยได้ รวมถึงเรื่องเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นด้วย” ชายหนุ่มตอบกลับไป
เรื่องแรกนั้นเขาพูดจริง ส่วนเรื่องหลังนั้นเขาแค่โม้ขึ้นมา เพราะคุณสมบัติของมันคือการรักษาเท่านั้น แต่ก็คงไม่มีใครรู้อยู่แล้วนี่นา... จริงไหม ?