ตอนที่แล้วบทที่ 88: เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์จากที่ใดกัน?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 90: ถ้ารู้ก็ดี!

ตอนที่ 89: จ้าวปิศาจค่อนข้างอ่อนแอ!


ชายแดนของประเทศอู๋เซิ่ง.

ตงหวงจื่อโหยว ได้นำกองทัพเป่ยเสวียนเทียนหลายล้านคน เข้าต่อสู้กับกองทัพของอาณาจักรอู๋เซิ่งที่นำโดยอู๋หงแล้ว.

การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้อู๋หงและคนของอาณาจักรอู๋เซิ่ง เข้าใจอย่างแท้จริงว่าจักรพรรดินิเสวียนปิงนั้นทรงพลังและอหังการมาก.

ด้วยการมีตงหวงจื่อโหยวเป็นผู้นำ.

รอบ ๆ ตัวของนางภายในรัศมีหนึ่งลี้ แทบไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ได้เลย.

พลังของกฎอมตะที่ลึกลับยังคงหมุนวนอยู่รอบ ๆ ตัวนาง

เมื่อนางเปิดการโจมตีออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลังที่รุนแรงบ้าคลั่งได้ผลักดันทำลายทุกอย่างด้านหน้าไปทั้งหมด.

สิ่งหนึ่งที่ทำให้อู๋หงและคนอื่น ๆ ตกใจ พวกเขาพบว่ากระบวนท่าของตงหวงจื่อโหยวนั้นมีพลังปิศาจแฝงอยู่ด้วย.

“ผู้ฝึกตนเซียนปิศาจ จักรพรรดินิเสวียนปิงช่างเป็นอสุรกายจริง ๆ!”

“พรสวรรค์ของสตรีผู้นี้หาได้ยากยิ่งในโลก การต่อสู้ครั้งนี้แย่แล้ว!”

อู๋หงและแม่ทัพปิศาจคนอื่น ๆ ต่างก็ทอดถอนหายใจยาว.

เนื่องจากตงหวงจื่อโหยวที่เป็นคนเปิดทาง ทำให้นักรบของนางสามารถเคลื่อนที่ไปด้านหน้าได้อย่างราบรื่น.

ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง กองทัพของนางก็เคลื่อนที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงอาณาจักรอู๋เซิ่งเพียงสามร้อยลี้เท่านั้น.

ยิ่งสถานการณ์เสียเปรียบขึ้นทุกขณะ อู๋หงที่หันหน้ากลับไปมองเมืองหลวงด้วยท่าทางกระวนกระวายใจ.

“เหตุใดฝ่าบาทยังไม่ปรากฏอีก?”

จักรพรรดินิเสวียนปิงคือยอดฝีมือขอบเขตจักรพรรดิ ความแข็งแกร่งของนางนั้นเหนือกว่าพวกเขามาก.

แม้นว่าพวกเขาจะสกัดกั้นกองทัพเสวียนปิงได้ แต่พวกเขาจะขัดขวางจักรพรรดินิเสวียนปิงได้อย่างไร.

ในอาณาจักรอู่เซิ่งแห่งนี้ คงมีเพียงแค่จ้าวปิศาจอู๋เซิ่งเท่านั้นที่จะรับมือนางได้.

อย่างไรก็ตาม จ้าวปิศาจอู๋เซิ่งไม่ได้แจ้งแผนการให้กับอู๋หงรู้ทั้งหมด ว่าอีกฝ่ายต้องการทำอะไร ทำให้อู๋หงทำได้แค่รอคอยอย่างกระวนกระวาย เวลานี้หัวใจเต้นไปมาไม่เป็นจังหวะแล้ว.

ปัง

ตงหวงจื่อโหยว ถือกระบี่ฟีนิกซ์น้ำแข็ง ทุกครั้งที่ฟันออกไป พื้นที่สิบลี้ต้องสั่นสะเทือน.

เมื่อเห็นพลังของตงหวงจื่อโหยว อู่หงที่กวาดตามองสนามรบ ก่อนที่จะตัดสินใจส่งคนเข้าไปยังตำหนักปิศาจเพื่อขอการสนับสนุนจากจ้าวปิศาจอู๋เซิ่ง.

อย่างไรก็ตามความตั้งใจของอู๋หงนั้นกับอยู่ในการเฝ้ามองของตงหวงจื่อโหยว ทำให้นางรุกหนักเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น.

“เวลานี้ กองทัพของอาณาจักรอู๋เซิ่งเกินจะต้านแล้ว จ้าวปิศาจอู๋เซิ่งควรจะปรากฏตัวได้แล้ว.”

“เป็นไปได้ว่าเขายังไม่ปรากฏตัว เพราะมีเรื่องอื่น หรือประสบปัญหา....”

ตงหวงจื่อโหยว เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ทิศทางพระราชวังอู๋เซิ่ง.

นางคาดการว่าหากว่า ยังคงก้าวหน้าเช่นนี้ น่าจะใช้เวลาราว ๆ หนึ่งก้านธูป.

กล่าวได้ว่านางได้ควบคุมกระแสสงครามได้อย่างหมดจดแล้ว.

ทว่าเพื่อให้สามารถยึดครองอาณาจักรอู๋เซิ่งได้ ก็ต้องจับกษัตริย์ก่อน เมื่อสามารถจัดการกับจ้าวปิศาจอู๋เซิ่งได้ อาณาจักรแห่งนี้ก็ถือว่าล่มสลาย.

หลังจากนั้นนางก็พุ่งออกไป ตรงไปหาอู๋หงทันที.

ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นทิศทางที่มุ่งสู่เมืองหลวงอาณาจักรอู๋เซิ่งด้วย.

เมื่ออู๋หงเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ดวงตาของเขาก็สั่นไหวร่างกายสั่นเทา: "จักรพรรดินีเสวียนปิงกำลังพยายามบุกไปยังวังหลวงปิศาจเพียงลำพังหรือไม่? "

ตูมมมม!

พริบตานั้น แสงสีฟ้าก็พุ่งทะลวงร่างของเขาแล้ว.

กระบี่ฟินิกซ์น้ำแข็งของจักรพรรดินิตงหวงจื่อโหยวได้เสียบหลังของอู๋หงเรียบร้อยแล้ว.

“แย่แล้ว กระบี่ของจักรพรรดินิเสวียนปิงทรงพลังมาก ข้ามองไม่เห็นนางการลงมือของนางเลย!”

“จักรพรรดินิเสวียนปิงโหดเหี้ยมมาก พวกเราไม่อาจเข้าใกล้นางนี้ได้เลย นางน่ากลัวเกินไปแล้ว!”

“แย่แล้ว ผู้นำทัพตายแล้ว เวลานี้เป็นปัญหาใหญ่แล้ว!”

การโจมตีของตงหวงจื่อโหยวได้ทำให้กองทัพของอาณาจักรอู๋เซิ่งระส่ำระส่าย.

ในเวลานี้ ทหารหลายล้านคนของอาณาจักรอู๋เซิ่งเต็มไปด้วยความโศกเศร้า.

-

พระราชวังปีศาจอาณาจักรอู๋เซิ่ง

จิงอู๋หยาจ้องมองไปที่หลินซวนครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาสั่นไหวไปมาทันที: "เจ้าคือบุรุษของจักรพรรดินีเสวียนปิง!"

ชื่อของจักรพรรดินีเสวียนปิงนั้นเหมือนฟ้าร้อง ทุกคนรู้ดีว่าบุรุษของนางเองต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่.

บุรุษที่อยู่ด้านหน้านั้นช่างโดดเด่นราวกับอมตะจุติบนผืนโลก.

คงมีเพียงตงหวงจื่อโหยวที่ถือว่ามีความงามอันดับหนึ่งของแดนอมตะเก้าสวรรค์ที่เคียงคู่อีกฝ่ายได้.

เมื่อรวมสองเหตุการณ์เมื่อคืนนี้เข้ากับสิ่งที่หลินซวนเอ่ย.

จิงอู๋หยา มั่นใจ 90% และสรุปว่า หลินซวน เป็นสามีของจักรพรรดินีเสวียนปิง.

เมื่อจอมอาคมและขุนพลปิศาจได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาต่างก็มองหลินซวนด้วยความประหลาดใจเช่นกัน.

ปรากฎว่าบุรุษของจักรพรรดินีเสวียนปิงเป็นเช่นนี้ และเขามีรูปลักษณ์ที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ!

มุมปากของหลินซวน โค้งงอเล็กน้อย: "เจ้าเดาถูกแล้ว"

จิงอู๋หยา ถอนหายใจด้วยอารมณ์: "ข้าเดามานานแล้วว่าบุรุษของจักรพรรดินีเสวียนปิงไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา และตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีพลังมากกว่าที่ข้าคิด"

ประตูอาคมของแดนปีศาจสวรรค์สามารถเปิดได้โดย รวมพลังของจอมอาคมที่สะสมพลังมากว่าหมื่นปี.

นี่คือค่ายกลกาลอวกาศที่ซับซ้อนทรงพลังอย่างยิ่ง.

อย่างไรก็ตาม หลินซวนกลับสามารถเดินออกจากประตูอาคมได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น

นี่แสดงให้เห็นว่า หลินซวน ไม่เพียงแต่มีพลังบ่มเพาะที่สูงส่ง ทว่ายังเชี่ยวชาญค่ายกลปิศาจอีกด้วย.

หากไม่เอ่ยเกินจริง จิงอู๋หยาเชื่อว่าหลินซวนนั้นคือผู้ฝึกตนเซียนปิศาจที่มากสวรรค์อย่างยิ่ง.

“เจ้าหมายถึงว่าข้าเพิ่งเดินออกมาจากประตูอาคมได้อย่างไรงั้นรึ?” หลินซวน ยิ้มอย่างสนุกสนาน "อันที่จริง ค่ายกลแบบนี้ไม่ได้มีอะไรดีเลย"

เมื่อเขาเข้าไปในวังปิศาจ เขาก็ค้นพบว่า กาลอากาศรอบ ๆ เปลี่ยนไป.

หลังจากตรวจสอบอย่างรอบคอบแล้ว เขาก็ค้นพบว่านี่เป็นค่ายกลกาล-อวกาศที่แข็งแกร่งมากในหมู่ปีศาจ... ประตูอาคม.

ด้วยการครอบครองตำราค่ายกลสิบทิศ เขาก็สามารถค้นหาข้อบกพร่องของประตูอาคมได้อย่างง่ายดายและเข้าไป แล้วเดินออกมา.

จอมอาคมทั้งสี่รู้สึกอับอายเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว: "จักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน เจ้าพูดเกินไปแล้ว! ไม่เห็นพวกเราอยู่ในสาย ... "

“เจ้าต้องการพูดอะไรอย่างงั้นรึ?”หลินซวนที่โจมตีออกไปทันที ริ้วแสงกระบี่ส่องสว่าง ฟันร่างจอมอาคมทั้งสี่ล่วงหล่นลงขาดเป็นสองท่อนไปในทันที.

เห็นภาพฉากดังกล่าว

ไม่เพียงแต่จิงอู๋หยาที่ตื่นตะลึง! กระทั่งขุนพลปิศาจชั้นยอดทั้งสามพันคนก็อดไม่ได้ที่ต้องอุทานออกมา.

“จอมอาคมทั้งสี่ล้วนแต่อยู่ในขอบเขตจ้าววิญญาณสูงสุด ทว่าจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียนสังหารง่าย ๆ แบบนี้เลย ร้ายกาจไปแล้ว!”

“เป็นขอบเขตจักรพรรดิที่ทรงพลังมาก!”

พวกเขายังรู้สึกว่าหลินซวนยังเผยพลังออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น.

พวกเขาไม่กล้าลังเลอีกต่อมา ขุนพลปิศาจทั้งสามพันก็โจมตีออกมาพร้อมกับ สร้างค่ายกลสังหารขนาดใหญ่เพื่อจัดการหลินซวนทันที.

“แส่หาความตาย!”

ดวงตาของหลินซวนที่เป็นประกายแสงสีทอง ทันใดนั้นเพลิงศักดิ์สิทธิ์หนานหมิงก็ลุกไหม้ลามออกไปทันที.

ซูมม! ซูมมม!

เพลิงที่น่าสะพรึงกลัวสองดวงลุกท่วมทั่วทั้งวังปิศาจทันที.

คลื่นความร้อนที่กวาดผ่านไปรอบ ๆ ทันที.

ดูเหมือนว่าขุนพลปิศาจทั้งสามพันจะจมอยู่ในทะเลเพลิงเสียแล้ว.

เสียงกรีดร้องดังกังวาน เปลวเพลิงที่น่าพรั่นพรึงเผาไหม้พวกเขาไปอย่างรวดเร็ว.

“เนตรทองคำเพลิงศักดิ์สิทธิ์!”จิงอู๋หยาที่กำหมัดแน่นด้วยความตกใจ.

เขารู้สึกอีกครั้งว่าเขายังประเมินหลินซวนต่ำไป

ในขณะนี้ เขาหวังที่จะบดขยี้หลินซวน ด้วยทักษะที่แข็งแกร่งมากที่สุดทันที.

“ดาบไร้กำเนิด!”

จิงอู๋หยา กระตุ้นแก่นแท้ในร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว และใช้พลังอาคมที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเต็มกำลัง

ซูมมม!จุดแสงสีดำหลายพันล้านจุดปรากฏขึ้นในอากาศทันที

เมื่อ จิงอู๋หยา ยกมือขึ้น เขาก็ดึงดูดจุดแสงทั้งหมดเหล่านั้นเอามาไว้ในฝ่ามือของเขา

หลังจากนั้น ดาบยักษ์สีดำโปร่งใสก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา

แสงสีดำที่เต็มไปด้วยภูตผีหลอกหลอนผสานเข้ากัน ทำให้ดาบเล่มนี้ราวกับว่าไม่ใช่สิ่งของโลกนี้อีกต่อไป.

“ข้าจะม่ยอมให้ขุนพลปิศาจทั้งสามพันของข้าโดดเดี่ยวอีกต่อไป ข้าจะส่งเจ้าไปพร้อมกับพวกเขา!”

ดาบไร้กำเนิดของจิงอู๋หยาที่อาบไปด้วยพลังอาคมที่น่าเกรงขาม.

มันมีพลังแห่งกฏที่สามารถตัดกฎแห่งชีวิตและความตายได้ ดังนั้นมันจึงถูกเรียกว่าดาบไร้กำเนิด.

เขามั่นใจว่าเขาสามารถเปลี่ยนความพ่ายแพ้ให้เป็นชัยชนะได้โดยกระบวนท่าที่ทรงพลังที่สุดของเขา.

ปัง

ดาบไร้กำเนิดของเขาที่ตัดพลังชีวิตของหลินซวน.

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะสัมผัสร่างกายของหลินซวน มันกลับถูกพลังลึกลับทำลายไปจนหมดสิ้น

“อา นี่มัน! เกิดอะไรขึ้น?” จิงอู๋หยาตกใจมาก

เป็นอาคมป้องกันร่างกายแบบไหนที่สามารถป้องกับดาบที่ตัดพลังแห่งกฎได้?

ไม่มีเวลาให้จิงอู๋หยาได้คิดแม้แต่น้อย.

สิ่งหนึ่งที่บอกได้ หลินซวนคืออุปสรรคที่เขาไม่อาจผ่านไปได้ในวันนี้.

มันจบแล้ว!

หลินซวน กล่าวดูแคลน: "มีแค่นี้รึ? จ้าวปีศาจอ่อนแอสักเล็กน้อย!"

ก่อนที่เขาจะเอ่ยจบ กระบี่ยาวในมือของเขาก็เคลื่อนไหว.

เมื่อรู้สึกถึงเจตนาสังหารของหลินซวนที่ล็อคเป้ามายังเขา หัวใจของจิงอู่หยาก็สั่นไปมาอย่างรุนแรง ก่อนที่จะตะโกนลั่น

“จักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน ข้ามีเรื่องจะเอ่ย ข้าเป็นสมาชิกของพันธมิตรเต๋าปิศาจ หากว่าไว้ชีวิตข้า  ...”

ปัง!

หลินซวนแทงคอเขาด้วยกระบี่!

หลินซวนจ้องมองจิงอู๋หยา ที่ถูกแทงพร้อมเอ่ยอย่างเย็นชาดูถูก“เจ้าสำคัญตัวเองผิดไปแล้ว!”

ด้วยการสะบัดข้อมือ เขาก็ดึงกระบี่ออกมา

จิงอู๋หยา จ้าวปิศาจอู่เซิ่งก็ล่วงหล่น ตกตายไปอย่างสมบูรณ์.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด