ตอนที่ 41
ตอนที่ 41
“นายท่าน โปรดออกคำสั่ง ” เหย33พูดช้าๆ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง
“หัวหน้าตระกูลซือถู ซือถูหยุนเทียน” เต๋าซุน พูดเบา ๆ
“รับคำสั่ง” เหย33 ตกตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็พยักหน้าช้าๆ แล้วหายไปจากห้อง
เต๋าซุนมองไปยังห้องที่เงียบสงบและเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองดูดวงจันทร์ที่สดใสค่อยๆเผยเหนือก้อนเมฆ
“น่าเสียดายที่ความต้องการของข้านั้นคือตระกูลที่พร้อมจะเป็นขี้ข้า แต่เจ้ากลับมีความคิดของตัวเองมากไป ”
…………
ในลานด้านในของตระกูลซือถู ซือถูหยุนเทียนที่แต่งตัวเสร็จก็นึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้
เขารู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าเรื่องคงไม่จบลงง่ายๆเช่นนี้แน่นอน แต่ทัศนคติของเต๋าซุนนั้นทำให้เขาสับสน
ตอนนี้เองสายลมแรงก็พัดเข้ามาดับไฟในห้อง
ซือถูหยุนเทียนก็ตอบสนองมองไปยังสีดำที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าต่าง
ทันทีเขาก็ตระหนักได้
พลังอันแข็งแกร่งระดับ 4 ก็ปกคลุมไปทั่วห้อง และม่านเตียงก็ปลิวไปตามสายลมเบาๆ
"เจ้าเป็นใคร ?" ซือถูหยุนเทียน หายใจเข้าลึก ๆ และกลิ่นอายระดับ 3 ในร่างของเขาก็เพิ่มขึ้นทีละน้อย
เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหาร หัวใจของเขาก็เต้นเร็วขึ้นกว่าปกติ
จิตสังหารปกคลุมไปทั่วห้อง ชายชุดดำยกมีดขึ้นเล็กน้อย และร่างของเขาก็กลายเป็นภาพติดตาในอากาศ
ดวงตาของซือถูหยุนเทียนจมลง และสีหน้าก็ตกตะลึง ในขณะที่เขาไม่มีเวลาตอบโต้แม้แต่น้อย ร่างของเขาก็กลายเป็นหนาวเย็นทั่วทั้งตัว
เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อยและเห็นว่าเอวของเขาถูกตัดออกโดยตรงและร่างกายของเขาก็ถูกแยกเป็นสองส่วนแล้ว
เขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและมองดูชายชุดดำแต่พูดไม่ออก เลือดไหลทะลักออกมาจากปากของเขาในขณะที่ค่อยๆร่วงหล่นลงกับพื้น
…………
ในโรงแรมหลินเจียง เต๋าซุนก็ฟังรายงานของเหย 33 และพยักหน้าเล็กน้อย "ในเมื่อมีคนตาย ก็ต้องมีผู้รับผิด "
“ท่านหมายความเช่นใดนายน้อย ” เหย33 ถามอย่างงุนงง
“ผู้อาวุโสทั้งสามของตระกูลซือถูนับว่าเป็นตัวเลือกที่ดี ” เต๋าซุนก็กล่าวขึ้นขณะนึกถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ
“แต่พวกเขาจะรับโทษด้วยความเต็มใจได้อย่างไร”เหย33 ถามอย่างสงสัย
“ทุกคนล้วนมีสิ่งที่ต้องการเมื่อกำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้ สถานะ ความมั่งคั่ง หญิงงาม หรือความแข็งแกร่ง ?” เต๋าซุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เหย33พยักหน้า เขามองดูเต๋าซุนโบกมือ จากนั้นร่างของเขาก็ค่อยๆ หายไป
…………
ค่ำคืนก็ผ่านไปอย่างเงียบเฉียบ และในเช้าวันรุ่งขึ้น ความเศร้าโศกก็ปกคลุมไปทั้งตระกูลซือถู
ซือถูหยุนเทียนเสียชีวิตแล้ว การตายของหัวหน้าตระกูลใหญ่แห่งเมืองโจวชูนั้นทำให้ผู้คนตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
ตระกูลซือถูทั้งหมดอยู่ในสภาพหดหู่ ซือถูหยุนเทียน มีลูกชายสามคน และเมื่อรวมซือถูหยุนเหม่ยที่เป็นลูกสาวอีกคนแล้ว เขาก็มีบุตรทั้งสิ้นสี่คน
ในเวลานี้ เต๋าซุน, เจ้าปลาน้อย และเสี่ยวกุ้ยจื่อต่างก็เดินเข้ามาในบ้านตระกูลซือถูพร้อมกัน และพวกเขาก็เห็นกลุ่มคนกำลังร้องห่มร้องไห้อยู่รอบๆเปลหาม
ร่างของ ซือถูหยุนเทียน ถูกเย็บเข้าด้วยกันและห่อด้วยผ้าสีขาว
“ท่านพ่อ ข้าจะหาฆาตกรให้พบและนำมันมาสังเวยให้กับวิญญาณของท่านบนสวรรค์ ” ซือถูโป ลูกชายคนโตของซือถูหยุนเทียนก็กล่าวคำมั่น
ซือถูหยุนเหม่ยก็คุกเข่าลงด้านข้างเช่นกัน จากนั้นนางก็มองดูสีหน้าของทุกคนที่อยู่รอยๆโดยหวังว่าจะพบเบาะแสบางอย่าง
จากนั้นเธอก็มองไปที่ชายเปลหามด้วยสายตาสับสน แม้ว่านางจะเพิ่งรู้จักพ่อของตัวเองได้ไม่นาน แต่ชายคนนี้ก็ให้ความสำคัญต่อนางเป็นอย่างยิ่งตอนที่นางมาถึงตระกูล
ในตอนแรกนางค่อนข้างเย็นชาต่อซือถูหยุนเทียน เพราะคิดว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ยอมดูแลแม่ให้ดีและทิ้งนางที่เป็นบุตรสาวไป
แต่นั่นเป็นเพียงความไม่พอใจตั้งแต่ยังเด็กเท่านั้น จริงๆแล้วนางเองก็ยอมรับในตัวบิดาคนนี้ไม่น้อย
แต่ตอนนี้ พ่อของนางได้นอนอยู่บนเปลหามนองเลือดแล้ว ซึ่งนี่ก็อดไม่ได้ที่จำให้นางเศร้าเล็กน้อย
…………
ในเวลานี้ เต๋าซุน มองไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนลานกว้าง เขาผลักผู้คนที่อยู่รอบๆเปลหามออก และนั่งลงข้างๆร่างของซือถูหยุนเทียนและพูดอย่างลึกล้ำ : "พี่ใหญ่หยุนเทียน แม้ว่าท่านกับข้าจะพบกันเพียงครั้งเดียว แต่เราก็คือสหายที่เรียกได้ว่าเป็นวีรบุรุษของกัน
เมื่อวานข้ายังไม่ได้เล่าเรื่องราวชีวิตให้ท่านฟังเลย นึกไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่ตื่นเดียวเราก็ต้องพรากจากกันเช่นนี้แล้ว
ดังคำกล่าวที่ว่า คนดีมักอายุไม่ยืนยาว จริงๆ โชคชะตาช่างเล่นตลกกับผู้คนนัก เหตุใดถึงได้นำพาคนดีเช่นท่านไปจากข้า ! "
“พี่ใหญ่ อย่าเศร้าไปเลย เศร้าเพียงใดเขาก็คงไม่กลับมา ” เสี่ยวกุ้ยจื่อก็ปลอบใจอย่างรวดเร็ว
“ข้ารู้ เพียงแต่ข้าเสียดายวีรบุรุษอย่างพี่หยุนเทียนเป็นอย่างยิ่ง ” เต๋าซุน หายใจเข้าลึก ๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
จากนั้นเขาก็มองไปที่ถือถูหยุนเหม่ยที่กำลังสะอื้นเบาๆ และพูดแนะนำ "เจ้าอย่าเศร้าเกินไปเลย สิ่งสำคัญตอนนี้คือตามหาตัวฆาตกรให้เจอโดยเร็วที่สุดเพื่อล้างแค้นให้กับพ่อของเจ้า "
ซื่อถูหยุนเหม่ยพยักหน้าช้าๆ นางมองไปที่ เต๋าซุน และพูดอย่างคาดหวัง: "ข้ารู้ว่าท่านมีความสามารถ ท่านช่วยข้าได้หรือไม่ "
ไม่ว่า ซือถูหยุนเหม่ย จะเข้มแข็งเพียงใดในชีวิตก่อนหน้านี้ที่เขารู้จัก แต่ตอนนี้นางเป็นเพียงหญิงสาวที่อ่อนแอเท่านั้น
เนื่องจากไม่มีใครพึ่งพาและไม่มีกองกำลังใดคอยสนับสนุน มันจึงเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่นางจะหาตัวฆาตกรได้ด้วยตัวเอง
“ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากช่วยเจ้า เพียงแต่ว่านี่มันเป็นเรื่องภายในของตระกูลซือถู และมันเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่คนนอกเช่นข้าจะเข้าไปยุ่งได้ และบางทีอาจเกิดข่าวลือที่แย่อีกด้วย ” เต๋าซุนกล่าวอย่างเชื่องช้า
ซือถูหยุนเหม่ยเงียบไปครู่หนึ่ง นางไม่รู้ต้องพูดอะไร
“เรามาจัดพิธีศพให้พ่อของเจ้ากันก่อนเถอะ แม้ว่าข้าจะเข้าไปยุ่งเรื่องสืบสวนไม่ได้โดยตรง แต่ข้าก็ยังสามารถจับตาดูสอดส่องหาฆาตกรให้เจ้าได้” เต๋าซุนกล่าวปลอบใจสองสามประโยคก่อนเดินจากไปพร้อมกับพวกเสี่ยวกุ้ยจื่อ
“พี่ซุน ท่านอยากรับช่วงตระกูลซือถูต่องั้นหรือ ?” เจ้าปลาน้อยก็ถามอย่างสงสัยระหว่างทางกลับ
“เจ้าเห็นว่าไง?” เต๋าซุนถามด้วยรอยยิ้ม
“ข้าไม่แน่ใจ แต่ข้าคิดว่าท่านสนใจตระกูลซือถูมากเกินไปหน่อย ”เจ้าปลาน้อยก็กล่าว
“ก็ประมาณนั้นแหละ แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา ไฟยังสว่างไม่พอ ” เต๋าซุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“แล้วเราจะทำไงกันต่อดีพี่ใหญ่” เสี่ยวกุ้ยจื่อที่อยู่ด้านข้างก็ถาม
“เจ้าไปหาตระกูลหวังและตระกูลหว่าน บอกให้พวกเขาร่วมมือกันคว่ำบาตรธุรกิจของตระกูลซือถู ” เต๋าซุนหันไปพูดกับเจ้าปลาน้อย
ที่เมืองโจวชูแห่งนี้ นอกจากตระกูลซือถูแล้วก็มีเพียงตระกูลหว่านกับตระกูลหวังเท่านั้นที่สามารถเทียบกันได้ ตอนนี้เมื่อเสาหลักเช่นซือถูหยุนเทียนหายไป ย่อมเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่อีกสองตระกูลจะสนใจในผลประโยชน์จากตระกูลซือถู
“เสี่ยวกุ้ยจื่อ ส่วนเจ้าไปหาใครสักคนมา ส่งพวกเขาไปยุยงบุตรชายทั้งสามคนของซือถูหยุนเทียน ปลุกปั่นให้พวกเขาฆ่ากันเองเพื่อแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าตระกูล ” เต๋าซุนกล่าว
“ไม่ต้องกังวลพี่ใหญ่ ข้าจะทำให้ตระกูลซือถูปั่นป่วนทะลวงใส้จนถึงที่สุดแน่นอน ” เสี่ยวกุ้ยจื่อตอบอย่างมั่นใจ
“เมื่อทุกอย่างอยู่นอกเหนือการควบคุม ตอนนั้นข้าจะเป็นคนเข้าไปจัดการทุกสิ่ง ” เต๋าซุน พูดช้าๆ “ข้าต้องการให้ซือถูหยุนเหม่ยผู้นี้เป็นกองกำลังของข้าด้วยความเต็มใจ”
“พี่ซุน แล้วเหตุใดท่านไม่ลงมือตรงๆไปเลยล่ะ ? มันลำบากขนาดนั้นเชียวหรือ?” เจ้าปลาน้อยก็ถามอย่างงุนงง
“เจ้าต้องเข้าใจก่อนว่าแม้เราจะเป็นตัวร้าย แต่เราก็หาใช่คนไร้สมอง” เต๋าซุน กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ สิ่งที่ข้าต้องการไม่ใช่แค่ตัวของซือถูหยุนเหม่ยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหัวใจของนางด้วย
และตระกูลซือถูก็ถือว่าเป็นหมากที่น่าสนใจอย่างยิ่ง นอกจากนี้ข้าฝากเจ้าไปบอกเหย33ด้วยว่า ข้าสั่งให้เขาไปเมืองเทียนเจียนเพื่อตามหาชิลีชางคง และบอกให้ชิลีชางคงมาหาข้าที่นี่ "