ตอนที่แล้วบทที่ 37 เหยียนเหยียนโง่จริงๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 39 ไม่มีอะไรอร่อยไปกว่าเกี๊ยวอีกแล้ว

บทที่ 38 ฉันคืออาจารย์ของอาจารย์เธอ


บทที่ 38 ฉันคืออาจารย์ของอาจารย์เธอ

ฉู่เฉินกับซ่งเหยียนเดินเล่นไปตามริมทะเลสาบ

“นายคุยอะไรกับเย่เส้าหวง?” ซ่งเหยียนอดไม่ได้ที่จะถาม เธอเห็นกับตาว่าฉู่เฉินซ้อมเย่เส้าหวง แถมยังเอาน้ำในรองเท้าไปสาดใส่หน้าเขา ตามหลักเหตุผลแล้ว เย่เส้าหวงน่าจะเกลียดฉู่เฉิน หรือแม้กระทั่งตระกูลซ่ง

แต่เย่เส้าหวงกลับส่งเงินขอบคุณมาหนึ่งแสนหยวน แถมยังเริ่มต้นความร่วมมือระหว่างสามฝ่ายอีกครั้ง

มันแปลกมากจริงๆ

“จริงๆ แล้ว คุณชายเย่ก็เป็นคนที่รู้จักบุญคุณคน” ฉู่เฉินอธิบาย

ซ่งเหยียน “...”

“พรุ่งนี้ไปตึกจินทานกับฉัน” ซ่งเหยียนกล่าว “เราต้องรีบจัดการเรื่องสถานที่ตั้งบริษัทให้เสร็จ”

ฉู่เฉินพยักหน้า เงยหน้าขึ้นมองบ้านที่อยู่ไม่ไกล ซ่งมู่หยางกับครอบครัวกำลังเดินออกมา จากนั้นขึ้นไปบนรถที่จอดรออยู่แล้ว

ซ่งชิ่งเผิงสายตาดี เห็นฉู่เฉินกับซ่งเหยียนก่อนที่จะขึ้นรถ เขาตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็เดินเข้ามาด้วยความเยาะเย้ย “เฮอะๆ ฉู่เสี่ยวมี่ ว่างจริงๆ นะ บางครั้งก็อิจฉาคนปัญญาอ่อน ใช้ชีวิตอย่างสบายใจ”

ซ่งเหยียนเลิกคิ้ว จากนั้นก็ขมวดคิ้ว เธอรู้สึกประหลาดใจ

ถูกงูดำตัวเดียวกันกัด ทำไมเย่เส้าหวงถึงได้รักษาไม่ได้ที่โรงพยาบาล ส่วนซ่งชิ่งเผิงกลับแข็งแรงไม่เป็นอะไรเลย

“ฉันก็อิจฉานาย ต่อให้โดนพิษอะไรก็ไม่เป็นไร ร่างกายแข็งแรงกว่าคุณชายเย่เยอะ” ฉู่เฉินยกนิ้วโป้งให้ซ่งชิ่งเผิง

แววตาของซ่งชิ่งเผิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

วิดีโอในวันนี้ ต้องเป็นฉู่เฉินที่ถ่ายแน่ๆ ไม่ใช่แค่ทำให้เขาถูกซ้อมจนหน้าบวม แถมยังทำให้ครอบครัวของเขาเสียความน่าเชื่อถือต่อหน้าเย่เส้าหวง

ซ่งชิ่งเผิงนึกถึงคำพูดของพี่ชายรอง แอบมองซ่งเหยียนด้วยความระแวดระวัง

ต้องเป็นนักพรตคนนั้นแน่ๆ ที่สอนวิชาลับให้ซ่งเหยียนก่อนจะออกจากตระกูลซ่งไป

“ยังมีเรื่องที่พวกนายน่าจะอิจฉามากกว่านี้อีก” ซ่งชิ่งเผิงสงบสติอารมณ์ จากนั้นก็พูดอย่างภาคภูมิใจ “รู้ไหมว่าตอนนี้พวกเรากำลังจะไปไหน? ผู้อาวุโสห้าตระกูลหวง ชวนครอบครัวของพวกเราไปดื่มชาที่โรงแรมหวงถิง อีกไม่นาน ฉันจะเรียกคุณหนูหวงว่าพี่สะใภ้แล้ว”

ทันทีที่พูดจบ สีหน้าของซ่งเหยียนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ซ่งชิ่งเผิงเห็นสีหน้าของซ่งเหยียน เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดัง หันหลังกลับไป

“ครอบครัวของอาเล็ก เอาใจตระกูลหวงได้?” ซ่งเหยียนรู้สึกใจคอไม่ดี เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับครอบครัวของพวกเธอ

ถ้าคุณหนูหวงแต่งเข้าตระกูลซ่งจริงๆ ตระกูลของซ่งเสียหยางก็จะกลายเป็นผู้นำของตระกูลซ่ง ท้ายที่สุดแล้ว ตระกูลหวงไม่มีทางยอมให้คุณหนูหวงแต่งเข้าตระกูลรองของตระกูลซ่ง

“ก็ยังไม่ได้แต่งงาน” ฉู่เฉินมองไปที่รถที่กำลังเคลื่อนตัวออกไป พูดพร้อมกับรอยยิ้ม “เธอดูสิ ซ่งชิ่งเผิงถูกงูกัดเมื่อเช้านี้ ผมเดาได้เลยว่า วันนี้ดวงของเขาไม่ค่อยดี”

“แม้แต่ผู้อาวุโสห้าตระกูลหวงก็ยังเชิญอาสองไปดื่มชา เรื่องนี้คงไม่พ้นแต่งงานเก้าสิบเปอร์เซ็นต์” ซ่งเหยียนไม่อยากจะเดินเล่นริมทะเลสาบแล้ว รีบเดินกลับไปที่บ้าน

ฉู่เฉินเดินตามไป ซ่งเหยียนเพิ่งนั่งลง ฉู่เฉินก็ถาม “ภรรยาจ๋า เธอรู้วันเดือนปีเกิดของซ่งชิ่งเผิงไหม?”

“ใครจะไปรู้” ซ่งเหยียนมองบน “นายถามทำไม? คิดว่าตัวเองเป็นจางเต้าซื่อเหรอ?”

ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ซ่งเหยียนได้ยินจางเต้าซื่อพูดเรื่องวันเดือนปีเกิดบ่อย

“ก็ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ อยากจะวาดวงกลมสาปแช่งเขา” ฉู่เฉินตอบ

ไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการจากซ่งเหยียน ฉู่เฉินก็ได้แต่ลงไปชั้นล่าง

ครั้งนี้ซ่งเหยียนไม่ได้ถามว่าฉู่เฉินจะไปไหน ไอ้หมอนี่พูดอะไรไม่น่าเชื่อถือสักอย่าง

ภายใต้ความมืด

ฉู่เฉินมองไปที่บ้านของซ่งมู่หยางที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทะเลสาบซ่ง

ประตูใหญ่ล็อค หน้าต่างก็ปิดสนิท

“ระวังตัวดีเหมือนกันนะ” ฉู่เฉินพึมพำกับตัวเอง เขาหรี่ตาลง “แต่… ไม่สามารถทำให้ฉันลำบากใจได้หรอก”

ร่างของฉู่เฉินหายไปในความมืดที่มุมกำแพง

ประมาณสิบนาทีต่อมา

มีร่างหนึ่งเดินออกมาจากบ้านของซ่งมู่หยาง

“ลูกชายของซ่งมู่หยางที่เรียนวิชาลับสำนักอู๋ ที่แท้ก็ไปสำนักอู๋เสินเพื่อขอเป็นศิษย์”

ฉู่เฉินเดินออกจากตระกูลซ่งไป

“สำนักอู๋เสินหลายปีมานี้ กลายเป็นกำลังสำคัญของสำนักอู๋” ฉู่เฉินพึมพำกับตัวเอง “แต่คนของตระกูลซ่งคนนี้ ไร้ประโยชน์”

มุมปากของฉู่เฉินยกขึ้น

เขาพบวันเดือนปีเกิดในห้องของซ่งชิ่งเหอ

จากนั้ยเขาเรียกรถส่งๆ

“พี่ครับ ไปที่ร้านขายผงชาดกับกระดาษเหลืองที่อยู่แถวนี้หน่อย” ฉู่เฉินเอ่ยปาก

พี่คนขับตกตะลึง อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองฉู่เฉิน ครู่หนึ่งต่อมาก็พยักหน้า

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

รถจอดลงที่หัวมุมถนน “ร้านอยู่ที่ปลายถนนเก่าเส้นนี้”

พี่คนขับมองดูร่างของฉู่เฉินที่หายไปในความมืด อดไม่ได้ที่จะพึมพำ “กลางดึกแบบนี้ เด็กหนุ่มคนนี้ คงจะไม่ปกติ”

ฉู่เฉินเดินไปถึงปลายถนนอย่างรวดเร็ว ร้านค้าที่เปิดไฟสลัวๆ วางของจิปาถะเต็มไปหมด ร้านแบบนี้ พอถึงตอนกลางคืน มักจะทำให้คนรู้สึกขนลุก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร้านค้าโทรมๆ ที่เปิดอยู่ปลายถนนเก่าเส้นนี้ ไฟในร้านดูเหมือนจะดับลงได้ทุกเมื่อ

ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้นมอง มุมปากยกขึ้น ก้าวเดินเข้าไป “มีคนอยู่ไหม?”

ไม่มีเสียงตอบกลับ

ฉู่เฉินอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาอีกหลายครั้ง

“เสียงดังชะมัด” ทันใดนั้นก็มีหัวโผล่ออกมาจากใต้กองตุ๊กตากระดาษ หญิงสาวอายุประมาณ 18 ปี ผมยาวของเธอยุ่งเหยิงเล็กน้อย ปิดบังใบหน้าที่สวยหวาน ดวงตาของเธอดูฉลาด มองไปที่ฉู่เฉิน ยื่นมือทั้งสองข้างออกมาจากกองตุ๊กตากระดาษ ในมือถือหนังสือเล่มหนึ่ง แสงไฟสลัวๆ ส่องไปที่มือที่ขาวเนียนของเธอ “จะซื้ออะไรก็ไปเลือกเอง เลือกเสร็จแล้วค่อยมาจ่ายเงิน”

ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะไม่สนใจฉู่เฉิน พูดจบก็อ่านหนังสือต่อ

“สาวน้อย ลูกค้าคือพระเจ้านะ” ฉู่เฉินกำลังจะเอ่ยปาก

หญิงสาวขัดจังหวะทันที “ฉันไม่ได้นับถือพระเจ้า นายนี่ชักช้าจริงๆ”

หลังจากที่ฉู่เฉินเลือกของที่ตัวเองต้องการซื้อเสร็จ เขาก็ให้หญิงสาวคิดเงิน

ขณะกำลังจะจ่ายเงิน ฉู่เฉินเหลือบมองหนังสือในมือของหญิงสาว ทันใดนั้นก็ยิ้มออกมา “เธอนับถือหลัวหยุนเต้าจวินใช่ไหม?”

ทันทีที่พูดจบ มือของหญิงสาวก็สั่นเทา แววตาของเธอเป็นประกาย เงยหน้าขึ้นจ้องไปที่ฉู่เฉิน

เธอไม่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แปลกประหลาดใดๆ จากตัวฉู่เฉิน

แต่คำพูดหนึ่งของฉู่เฉิน เพียงพอที่จะอธิบายว่า เขาคือนักโหราศาสตร์

“นายเป็นใคร?” หญิงสาวลุกขึ้นยืน จ้องไปที่ฉู่เฉินด้วยความระแวดระวัง

ฉู่เฉินไม่ได้ตอบโดยตรง กวาดตามองร้านค้าแห่งนี้ “ฉันเห็นสัญลักษณ์ของสำนักซิงหลัวที่หน้าประตู พอเข้ามา เธอก็ถือตำราซิงหลัวอยู่ในมือ เธอเป็นศิษย์ของสำนักซิงหลัว ที่นี่คือสำนักสาขาของสำนักซิงหลัวในเมืองฉานใช่ไหม?”

สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไป “นายเป็นใครกันแน่?”

“คนในวงการเดียวกัน” ฉู่เฉินหัวเราะออกมา หยิบของที่เพิ่งซื้อ หันหลังกลับออกไป “ถ้าพูดถึงรุ่น ฉันคืออาจารย์ของอาจารย์เธอ”

หญิงสาวมองไปที่แผ่นหลังของฉู่เฉิน แม้ว่าจะตกใจที่ฉู่เฉินมองออกว่าเธอเป็นใคร แต่เธอก็รู้สึกหมดคำพูด

ผู้ก่อตั้งสำนักซิงหลัวคือหลัวหยุนเต้าจวิน

ไอ้หมอนี่บอกว่าเป็นอาจารย์ของอาจารย์ แสดงว่า เขาเป็นรุ่นเดียวกับหลัวหยุนเต้าจวินหรือไง?

หญิงสาวพึมพำ “ไอ้บ้า…”

“อู๋โยว หลานคุยกับใคร?” มีเสียงแหบแห้งหนึ่งดังมาจากในห้อง

หญิงสาวรีบหยิบหนังสือขึ้นมา “ไม่มีอะไรค่ะ คุณปู่ มีคนบอกว่าเป็นอาจารย์ของอาจารย์หนู...บ้าเอ๊ย เขายังไม่ได้จ่ายเงิน!”

หญิงสาววิ่งออกไปเหมือนพายุ ทว่าบนถนนเก่าที่แสงไฟสลัวๆ เธอไม่พบร่างของฉู่เฉินแล้ว

“อาจารย์ของอาจารย์? อย่าให้ฉันเจอนายนะ ไม่งั้นฉันจะซ้อมนายจนกลายเป็นหลาน” หญิงสาวกระทืบเท้า หันหลังกลับไปด้วยความโกรธ

ไม่นานนัก

มีเสียงถอนหายใจดังมาจากในห้อง “นิสัยของเด็กคนนี้...ไม่มีใครจัดการได้จริงๆ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด