ตอนที่ 40
ตอนที่ 40
“ไปดูสิ” ซือถูหยุนเทียนพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
เมื่อเขาพาผู้อาวุโสทั้งสามมาถึงประตู พวกเขาก็ศิษย์ลาดตระเวนหลายคนนอนจมกองเลือดอยู่ และร่างของอาจารย์ลู่เองก็นอนกองอยู่ข้างๆกัน
ดูเหมือนว่าเขาจะถูกฆ่าด้วยดาบ และบาดแผลที่คอของเขาก็เฉียบคมเป็นอย่างยิ่ง
“ข้าน้อยสอบถามได้ไหมว่าอัจฉริยะดาบของนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์มาเยือนที่บ้านตระกูลซือถูด้วยเรื่องอันใด ” ซือถูหยุนเทียนมองไปที่เต๋าซุนและถาม
“เจ้าเป็นใคร” เต๋าซุนพูดอย่างลวกๆ
“ข้าน้อยหัวหน้าตระกูลซือถู ซือถูหยุนเทียน ”
“เจ้ามาก็ดีแล้ว ข้าอยากรู้พอดีว่าตระกูลซือถูขุ่นเคืองอะไรพวกเราถึงได้ส่งมือสังหารมาสร้างปัญหา ?” เต๋าซุน ถาม
“เหตุใดท่านถึงได้พูดเช่นนั้น มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึ ?” ซือถูหยุนเทียนถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ข้ามาจากกลุ่มทหารรับจ้างไป่เหอเป็นพยานได้ ที่เมืองโจวชูตอนเที่ยงวันนี้ หัวหน้าพ่อบ้านตระกูลซือถูของเจ้าได้มาหาหัวหน้าของข้าและบอกให้เขาฆ่าคนให้สองสามคน” เสี่ยวกุ้ยจื่อกล่าวอย่างเร่งรีบ
จมูกของเขาเต็มไปด้วยน้ำหูน้ำตา และทักษะการแสดงก็ถูกใช้ออกมาอย่างสุดฤทธิ์
“เจ้าเป็นใคร” ซือถูหยุนเทียน มองไปที่เสี่ยวกุ้ยจื่อแล้วถาม
“ข้าเป็นน้องชายเล็กเพิ่งมาใหม่ของหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างไป่เหอ” เสี่ยวกุ้ยจื่อตอบ
“พวกท่านอย่าเพิ่งวู่วาม บางทีอาจมีเรื่องเข้าใจผิดกันอยู่บ้าง ” ซือถูหยุนเทียน คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดกับคนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ เขาว่า "ไปเรียกไห่ต้าฟู่มา"
คนรับใช้ก็รีบจากไป และไม่นานหลังจากนั้นก็เห็นชายอ้วนคนหนึ่งเดินมาด้วยท่าทีเซื่องซึม
เพราะเขาอ้วนเกินไป เพียงเดินไม่กี่ก้าวตอนนี้ก็ดูราวกับหายใจไม่ทันหาย
“เป็นเขานั่นแหละ”เสี่ยวกุ้ยจื่อชี้ไปที่ชายอ้วนแล้วตะโกน
ซือถูหยุนเทียน ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ไห่ต้าฟู่เดินไปหาซือถูหยุนเทียน และพูดด้วยความเคารพ: "นายท่านมีอะไรให้ข้าน้อยรับใช้หรือขอรับ"
“เจ้าไม่รู้รึว่าทำอะไรลงไป” ซือถูหยุนเทียนถามอย่างเฉียบขาด
“นายท่าน ข้าไม่ทราบเรื่องนี้เลย ” ไห่ต้าฟู่ส่ายหัวอย่างรวดเร็วและตอบด้วยความหวาดกลัว
“ข้าขอถามเจ้า เจ้าเป็นคนส่งมือสังหารไปสังหารอัจฉริยะจากนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองสามคนใช่หรือไม่ ” ซือถูหยุนเทียน กล่าว
“นายท่านย่อมรู้ แม้ว่าข้าจะใจกล้ากว่านี้อีกสักร้อยเท่า ข้าก็มิกล้าขอรับ” ไห่ต้าฟู่คุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว น้ำตาไหลท่วมหน้าของเขา และทักษะการแสดงของเขาที่ปรากฏก็แซงหน้าเสี่ยวกุ้ยจื่อไปหลายเท่า
“พวกท่านอาจเข้าใจผิดแล้วหรือไม่ ” ซือถูหยุนเทียน หันศีรษะมองไปที่ เต๋าซุน แล้วพูดว่า“ และอีกอย่างพวกท่านช่วยแสดงเหรียญตราศิษย์ของนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ให้ข้าดูได้หรือไม่ ?
ไม่ใช่ว่าข้าสงสัยในตัวพวกท่าน ข้าแต่อยากมั่นใจ "
“ข้ามีตราลักษณ์ศิษย์สายใน ” เสี่ยวกุ้ยจื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และวางสัญลักษณ์ของเขาไว้ตรงหน้าซือถูหยุนเทียน
“นี่มันของจริงแน่รึ?” ซือถูหยุนเทียนก็ดูอารมณ์เสียเล็กน้อย “เดี๋ยว ไม่ใช่ว่าเจ้าบอกว่าตัวเองมาจากกลุ่มทหารรับจ้างไป่เหอหรอกรึ ?
จู่ๆ เจ้าจะเปลี่ยนเป็นศิษย์สายในของนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ได้เยี่ยงไร ? "
แต่ถึงยังไงความจริงมันก็ยังไม่เปลี่ยนไป เรื่องนี้ทำให้ซือถูหยุนเทียนลำบากเล็กน้อย หากอีกฝ่ายที่ดูเหมือนผู้ติดตามเป็นศิษย์สายในของนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์จริงๆล่ะก็ แล้วชายหนุ่มที่เป็นผู้นำนั้นจะมีสถานะสูงเสียงเพียงใด
“เจ้าไม่ยอมรับรึ?” เต๋าซุน ก้าวไปข้างหน้าและถามว่า: "บางทีเจ้าอาจไม่ใช่คนสั่งการ แต่มีบางคนอยู่เบื้องหลัง "
“ข้าน้อยไม่ทราบจริงๆขอรับ” ไห่ต้าฟู่ดูสับสน เขาเหลือบมองผู้อาวุโสทั้งสามแล้วพูดอย่างเร่งรีบ
“เจ้ายังไม่จำเป็นต้องรีบปฏิเสธ” เต๋าซุน กล่าว: “ในนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ของเรามีวิธีลับค้นวิญญาณที่สามารถตรวจสอบความทรงจำทั้งหมดในหนึ่งเดือนที่ผ่านมาของคนนั้นอยู่
แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ถูกวิธีนี้ย่อมเลวร้ายอย่างที่สุด เพราะไม่เป็นบ้าก็คงกลายเป็นโรคสมองเสื่อมร้ายแรงไปเลย ” ˆ
การแสดงออกของไห่ต้าฟู่ก็เปลี่ยนไป และเขาดูกังวลเป็นอย่างยิ่ง
ซือถูหยุนเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เขามองไปข้าง ๆ และพบว่าสีหน้าของผู้อาวุโสทั้งสามนั้นเปลี่ยนไป
“ไห่ต้าฟู่ เจ้ายังไม่ยอมรับอีกรึ?” ซือถูหยุนเทียนตะโกนอย่างรุนแรง พลังจิตวิญญาณของเขาพุ่งสูงขึ้นที่ฝ่ามือ เส้นชีพจรทั้งสามสายในร่างของเขาเปิดออก และกลิ่นอายจุดสูงสุดระดับ 3 ก็ระเบิดออกมา
เขาใช้ฝ่ามือฟาดไปที่ไหล่ของไห่ต้าฟู่ และทันที เลือดลมทั่วทั้งร่างของไห่ต้าฟู่ก็กลายเป็นเดือดพล่าน ไม่นานร่างของเขาก็ระเบิดออก
“ไม่ต้องกังวล ท่านผู้อัจฉริยะ ตระกูลซือถูของเราไม่กล้าปกปิดสิ่งใดแน่นอน” ซือถูหยุนเทียน กล่าวอย่างหนักแน่น: “ไม่ว่าไห่ต้าฟู่ผู้นี้จะพูดโกหกหรือไม่ก็ตาม พวกเราย่อมต้องหาคำอธิบายที่ดีให้ท่านได้แน่นอน ”
“ใช่ ใช่” ผู้อาวุโสที่อยู่ด้านข้างก็ถอนหายใจออกมาและตอบอย่างรวดเร็ว
“น่าเสียดายนักที่เบาะแสตรงหน้าได้สูญหายไปเช่นนี้ ” เต๋าซุนเงยหน้าขึ้นและถอนหายใจ จากนั้นยิ้มให้ทุกคน: “แต่ไม่เป็นไร วันนี้ยังอีกยาวไกล”
“ในเมื่อเหล่าผู้อัจฉริยะจากนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์มาเยี่ยมเยีนตระกูลซือถูของข้าทั้งที ถ้าพวกท่านไม่รังเกียจ ข้าขอเตรียมจัดเลี้ยงฉลองให้พวกท่านเอง ” ซือถูหยุนเทียน ถามด้วยรอยยิ้ม
“ข้าไม่คัดค้าน” เต๋าซุน ยิ้มและเดินตาม ซือถูหยุนเทียน เข้าไปในห้องโถง
เต๋าซุนพบว่าหลายๆคนนั้นต่างก็ชอบพูดคุยกันขณะรับประทานอาหารเย็น
และที่ดียิ่งกว่าคือ ตระกูลซือถูนั้นมีบางอย่างที่เต๋าซุนต้องการพอดี บางทีแผนจัดตั้งกองกำลังของเขาอาจได้ดำเนินก่อนเวลาอันควร
การพิชิตตระกูลซือถูโดยใช้เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นถือเป็นโอกาสอันดียิ่ง
ในระหว่างรับประทานอาหาร เต๋าซุนก็ดื่มไวน์สองสามแก้วและถามอย่างไม่แน่ใจ "หัวหน้าตระกูลซือถู ตระกูลซือถูของเจ้านั้นมีอยู่เพียงบริเวณรอบๆนี้เท่านั้น เจ้ามีความตั้งใจจะพัฒนาสู่ภายนอกหรือไม่ ?"
ซือถูหยุนเทียน ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขาเข้าใจว่า เต๋าซุน หมายถึงอะไร
ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของตระกูลซือถูนั้นไม่เพียงพอที่จะขยายอำนาจออกไป แต่ถ้าด้วยความช่วยเหลือของเต๋าซุนแล้ว มันก็อาจไม่เป็นเช่นนั้น
แต่ซือถูหยุนเทียนนั้นย่อมเข้าใจเงื่อนไขดี ตอนนี้แม้อำนาจของพวกเขาจะคับแคบแต่มันก็ยังเป็นชื่องของตระกูลซือถู แต่หากพวกเขาร่วมมือกับเต๋าซุนล่ะก็ ตระกูลซือถูของพวกเขาก็จะตกอยู่ใต้อำนาจของเต๋าซุนอีกที
แม้ว่าอำนาจของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น แต่หลายสิ่งหลายอย่างก็ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของพวกเขาอีกต่อไป
ท้ายที่สุดแล้ว แม้เขาจะร่วมมือกันอีกฝ่ายไหมมันก็คงไม่ต่างจากตอนนี้มากนัก และเห็นได้ชัดว่าตระกูลซือถูเองก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไรจากเต๋าซุน
“คุณชายซุนล้อเล่นแล้ว ตระกูลซือถูเราเพียงแค่อยากอยู่อย่างปลอดภัยและมั่นคงเท่านั้น หาได้มีความคิดอื่นไม่ ” ซือถูหยุนเทียน ตอบด้วยรอยยิ้ม
“ก็ดี” เต๋าซุนพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม: “การก้าวหน้าอย่างปลอดภัยและมั่นคงก็น่าจะดีกว่าจริงๆนั่นแหละ”
…………
หลังอาหารเย็น เต๋าซุน ก็ปฏิเสธคำเชิญของซือถูหยุนเทียนที่จะให้พวกเขาพักอาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลซือถูก่อน และจากไปพร้อมกับเจ้าปลาน้อยและเสี่ยวกุ้ยจื่อทันที
แต่น่าเสียดายที่เขายังไม่ได้พบหน้าซือถูหยุนเหม่ยแม้แต่น้อย ท้ายที่สุดแล้วนางก็เป็นส่วนสำคัญในแผนสร้างกองกำลังของเขา
เมื่อกลับไปมาถึงโรงแรมหลินเจี้ยง เต๋าซุนก็ยืนอยู่ที่หน้าต่างห้อง มองดูพระอาทิตย์ค่อยๆตกดินและลับเลือนหายไป
เขาเคาะขอบหน้าต่างสามครั้งด้วยมือขวาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: "เหย33 ออกมา!"
ข้างหลังเขา จู่ๆ เงาสีดำก็ปรากฏขึ้นอย่างไร้สุ่มเสียง
เหย33 สับสนเล็กน้อย เขามั่นใจเป็นอย่างยิ่งในวิธีการปกปิดตัวตนของตัวเอง และคิดไม่ออกว่าคุณชายคนนี้สัมผัสถึงเขาได้อย่างไร
“ท่านรองหัวหน้านิกายเป็นกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของท่าน ดังนั้นจึงขอให้ข้าติดตามท่านออกมาอย่างเงียบๆ หากไม่มีอันตรายถึงชีวิตข้าย่อมไม่ปรากฏตัว ” เหย33 ก็บอกเล่าเกี่ยวกับภารกิจของเขาที่ได้รับมา
“ฆ่าใครสักคนให้ข้าที” เต๋าซุนพูดเบา ๆ