ตอนที่ 90: ถ้ารู้ก็ดี!
ร่างที่สง่างามของตงหวงจื่อโหยว ได้ปรากฏขึ้นในห้องโถงตำหนักปิศาจราวกับภูตผี.
ระหว่างทางที่นางเข้ามาราวกับว่า ไม่พบกับผู้ใดเลย.
สิ่งนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิง จากสิ่งที่นางคาดเดาเอาไว้ในตอนแรก
ดูเหมือนว่ามีคนเปิดทางไปยังห้องโถงใหญ่ของวังปีศาจไว้แล้ว ทำให้นางเดินทางมาที่นี่ ได้โดยไม่มีสิ่งกีดขวางตลอดทางเลย
"นี่คือ……"
ตงหวงจื่อโหยว ก้มศีรษะลงทันทีและเห็นร่างหลายร่างนอนอยู่ด้านหน้าของนาง.
นางก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
บุรุษร่างสูงและสง่าผ่าเผย นอนหงายอยู่บนพื้นตรงกลาง
ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว ราวกับว่ามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะเสียชีวิตไป
บนลำคอของเขามีรอยแผล ที่เห็นได้ชัดเจน
“กระบี่ทะลวงคอ!”
ตงหวงจื่อโหยว เหลือบมองชุดของจิงหวู่หยา ดวงตาที่สวยงามของนางก็ตื่นตะลึง!มากยิ่งขึ้น
"ดูเหมือนว่านี่คือจ้าวปีศาจอู๋เซิ่ง จริง ๆ แล้วเขา..."
“ถูกกระบี่ทิ่มทะลวงลำคอ!”
นางสำรวจไปรอบ ๆ ซึ่งพบกับจอมอาคมอีกสี่คนที่ร่างขาดสองท่อน จากนั้นก็ไม่มีร่องรอยของคนอื่นเลย.
นี่แสดงให้เห็นว่าคนที่ต่อสู้กับจ้าวปีศาจอู๋เซิ่งได้จัดการกับจ้าวปิศาจอู๋เซิ่งและผู้ใต้บังคับบัญชาอีกสี่คนไปก่อนแล้ว
“กล่าวกันว่าจ้าวปีศาจอู๋เซิ่ง ได้รับการฝึกฝนมานานกว่า 70,000 ปีแล้ว เขาเป็นมหาอำนาจในอาณาจักรจักรพรรดิที่มากประสบการณ์ และความแข็งแกร่งของเขาค่อนข้างแข็งแกร่งมาก”
“ยิ่งกว่านั้นเขายังมีพลังเหนือธรรมชาติที่น่าสะพรึงกลัวที่สามารถตัดกฎแห่งชีวิตและความตายได้ ใครกันที่สามารถบดขยี้เขาได้”
ตงหวงจื่อโหยวกำหมัดหยกไว้แน่น
"น่าเสียดาย ข้ายังมาช้าไปหนึ่งก้าว!"
นางเสียใจมากที่นางไม่เห็นร่างของบุรุษที่แข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้คนนั้น
“ฝ่าบาท หลังจากที่ท่านสังหารอู๋หง กองทัพของอาณาจักรอู๋เซิ่งก็ล่มสลายลงแล้ว ตอนนี้ทัพของพวกเราได้เข้าสู่เมืองหลวงอาณาจักรอู่เซิ่งได้แล้ว”
โหรวหยิงเดินเข้ามาจากด้านนอกพระราชวัง.
ตงหวงจื่อโหยว พยักหน้าเล็กน้อย นางรู้ว่าถ้าโหรวหยิงปรากฏตัวขึ้นแล้ว ก็แสดงถึงชัยชนะของเป่ยเสวียนเทียน.
“นี่ควรจะเป็นจ้าวปีศาจอู๋เซิ่ง ใครคือคนที่แข็งแกร่งที่สังหารเขากัน?”
เมื่อเห็นสถานการณ์ที่น่าเศร้าของจ้าวปีศาจอู๋เซิ่ง โหรวหยิงก็เผยความประหลาดใจออกมา.
“ถ้ารู้ก็ดี” ตงหวงจื่อโหยวแอบคิด
นางหันกลับมาทันที เอ่ยด้วยสีหน้าสง่าผ่าเผย:
“ออกคำสั่งให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทั้งสามกองทัพควบคุมเมืองทั้งหมดของอาณาจักรอู๋เซิ่งให้สมบูรณ์”
“ทหารทุกคนจะต้องไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ แต่ถ้าใครต่อต้านอย่างดื้อรั้น สามารถสังหารไปได้ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ!”
"นอกจากนี้ ส่งคนไปเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการยึดครองอาณาจักรอู๋เซิ่งของเป่ยเสวียนเทียน เพื่อปลอบโยนวิญญาณประชาชน 100,000 คนที่ถูกจ้าวปีศาจอู๋เซิ่งสังเวยไป"
โหรวหยิง พยักหน้าอย่างรวดเร็ว: "เพค่ะ ฝ่าบาท!"
-
เมื่อ หลินซวน กลับมาที่วังหยก เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็ยังคงทำของขวัญอยู่
เมื่อเห็นว่าผ่านมาหนึ่งชั่วโมงแล้ว หลินซวน ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยอย่างลำบากใจ:
“ธิดาที่รัก รับประทานอาหารเช้าก่อนทำของขวัญ ตกลงไหม?”
“เสด็จพ่อ เราไม่หิว!”
"ใช่ พวกเราต้องการทำของขวัญก่อน!"
สาวน้อยทุกคนเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์และพวกนางจะไม่มีวันยอมแพ้ เว้นแต่ว่าพวกนางจะได้สร้างของขวัญที่ยอดเยี่ยมสำเร็จออกมาได้แล้ว.
โครก คราก~
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่พวกนางเอ่ยจบ ท้องของพวกนางกลับกรีดร้องทีละคน ๆ
หลินซวน รู้สึกขบขันกับพวกนางมาก และยิ้มอย่างใส่ใจ: "ใครบอกว่าตอนนี้ไม่หิว?"
“เสวียนซี!”
“ไม่ เป็นเสวียนหาน!”
“ไม่ใช่ข้า แต่เป็นเสวียนหยู!”
เสวียนจู่ ชี้ไปที่เสวียนซี,เสวียนซี ชี้ไปที่ เสวียนหาน และ เสวียนหาน ชี้ไปที่ เสวียนหยู
เสวียนหยูยกมือเล็ก ๆ ของนางขึ้นแล้วส่ายหน้าขณะที่นางโบกมือ: "ไม่ใช่ข้า! ไม่ใช่ข้า! เป็นท้องของเสี่ยวจิ่วต่างหาก!"
หลินซวนรู้สึกตลกกับท่าทางของพวกนางเป็นอย่างมาก.
เขารู้ว่าสาวน้อยเหล่านี้อยากมอบของขวัญที่สุดออกไป
หลินซวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเอ่ยว่า: "ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าก็ทำต่อไป แล้วเสด็จพ่อจะนำอาหารมาป้อนให้พวกเจ้ากินไปด้วย"
"ยอดเยี่ยมเลย!"
เด็ก ๆ ต่างก็มีความสุขเป็นอย่างมาก.
เสด็จพ่อยังคงยอดเยี่ยม ที่ทำให้พวกเขาทำของขวัญและทานอาหารเช้าไปด้วยได้.
หลังจากนั้น หลินซวนก็นำอาหารเช้ามา
พร้อมกับป้อนอาหารให้กับสาวน้อยทีละคน ๆ.
เมื่อเห็นพฤติกรรมที่ระมัดระวังและเอาแต่ใจของหลินซวน คนรับใช้ที่อยู่ด้านข้างก็ประหลาดใจ
เป็นไปตามคาด วิธีดูแลบุตรสาวของตี้ฟู่ ช่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก.
-
ดินแดนหลานอวิ๋น พระราชวังหลวง
ในตอนเช้า ถนนยาวสิบลี้หน้าพระราชวังเต็มไปด้วยดอกไม้สีแดงและริบบิ้นผ้าแถบประดับตกแต่งที่ดูหรูหรา
บรรยากาศเต็มไปด้วยความรื่นเริงแจ่มใส.
ทุกคนที่เห็นภาพนี้ต่างพากันถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พวกเขาได้เห็นงานรื่นเริงที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ในพระราชวัง.
“ข้าได้ยินมาว่า วันนี้เป็นวันเกิดขององค์หญิง ไม่น่าแปลกใจเลยที่จะมีการเฉลิมฉลองใหญ่ขนาดนี้!”
“แต่ที่ข้ารู้มา การที่จัดงานใหญ่เช่นนี้ ไม่ใช่แค่เพราะเป็นวันเกิดขององค์หญิง”
“แล้วเพราะใครล่ะ?”
“จักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน!”
ถนนหลักในเมืองหลวงที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน เวลานี้มีผู้คนมากมายที่เดินทางมาที่นี่ก่อนเวลา.
อย่างไรก็ตาม มีบางคนคุ้นเคยกับเรื่องราวภายในพระราชวัง
มีหลาย ๆ คนที่รับรู้ว่าการที่จัดแต่งสถานที่ให้ดูโอ่อ่ายิ่งใหญ่เพียงนี้ เพราะผู้ที่จะมาร่วมงานก็คือ ผู้ทรงเกียรติจากเป่ยเสวียนเทียน.
เมื่อได้ยินข่าวนี้ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเห็นด้วยอย่างลับ ๆ
ปรากฎว่าจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียนกำลังมา จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ต้องตกแต่งสถานที่ให้ดูยิ่งใหญ่เลิศหรูเพียงนี้.
เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปฏิบัติต่อผู้ทรงเกียรติให้สมศักดิ์ศรี.
และในครั้งนี้
ภายในพระราชวัง นอกจากราชวงศ์ที่กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมงานเลี้ยงวันเกิดให้กับองค์หญิงถังหยิงแล้ว เหล่ารัฐมนตรีทุกคนต่างก็มาร่วมด้วย
เหตุผลที่พวกเขามาเร็วมากก็เพื่อจะได้เห็นพระพักตร์ของจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียนเป็นครั้งแรก
ในกลุ่มรัฐมนตรีชุดนี้
นอกจากสมุหนายกอู๋จิงเซียนแล้ว ยังมีโหราจารย์ไป่จุนเชียน
โดยปรกติแล้วอู๋จิงเซียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไป๋จุนเชียน จึงเอ่ยออกมาอย่างสบายว่า
“โหราจารย์ไป๋ ท่านมาเพื่อรอคอยต้อนรับตี้เช่นนี้แล้ว ได้เขียนอักษรอวยพรองค์หญิงไว้แล้วใช่ไหม?”
โหราจารย์ไป่จุนเชียนนั้นรับผิดชอบ ดาราศาสตร์ ประวัติศาสตร์ วรรณกรรมของชาติ เป็นคนที่มีความสามารถในด้านวรรณกรรมสูงมาก.
กล่าวได้ว่าเขาคือโหราจารย์และปรมาจารย์ด้านวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดของดินแดนรกร้างตะวันออก.
ในวันเกิดของกษัตริย์หลานอวิ๋น เขาก็ได้เขียนอักษรอวยพรให้กับอีกฝ่ายเป็นการส่วนตัวด้วย.
แต่วันนี้.
ไป๋จุนเชียนยืนอยู่ที่นี่ตั้งแต่ตอนเช้าเพื่อรอการมาถึงของหลินซวน ซึ่งทำให้อู๋จิงเซียนค่อนข้างอยากรู้อยากเห็น
หลาย ๆ คนเองก็รู้สึกสงสัยอยู่ด้วยเช่นกัน.
ไป๋จวินเชียนที่ส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย“อักษรอวยพรวันเกิดวันนี้ เปิ่นกวนไม่มีคุณสมบัติที่จะเขียน”
อู๋จิงเซียนที่เอ่ยถามด้วยความสงสัย“ท่านไม่มีคุณสมบัติแล้วใครมีคุณสมบัติเล่า?”
“แน่นอนว่าต้องเป็นตี้ฟู่แห่งเป่ยเสวียนเทียนที่กำลังจะมาถึง!”ไป่จุนเชียนที่กล่าวออกมาด้วยความยกย่องบูชา.
“ข้าเกรงว่าเจ้ายังไม่รู้ว่า ตี้ฟู่เป็นปราชญ์วรรณกรรมเพียงคนเดียวในดินแดนอมตะเก้าสวรรค์และทวีปคังหลงของพวกเรา”
“พรสวรรค์ทางวรรณกรรมของตี้ฟู่นั้น สามารถที่จะปลุกเหวินฉู่ชิงให้ปลดปล่อยแสงแห่งนักบุญออกมาเลย!”
อู๋จิงเซียนและคนอื่น ๆ ได้ยินต่างก็พยักหน้ารับ.
น่าเหลือเชื่อ ตี้ฟู่ช่างมีพรสวรรค์ที่น่าทึ่งเป็นอย่างมาก.
ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น แสงเจิดจ้าทะลุผ่านหมู่มวลเมฆา ส่องสว่างไปทั่วทั้งพระราชวังราวกับแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้น
ทุกคนต่างก็เงยหน้าขึ้นมอง
ซูมมม! ราชรถหยกที่ถูกลากโดยวิหคปีกฟ้าตัวใหญ่ยักษ์สีตัวก็ร่อนลงมาจากบนท้องฟ้า.
“ตี้ฟู่เสด็จ!”
รัฐมนตรีทุกคนต่างก็แสดงความตื่นเต้นออกมา
ช่างเป็นพรอันยิ่งใหญ่ที่ได้ต้อนรับการมาถึงของจักรพรรดิแห่งเป่ยเสวียนเทียนในครั้งนี้.